💝💝💝หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 28 💝💝💝



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวัสดีค่ะ ความรักเป็นพลังอันลึกลับที่สามารถบันดาลให้ผู้ที่ประสบมีอารมณ์ตามกลไกของพลังรักนั้น สายธารรักหลั่ง
ไหลและไหลหลากไปสู่ผู้ใด ย่อมมีผลต่อจิตใจ การจัดการกับเรื่องรักไม่มีสูตรสำเร็จประมวลในบันทึกใดๆ ฉะนั้นผู้ที่ได้รับความรักย่อมจะได้รับรสรวมแตกต่างกัน ขอขอบคุณท่านผู้อ่านค่ะ: cnck4 ถูกใจ, มัศยวีร์ ถูกใจ, Lady Star 919 หลงรัก,ชุนเทียน
หลงรัก, Memories pink ถูกใจ, เสาวรส17 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 868666 ถูกใจ, Na(นะ) ถูกใจ, GTW หลงรัก,
turtle_cheesecake หลงรัก, kasareev ซึ้ง, WANG JIE หลงรัก, Soul Master ขำกลิ้ง

💗💖

ศิรินทร์ไม่อยากฟังคำพูดอะไรอีกเลย หล่อนวางช้อน อิ่มข้าว ดื่มโค้กจนหมดแก้วธีระเติมโค้กให้อีก ส่งแก้วคืนให้หล่อน

เขามองหน้าหล่อนไม่รู้จะแสดงความรู้สึกอย่างไรดี หมดหวังไปเสียทั้งหมด ปิยะละเลียดเบียร์ราวกับไม่เคยดื่มเบียร์อร่อยที่สุดอย่างนี้มาก่อน ทั้งสองคนลุกมานั่งที่โซฟาเชิญศิรินทร์นั่งก่อน เนื่องจากไม่มีใครอยากทานข้าวอีก หล่อนขยับจะเก็บจาน

“ ทิ้งไว้นั่นแหละครับ” ธีระบอก

“ ดื่มเบียร์บ้างไหมคุณศิ” เขาเชิญชวนและขอคำตอบ

“ นิดนึงก็ได้ค่ะ” ทำไมหล่อนตอบไปก็ไม่รู้ วันนัดยังดื่มเลย ไม่อร่อยแต่ก็ดื่มได้

“ ศิก็ใจไม่ดีนะคะ พูดแล้วก็รู้ว่าตัวเองก็ทำใจไม่ได้แต่ก็ต้องบอกให้รู้ก่อน อาจจะบอกก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้เจอกันเลยเมื่อเช้าเลยต้องโทรมา”

“ คุณศิลาออกจากงานหรือยังครับ”

“จะลาสิ้นดือนนี้ละค่ะ เพราะถ้ายังไม่ทราบกำหนดแน่นอน ก็ยังจะไม่ลา ลาแล้วไม่ทราบจะไปไหน ก็ทำไปเรื่อยๆดีกว่า”

“คุณศิไม่มีที่ไปจริงๆหรือครับ” ธีระถาม เพราะเขาได้ยินหล่อนพูดในโทรศัพท์ทีหนึ่งแล้ว

“ ก็จริงสิคะ”

“คุณศิก็อยู่ลำบากนะครับ พูดที่จริง เป็นผู้หญิงคนเดียว”

“ศิก็ว่าใช่นะคะ แต่ศิก็อยู่มาได้ตั้งนาน”

“ผมเข้าใจครับ ว่าบางทีคนก็อยู่มาตั้งนาน แล้ววันหนึ่งก็รู้ว่าจะอยู่แบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว อันนี้เป็นความเปลี่ยนแปลง มันเกิด
ขึ้นได้ครับ”

“ คุณศิไม่มีห่วงอะไรทางนี้เลยหรือครับ” ปิยะถาม

“ทางนี้หมายถึงทางไหนล่ะคะ ที่นี่หรือที่ไหน”

“ เอาที่คุณศิห่วงก็แล้วกัน”

“ก็มีค่ะ ห่วงอยู่ ยังไม่ทราบจะทำอย่างไรเลย” หล่อนถอนใจก่อนจบประโยค

“ก็อาทิตย์นี้แหละค่ะ คงจะรู้ว่าทำอะไรไม่ได้”

