🍧❄️💧หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 13💧❄️🍧



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวัสดีค่ะ ขอโทษที่วางหอรักริมไรน์ช้าไป ด้วยป่วยซ้ำอีกค่ะ แต่ก็จะพยายามไม่วางให้ทิ้งช่วงนานเดี๋ยวคนอ่านลืม
ว่าถึงไหนแล้วนะคะ ครานี้มีดาราเพิ่มมาอีกหนึ่งทำให้เรื่องราวเดินเต็มที่ ครบตัวดารานำแล้วค่ะ เชิญติดตามนะคะ ที่ไม่ลืม
คือขอบคุณท่านผู้อ่าน ถ้าไม่มีท่านก็คงไม่ได้วางนิยายเรื่องนี้ค่ะ ' พลอยแดง' เป็นนามปากกาในการเขียนนิยายของ Susisiri
ค่ะ รายชื่อผู้มาอ่านให้กำลังใจ : มัศยวีร์ ถูกใจ, Lady Star 919 หลงรัก, cnck4 ถูกใจ, ชุนเทียน หลงรัก, GTW หลงรัก,
Memories pink ถูกใจ,turtle_cheesecake หลงรัก, เปลวอัคคี หลงรัก, เสาวรส17 ถูกใจ, Eien Akai Debiru หลงรัก,WANG JIE
หลงรัก, Na (นะ) ถูกใจ

🐤🐣🐓🐔

ศิรินทร์อ่านจดหมายจบอย่างแปลกใจระคนดีใจในจดหมายแปลกตา มีใจความว่า

คุณศิรินทร์ครับ

คุณคงแปลกใจที่ได้รับจดหมายนี้ ถ้าคุณไม่ลืมง่ายหน่ายเร็วอย่างที่ผมเคยได้ยิน ก็ช่วยกรุณาลำดับเหตุการณ์ด้วยว่า คุณคงเคยรู้จักผม

และผมต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมากสำหรับผม แต่อาจจะเป็นอย่างน้อยสำหรับคุณนะครับ ด้วยผมต้องมาทำธุระติดต่อที่เมืองของคุณ ผมอยากจะขอความกรุณาช่วยแนะนำโรงแรมระดับกลางให้ผมด้วย สำหรับผมคนเดียว ซึ่งจะเป็นวันที่หกถึงสิบสี่นี้ ผมจะโทรมาถามคุณตามที่อยู่ที่ให้ไว้ก่อนผมจะออกจากเมืองไทย และผมจะติดต่ออีกครั้งเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว กรุณาสงเคราะห์จองโรงแรมให้ผมด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ นิธิ

จดหมายสั้นๆได้ใจความถึงมือหล่อนพร้อมกับความรู้สึกแปลกใหม่สำหรับชีวิตประจำวัน ที่เป็นวัฏจักรเวียนวน ..จน..เคยชิน

หล่อนย้อนกลับไปนึกถึงวันที่หล่อนจะบินกลับจากไทยมาเยอรมัน หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว มีเวลาให้เดินช็อปปิ้งอีกนาน แล้วจึงได้เข้าไปใช้สิทธิสมาชิกของร้านดิวตี้ฟรี ที่มีห้องรับรองดื่มชากาแฟ และห้องน้ำด้วย เมื่อหล่อนสะพายกระเป๋าเป้เข้ามาพบว่ามีชายหนุ่มวัยเลยทีนเอจ นั่งอ่านเอกสารทานกาแฟและขนมบิส
กิตอยู่แล้วบนเก้าอี้ทรงต่ำแบบโซฟาเฉพาะตัวและโต๊ะกลมทรงเตี้ย

เมื่อหล่อนมองสำรวจไปก็พบเหยือกชา กาแฟตรงเคาน์เตอร์ด้านหนึ่งจึงตรงเข้าไปคว้าถ้วยเทน้ำใส่ วางถุงชาเอิร์ลเกร์จุ่มลงไป และเดินไป หยิบชิ้นขนมเค้กใส่จานใบเล็ก ถือสองมือหันมาก็พอดีมีคนไทยกลุ่มใหญ่เข้าห้องมาเอาสัมภาระทั้งกระเป๋าถือ และเป้ วางจองโต๊ะที่ว่างจนหมด

สายตาหล่อนกวาดมองมามีที่พอนั่งได้ก็ตรงข้ามนายที่นั่งอยู่ก่อนแล้วนั่นเอง จึงจำต้องเข้าไปถาม

“ ขอโทษนะคะ ที่ว่างใช่ไหมคะ ขอนั่งด้วยนะคะ”

“ โอ ครับเชิญครับ” ชายหนุ่มที่กำลังอ่านเอกสารแผ่นเล็กๆเงยหน้าขึ้นมามองเสียงที่ได้ยินและตอบทันที

ศิรินทร์ยิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณเบาๆ แต่รู้สึกว่าภาพข้างหน้านี้ดีจนนึกไม่ถึง เมื่อนั่งลงแล้วก็ยังรู้สึกประหม่ากับคนแปลกหน้าอย่างไม่เข้าใจตนเอง

