[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/36710604
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/36726785
ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/36744060
ตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/36760004
ตอนที่ 5 https://ppantip.com/topic/36774548
ตอนที่ 6 https://ppantip.com/topic/36788200
ตอนที่ 7 https://ppantip.com/topic/36809222
ตอนที่ 8 https://ppantip.com/topic/36823231
ตอนที่ 9 https://ppantip.com/topic/36846962
ตอนที่ 10 https://ppantip.com/topic/36859799
ตอนที่ 11 https://ppantip.com/topic/36876620
ตอนที่ 12 https://ppantip.com/topic/36889901
ตอนที่ 13 https://ppantip.com/topic/36907423
ตอนที่ 14 https://ppantip.com/topic/36921540
ตอนที่ 15 https://ppantip.com/topic/36935300
ตอนที่ 16 https://ppantip.com/topic/36949828
ตอนที่ 17 https://ppantip.com/topic/36876620
ตอนที่ 18 https://ppantip.com/topic/36979729
ตอนที่ 19 https://ppantip.com/topic/36994366
ตอนที่ 20 https://ppantip.com/topic/37010398
ตอนที่ 21 https://ppantip.com/topic/37027182
ตอนที่ 22 https://ppantip.com/topic/37041924
ตอนที่ 23 https://ppantip.com/topic/37055160
ตอนที่ 24 https://ppantip.com/topic/37068869
ตอนที่ 25 https://ppantip.com/topic/37085830
สวัสดีค่ะ อยู่ในห้วงแห่งความรัก ถ้าจะนึกถึงเพลงไทยสักเพลงหนึ่ง ก็คงเป็นเพลง 'จงรัก' ที่ว่า.... 🎵🎶♩
โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต และโปรดอย่าถามว่าอดีต ฉันเคยรักใคร? หัวใจมีเลือดเนื้อและเต็มไปด้วยต่อมความรู้สึก
คนที่มีความรักอยู่ในใจเสมอ ย่อมมีความสุข การเกิดและดับของความรักย่อมหยุดยั้งไม่ได้ แล้วแต่ว่าบุญพาวาสนาช่วย จึงจะ
ปลอดภัย แคล้วคลาดกับความผิดหวัง หรือ หมดรัก แต่เรายังอยู่กับความรักด้วยกันค่ะ ในบทนี้ รักคนอ่านทุกคนนะคะ :
ธาราสินธุ์ หลงรัก, แก้วกรกช หลงรัก, WANG JIE หลงรัก, Lady Star 919 หลงรัก, มัศยวีร์ หลงรัก, คีตมินทร์ ถูกใจ, GTW ทึ่ง,
สมาชิกหมายเลข 868666 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4171962 ถูกใจ, Na(นะ)ถูกใจ,kasareevหลงรัก, turtle_cheesecake หลงรัก,
ชุนเทียน หลงรัก
🌎🌍🌏
“ ศิจะทานอะไรจ๊ะ”
“ ขอสปาเก็ตตีได้ไหมคะ” หล่อนถามมองตามาที่เขา
“ ทำตาเมื่อกี้ใหม่สิจ๊ะ” หล่อนยิ้มเข้าใจในสิ่งที่ทำไป
“ ผมคงชอบศิตรงนี้ด้วยมั้ง ที่อยากจะบอกศิ ผมรู้ว่าศิอารมณ์ดีมากๆด้วย”
