🎀💋💞 หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 42 💞💋🎀



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

         สวัสดีค่ะ ' พลอยแดง' กำลังนับครั้งว่าจะพาชาว 'หอรักริมไรน์' โบกมือลาวันไหน ในตอนต่อไปหรือเปล่า  ขอให้ตามติดในเหตุการณ์นะคะ วางครั้งแรกเมื่อพร้อมในวันที่ 28 กรกฏาคม นับได้จะครบครึ่งปีแล้วค่ะ ขอขอบคุณท่านผู้อ่านที่ตามดูแลการวางเรื่องราวนิยายเรื่องยาวเรื่องนี้ ถ้าเกิดมีการตีพิมพ์ขึ้นมา คงได้ส่งให้ท่านผู้อ่านก่อนเลยค่ะ พูดไว้ก่อนเมื่ออยากพูดค่ะ :
WANG JIE หลงรัก, ชุนเทียน หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 3875943 หลงรัก, Lady Star 919 หลงรัก, ส.สัตยา หลงรัก, cnck4 หลงรัก, kasareev หลงรัก, turtle_cheesecake หลงรัก, Na(นะ) ถูกใจ, GTW หลงรัก
                  
                                                           💗💖

สนามบินฮีทโธรว์

นิธินั่งอยู่ในที่รวมผู้โดยสารขาออกที่กว้างใหญ่ สามารถมองเห็นป้ายแสดงเวลาการบินที่ติดไว้หลายป้าย เขานั่งใกล้ด้านเคาน์เตอร์ขายอาหารแบบมินิแพ็กและเครื่องดื่ม  เขานั่งจดรายการที่จะต้องทำเมื่อถึงเมืองไทย และเงยหน้ามองชื่อสายการบิน British Airway ที่จะปรากฎขึ้นมาด้วย  การจองตั๋วได้เร็วที่สุดก็เป็นการเดินทางเวลา สิบเอ็ดนาฬิกาของเช้าวันนี้ ซึ่งเป็นการเดินทางในเวลากลางวันแทนการเดินทางในเวลากลางคืนและจะไปถึงเมืองไทยเมื่อสว่าง   นี่เป็นการเดินทางที่เร็วที่สุดที่จองได้แล้ว

   ศิรินทร์เดินผ่านผู้โดยสารขาออกที่นั่งอยู่เต็มไปหมด หล่อนมองไปทางร้านที่ขายอาหารที่อยู่ในส่วนที่กว้างที่สุดของบริเวณนี้ แล้วเลือกนั่งใกล้ป้ายแสดงการบินด้านริมสุด หล่อนยกนาฬิกาขึ้นดูก่อนจะเดินไปยังส่วนที่ขายของกินต่างๆ เพราะว่ายังไม่ได้กินอาหารเช้า เมื่อไปหยิบแซนด์วิชและน้ำหนึ่งขวด  และจ่ายเงินแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำที่มีแถวรอยาวออกมานอกห้อง  จึงได้ยืนกัดกินแซนด์วิชจนหมดพอดี ก็ได้เข้าห้องน้ำและล้างมือ เมื่อออกมาก็เดินมาอีกทางหนึ่งเพื่อกลับไปที่บริเวณที่นั่งเดิม

       นิธิเงยหน้าขึ้นมาก็แทบสะดุ้งกับภาพที่เห็น ศิรินทร์เดินถือขวดน้ำ ที่ไหล่สะพายเป้อยู่ข้างหลัง หล่อนยังไม่เห็นเขา ด้วย ใช้สายตามองเหลือบไปด้านบนเหนือผู้คนและร้านค้าอยู่ สายตาจึงยังไม่ประสบกันกับเขา นิธิหายใจอย่างแรง เหมือนเมื่อคืนที่เขามีความรู้สึกต่างๆนาๆเมื่อรู้ว่าจะต้องจากที่นี่ ศิรินทร์เข้ามาในความคิดและยากที่จะถอดถอนออกไปอย่างยากยิ่ง ด้วยความคิดถึงหล่อนอย่างมาก อย่างรุนแรงจนต้องชกฝ่ามือตนเองจนกว่าจะสลายความคิดได้

     นี่หล่อนกำลังมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว   ภาพของหล่อนทำให้เขาตั้งตัวไม่ติด