  คนแปลกหน้าที่นั่งเหลือบมองถ้วยชาของหล่อนที่ค่อยๆวางลง พร้อมปลดเป้ออกจากหลัง เขาทำท่าจะขยับตัวเหมือนช่วยแต่ก็ไกลมือจึงนั่งดังเดิม เมื่อศิรินทร์ตักขนมเค้กทานคำแรก ไม่ทันได้จับถ้วยชา ก็ได้ยินเสียงรอบๆของคนที่เดินไปมาลงนั่งขยับเก้าอี้ดูว่าจะเต็มไปด้วยลูกค้าแน่นห้องทีเดียว

“ วันนี้คนแยะนะครับ” คนไทยตรงข้ามพูดประโยคแรกออกมา

“ ปกติไม่แยะหรือคะ” หล่อนถามกลับในคำชวนสนทนานั้น

“ ครับ หรือว่าเป็นฤดูคนไทยเที่ยวเมืองนอกก็ได้นะครับ”

“ อาจจะใช่ค่ะ” หล่อนตอบอีกและดื่มน้ำชา โดยคนที่นั่งตรงหน้าก็ลุกไปเติมน้ำร้อนสำ หรับชาอังกฤษเช่นเดียวกับหล่อน หล่อนทานขนมเค้กชิ้นเล็กจนหมด และดื่มชาไปเรื่อยๆเพราะว่ายังร้อนมากอยู่ เมื่อเขาผู้นั้นกลับมานั่ง หล่อนก็พลิกข้อมือดูนาฬิกาพอดี

“ เครื่องออกกี่โมงครับ” เขาสนใจอยากคุยเสียแล้วซิ สมองประมวลผลตอนไปเติมน้ำร้อนใหม่นี่เอง

“ ยี่สิบนาทีหลังเที่ยงคืนค่ะ”

“ ใกล้ๆกันเลยนะครับ ไปเที่ยวไหนครับ”

“ เปล่าไปเที่ยวค่ะ กลับมาเยี่ยมบ้านค่ะ”

“ คงเป็นยุโรปประเทศไหนครับ” เขาถามต่อไปเรื่อยๆ มองหล่อนที่ถือถ้วยชาค้างไว้ในมือ

“ เยอรมันค่ะ”

“ ผมไปลงอังกฤษครับ ไม่ไกลกันเลยนะครับ” เขาพูดเหมือนสนใจความใกล้

“ คนละประเทศนะคะ” หล่อนบอกแสดงความไกลกัน และรู้สึกสนใจท่าทางตอนพูดของเขา รอยยิ้มกริ่มบนริมฝีปาก ทั้งๆที่ตอนเข้ามาเห็นนั่งอย่างนิ่งตัวตรงหลังตรงเหมือนต่างคนต่างประเมินผู้อยู่ตรงหน้า นิธินึกเอาว่าคงเป็นนักศึกษาเรียนอยู่ ส่วนศิรินทร์ทึกทักเอาว่าเขาคงจะไปบินด้วยธุรกิจ เพราะลักษณะการแต่งกายไม่วัยรุ่นหรือนักศึกษาแล้ว ดูเป็นชุดที่มีความเข้าสมัยและสุภาพอยู่ในที แต่ที่จริงแท้แน่นอนคือทั้งคู่ยังมีเวลาเป็นชั่วโมงที่จะต้องเดินไปตามเกทจนกว่าจะถึงงวงเข้าประตูเครื่องบิน ไม่มีที่ไหนดีกว่า นั่งที่นี่ไปเรื่อยๆ

เงียบกันไปสักพัก

“ รับขนมอีกไหมครับ” เขาทำท่าลุกขึ้น

“ ไม่ละค่ะ ขอบคุณค่ะ” หล่อนตอบมองตามหลังเขาที่ไปหยิบแซนวิซชิ้นเล็กๆใส่จานกลับมาวางที่โต๊ะ

“ อร่อยนะครับ ลองไหมครับ” เขากลับหยิบวางให้หล่อนที่มองยังไงก็รู้สึกว่าอยากรู้จักด้วย

“ ขอบคุณค่ะ” หล่อนจำยอมรับ และคิดว่า ดีเหมือนกัน ทานให้อิ่ม ช่วงเวลายาวนาน ตื่นเช้าแล้วที่โน่นยังไม่เช้าต้องแขวนท้องรอจนกว่าจะเป็นเวลาของที่นั่นจึงจะได้รับเสิร์ฟอาหารเช้า

“ ผมทานเผื่อว่าอาหารพรุ่งนี้บนเครื่องเป็น Brunch ของเราน่ะครับ” เขาออกตัวที่ทานแซนวิซตอนดึกทั้งที่ไม่ใช่สัปเปอร์

“ คิดเหมือนกันเลยค่ะ” หล่อนยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่แก้ม เขาคงบินบ่อยจนรู้คิดสิท่า

“ ทานโทษที่ถาม อยู่เมืองไหนครับ เยอรมันเมืองสวยนะครับ”

“ อยู่โคโลญจน์ค่ะ”