เลื่อนจานสปาเก็ตตีมาให้หล่อน แล้วก็สำหรับตัวเอง
"คุณสังเกตศิไปหมดเลยนะคะ”
“ศิก็สังเกตผมก็ได้ด้วยนี่ ผมไม่ได้ห้ามนะ”
หล่อนยิ้มไม่รู้จะตอบอย่างไร
“ ยังไม่ได้ไปหาร้านเลยนะคะ”
“ เดี่ยวก่อนห้าโมงก็ไปเดินรอบหนึ่งคงได้นะจ๊ะ แล้วเราก็เดินเล่นอยู่แถวๆนั้น ศิจะได้ไม่กังวลใจไงจ๊ะ”
หล่อนมองตาเขาที่รู้ว่า เข้าใจว่าหล่อนจะกังวลอะไร
“ ผมเดาถูกอีกแล้วใช่ไหมจ๊ะ” หล่อนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี นิธิพอใจในบรรยากาศที่มี
“ ศิอิ่มหรือเปล่า” เขาถามเมื่อทานเสร็จ
“ มันแยะอยู่นะคะ”
“ แป้งประเดี๋ยวก็ย่อยจ้ะ ศิอยากทานน้ำชาไหมจ๊ะ” หล่อนสั่นศีรษะ
“ จะทานก็ตอนไม่รู้จะทำอะไร แล้วก็ต้องอยากทานด้วย แต่ตอนนี้ศิอิ่มมากแล้วค่ะ”
เมื่อเขาอิ่มแล้วก็คืนจานทั้งสองใส่ถาดวางไว้
“ เขียนหนังสือได้มากไหมคะ"
“ ก็เท่ากับศิหลับแหละจ้ะ”
หล่อนทำหน้าเหมือนไม่ยอมรับในคำตอบ เขาลุกขึ้นยืน
“ ศิอยากจะดูที่ผมเขียนไหมจ๊ะ”
ศิรินทร์ลุกตามมาดูที่เขาหยิบขึ้นมา
“ศิดูสิจ๊ะ ได้ตั้งหลายแผ่น” เขาอวด
หล่อนไม่ได้ดูแผ่นกระดาษที่มากมาย หล่อนไล่สายตาตามลายมือหวัดๆของเขา อ่านเอาใจความไปด้วย เขาเดินไปที่ห้องน้ำ
หล่อนเปิดพลิกช้าๆ นึกว่าเขาเขียนในช่วงที่หล่อนหลับก็ถือว่าเขียนได้มากทีเดียว หล่อนหยุดนับอายุของเขา โอ้โฮ เขาอายุสามสิบแล้วหรือ หล่อนยังนึกว่าเขาอายุสักยี่สิบแปดเป็นอย่างมาก หล่อนก็ว่ามันมากแล้วนะ นึกแปลกตัวเองที่ไม่เคยรู้คิด หรืออยากรู้เรื่อง
ราวของเขามาก่อนเลย จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็เถอะ หล่อนว่าหล่อนคงแปลกกว่าคนทั้งโลกที่คบเขามากจนป่านนี้ไม่ได้รู้อะไรเลย อ้อ แต่เขาก็ไม่รู้อะไรของหล่อนเหมือนกันนี่นะ พอกันนะ นึกได้เมื่อเขาออกมา
“ ศิอ่านประวัติผมจบหรือยังจ๊ะ”
“ มันจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้” หล่อนพูดอย่างไม่เชื่อ
“ ถ้าของผมๆแน่ใจจ้ะ เหลือแต่ใจของศินะจ๊ะ” เขาพูดเข้าไปในความรู้สึกหล่อน
“ ถ้าศิแน่ใจตัวเองอีกนิด ศิว่าคุณจะลำบาก” หล่อนส่งสายตาอย่างที่เขาชอบมา เขาหัวเราะ
“ ศิมีวิธีขู่คนได้น่ารักนะ”
ศิรินทร์เดินเลี่ยงเขาไปห้องน้ำ นิธิเก็บเอกสารของเขาจากโต๊ะ ใส่ในแฟ้มหนา แล้วนำไปใส่กระเป๋าตามเดิม เขาดูเสื้อที่จะใส่ในเย็นนี้ ครั้งนี้เขาไม่ต้องวุ่นเรื่องธุระแบบคราวก่อน ข้าวของที่ส่งล่วงหน้าอีกหนึ่งกระเป๋า จะส่งตรงไปยังบ้านแดดดี้เลย
