⚡️🔥💥หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 2 💥🔥⚡️



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเริ่มต้นนิยายรักฉบับยาวของ ' พลอยแดง' เป็นการเปิดตัวครั้งที่สอง ขอขอบคุณท่านผู้อ่านและลงชื่อแสดงความคิดเห็นให้อบอุ่นค่ะ..
แก้วกรกช หลงรัก , มัศยวีร์ หลงรัก, Memories pink ถูกใจ, เปลวอัคคี หลงรัก, Lady Star 919 หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 868666 ทึ่ง, ธาราสินธุ์ หลงรัก, ชุนเทียน หลงรัก, WANG JIE หลงรัก, เปรียว sixtyone ทึ่ง,Na(นะ),turtle_cheesecake หลงรัก, GTW หลงรัก
💦 💧💧💦

วันนัดออกจากห้องน้ำ กลับเข้ามาในห้องก็พบชัยยศนั่งรอยู่แล้ว

“ เป็นไงนัด สนุกไหมวันนี้” ชัยยศสบตาผู้ถูกถาม

“ ก็สนุกดี ต่างคนต่างไม่เคยไป” วันนัดพูดยิ้มๆ

“ อ้อ เขาฝากความคิดถึงมาด้วยนะ เสียดายที่คุณไม่ได้ไป”

“ ผมก็เสียดายเหมือนกัน เมื่อกี้ไปส่งเขากลับกันหมดแล้ว แวะซื้อของมาได้หน่อยนึง ก็รีบกลับมานี่แหละ เดี๋ยวไปกินข้าวด้วยกันนะ”

“ มีอะไรกินวันนี้”

“ เดี๋ยวไปดูก่อนถึงค่อยทำ อ้อ เห็นจดหมายแล้วใช่ไหม เมื่อเช้ามาทิ้งไว้ให้” ชัยยศหมายถึงเห็นที่แผงวางจดหมายของหอพัก

“ ฮื่อ” ว่าพลางปรายตาไปว่าโน่นไง

“ อ้อมีเชอรี่คุณศิรินทร์ทิ้งไว้ให้ในรถ เห็นว่าอร่อยเหมือนลูกหว้าลองไหมล่ะ”

“ ไม่หรอก พวกผู้หญิงคงชอบมากกว่า ไปก่อนนะเดี๋ยวตามไปล่ะ” ชัยยศลุกออกนอกห้องไป

วันนัดสวมชุดสบายๆ ทอดกายลงนอนไปกับเตียง ตลบหมอนหนุนศีรษะ หันไปคว้าลูกเชอรี่มาหมุนด้วยปลายนิ้ว นึกถึงเจ้าของ แล้วลองกินดู เหมือนหล่อนว่าอร่อยดีมีรสหวานหอมด้วยซ้ำไป

เช้าวันจันทร์วันนัดตื่นแต่เช้า ทานอาหารเช้าเสร็จก็รู้ว่าชัยยศไม่ได้ทานอาหารเช้านี้ คงยังอยู่ที่ห้องเลยแวะมาดู

“ อ้าวไม่ไปทำงานเหรอ” วันนัดถามเมื่อเห็นเพื่อนอยู่ในชุดนอน

“ วันนี้ไปสายหน่อย ต้องไปเอาเงินภาษีคืนซะหน่อย”

“ คนทำงานก็ดีอย่างนี้แหละ ที่ได้รับก็ยังใช้ไม่หมด แถมมีตกเบิกอีก” วันนัดพูดยิ้มๆ

“ แหมทีโดนภาษีสามสิบเปอร์เซ็นต์ละไม่พูดนะ เย็นนี้เจอกัน” ชัยยศพูด เมื่อวันนัดเดินออกจากห้องไป