     นิธิลุกขึ้นให้หล่อนได้สังเกต นั่นทำให้ศิรินทร์ตาเบิกโพลงอย่างนึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นเขา หล่อนตัวชาและชะงักอยู่นิดหนึ่งจึงสืบเท้าก้าวเข้ามา สายตาจับจ้องมองกันทำให้นิธิรู้สึกว่าพื้นที่ยืนอยู่โคลงเคลงราวกับจะแยกยุบไปวูบหนึ่งแล้วก็กลับคืนดังเดิม เขายืดกายให้ตรงขึ้นเมื่อหล่อนก้าวเข้ามาจนชิด

       “ เบ็นไปไหนคะ”  หล่อนเป็นฝ่ายเอ่ยถาม

       “ กลับบ้าน” เขาตอบ พร้อมคำถามในใจว่า หล่อนล่ะไปไหน

       “ มีอะไรด่วนหรือคะ” คำถามอย่างคนรู้ดีว่าไม่ใช่เวลาที่จะไปไหนนานๆได้ในเวลานี้

       “ คุณพ่อป่วย” เขาตอบเท่าที่ควรจะตอบ เท่าที่นึกได้

       “ เป็นอะไรมากไหมคะ”

       “ เพิ่งเป็นยังไม่ทราบครับ”

     หล่อนนิ่งอึ้งอยู่เป็นนาที  รับฟังราวกับคำพูดเขาลอยมาจากที่ไกลแสนไกล

       “ ศิจะไปเยอรมันสองสามวันค่ะ” หล่อนกล่าวออกมา

     เขาได้ยินและรับรู้ ยากที่จะคิดต่อไปได้

       “ เดี๋ยวศิต้องไปที่ Gate แล้วละค่ะ ขอให้ไม่เป็นอะไรมาก  โชคดีนะคะ” 
พูดแล้วก็ขยับตัวจะไป

       “ ลาก่อนนะครับ” เขาบอกลาอย่างที่ใจนึก   ศิรินทร์หันกลับมามองตาเขาอีกครั้ง

       “ ลาก่อน”  เขาพูดย้ำคำเดิม ศิรินทร์เห็นแววสลดในดวงตาเขา  ทำให้หล่อนอึ้งไป ได้แต่ทอดสายตาเหมือนรับรู้เท่านั้น ค่อยๆหันกายเดินจากไป

        นิธิมองตามร่างที่เคยใกล้ชิด เคยหลายๆอย่างจนคุ้นไปหมด เขาไม่อยากเชื่อเลยว่า เดี๋ยวนี้เขาได้แต่ทอดสายตามองตามร่างที่ห่างไป และความรู้สึกบอกมาว่านี่เป็นการได้เห็นครั้งสุดท้ายแล้ว เมื่อลับร่างหล่อนไป กายก็ทรุดลงนั่งอ่อนแรงเหมือนจะกองลงไปอย่างไร้สภาพของคนมีชีวิต

         ศิรินทร์เดินตามหมายเลข Gate  ชี้ เป็นระยะทางค่อนข้างไกล เดินบนสายพานทอดเลื่อนและนึกไปว่า หล่อนกับเขากำลังจะนั่งเครื่องบินคนละลำ คนละจุดหมาย ทั้งที่เมื่อก่อนหล่อนกับเขาก็เหมือนเกือบจะลงเรือลำเดียวกันแล้วด้วยซ้ำไป   แต่เดี๋ยวนี้เรากลับไปคนละลำเสียแล้ว  หล่อนยังปรับความรู้สึกไม่ทัน ที่จู่ๆก็พบกับเขา นิธิ...

      ศิรินทร์ขึ้นเครื่องบินที่ใช้เวลาบินอันสั้นก็นึกถึงภาพเขาที่เพิ่งได้เห็นจากสนามบิน ความรู้สึกบอกตนเองว่า คล้าย..คงคล้ายละนะ ได้พบกับแฟนเก่า หล่อนนึกไม่ถึงว่านิธิจะผอมซูบลงไปและดูไม่สดชื่นดังก่อน พ่อเขาป่วยเป็นอะไรไป หล่อนก็ไม่ทันได้นึกถาม ด้วยสมองมันตื้อและปรับสภาพไม่ทัน ถึงอย่างไรก็ดีหล่อนก็รู้ว่า เคยมีแฟนเหมือนคนอื่นๆ อยู่หนึ่งคน นิธิคนนั้น