ธีระฟังแล้ว ให้สงสัยคนที่ถูกห่วงนั้นขึ้นมาทันที ขนาดเขายังไม่ได้เข้าไปใน ‘ห่วง’นั้น เขายังให้รู้สึกแย่เอามากๆเลย

“ คุณปิยะยังอยู่อีกนานไหมคะ”

“ก็ร่วมสองปี คงราวๆ ระ เขานั่นแหละ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด”

“ศิบอกไว้เลยนะคะ ว่าศิจะต้องติดต่อมา ถ้าเป็นไปได้ จะเชิญคุณทั้งสองไปเที่ยว ไม่ว่าศิจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม อยากมี
โอกาสทานข้าวอย่างนี้อีกค่ะ”

ทั้งสองนั่งนิ่ง

“ เดี๋ยวศิขอตัวนะคะ ไปทำใจเสียหน่อย ศิเองก็แย่เหมือนกันนะคะ มันอดใจหายไม่ได้ ขอบคุณนะคะ”

“ถ้าพรุ่งนี้อยากทานข้าวด้วยกัน ก็เชิญนะครับ” ปิยะบอกหล่อน

“ ค่ะ แล้วศิจะบอกอีกที” นี่เพิ่งวันอาทิตย์ อีกตั้งสี่วันกว่าหล่อนจะไปใต้ หล่อนก้มลงจะช่วยเก็บจานไปเข้าครัว

“ ทิ้งไว้ถอะครับ เดี๋ยวผมจะทานอีก” ธีระบอกหล่อน แล้วหันมามองปิยะ เป็นอันรู้กันว่า เขาจะไปส่งหล่อน ทั้งสองเดินเงียบๆ
จนถึงตึกศิรินทร์ เดินเข้าลิฟต์ด้วยกัน

“ คุณศิง่วงหรือครับ”

“เปล่าค่ะ ศิก็ไม่รู้จะคุยอะไร มันเงียบๆเหงาๆไม่เหมือนทุกครั้ง คราวก่อนยังสนุกอยู่เลย” หล่อนพูดทวนความครั้งก่อน

เมื่อออกจากลิฟต์ หล่อนไขประตูห้อง

“ เชิญคุณธีระค่ะ”

ธีระรู้สึกเหมือนหล่อนได้แก้ตัวที่เชิญเขาในวันนี้ แต่ไม่มีอะไรที่เขาจะต้องพยายามอีกต่อไปแล้ว คงต้องเหลือไว้แต่ความทรงจำ

“ คงไม่รบกวนคุณศิหรอกครับ ผมก็รู้สึกคล้ายคุณศิแหละครับ แต่สำหรับผม มันจะเงียบและเหงาจนบอกไม่ถูกละครับ กู้ดไนท์นะครับ”

“ค่ะกู้ดไนท์คุณธีระ” หล่อนพูด สายตามองตามหลังเขาที่เดินจากไป

วันนัดมองหล่อนตั้งแต่หล่อนลงจากรถไฟ สวมกางเกงลูกฟูกตัวหนา ใส่เสื้อสเวตเตอร์สีแดงเลือดหมู ผมรวบมัดไว้ข้างหลัง
ที่ไหล่มีกระเป๋าสะพายใบเล็กและกระเป๋าหิ้วอีกหนึ่งใบ เขาพาตัวเดินมาหาหล่อนข้างรถไฟที่จอดอยู่ หล่อนยิ้มเมื่อเห็นเขา

“ นัด” หล่อนเอ่ยชื่อ ส่งกระเป๋าให้มือวันนัดที่มารับไป มือของหล่อนจับแขนเขาโดยเอาตัวมาแนบชิดข้างตัวเขาด้วย

วันนัดยิ้ม หันมามองหล่อนที่ชิดข้างกายด้วยสายตารัก

“ เหนื่อยหรือเปล่า” หล่อนสั่นศีรษะ

“ เกือบหลับแน่ะค่ะ อากาศแบบนี้” หล่อนหมายถึงอากาศขมุกขมัว

เดินมาที่รถ วันนัดเปิดประตูให้หล่อนขึ้นแล้วอ้อมมาขึ้นนั่งขับ

” ศิอยากทานอะไรสำหรับกลางวันนี้จ๊ะ”