วันนัดขับรถจากหอพักไปเรียน นึกถึงชัยยศแล้วก็อยากจะเรียนจบเร็วๆ จะได้มีงานทำบ้าง ถ้ายังต้องอาศัยเงินพ่อแม่อย่างนี้ก็ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด จะมีเงินขนาดเหลือพอซื้อข้าวของทีก็เล็งมาทั้งปี แล้วก็ต้องหางานทำตอนหน้าร้อนอย่างน้อยสองเดือน ซึ่งหมายความว่าอดไปเที่ยวเตร่ในฤดูร้อน ต้องทำงานเก็บเงินอย่างเดียว พ่อของวันนัดเองถึงแม้จะมีหน้าที่การงานสูง แต่ก็ต้องอาศัยเงินกิจการค้าของแม่มาช่วยด้วย จึงจะสามารถส่งให้เขามาเรียนที่นี่ได้ ชัยยศทำงานมีรายได้เป็นสามเท่าของเงินที่วันนัดได้รับแต่ละเดือน โดยเป็นหัวหน้าช่างในโรงงาน วันนี้มีเรียนไม่กี่ชั่วโมง วันนัดใช้เวลาบ่ายไปจับจ่ายซื้อของ ทั้งข้าวสาร ไก่สด ไข่ไก่ ขนมปังและผักอีกสองสามชนิด เมื่อกลับถึงหอตอนเย็นก็รีบทำกับข้าวได้สองอย่าง มีผัดผัก กับไก่นึ่งจิ้มพริกป่นกับซ๊อส วันนัดทำอาหารได้ไม่มากอย่าง แต่ก็ไม่เบื่ออาหารที่ตนเองพอจะทำได้ ผิดกับชัยยศที่ชอบทานอาหารรสจัด โลดโผน มียำแปลกๆ ซึ่งพยายามจำมาจากร้านต่างชาติเสียแทบทุกครั้งที่ได้ไปกินมา

ชัยยศกลับแต่วันเหมือนกัน พลางบอกว่ารู้สึกขี้เกียจอย่างไรพิกลเมื่อเดินผ่านและแวะมาให้รู้ว่ากลับมาแล้ว

อาหารมื้อนี้ดูว่าทั้งวันนัดและชัยยศจะพอใจในการกินเงียบๆมากกว่า หลังจากกินเสร็จชัยยศช่วยเก็บล้างจาน วันนัดเก็บของเข้าที่จนเสร็จก็แยกกันกลับเข้าห้อง

ก็อก..ก็อก..เสียงเคาะประตูตอนเช้า

วันนัดลุกจากที่นอนเป็นนั่ง พลางขานรับเมื่อนึกได้ว่า ไม่ได้ใส่กลอนตั้งแต่ไปห้องน้ำมาเมื่อสักครู่ ชัยยศยิ้มร่าเข้ามา

“ ว่าไง ไม่อยากตื่นจริงหรือเปล่า จะได้ไป”

“ ตื่นนานแล้วแต่ยังไม่ได้ลุก ไม่ได้รีบไปไหน หรือคุณจะไปไหนแต่เช้าเชียว”

“ เพิ่งนึกได้ว่าไปเยี่ยมคุณศิรินทร์กันดีกว่า แกคงอยู่บ้านแน่เพราะวันหยุดกลางอาทิตย์”

“อือม์ เขาอยากเจอเรารึเปล่า บ่อยๆ”

“ โฮ้ย ร้อยทั้งร้อยขึ้นชื่อว่าคนไทยละก้อ เจอกันทุกวันก็ยังได้”

“ เขาไม่ใช่ผู้ชายนา นึกจะไปมาเอาง่ายๆ”

“ เอางั้นเดี๋ยวโทรไปถามซะเลยดีกว่า” ชัยยศพูดขำๆ เพราะรู้ว่าไม่มีเบอร์โทร

“ งั้นเดี๋ยวคุณโทรไปถามซะเลยนะ ผมไปจัดการกับตัวเองก่อน อ้อ คุณกินอะไรมาหรือยัง” วันนัดถามยิ้มลุกขึ้นจะเดินออกนอกห้อง