“ โอ้โฮ เมืองสวยจริงเสียด้วย ผมเคยไปหนเดียวแค่แฟรงเฟิร์ตครับ”

“ ใครไปเยอรมันก็ลงเครื่องบินที่นั่นแหละค่ะ” หล่อนพูดตามลักษณะของหล่อน เขายิ้มทันทีที่ได้ฟัง

“ ครับ ผมก็พูดปล่อยไก่เรื่อยเลยเชียว” เขาเอามือลูบปากมาถึงคางอย่างขำตนเอง

“ เป็นไปได้ไหมครับ ถ้าผมอยากจะแลกที่อยู่กับคุณ ผมจะได้ไม่ต้องถามชื่อคุณ” เขาเปิดกระเป๋าหยิบนามบัตรเขามาส่งให้ หล่อนจึงรับไว้

“ ไม่มีนามบัตรนักศึกษาหรอกนะคะ”

“ กรูณาเขียนไว้ที่นี่ก็ได้ครับ” เขายื่นกระดาษที่ถือเมื่อกี้ให้หล่อนเขียน โดยเอาปากกาส่งให้ด้วย อย่างไม่ยอมจำนนในเหตุการณ์

ศิรินทร์ยิ้มและรับปากกาเขามาเขียนชื่อที่อยู่ลงไป

“ ขอบคุณครับ” เขาพูดเมื่อหล่อนคืนกระดาษให้

“ เบอร์หน้าเมืองอะไรครับ “ เขารู้ถามต่อ และทำท่าพร้อมเขียนทันที หล่อนจึงจำต้องบอกเบอร์โทรศัพท์ทั้งหมดไปกับคนไทยแปลกหน้าที่มีความรู้สึกดีเป็นพิเศษ

เมื่อดื่มชาหมดแล้ว เขาก็สังเกตหล่อน และพูดว่า

“ ผมเฝ้าของให้ครับ ถ้าจะไปห้องน้ำด้านข้างนี่ครับ” หล่อนจึงจำต้องลุกขึ้นตามความปรารถนาดีของเขา มาเข้าห้องน้ำ นิธิหยิบกระดาษที่หล่อนจดให้มาตรวจดูให้รอบคอบอีกทีพร้อมกับรอยยิ้ม
และเขาก็เข้าห้องน้ำบ้างเมื่อเห็นหล่อนเดินกลับมา โดยไม่ต้องบอกอะไรก็เข้าใจกันได้อยู่แล้ว

“ ผมดีใจนะครับที่ได้รู้จักคุณศิรินทร์ “

“ เช่นกันค่ะ” หล่อนรู้ว่าไม่ได้กล่าวตามมรรยาท หากแต่ด้วยความรู้สึกจริงๆ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้ว่ามีความพึงพอใจอย่างแปลกๆทีเดียว หล่อนรู้สึกเก้งก้างขึ้นมาจึงพลิกข้อมือดูนาฬิกาอีกหน

“ ได้เวลาแล้วหรือครับ ”

“ อาจต้องเดินไกล เดี๋ยวไปดูอีกทีค่ะ”

“ ครับ ไปก็ได้ครับ” เขาทำท่าลุกขึ้นทันที พร้อมกับลากกระเป๋าใบขนาดกลางที่ใส่บนเคบินเหนือศีรษะได้ ทั้งคู่เดินออกมาด้วยกันจนถึงป้ายบอก
เกทแต่ละเกทตรงหน้า ศิรินทร์ก็ทำท่าจะแยกเดินไป เขากลับเดินตาม เกทคงใกล้กันหล่อนนึกในใจ แต่เมื่อเดินมาด้วยความเงียบสักพัก ถึงทางเลื่อน เขาก็หยุด

“ ผมส่งคุณแค่นี้นะครับ ผมก็อยากบอกอีกหนว่า ผมยินดีมากที่ได้รู้จักคุณนะครับ โชคดีครับ”

“ ขอบคุณค่ะ โชคดีค่ะ” หล่อนเดินเข้าทางเลื่อน และได้หันมามองนิธิก็เห็นเขายกมือขึ้นยิ้มให้หล่อน หล่อนยกมือยิ้มตอบ หันกลับไปมองตรงหน้าและสำรวจความรู้สึกตนเองไปด้วย

นิธิมองหล่อนยืนบนทางเลื่อนไปจนออกเดินเลี้ยวมุมตึกไป เขาหันหลังเดินกลับมาทางเดิมเพื่อตั้งต้นไปที่เกทของตนเองตามป้ายชี้บอกหมายเลข

หล่อนยินดีที่จะได้รับโทรศัพท์จากเขา ก็น่าจะเป็นในวันสองวันนี้ซินะ หล่อนจึงจัดเวลาให้หล่อนว่างและอยู่คนเดียวในยามค่ำคืนทุก

คืน หล่อนผวาเหมือนไม่ตั้งใจทุกครั้งที่เสียงโทรศัพท์ดัง จนกระทั่งถึงวันนี้ที่สิ้นเดือนพอดี

“ สวัสดีครับคุณศิรินทร์”

“สวัสดีค่ะ”

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่