พรุ่งนี้เขาต้องเดินทางจากสนามบินเล็กของเมืองนี้ในตอนเที่ยง ศิรินทร์จะได้อยู่ส่งเขาไหมนะ เขาไม่กล้าเดาใจหล่อน ถ้าหล่อนอารมณ์ดีอย่างวันนี้เขาควรถามหล่อน ติดเสียแต่ว่าหล่อนต้องกลับไปกับเพื่อนของหล่อนแน่ๆ เขาพลาดไปนิดที่เลือกเลี้ยงวันนี้
แต่เขาก็ได้รู้จักสังคมของหล่อน
ศิรินทร์เห็นเขามองออกไปไกลด้วยความคิดคำนึงในทีท่า หล่อนมาหยุดยืนใกล้มากๆข้างเขา เขาเหลือบมองหล่อนนิดหนึ่งเงียบๆ เขาคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้อบอุ่นในใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน เขาชอบที่เห็นหล่อนอยู่ใกล้ๆเขา เหมือน..คงเหมือนเงาตามกัน ถ้าหล่อนจะขยันตามเขามากอีกสักหน่อย มือที่ว่างเปล่าของเขาอดที่จะยกขึ้นมาโอบหล่อนเสียไม่ได้ หล่อนพิงศีรษะกับเขา
“ ศิพรุ่งนี้ผมจะไปเที่ยง ศิส่งผมได้ไหมจ๊ะ”
ถ้าเขาถามว่าได้หรือเปล่า หล่อนอาจจะตอบเปล่า หรืออย่างอื่น คำถามเขาทำให้หล่อนหยุดนึก เลี่ยงตอบโดยใช้สายตามาที่เขา เขามองสายตาที่ทอดมา เหมือนต้องหาคำตอบเอาเองอีกแล้ว เขาเอามือประคองแก้มหล่อน จูบเบาๆแล้วก็รู้ว่ามันไม่ใช่เสียแล้ว ในนาทีต่อมา
จอดรถแล้วธีระยังหันดูอีกทีว่าเรียบร้อยหรือเปล่าเมื่อเดินจากมา
“ กลัวโรงแรมให้รถมายกไปสุสานว่ะ” เขาหันมายิ้มพูดกับปิยะ
“ ทำไมล่ะ มันโทรมนักรึไง ก็ไม่เคยล้างเลย รอฝนตกใหญ่มาล้างก็อย่างนี้แหละ”
“ เราลืมคิดว่ะ รับแขกรับสาวทั้งที น่าจะเรี่ยมกว่านี้หน่อย”
“ นายหมั่นลืมเข้าเหอะ คนอื่นจะมาคว้าไปเสียก่อนล่ะ”
“คงไม่คว้าละมั้งหรือนายว่าไง” เขาหยั่งเสียงเพื่อนให้อุ่นใจ
“ ดูไม่ออกว่ะ เพิ่งเห็นก็ยังดูเรียบร้อยกันอยู่” ปิยะบอก
“ ทำยังกะว่าวันนี้นายจะดูออกยังงั้นแหละ”
“ก็ไม่แน่ คนเราพอชินกันก็ลืมระวังตัว”
“ถ้าคนนี้ใช่ คนนั้นก็ไม่ใช่สินะ” เขากลัวใจคนนั้นจัง ธีระบอกกับตัวเอง ‘ ของนัดเค้า’ ยังก้องอยู่ในหูเลย มันแปลกตรงคำพูดนี่แหละ เพราะไม่เห็นเขาแสดงอาการเป็นเจ้าของหล่อนออกมา จะอวดหรือไม่อวดใครก็ตาม ไม่เหมือนพวก ก็พวกเราๆนี่แหละ อยากจะแสดงทันทีที่มีโอกาส
หนุ่มสองคนที่เดินมาโน่นอยู่ในสายตาของนิธิ
“ ศิจ๊ะ เพื่อนมาแล้วจ้ะ”
หล่อนมองไปแล้วหันมาสบตา เขาเข้าใจหล่อน เข้าใจว่าหล่อนจะเป็นในสิ่งที่อยากเป็น แล้วเขาก็พร้อมที่จะโดนลูกหลงอีกทีงานนี้
“ สวัสดีครับ” นิธิกล่าวกับสองคน
“ ผมเห็นเจ้าภาพมารอใจชื้นขึ้นมาหน่อย” ปิยะพูดกับศิรินทร์
“ คงเตรียมสูบลมยางมาจริงๆแล้วนะคะ” หล่อนหันมาบอกนิธิ
“ คุณศิพวกใครกันครับวันนี้” ธีระถามศิรินทร์
“ ฝ่ายเจ้าภาพสิคะ คุณปิยะยังดีใจว่ามายืนรอเลย”
“ ผมจะพาคุณเดินไปให้หิวอีกสักหน่อยนะครับ” นิธิบอก
