💧🎭🎀หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง)26 🎀🎭💧



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวัสดีค่ะ อยู่ในห้วงแห่งความรัก ถ้าจะนึกถึงเพลงไทยสักเพลงหนึ่ง ก็คงเป็นเพลง 'จงรัก' ที่ว่า.... 🎵🎶♩
โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต และโปรดอย่าถามว่าอดีต ฉันเคยรักใคร? หัวใจมีเลือดเนื้อและเต็มไปด้วยต่อมความรู้สึก
คนที่มีความรักอยู่ในใจเสมอ ย่อมมีความสุข การเกิดและดับของความรักย่อมหยุดยั้งไม่ได้ แล้วแต่ว่าบุญพาวาสนาช่วย จึงจะ
ปลอดภัย แคล้วคลาดกับความผิดหวัง หรือ หมดรัก แต่เรายังอยู่กับความรักด้วยกันค่ะ ในบทนี้ รักคนอ่านทุกคนนะคะ :
ธาราสินธุ์ หลงรัก, แก้วกรกช หลงรัก, WANG JIE หลงรัก, Lady Star 919 หลงรัก, มัศยวีร์ หลงรัก, คีตมินทร์ ถูกใจ, GTW ทึ่ง,
สมาชิกหมายเลข 868666 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4171962 ถูกใจ, Na(นะ)ถูกใจ,kasareevหลงรัก, turtle_cheesecake หลงรัก,
ชุนเทียน หลงรัก
🌎🌍🌏

“ ศิจะทานอะไรจ๊ะ”

“ ขอสปาเก็ตตีได้ไหมคะ” หล่อนถามมองตามาที่เขา

“ ทำตาเมื่อกี้ใหม่สิจ๊ะ” หล่อนยิ้มเข้าใจในสิ่งที่ทำไป

“ ผมคงชอบศิตรงนี้ด้วยมั้ง ที่อยากจะบอกศิ ผมรู้ว่าศิอารมณ์ดีมากๆด้วย”

เลื่อนจานสปาเก็ตตีมาให้หล่อน แล้วก็สำหรับตัวเอง

"คุณสังเกตศิไปหมดเลยนะคะ”

“ศิก็สังเกตผมก็ได้ด้วยนี่ ผมไม่ได้ห้ามนะ”

หล่อนยิ้มไม่รู้จะตอบอย่างไร

“ ยังไม่ได้ไปหาร้านเลยนะคะ”

“ เดี่ยวก่อนห้าโมงก็ไปเดินรอบหนึ่งคงได้นะจ๊ะ แล้วเราก็เดินเล่นอยู่แถวๆนั้น ศิจะได้ไม่กังวลใจไงจ๊ะ”

หล่อนมองตาเขาที่รู้ว่า เข้าใจว่าหล่อนจะกังวลอะไร

“ ผมเดาถูกอีกแล้วใช่ไหมจ๊ะ” หล่อนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี นิธิพอใจในบรรยากาศที่มี

“ ศิอิ่มหรือเปล่า” เขาถามเมื่อทานเสร็จ

“ มันแยะอยู่นะคะ”

“ แป้งประเดี๋ยวก็ย่อยจ้ะ ศิอยากทานน้ำชาไหมจ๊ะ” หล่อนสั่นศีรษะ

“ จะทานก็ตอนไม่รู้จะทำอะไร แล้วก็ต้องอยากทานด้วย แต่ตอนนี้ศิอิ่มมากแล้วค่ะ”

เมื่อเขาอิ่มแล้วก็คืนจานทั้งสองใส่ถาดวางไว้

“ เขียนหนังสือได้มากไหมคะ"

“ ก็เท่ากับศิหลับแหละจ้ะ”

หล่อนทำหน้าเหมือนไม่ยอมรับในคำตอบ เขาลุกขึ้นยืน

“ ศิอยากจะดูที่ผมเขียนไหมจ๊ะ”

ศิรินทร์ลุกตามมาดูที่เขาหยิบขึ้นมา

“ศิดูสิจ๊ะ ได้ตั้งหลายแผ่น” เขาอวด

หล่อนไม่ได้ดูแผ่นกระดาษที่มากมาย หล่อนไล่สายตาตามลายมือหวัดๆของเขา อ่านเอาใจความไปด้วย เขาเดินไปที่ห้องน้ำ