“นัดมีอะไรล่ะคะ ศิไม่ค่อยหิว”

“ นัดว่าจะพาศิไปแวะซื้อดีมั้ย ว่าอยากทานอะไร เผื่อเย็นด้วยเลย”

“ ตามใจนัดค่ะ” เขามองด้วยสายตารัก หล่อนยิ้มรับ บีบมือเขาที่วางบนเกียร์ เขาออกรถช้าๆครุ่นคิดแล้วก็รีบขับอย่างรู้จุดหมาย

ศิรินทร์มองต้นไม้ริมถนน ใบร่วงไปมากแล้ว อากาศชื้นมันทึมไปทั้งแนวถนนที่ค่อนข้างเงียบ ซูเป้อร์มาร์เก็ตขนาดกลางที่วันนัดมาจอดรถ ศิรินทร์นึกถึงผลไม้ที่ต้องซื้อ

“ ศิช่วยดูนะจ๊ะ ว่าจะทานอะไรดี”

“ นัดบอกมาดีกว่าว่าจะเป็นอะไร ศินึกไม่ออก” หล่อนเดินในขณะที่วันนัดเข็นรถ

“ มีที่เป็นอาหารเช้า ขนมปัง ไส้กรอกหรือซาลามี่ก็ได้ แล้วนอกนั้นก็เป็นกลางวันกับเย็น”

“ ศิว่าซื้อกลางวันที่ทำสำเร็จนะคะ แล้วค่อยทำมื้อเย็น”

หล่อนเลือกได้ปลาชุบแป้งทอด โคล์สลอว์ สองร้อยห้าสิบกรัม ผลไม้เป็นองุ่นแดงน่าทานโดยวันนัดหยิบมาให้ และอาหารดิบ
เป็นเนื้อวัว กับหมูบด ผักอีกสองอย่าง ไข่ ขนมปัง แฮม เมื่อครบแล้วจึงไปจ่ายเงิน ศิรินทร์รู้ว่าค่าอาหารแพงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ หล่อนช่วยหิ้วถุงของที่ซื้อ วันนัดเหลือบดูหล่อน บ่อยๆ เหมือนภาพก่อนๆ

“ ศิจะทานอาหารเลยไหมจ๊ะ ยังไม่เที่ยงเลย”

“ ทานเลยดีกว่านะคะเดี๋ยวเย็นหมด”

ก็ดี วันนัดนึกในใจ เพราะเขาจะมีเวลากับหล่อนบ่ายถึงเย็น เขานำกับข้าวไปใส่ไว้ในครัวเสร็จแล้วจึงเอากระเป๋ามาไว้ในห้อง

เขาถอดเสื้อตัวนอกแขวน ศิรินทร์มองดูเขา เมื่อเขาหันมามองด้วยความรู้สึกที่ศิรินทร์ต้องเข้ามาให้เขากอด หล่อนอยู่ในอ้อมกอดของเขา

“ กว่าศิจะมานัดเกือบแย่รู้ไหม” เขารัดหล่อนแน่น เกลือกหน้าที่ซอกคอหล่อนไปมา หล่อนไม่มีคำถามและคำตอบ เพราะหล่อนได้ตอบให้เขารู้ด้วยจูบอันเนิ่นนาน

วันนัดเหมือนได้ความอิ่มเอิบคืนมา เขาบอกตัวเองว่าเป็นบางเวลาเท่านั้นแหละที่รู้สึกเหมือนโหยหา เดี๋ยวนี้ไงล่ะ ที่เราไม่ต้องรู้สึกแบบนั้นอีก อยากจะจดจำความรู้สึกนี้ไว้นานๆ เพื่อ เผื่อชดเชยในวันหน้า นึกถึงคำนี้แล้วให้ใจหาย เมื่อไรล่ะ..