“ อย่าให้ผมเดินนานนะครับ ผมกะว่ามาถึงทานเลยนะครับ” ปิยะรีบบอก
ศิรินทร์หัวเราะขำคำพูดปิยะ
“ ศิ ผมว่าเราประมาณการอะไรผิดไปหรือเปล่า” นิธิถามศิรินทร์ดังๆ
“ เดี๋ยวก็รู้ค่ะ ใช่ไหมคุณธีระ”
“ ครับเดี๋ยวคงรู้” เขาหมายถึงอะไรก็ได้
นิธิเดินนำไปกับปิยะ ศิรินทร์กับธีระตามหลัง
ร้านยูโกสลาเวียนที่นิธิเดินนำเข้ามาในร้าน บริเวณกว้างขวางขนาดสิบโต๊ะ ห้าสิบคนเต็มอัตรา โต๊ะยังว่างอยู่มาก เมื่อเลือกได้โต๊ะชิดผนังไกลทางเดินจากประตูหน้า ทุกคนนั่งพร้อมสั่งอาหาร นิธิให้ศิรินทร์เลือกก่อน ของเขานั้นเป็นสเต็ก ศิรินทร์ขอเป็นบาบีคิวรวม ธีระสั่งสเต็กลูกวัวและปิยะขอเป็นรวมมิตรย่างไฟคล้ายศิรินทร์ เบียร์ถูกสั่ง นิธิขอไวน์แดง
“ ไวน์นะ” นิธิหันถามศิรินทร์
“ ศิคงเมาเร็วกว่าเบียร์ละซี” หล่อนพูดกับธีระตรงหน้า
“ เดี๋ยวผมเอารถมารับได้ครับ” ธีระขันอาสา
“ คุณศิยิ่งว่ามีคนใจดีเมื่อเช้านี่แหละ นายก็ยิ่งทำดีใหญ่” ปิยะเท้าความ
“ ผมดีอยู่แล้ว คุณศิว่าอะไรกับยะเขาหรือ ผมไม่เห็นรู้เรื่อง”
“ ศิว่ามีแต่คนอะไรนะคุณปิยะ ศิชมแล้วศิก็ลืม”
“ โถคุณศิ คุณจะชมเขาสักหน่อย ก็กรุณาจำมั่งสิครับ” ปิยะตัดพ้อ
ศิรินทร์หันไปมองนิธิยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“ คุณคนรับชม คุณก็น่าจะจำนะคะ”
“ ศิเขาชมไปเรื่อยเลยละครับ บางทีผมยังโดนหางเลขเลยครับ” นิธิพูดบ้าง
“ เอ๊ะ ชมคุณหรืออะไร ถึงโดนหางเลขน่ะครับ” ปิยะถามทันที
“ ก็รวมๆกันไปน่ะครับ” นิธิตอบไม่มองหล่อน
“ งั้นอย่าเพิ่งพูดเรื่องชมดีกว่า เดี๋ยวเจอชนิดรวมๆกันละยุ่งเลย” ปิยะตอบ
“ คุณศิชมผมเหรอ ยะเขาไม่ฟังช่างเขา” ธีระถาม
“ ใช่ค่ะ ศิชมแน่ๆ ไปถามคุณปิยะตอนเขาไม่เมา จะได้ความจริง”
“เบียร์ไม่เมาเหรอกครับ ไวน์น่ะยังไม่แน่” ปิยะกล่าว
เครื่องดื่มมาเสิร์ฟครบ นิธิชนแก้วกับทุกๆคน กล่าวว่า
“สำหรับความสุขวันนี้นะครับ” เขาส่งตาให้หล่อนก่อนดื่ม ศิรินทร์รับรู้และปิยะได้เห็น
สลัดกับเครื่องข้างเคียงถูกนำมาเสิร์ฟก่อน ตามด้วยบาบีคิวกับย่างรวมมิตรของปิยะ ของคนอื่นตามมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
“ จานเดียวจะน็อกไหม ยะ” ธีระถาม
“ อาหารฝรั่งน็อคเร็ว อาหารไทยเร้อจานเป็นกาละมังแล้วก็ยังกินเข้าไปได้”
“ คุณปิยะพูดเสียจริงเลยนะคะ ศิทานหมดก็คงน็อกเหมือนกันค่ะ”
“คุณช่วยศิหน่อยนะคะ” หล่อนบอกนิธิ
“ ศิอย่าน็อกเพราะไวน์ก่อนล่ะจ๊ะ” เขาจ๊ะจ๋าด้วยนึกถึงวันโน้นที่ทานไวน์ด้วยกัน
“ วันนี้ศิมีคนไปส่ง คงไม่เป็นไรค่ะ”
ปิยะกำลังผูกประโยคที่ฟังเข้าด้วยกัน เมื่อก้มหน้าตัดเนื้อด้วยมีด
“ อาหารใช้ได้ไหมครับ” นิธิถามปิยะ