หล่อนเปิดพลิกช้าๆ นึกว่าเขาเขียนในช่วงที่หล่อนหลับก็ถือว่าเขียนได้มากทีเดียว หล่อนหยุดนับอายุของเขา โอ้โฮ เขาอายุสามสิบแล้วหรือ หล่อนยังนึกว่าเขาอายุสักยี่สิบแปดเป็นอย่างมาก หล่อนก็ว่ามันมากแล้วนะ นึกแปลกตัวเองที่ไม่เคยรู้คิด หรืออยากรู้เรื่อง
ราวของเขามาก่อนเลย จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็เถอะ หล่อนว่าหล่อนคงแปลกกว่าคนทั้งโลกที่คบเขามากจนป่านนี้ไม่ได้รู้อะไรเลย อ้อ แต่เขาก็ไม่รู้อะไรของหล่อนเหมือนกันนี่นะ พอกันนะ นึกได้เมื่อเขาออกมา

“ ศิอ่านประวัติผมจบหรือยังจ๊ะ”

“ มันจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้” หล่อนพูดอย่างไม่เชื่อ

“ ถ้าของผมๆแน่ใจจ้ะ เหลือแต่ใจของศินะจ๊ะ” เขาพูดเข้าไปในความรู้สึกหล่อน

“ ถ้าศิแน่ใจตัวเองอีกนิด ศิว่าคุณจะลำบาก” หล่อนส่งสายตาอย่างที่เขาชอบมา เขาหัวเราะ

“ ศิมีวิธีขู่คนได้น่ารักนะ”

ศิรินทร์เดินเลี่ยงเขาไปห้องน้ำ นิธิเก็บเอกสารของเขาจากโต๊ะ ใส่ในแฟ้มหนา แล้วนำไปใส่กระเป๋าตามเดิม เขาดูเสื้อที่จะใส่ในเย็นนี้ ครั้งนี้เขาไม่ต้องวุ่นเรื่องธุระแบบคราวก่อน ข้าวของที่ส่งล่วงหน้าอีกหนึ่งกระเป๋า จะส่งตรงไปยังบ้านแดดดี้เลย

พรุ่งนี้เขาต้องเดินทางจากสนามบินเล็กของเมืองนี้ในตอนเที่ยง ศิรินทร์จะได้อยู่ส่งเขาไหมนะ เขาไม่กล้าเดาใจหล่อน ถ้าหล่อนอารมณ์ดีอย่างวันนี้เขาควรถามหล่อน ติดเสียแต่ว่าหล่อนต้องกลับไปกับเพื่อนของหล่อนแน่ๆ เขาพลาดไปนิดที่เลือกเลี้ยงวันนี้

แต่เขาก็ได้รู้จักสังคมของหล่อน

ศิรินทร์เห็นเขามองออกไปไกลด้วยความคิดคำนึงในทีท่า หล่อนมาหยุดยืนใกล้มากๆข้างเขา เขาเหลือบมองหล่อนนิดหนึ่งเงียบๆ เขาคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้อบอุ่นในใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน เขาชอบที่เห็นหล่อนอยู่ใกล้ๆเขา เหมือน..คงเหมือนเงาตามกัน ถ้าหล่อนจะขยันตามเขามากอีกสักหน่อย มือที่ว่างเปล่าของเขาอดที่จะยกขึ้นมาโอบหล่อนเสียไม่ได้ หล่อนพิงศีรษะกับเขา

“ ศิพรุ่งนี้ผมจะไปเที่ยง ศิส่งผมได้ไหมจ๊ะ”

ถ้าเขาถามว่าได้หรือเปล่า หล่อนอาจจะตอบเปล่า หรืออย่างอื่น คำถามเขาทำให้หล่อนหยุดนึก เลี่ยงตอบโดยใช้สายตามาที่เขา เขามองสายตาที่ทอดมา เหมือนต้องหาคำตอบเอาเองอีกแล้ว เขาเอามือประคองแก้มหล่อน จูบเบาๆแล้วก็รู้ว่ามันไม่ใช่เสียแล้ว ในนาทีต่อมา

จอดรถแล้วธีระยังหันดูอีกทีว่าเรียบร้อยหรือเปล่าเมื่อเดินจากมา

“ กลัวโรงแรมให้รถมายกไปสุสานว่ะ” เขาหันมายิ้มพูดกับปิยะ

“ ทำไมล่ะ มันโทรมนักรึไง ก็ไม่เคยล้างเลย รอฝนตกใหญ่มาล้างก็อย่างนี้แหละ”