“นัด ทานข้าวก่อนนะคะ”

“ นัดไม่หิวเลย ศิหิวหรือเปล่า” ถามพลางกอดไม่ปล่อย

“ ทานนิดนะคะ ล้างไม้ล้างมือด้วย” วันนัดต้องปล่อยหล่อนออก

ทานอาหารแล้ว วันนัดล้างองุ่น ผลไม้ที่หล่อนชอบ ถือเข้ามาในห้องด้วย เมื่อโผล่หน้าต่างที่มีบานเดียวเห็นฝนมืดครึ้มไปทั่วฟ้า อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็ว

“ ศิมานี่ มาดูอะไร เร็ว” เขารีบเรียกหล่อน

“ อะไรคะ ไม่เห็นมีอะไรเลย”

“ มีซี่ เดี๋ยวลูกเห็บตกแน่ๆเลยฟ้ามืดอย่างนี้ เมื่อวานก็ตกหน่อยแล้ว”

“ แล้วพรุ่งนี้เราจะไปเบลาท็อปได้หรือคะ”

“ ได้จ้ะ ถ้าฝนไม่ตกหนัก ก็ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้อากาศไม่ค่อยดี ฝนตกพรำๆไม่เช้าก็เย็นทุกวัน ทำให้นัดขี้เกียจตื่นจังเลย”

“ เป็นบ่อยหรือเปล่าคะ”

“ เป็นบ่อยตอนคิดถึงศิมากๆ แล้วนอนไม่หลับ บางทีก็ตื่นเร็ว บางทีก็ตื่นช้า แล้วแต่ว่าจะหลับตอนไหน “ เขาโอบเอวหล่อน
ด้วยแขนทั้งสอง

ถ้าหล่อนไม่มีนิธิ หล่อนคงทำให้เขาคิดถึงมากๆยิ่งขึ้นอีก แต่นี่หล่อนกลับฟังด้วยความเข้าใจที่เขาเป็นอย่างนี้ และไม่อยาก
ให้เขาเป็นมากกว่านี้เลยจริงๆ

“ นัดสอบอีกเมื่อไรคะ”

“ อีกนานจ้ะ เพราะเพิ่งเปิดเรียน ศิถามทำไมจ๊ะ”

ก็หล่อนก็ใกล้เปิดเทอมแล้ว แต่ไม่กล้าพูด ให้เขาลืมๆเรื่องอังกฤษในขณะนี้ เพราะตัวหล่อนเองก็ยังต้องปรับความรู้สึกตั้งนานกว่าจะทำได้เมื่อคราวคุยกับปิยะและธีระ

ฝนยังไม่ตก ผู้คนเร่งรีบเดินอยู่ข้างล่าง ทั้งสองปล่อยความคิดไปคนละทาง ที่อังกฤษฝนตกบ่อย บางทีตกทั้งวันพรำๆ

คนอังกฤษถือร่มกันแทบทุกคนในหน้าฝน แต่ตอนนี้คงไม่เหมือนที่นี่มั้ง คงไม่เหงาในบรรยากาศอย่างนี้

นี่หล่อนคงไปลาแม่บ้านแล้วจะกลับเลยหรือเปล่า วันนัดยังไม่ได้ถามว่าหล่อนมีเวลาอยู่ต่อหรือไม่ เขารู้แต่ว่าหล่อนต้องไปค้างที่บ้านนั้นหนึ่งคืน คือในคืนวันเสาร์ กับหล่อนเขาจะพยายามแข็งขืนให้หล่อนอยู่ต่อจนเช้าวันจันทร์ เขาจึงจะไปส่งหล่อน

เขาไม่อยากทำอย่างนี้ แต่ว่าเขาต้องทำตามหัวใจที่มันโหยหาหล่อนอยู่ตลอดเวลา เขารู้ว่าความรู้สึกนี้มันไม่ธรรมดากับเขาเลย

ความรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมา ว่ามันเริ่มเป็นความทรมาน มิใช่เยี่ยงคนเหงาดังแต่ก่อน เขาเห็นหลายคนในวัยนี้ที่อยู่เป็นคู่ๆ

ทั้งที่ไม่มีความคู่ควรกันเลยไม่ว่าทางไหนก็ตาม แต่พวกเขาคงจำเป็นต้องอยู่อยู่เพราะว่ามันจำเป็น

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่