“ ใช้ได้มาครึ่งจานแล้วครับ” ปิยะเงยหน้าตอบ
“ คุณธีระล่ะคะ อร่อยไหมคะ”
"ถ้าบอกไม่อร่อย คุณศิจะเปลี่ยนร้านให้ผมไหมครับ นะ ยะ อีกครึ่งไปหาเอาอีกร้านไหมล่ะ”
“ ศิ ผมว่าเรามาผิดร้านนะครับ ยังไม่มีใครพูดอร่อยสักคนเลยนะ” นิธิกล่าว
“ใช่ค่ะ ธรรมดาเยอรมันพอทานปุ๊บก็ต้องบอก ชเม็ค อาเบ้อรกู้ด คือ อร่อย ใช่ไหมคะ”หล่อนเหมือนถามธีระ
“คุณศิ คนไทยน่ะปากหนัก ไม่พูดทุกสถานการณ์ดังคนเยอรมันดอกครับ ถ้าไม่ถามก็ไม่ชมหรอก”
“ แล้วคุณเป็นเยอรมันหรือไทยคะ ตอนนี้น่ะ”
“ พวกลาวครับ ไม่ค่อยรู้เรื่อง อะไรยังใส่ไม่ค่อยจะถูกเลยครับ จะใช้มือท่าเดียว”
(มีต่อ)
💧🎭🎀หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง)26 🎀🎭💧
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สวัสดีค่ะ อยู่ในห้วงแห่งความรัก ถ้าจะนึกถึงเพลงไทยสักเพลงหนึ่ง ก็คงเป็นเพลง 'จงรัก' ที่ว่า.... 🎵🎶♩
โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต และโปรดอย่าถามว่าอดีต ฉันเคยรักใคร? หัวใจมีเลือดเนื้อและเต็มไปด้วยต่อมความรู้สึก
คนที่มีความรักอยู่ในใจเสมอ ย่อมมีความสุข การเกิดและดับของความรักย่อมหยุดยั้งไม่ได้ แล้วแต่ว่าบุญพาวาสนาช่วย จึงจะ
ปลอดภัย แคล้วคลาดกับความผิดหวัง หรือ หมดรัก แต่เรายังอยู่กับความรักด้วยกันค่ะ ในบทนี้ รักคนอ่านทุกคนนะคะ :
ธาราสินธุ์ หลงรัก, แก้วกรกช หลงรัก, WANG JIE หลงรัก, Lady Star 919 หลงรัก, มัศยวีร์ หลงรัก, คีตมินทร์ ถูกใจ, GTW ทึ่ง,
สมาชิกหมายเลข 868666 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4171962 ถูกใจ, Na(นะ)ถูกใจ,kasareevหลงรัก, turtle_cheesecake หลงรัก,
ชุนเทียน หลงรัก
🌎🌍🌏
“ ศิจะทานอะไรจ๊ะ”
“ ขอสปาเก็ตตีได้ไหมคะ” หล่อนถามมองตามาที่เขา
“ ทำตาเมื่อกี้ใหม่สิจ๊ะ” หล่อนยิ้มเข้าใจในสิ่งที่ทำไป
“ ผมคงชอบศิตรงนี้ด้วยมั้ง ที่อยากจะบอกศิ ผมรู้ว่าศิอารมณ์ดีมากๆด้วย”
เลื่อนจานสปาเก็ตตีมาให้หล่อน แล้วก็สำหรับตัวเอง
"คุณสังเกตศิไปหมดเลยนะคะ”
“ศิก็สังเกตผมก็ได้ด้วยนี่ ผมไม่ได้ห้ามนะ”
หล่อนยิ้มไม่รู้จะตอบอย่างไร
“ ยังไม่ได้ไปหาร้านเลยนะคะ”
“ เดี่ยวก่อนห้าโมงก็ไปเดินรอบหนึ่งคงได้นะจ๊ะ แล้วเราก็เดินเล่นอยู่แถวๆนั้น ศิจะได้ไม่กังวลใจไงจ๊ะ”
หล่อนมองตาเขาที่รู้ว่า เข้าใจว่าหล่อนจะกังวลอะไร
“ ผมเดาถูกอีกแล้วใช่ไหมจ๊ะ” หล่อนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี นิธิพอใจในบรรยากาศที่มี
“ ศิอิ่มหรือเปล่า” เขาถามเมื่อทานเสร็จ
“ มันแยะอยู่นะคะ”