“ เรียบร้อยแล้ว” ชัยยศตอบ

“ เดี๋ยวผมไปทำกาแฟมาให้คุณดีกว่า” ชัยยศพูดอย่างเอาใจ รีบออกไปทำกาแฟกับขนมปังตับบดมาให้

เมื่อวันนัดกลับเข้ามา ได้กลิ่นกาแฟเดินมาจิบ ชัยยศมองแล้วพูดขึ้นว่า

“ อย่ามัวช้าอยู่เลย รีบๆเข้าเถอะ รู้ไหมว่ากี่โมงแล้ว”

“ อะไรกัน เพิ่งแปดโมงเท่านั้นเอง”

“ ขับรถไปกลับ กินเวลาเท่าไรล่ะ อย่าลืมซี่”

วันนัดนึกยิ้มในใจ ชัยยศเขาเป็นอะไรของเขานะ มาเร่งรัดเราแต่เช้าเชียว แล้วก็รีบแต่งตัว พากันลงมาที่รถชัยยศไม่พูดพล่ามทำเพลง ออกรถเลย

ศิรินทร์ก้มๆเงยๆกับลังขวดน้ำหน้าห้องเก็บของตรงโรงรถหน้าบ้านก็ต้องหันมามองเมื่อได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอดใกล้ๆ หล่อนหันหน้ามามองไปตรงๆก็ต้องยิ้มเมื่อเห็นผู้ที่ก้าวลงมาจากรถ

“ โอ้โฮ.. ลมอะไรหอบคุณทั้งสองมาถึงที่นี่ได้คะ” หล่อนทักชัยยศอย่างดีใจ

“ ลมคิดถึงครับ” ชัยยศตอบตามความจริง ทำเอาศิรินทร์ยิ้มหน้าระเรื่อ มองไปทางวันนัดด้วย

วันนัดสบตาหล่อน นึกพอใจในคำพูดของชัยยศนัก

“ ทำอะไรอยู่หรือครับ” วันนัดถามหล่อน

“ ศิช่วยแม่บ้านรวมขวดเปล่าค่ะ เพราะจะจัดที่เก็บน้ำแอปเปิ้ล” หล่อนหมายถึงน้ำผลแอปเปิ้ลที่เก็บได้จากต้น แล้วมีรถบริษัทมารับไปอัดคั้นน้ำใส่ถังกลับคืนมาส่งเก็บไว้ห้องใต้ดิน จะบรรจุใส่ขวดภายหลัง

“ ผมช่วยไหมครับ” ชัยยศอาสา

“ ศิว่าเชิญข้างบนก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวแม่บ้านทำต่อได้ค่ะ ศิเป็นแค่ผู้ช่วยค่ะ” หล่อนวางมือ นำบุรุษทั้งสองขึ้นบ้านไปห้องรับแขกแล้วเดินเข้าไปด้านใน

“ เราจะไปไหนกันดีล่ะวันนี้” ชัยยศปรึกษาวันนัด เพราะไม่ได้พูดตกลงกันมาก่อน

“ เดินเล่นเป็นไง เอาให้รอบเมืองเลย”

“ ก็ได้ หรือถามคุณศิรินทร์อีกที เขาอาจจะรู้ที่แปลกๆ”

ศิรินทร์กลับเข้ามาพร้อมน้ำแอปเปิ้ลสองแก้ว

“ ศิไม่ทราบมาก่อนว่าวันนี้เป็นวันหยุดทางศาสนาของเขา แต่ก็ดีใจที่ได้หยุดกลางอาทิตย์อย่างนี้ค่ะ” หล่อนพูดกับทั้งสองคน เมื่อนั่งลงแล้ว

“ คุณศิไม่ได้ไปไหนก็ดี ไม่ผมมาเก้อแน่” ชัยยศชวนคุย

“ ศิว่าคราวหน้าโทรมาก่อนก็ดีนะคะ เผื่อเกิดศิไม่อยู่จริงๆ เดี๋ยวศิให้เบอร์ค่ะ”