       ภาพที่เห็นไม่อยากจะเชื่อเลยว่า วันนัดและชัยยศมารอรับหล่อนทั้งสองคน ความสดชื่นกลับคืนมาทันที ศิรินทร์ไม่อยากให้ความคิดตอนนั่งเครื่องบินติดมาด้วย หล่อนรีบปรับความรู้สึกแล้วเข้ากอดแขนวันนัด กับคว้าฝ่ามือชัยยศมากุมไว้ด้วยรอยยิ้มแจ่มใส

       “ รอนานไหมคะ” หล่อนถามทั้งสอง

       “ พอดีๆละครับ” ชัยยศรีบตอบหล่อน สายตาของสองหนุ่มอยู่ที่ใบหน้าของหล่อน

  ศิรินทร์ยิ้มจนตาหยีเหมือนล้อเลียนชัยยศไปด้วย เมื่อพากันเดินมาขึ้นรถแล้ว วันนัดผู้ขับถามขึ้นว่า

       “ ศิหิวมั้ยจ๊ะ หรือจะหิวเมื่อไร”

      “ ถามศิคนเดียวหรือคะ ยังไม่หิวหรอกค่ะ ทานเที่ยงเลทไปก็ได้ค่ะ”

      “ ยศ..เราว่าไปเลยดีมั้ย เอาแผนที่มาหรือเปล่า”  คำถามนี้สำหรับชัยยศ ศิรินทร์นั่งฟัง

       “ ไม่ต้องแผนที่หรอก มีกี่เส้นทางก็ไป เลออนแบร์ก ทั้งนั้นแหละ”

     “นี่ตกลงจะไปไหนคะ เลออนแบร์ก หรือคะ”

      “ ครับ  พอดีว่างและยศเขาก็อยากไปดูอะไรๆสักหน่อยด้วย”

     “ Leonberg นี่ใช่ไหมคะ ที่ว่ามีโรงงานทำ Catering ของสายการบินเราน่ะค่ะ”

     “ ใช่ ศิจำเก่งนี่ เดี๋ยวได้ไปดูโลเกชั่นเมืองนี้แล้วละ ว่าน่าอยู่แค่ไหน” ชัยยศตอบคำถามนี้ทันที

       “ จะมีใครมาอยู่เหรอคะ”

      “ ถ้าจะมีมาก่อนก็น่าจะเป็นศินะครับ” วันนัดพูดขึ้นมา

       “ หา ศิเหรอ ทำไมเร็วจังมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือคะ” เสียงถามด้วยสงสัย

       “ ก็เผอิญได้ข่าวเพื่อนมาว่า หน้าร้อนเขาขาดคนช่วยทำงาน เพราะไปพักร้อนกันหมด งานก็มากเพราะคนบินไปเที่ยวพักร้อน กันแยะ”

       “ อ้าว เราก็จะไปพักร้อนด้วยไม่ใช่หรือคะ”

       “ เรื่องพักร้อนของเราเปลี่ยนแปลงได้ และอาจจะไม่ไปไกลๆ ถ้ามีงานทำก็ทำงานเอาเงินซะก่อน เอาที่ทำงานเป็นหลักยึดไว้ก่อนดีกว่านะ นัดนะ” เขาพูดกันสองคน ศิรินทร์นึก

        “ อื้อฮึ” เสียงวันนัดรับคำ

    ศิรินทร์นิ่งเงียบ นึกถึงพักร้อนที่จะมีมาถึงที่แพลนกันว่าจะลงไปทางใต้สู่สวิตนั่นเลยทีเดียว แต่ดูท่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเสียแล้ว แต่เมื่อนึกได้ว่ามีผู้นำตั้งสองคน หล่อนจึงเงียบรอฟังต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวชัยยศก็คงอธิบายเอง

         หล่อนทอดสายตามองออกไปตามข้างทาง เมื่อรถแล่นออกจากถนนใหญ่ เลี้ยวออกตามป้าย ทางออก (Ausfahrt) สู่ถนนที่ป้ายบอกไป Leonberg ซึ่งเป็นเมืองย่อยของ Stuttgart เมื่อผ่านป้ายเมือง Sindelfinger ชัยยศก็ชี้บอกว่าเป็นสำนักงานของรถ เมอร์เซเดส อยู่ที่นี่ ข้างทางต่อมาเป็นป่าและภูเขาย่อมๆทำให้รู้สึกว่าเป็นชนบทที่น่าจะมีอากาศดี

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่