“ แป้งประเดี๋ยวก็ย่อยจ้ะ ศิอยากทานน้ำชาไหมจ๊ะ” หล่อนสั่นศีรษะ
“ จะทานก็ตอนไม่รู้จะทำอะไร แล้วก็ต้องอยากทานด้วย แต่ตอนนี้ศิอิ่มมากแล้วค่ะ”
เมื่อเขาอิ่มแล้วก็คืนจานทั้งสองใส่ถาดวางไว้
“ เขียนหนังสือได้มากไหมคะ"
“ ก็เท่ากับศิหลับแหละจ้ะ”
หล่อนทำหน้าเหมือนไม่ยอมรับในคำตอบ เขาลุกขึ้นยืน
“ ศิอยากจะดูที่ผมเขียนไหมจ๊ะ”
ศิรินทร์ลุกตามมาดูที่เขาหยิบขึ้นมา
“ศิดูสิจ๊ะ ได้ตั้งหลายแผ่น” เขาอวด
หล่อนไม่ได้ดูแผ่นกระดาษที่มากมาย หล่อนไล่สายตาตามลายมือหวัดๆของเขา อ่านเอาใจความไปด้วย เขาเดินไปที่ห้องน้ำ
หล่อนเปิดพลิกช้าๆ นึกว่าเขาเขียนในช่วงที่หล่อนหลับก็ถือว่าเขียนได้มากทีเดียว หล่อนหยุดนับอายุของเขา โอ้โฮ เขาอายุสามสิบแล้วหรือ หล่อนยังนึกว่าเขาอายุสักยี่สิบแปดเป็นอย่างมาก หล่อนก็ว่ามันมากแล้วนะ นึกแปลกตัวเองที่ไม่เคยรู้คิด หรืออยากรู้เรื่อง
ราวของเขามาก่อนเลย จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ก็เถอะ หล่อนว่าหล่อนคงแปลกกว่าคนทั้งโลกที่คบเขามากจนป่านนี้ไม่ได้รู้อะไรเลย อ้อ แต่เขาก็ไม่รู้อะไรของหล่อนเหมือนกันนี่นะ พอกันนะ นึกได้เมื่อเขาออกมา
“ ศิอ่านประวัติผมจบหรือยังจ๊ะ”
“ มันจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้” หล่อนพูดอย่างไม่เชื่อ
“ ถ้าของผมๆแน่ใจจ้ะ เหลือแต่ใจของศินะจ๊ะ” เขาพูดเข้าไปในความรู้สึกหล่อน
“ ถ้าศิแน่ใจตัวเองอีกนิด ศิว่าคุณจะลำบาก” หล่อนส่งสายตาอย่างที่เขาชอบมา เขาหัวเราะ
“ ศิมีวิธีขู่คนได้น่ารักนะ”
ศิรินทร์เดินเลี่ยงเขาไปห้องน้ำ นิธิเก็บเอกสารของเขาจากโต๊ะ ใส่ในแฟ้มหนา แล้วนำไปใส่กระเป๋าตามเดิม เขาดูเสื้อที่จะใส่ในเย็นนี้ ครั้งนี้เขาไม่ต้องวุ่นเรื่องธุระแบบคราวก่อน ข้าวของที่ส่งล่วงหน้าอีกหนึ่งกระเป๋า จะส่งตรงไปยังบ้านแดดดี้เลย
พรุ่งนี้เขาต้องเดินทางจากสนามบินเล็กของเมืองนี้ในตอนเที่ยง ศิรินทร์จะได้อยู่ส่งเขาไหมนะ เขาไม่กล้าเดาใจหล่อน ถ้าหล่อนอารมณ์ดีอย่างวันนี้เขาควรถามหล่อน ติดเสียแต่ว่าหล่อนต้องกลับไปกับเพื่อนของหล่อนแน่ๆ เขาพลาดไปนิดที่เลือกเลี้ยงวันนี้
แต่เขาก็ได้รู้จักสังคมของหล่อน
ศิรินทร์เห็นเขามองออกไปไกลด้วยความคิดคำนึงในทีท่า หล่อนมาหยุดยืนใกล้มากๆข้างเขา เขาเหลือบมองหล่อนนิดหนึ่งเงียบๆ เขาคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้อบอุ่นในใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน เขาชอบที่เห็นหล่อนอยู่ใกล้ๆเขา เหมือน..คงเหมือนเงาตามกัน ถ้าหล่อนจะขยันตามเขามากอีกสักหน่อย มือที่ว่างเปล่าของเขาอดที่จะยกขึ้นมาโอบหล่อนเสียไม่ได้ หล่อนพิงศีรษะกับเขา