“ ดีครับ ผมคิดว่าคงได้มาอีก ถ้าคุณศิไม่เบื่อผมเสียก่อน” ชัยยศตอบ

“ อะไรกันคะ คำว่าเบื่อมาเร็วไปไหมคะ ที่นี่เหงาจะตาย คุณยังดีที่อยู่ด้วยกันสองคน จริงๆนะคะ” หล่อนพูดอย่างจริงจัง

“ คงจะเป็นอย่างคุณศิรินทร์ว่า” วันนัดเอ่ยขึ้นบ้าง

“วันนี้คุณศิรินทร์จะมีเวลาพาแขกไม่ได้รับเชิญไปเที่ยวไหนไหมครับ” ชัยยศรีบถาม

“ โอ ที่เมืองใกล้ๆนี้รู้สึกจะมีที่เที่ยวนะคะ เดี๋ยวก่อน ศิไปถามแม่บ้านก่อนค่ะ” หล่อนลุกเดินออกไปทันที

ทั้งสองมองหล่อนแล้วหันมามองหน้ากัน คิดด้วยกันและคงไม่เหมือนกัน

ศิรินทร์เดินกลับมาพร้อมทั้งเอ่ยชื่อเมืองเล็กๆทางใต้เมืองหนึ่ง ศิรินทร์ก็ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เพราะหล่อนก็ไม่รู้จักที่นั่นมาก่อน ทั้งสามตัดสินใจไม่ไปเนื่องจากใกล้เที่ยงแล้ว แม่บ้านจะไปหาเพื่อนตอนบ่าย ทั้งสองเลยขออยู่ที่บ้านมากกว่า

เมื่อคุยกันจนถึงเที่ยง ชัยยศรับอาสาไปหาไก่ย่างมาทาน มีผลไม้พ่วงมาด้วย โค้กลิตรอีกสองขวดใหญ่ ทั้งสามทานอาหารกลางวันอย่างเอร็ดอร่อยจนเสร็จ เมื่ออิ่มชัยยศรู้สึกง่วง จึงขอเดินย่อยอาหารก็เลยตัดสินใจไปเดินทั้งสามคน

ศิรินทร์เดินนำหน้าคู่กับชัยยศ เมื่อเดินใกล้กันหล่อนรู้สึกว่าหล่อนสูงเกือบเท่าชัยยศถ้าใส่ส้นสูงอีกสักหน่อย ผู้ชายไทยดูจะสมาร์ทน้อยกว่าฝรั่งก็ตรงความสูงนี่เอง รองเท้าที่เขาใส่เป็นรองเท้าหนังกลับผูกเชือกสีกากี ชัยยศใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงินผ้ายืด สวมแจ็คเก็ตซิปหน้าผ้าหนาสักหน่อยสีกา
กีทับอีกที ใส่กางเกงยีนส์ซึ่งก็คล้ายๆกับวันนัดที่สวมยีนส์ลูกฟูกสีดำกับเสื้อโปโลสีน้ำตาลและสวมแจ็กเก็ตสีน้ำตาลเข้ม ใส่รองเท้าหุ้มส้นหนังชามัวร์ที่ดูมัวสมชื่อ ศิรินทร์ก็สวมกางเกงสีน้ำตาลผ้ายืดหนาและสวมเสื้อพูลโลเว่อร์สีมัสตาดขับผิวผ่องน่ามอง สวมรองเท้าคัชชูหนังกลับมีเชือกผูก การเดินทั้งสามคนเป็นไปอย่างเรื่อยๆ อากาศวันนี้แทบไม่หนาวก็ว่าได้เมื่อใส่เสื้อผ้ารัดกุมอย่างดีกันมา อากาศราว สิบห้าองศาเซลเซียส ซึ่งหนุ่มทั้งคู่ก็ได้ดูอุณหภูมิก่อนออกมาแล้ว ด้วยเป็นกิจวัตรของคนอยู่เมืองหนาวต้องเช็คดินฟ้าอากาศก่อนออกเดินทาง