“ เราลืมคิดว่ะ รับแขกรับสาวทั้งที น่าจะเรี่ยมกว่านี้หน่อย”

“ นายหมั่นลืมเข้าเหอะ คนอื่นจะมาคว้าไปเสียก่อนล่ะ”

“คงไม่คว้าละมั้งหรือนายว่าไง” เขาหยั่งเสียงเพื่อนให้อุ่นใจ

“ ดูไม่ออกว่ะ เพิ่งเห็นก็ยังดูเรียบร้อยกันอยู่” ปิยะบอก

“ ทำยังกะว่าวันนี้นายจะดูออกยังงั้นแหละ”

“ก็ไม่แน่ คนเราพอชินกันก็ลืมระวังตัว”

“ถ้าคนนี้ใช่ คนนั้นก็ไม่ใช่สินะ” เขากลัวใจคนนั้นจัง ธีระบอกกับตัวเอง ‘ ของนัดเค้า’ ยังก้องอยู่ในหูเลย มันแปลกตรงคำพูดนี่แหละ เพราะไม่เห็นเขาแสดงอาการเป็นเจ้าของหล่อนออกมา จะอวดหรือไม่อวดใครก็ตาม ไม่เหมือนพวก ก็พวกเราๆนี่แหละ อยากจะแสดงทันทีที่มีโอกาส

หนุ่มสองคนที่เดินมาโน่นอยู่ในสายตาของนิธิ

“ ศิจ๊ะ เพื่อนมาแล้วจ้ะ”

หล่อนมองไปแล้วหันมาสบตา เขาเข้าใจหล่อน เข้าใจว่าหล่อนจะเป็นในสิ่งที่อยากเป็น แล้วเขาก็พร้อมที่จะโดนลูกหลงอีกทีงานนี้

“ สวัสดีครับ” นิธิกล่าวกับสองคน

“ ผมเห็นเจ้าภาพมารอใจชื้นขึ้นมาหน่อย” ปิยะพูดกับศิรินทร์

“ คงเตรียมสูบลมยางมาจริงๆแล้วนะคะ” หล่อนหันมาบอกนิธิ

“ คุณศิพวกใครกันครับวันนี้” ธีระถามศิรินทร์

“ ฝ่ายเจ้าภาพสิคะ คุณปิยะยังดีใจว่ามายืนรอเลย”

“ ผมจะพาคุณเดินไปให้หิวอีกสักหน่อยนะครับ” นิธิบอก

“ อย่าให้ผมเดินนานนะครับ ผมกะว่ามาถึงทานเลยนะครับ” ปิยะรีบบอก

ศิรินทร์หัวเราะขำคำพูดปิยะ

“ ศิ ผมว่าเราประมาณการอะไรผิดไปหรือเปล่า” นิธิถามศิรินทร์ดังๆ

“ เดี๋ยวก็รู้ค่ะ ใช่ไหมคุณธีระ”

“ ครับเดี๋ยวคงรู้” เขาหมายถึงอะไรก็ได้

นิธิเดินนำไปกับปิยะ ศิรินทร์กับธีระตามหลัง

ร้านยูโกสลาเวียนที่นิธิเดินนำเข้ามาในร้าน บริเวณกว้างขวางขนาดสิบโต๊ะ ห้าสิบคนเต็มอัตรา โต๊ะยังว่างอยู่มาก เมื่อเลือกได้โต๊ะชิดผนังไกลทางเดินจากประตูหน้า ทุกคนนั่งพร้อมสั่งอาหาร นิธิให้ศิรินทร์เลือกก่อน ของเขานั้นเป็นสเต็ก ศิรินทร์ขอเป็นบาบีคิวรวม ธีระสั่งสเต็กลูกวัวและปิยะขอเป็นรวมมิตรย่างไฟคล้ายศิรินทร์ เบียร์ถูกสั่ง นิธิขอไวน์แดง

“ ไวน์นะ” นิธิหันถามศิรินทร์

“ ศิคงเมาเร็วกว่าเบียร์ละซี” หล่อนพูดกับธีระตรงหน้า

“ เดี๋ยวผมเอารถมารับได้ครับ” ธีระขันอาสา

“ คุณศิยิ่งว่ามีคนใจดีเมื่อเช้านี่แหละ นายก็ยิ่งทำดีใหญ่” ปิยะเท้าความ

“ ผมดีอยู่แล้ว คุณศิว่าอะไรกับยะเขาหรือ ผมไม่เห็นรู้เรื่อง”