“ ศิพรุ่งนี้ผมจะไปเที่ยง ศิส่งผมได้ไหมจ๊ะ”
ถ้าเขาถามว่าได้หรือเปล่า หล่อนอาจจะตอบเปล่า หรืออย่างอื่น คำถามเขาทำให้หล่อนหยุดนึก เลี่ยงตอบโดยใช้สายตามาที่เขา เขามองสายตาที่ทอดมา เหมือนต้องหาคำตอบเอาเองอีกแล้ว เขาเอามือประคองแก้มหล่อน จูบเบาๆแล้วก็รู้ว่ามันไม่ใช่เสียแล้ว ในนาทีต่อมา
จอดรถแล้วธีระยังหันดูอีกทีว่าเรียบร้อยหรือเปล่าเมื่อเดินจากมา
“ กลัวโรงแรมให้รถมายกไปสุสานว่ะ” เขาหันมายิ้มพูดกับปิยะ
“ ทำไมล่ะ มันโทรมนักรึไง ก็ไม่เคยล้างเลย รอฝนตกใหญ่มาล้างก็อย่างนี้แหละ”
“ เราลืมคิดว่ะ รับแขกรับสาวทั้งที น่าจะเรี่ยมกว่านี้หน่อย”
“ นายหมั่นลืมเข้าเหอะ คนอื่นจะมาคว้าไปเสียก่อนล่ะ”
“คงไม่คว้าละมั้งหรือนายว่าไง” เขาหยั่งเสียงเพื่อนให้อุ่นใจ
“ ดูไม่ออกว่ะ เพิ่งเห็นก็ยังดูเรียบร้อยกันอยู่” ปิยะบอก
“ ทำยังกะว่าวันนี้นายจะดูออกยังงั้นแหละ”
“ก็ไม่แน่ คนเราพอชินกันก็ลืมระวังตัว”
“ถ้าคนนี้ใช่ คนนั้นก็ไม่ใช่สินะ” เขากลัวใจคนนั้นจัง ธีระบอกกับตัวเอง ‘ ของนัดเค้า’ ยังก้องอยู่ในหูเลย มันแปลกตรงคำพูดนี่แหละ เพราะไม่เห็นเขาแสดงอาการเป็นเจ้าของหล่อนออกมา จะอวดหรือไม่อวดใครก็ตาม ไม่เหมือนพวก ก็พวกเราๆนี่แหละ อยากจะแสดงทันทีที่มีโอกาส
หนุ่มสองคนที่เดินมาโน่นอยู่ในสายตาของนิธิ
“ ศิจ๊ะ เพื่อนมาแล้วจ้ะ”
หล่อนมองไปแล้วหันมาสบตา เขาเข้าใจหล่อน เข้าใจว่าหล่อนจะเป็นในสิ่งที่อยากเป็น แล้วเขาก็พร้อมที่จะโดนลูกหลงอีกทีงานนี้
“ สวัสดีครับ” นิธิกล่าวกับสองคน
“ ผมเห็นเจ้าภาพมารอใจชื้นขึ้นมาหน่อย” ปิยะพูดกับศิรินทร์
“ คงเตรียมสูบลมยางมาจริงๆแล้วนะคะ” หล่อนหันมาบอกนิธิ
“ คุณศิพวกใครกันครับวันนี้” ธีระถามศิรินทร์
“ ฝ่ายเจ้าภาพสิคะ คุณปิยะยังดีใจว่ามายืนรอเลย”
“ ผมจะพาคุณเดินไปให้หิวอีกสักหน่อยนะครับ” นิธิบอก
“ อย่าให้ผมเดินนานนะครับ ผมกะว่ามาถึงทานเลยนะครับ” ปิยะรีบบอก
ศิรินทร์หัวเราะขำคำพูดปิยะ
“ ศิ ผมว่าเราประมาณการอะไรผิดไปหรือเปล่า” นิธิถามศิรินทร์ดังๆ
“ เดี๋ยวก็รู้ค่ะ ใช่ไหมคุณธีระ”
“ ครับเดี๋ยวคงรู้” เขาหมายถึงอะไรก็ได้
นิธิเดินนำไปกับปิยะ ศิรินทร์กับธีระตามหลัง
ร้านยูโกสลาเวียนที่นิธิเดินนำเข้ามาในร้าน บริเวณกว้างขวางขนาดสิบโต๊ะ ห้าสิบคนเต็มอัตรา โต๊ะยังว่างอยู่มาก เมื่อเลือกได้โต๊ะชิดผนังไกลทางเดินจากประตูหน้า ทุกคนนั่งพร้อมสั่งอาหาร นิธิให้ศิรินทร์เลือกก่อน ของเขานั้นเป็นสเต็ก ศิรินทร์ขอเป็นบาบีคิวรวม ธีระสั่งสเต็กลูกวัวและปิยะขอเป็นรวมมิตรย่างไฟคล้ายศิรินทร์ เบียร์ถูกสั่ง นิธิขอไวน์แดง