วันนัดเดินรักษาระยะห่างตามหลังอย่างคงที่ เขาสูงกว่าชัยยศและหล่อน ด้วยที่ผอมกว่าชัยยศเลยทำให้ไม่เห็นความสูงด้วยความใหญ่ของตัวชัยยศข่มสายตาเสีย ศิรินทร์เดินคุยบ้างไม่คุยบ้าง แต่หล่อนก็หันมามองวันนัดในบางครั้ง วันนัดปล่อยให้สองคนคุยกันไปด้วยตัวเขาเองก็ได้คุยกับหล่อนในคราวที่แล้ว ครั้งนี้จึงปล่อยให้เป็นเวลาของชัยยศ

“ อ้าวนัด ทำไมเดินเงียบเชียวล่ะ”

“จะเดินเรียงหน้ากระดานจะกลายเป็นจังโก้ไปน่ะ”

“ ศิคงเรียกว่าจังกี้ไหมคะ” หล่อนถาม

วันนัดก้าวเข้ามาเดินเสมอหล่อน ก้มหน้านิดๆมองผู้พูดอย่างเอาใจ

“ ที่จริงเราเดินมาไกลแล้วนะครับ จะพักไหม เดี๋ยวเมื่อยแย่”

“ ไม่ละค่ะ ศิซ้อมเดินแทบทุกอาทิตย์เวลาเหงา เพราะไม่รู้จะทำอะไรดีน่ะค่ะ”

“ เรื่องเหงานี่ ตอนมาใหม่ผมก็เหงาครับ” ชัยยศเอ่ยพลางชี้ให้ดูที่นั่งพักทำด้วยไม้ท่อนใหญ่ๆริมลำธาร เส้นทางเดินที่ศิรินทร์เคยเดินมาก่อน

“ ผมว่าคุณศิรินทร์พักก่อนเถอะครับ จะได้นั่งคุยกัน” ต่างก็ทรุดตัวนั่งลงโดยศิรินทร์นั่งอยู่ตรงกลาง

“ เมื่อก่อนนะตามลำธารนี่ปลาว่ายทวนน้ำใสแยะเลย นักเรียนไทยมาใหม่ๆก็พยายามจะตกปลาด้วยความคิดแบบไทยๆ แต่ฝรั่งมาเห็นแจ้งตำรวจๆก็มาเลย เผอิญยังตกปลาไม่ได้ เลยไม่มีหลักฐาน ก็เลยแค่ตักเตือนไป เรื่องนี้เล่าต่อๆกันมานานทีเดียว ครับ “ ชัยยศอยู่มานานเล่าขึ้นมาให้ฟัง

ศิรินทร์มองน้ำในลำธารที่ใสแจ๋วจนเห็นกลุ่มปลาว่ายทวนน้ำหางแกว่งระริก น้ำคงเย็นมากทีเดียว ดูทั้งน้ำและปลาสะอาด ปลาสามารถอยู่ในน้ำเย็นได้ ต่างกับคำไทยที่พูดว่า น้ำร้อนปลาเป็นน้ำเย็นปลาตาย คำพูดและปลาคงจะเหมาะในแต่ละสถานที่กัน แต่เราเป็นคนเมืองร้อนมาอยู่เมืองหนาวก็ต้องปรับตัวให้อุ่นไว้ นึกถึงคำว่าอุ่น แม่บ้านบอกว่ามือกับเท้าสำคัญต้องให้อุ่นไว้ก่อนอื่น แต่บางครั้งหล่อนก็คิดเลยเถิดไปว่าอกก็ต้องอุ่นไม่งั้นเป็นหวัดได้ง่าย แต่ตอนนี้รู้สึกอบอุ่นแถวอกขึ้นมาอย่างรู้สึกได้เลยเชียว ก็แหมมีสุภาพบุรุษขนาบทั้งสองข้างในตอนนี้

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่