“ ศิว่ามีแต่คนอะไรนะคุณปิยะ ศิชมแล้วศิก็ลืม”

“ โถคุณศิ คุณจะชมเขาสักหน่อย ก็กรุณาจำมั่งสิครับ” ปิยะตัดพ้อ

ศิรินทร์หันไปมองนิธิยิ้มอย่างอารมณ์ดี

“ คุณคนรับชม คุณก็น่าจะจำนะคะ”

“ ศิเขาชมไปเรื่อยเลยละครับ บางทีผมยังโดนหางเลขเลยครับ” นิธิพูดบ้าง

“ เอ๊ะ ชมคุณหรืออะไร ถึงโดนหางเลขน่ะครับ” ปิยะถามทันที

“ ก็รวมๆกันไปน่ะครับ” นิธิตอบไม่มองหล่อน

“ งั้นอย่าเพิ่งพูดเรื่องชมดีกว่า เดี๋ยวเจอชนิดรวมๆกันละยุ่งเลย” ปิยะตอบ

“ คุณศิชมผมเหรอ ยะเขาไม่ฟังช่างเขา” ธีระถาม

“ ใช่ค่ะ ศิชมแน่ๆ ไปถามคุณปิยะตอนเขาไม่เมา จะได้ความจริง”

“เบียร์ไม่เมาเหรอกครับ ไวน์น่ะยังไม่แน่” ปิยะกล่าว

เครื่องดื่มมาเสิร์ฟครบ นิธิชนแก้วกับทุกๆคน กล่าวว่า

“สำหรับความสุขวันนี้นะครับ” เขาส่งตาให้หล่อนก่อนดื่ม ศิรินทร์รับรู้และปิยะได้เห็น

สลัดกับเครื่องข้างเคียงถูกนำมาเสิร์ฟก่อน ตามด้วยบาบีคิวกับย่างรวมมิตรของปิยะ ของคนอื่นตามมาในเวลาไล่เลี่ยกัน

“ จานเดียวจะน็อกไหม ยะ” ธีระถาม

“ อาหารฝรั่งน็อคเร็ว อาหารไทยเร้อจานเป็นกาละมังแล้วก็ยังกินเข้าไปได้”

“ คุณปิยะพูดเสียจริงเลยนะคะ ศิทานหมดก็คงน็อกเหมือนกันค่ะ”

“คุณช่วยศิหน่อยนะคะ” หล่อนบอกนิธิ

“ ศิอย่าน็อกเพราะไวน์ก่อนล่ะจ๊ะ” เขาจ๊ะจ๋าด้วยนึกถึงวันโน้นที่ทานไวน์ด้วยกัน

“ วันนี้ศิมีคนไปส่ง คงไม่เป็นไรค่ะ”

ปิยะกำลังผูกประโยคที่ฟังเข้าด้วยกัน เมื่อก้มหน้าตัดเนื้อด้วยมีด

“ อาหารใช้ได้ไหมครับ” นิธิถามปิยะ

“ ใช้ได้มาครึ่งจานแล้วครับ” ปิยะเงยหน้าตอบ

“ คุณธีระล่ะคะ อร่อยไหมคะ”

"ถ้าบอกไม่อร่อย คุณศิจะเปลี่ยนร้านให้ผมไหมครับ นะ ยะ อีกครึ่งไปหาเอาอีกร้านไหมล่ะ”

“ ศิ ผมว่าเรามาผิดร้านนะครับ ยังไม่มีใครพูดอร่อยสักคนเลยนะ” นิธิกล่าว

“ใช่ค่ะ ธรรมดาเยอรมันพอทานปุ๊บก็ต้องบอก ชเม็ค อาเบ้อรกู้ด คือ อร่อย ใช่ไหมคะ”หล่อนเหมือนถามธีระ

“คุณศิ คนไทยน่ะปากหนัก ไม่พูดทุกสถานการณ์ดังคนเยอรมันดอกครับ ถ้าไม่ถามก็ไม่ชมหรอก”

“ แล้วคุณเป็นเยอรมันหรือไทยคะ ตอนนี้น่ะ”

“ พวกลาวครับ ไม่ค่อยรู้เรื่อง อะไรยังใส่ไม่ค่อยจะถูกเลยครับ จะใช้มือท่าเดียว”

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่