“ ไวน์นะ” นิธิหันถามศิรินทร์
“ ศิคงเมาเร็วกว่าเบียร์ละซี” หล่อนพูดกับธีระตรงหน้า
“ เดี๋ยวผมเอารถมารับได้ครับ” ธีระขันอาสา
“ คุณศิยิ่งว่ามีคนใจดีเมื่อเช้านี่แหละ นายก็ยิ่งทำดีใหญ่” ปิยะเท้าความ
“ ผมดีอยู่แล้ว คุณศิว่าอะไรกับยะเขาหรือ ผมไม่เห็นรู้เรื่อง”
“ ศิว่ามีแต่คนอะไรนะคุณปิยะ ศิชมแล้วศิก็ลืม”
“ โถคุณศิ คุณจะชมเขาสักหน่อย ก็กรุณาจำมั่งสิครับ” ปิยะตัดพ้อ
ศิรินทร์หันไปมองนิธิยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“ คุณคนรับชม คุณก็น่าจะจำนะคะ”
“ ศิเขาชมไปเรื่อยเลยละครับ บางทีผมยังโดนหางเลขเลยครับ” นิธิพูดบ้าง
“ เอ๊ะ ชมคุณหรืออะไร ถึงโดนหางเลขน่ะครับ” ปิยะถามทันที
“ ก็รวมๆกันไปน่ะครับ” นิธิตอบไม่มองหล่อน
“ งั้นอย่าเพิ่งพูดเรื่องชมดีกว่า เดี๋ยวเจอชนิดรวมๆกันละยุ่งเลย” ปิยะตอบ
“ คุณศิชมผมเหรอ ยะเขาไม่ฟังช่างเขา” ธีระถาม
“ ใช่ค่ะ ศิชมแน่ๆ ไปถามคุณปิยะตอนเขาไม่เมา จะได้ความจริง”
“เบียร์ไม่เมาเหรอกครับ ไวน์น่ะยังไม่แน่” ปิยะกล่าว
เครื่องดื่มมาเสิร์ฟครบ นิธิชนแก้วกับทุกๆคน กล่าวว่า
“สำหรับความสุขวันนี้นะครับ” เขาส่งตาให้หล่อนก่อนดื่ม ศิรินทร์รับรู้และปิยะได้เห็น
สลัดกับเครื่องข้างเคียงถูกนำมาเสิร์ฟก่อน ตามด้วยบาบีคิวกับย่างรวมมิตรของปิยะ ของคนอื่นตามมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
“ จานเดียวจะน็อกไหม ยะ” ธีระถาม
“ อาหารฝรั่งน็อคเร็ว อาหารไทยเร้อจานเป็นกาละมังแล้วก็ยังกินเข้าไปได้”
“ คุณปิยะพูดเสียจริงเลยนะคะ ศิทานหมดก็คงน็อกเหมือนกันค่ะ”
“คุณช่วยศิหน่อยนะคะ” หล่อนบอกนิธิ
“ ศิอย่าน็อกเพราะไวน์ก่อนล่ะจ๊ะ” เขาจ๊ะจ๋าด้วยนึกถึงวันโน้นที่ทานไวน์ด้วยกัน
“ วันนี้ศิมีคนไปส่ง คงไม่เป็นไรค่ะ”
ปิยะกำลังผูกประโยคที่ฟังเข้าด้วยกัน เมื่อก้มหน้าตัดเนื้อด้วยมีด
“ อาหารใช้ได้ไหมครับ” นิธิถามปิยะ
“ ใช้ได้มาครึ่งจานแล้วครับ” ปิยะเงยหน้าตอบ
“ คุณธีระล่ะคะ อร่อยไหมคะ”
"ถ้าบอกไม่อร่อย คุณศิจะเปลี่ยนร้านให้ผมไหมครับ นะ ยะ อีกครึ่งไปหาเอาอีกร้านไหมล่ะ”
“ ศิ ผมว่าเรามาผิดร้านนะครับ ยังไม่มีใครพูดอร่อยสักคนเลยนะ” นิธิกล่าว
“ใช่ค่ะ ธรรมดาเยอรมันพอทานปุ๊บก็ต้องบอก ชเม็ค อาเบ้อรกู้ด คือ อร่อย ใช่ไหมคะ”หล่อนเหมือนถามธีระ
“คุณศิ คนไทยน่ะปากหนัก ไม่พูดทุกสถานการณ์ดังคนเยอรมันดอกครับ ถ้าไม่ถามก็ไม่ชมหรอก”
“ แล้วคุณเป็นเยอรมันหรือไทยคะ ตอนนี้น่ะ”
“ พวกลาวครับ ไม่ค่อยรู้เรื่อง อะไรยังใส่ไม่ค่อยจะถูกเลยครับ จะใช้มือท่าเดียว”
(มีต่อ)