[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/36710604
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/36726785
ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/36744060
ตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/36760004
ตอนที่ 5 https://ppantip.com/topic/36774548
ตอนที่ 6 https://ppantip.com/topic/36788200
ตอนที่ 7 https://ppantip.com/topic/36809222
ตอนที่ 8 https://ppantip.com/topic/36823231
ตอนที่ 9 https://ppantip.com/topic/36846962
ตอนที่ 10 https://ppantip.com/topic/36859799
ตอนที่ 11 https://ppantip.com/topic/36876620
ตอนที่ 12 https://ppantip.com/topic/36889901
ตอนที่ 13 https://ppantip.com/topic/36907423
ตอนที่ 14 https://ppantip.com/topic/36921540
ตอนที่ 15 https://ppantip.com/topic/36935300
ตอนที่ 16 https://ppantip.com/topic/36949828
ตอนที่ 17 https://ppantip.com/topic/36876620
ตอนที่ 18 https://ppantip.com/topic/36979729
ตอนที่ 19 https://ppantip.com/topic/36994366
ตอนที่ 20 https://ppantip.com/topic/37010398
ตอนที่ 21 https://ppantip.com/topic/37027182
ตอนที่ 22 https://ppantip.com/topic/37041924
ตอนที่ 23 https://ppantip.com/topic/37055160
ตอนที่ 24 https://ppantip.com/topic/37068869
ตอนที่ 25 https://ppantip.com/topic/37085830
ตอนที่ 26 https://ppantip.com/topic/37099275
สวัสดีค่ะ หอรักริมไรน์จะย้ายไปริมน้ำเทมส์หรือยัง ชีวิตที่ต้องโลดแล่นไปด้วยการตัดสินใจเท่าที่วัยจะอำนวย
จะต้องเจอปัญาอะไรก่อนจะจากหอพักที่อยู่มาจนคุ้นเคย เรื่องราวสาวน้อยและหนุ่มจะเป็นอย่างไรขอให้สนุกกับการ
อ่านนะคะ ขอขอบคุณผู้อ่านที่ร่วมทางสายน้ำหมึกมาด้วยกันด้วยค่ะ: cnck4 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 868666 ซึ้ง, GTW
หลงรัก, kasareev หลงรัก, มัศยวีร์ หลงรัก, ชุนเทียน หลงรัก, Na(นะ) ถูกใจ, WANG JIE หลงรัก, turtle_cheesecake
หลงรัก, Soul Master หลงรัก
🍑🍎
ศิรินทร์กลับจากโรงแรมถึงห้องพัก หล่อนรู้สึกตัวว่าหล่อนได้ทำอะไรไปมากมาย เพื่อความอยู่รอดของตัวเองและเขา
นิธิบอกให้หล่อนกลับโดยมิต้องไปส่งที่สนามบินนอกเมือง ด้วยว่าเขาไปในเวลากะทันหันแล้ว หล่อนไม่ควรเสียเวลาไปมากับเขาอีก เพราะว่าได้ใช้เวลาสุดท้ายด้วยกันมากเกินพอ และที่สำคัญที่สุดคือ
‘ศิต้องเตรียมตัวพร้อมที่จะไปทันทีที่ผมบอกมานะจ๊ะ’ นี่เป็น
การบ้านที่เขาทิ้งไว้อีกดังแต่ก่อน
หล่อนเชื่อว่าเดี๋ยวเขาก็ทำทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยในเวลาอันสั้น นั่นหมายถึงว่าเวลาของหล่อนย่อมสั้นไปด้วย หล่อนรู้ว่าเขาอาจยืดเวลาให้หล่อนได้ เพราะเขาตามใจหล่อน แต่กำหนดของโรงเรียนจะทำให้หล่อนไม่สามารถยืดเยื้อไปได้อีก เขาคงเตรียมจัดหาสิ่งจำเป็นในการอยู่ที่นั่นให้พร้อม เขาคงต้องใช้ทั้งความพยายาม อุตสาหะ และค่าใช้จ่ายในการนี้ไม่น้อยเลย แต่เขาก็ไม่เคยพูดถึงสิ่งเหล่านี้ให้หล่อนต้องรับรู้หรือเป็นภาระ เขามีน้ำใจที่จะทำให้ได้ ดังเขาพูดว่า ผมจะใช้ความตั้งใจในปัญหาเฉพาะ
หน้า ถ้าแก้ได้ปัญหาอื่นก็เป็นรอง หล่อนชื่นชมที่เขาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้จริงๆ โดยหล่อนมิต้องพะวงไปด้วย เหมือนหล่อนหลับสบายจนเขาต้องปลุกเมื่อถึงเวลา เขาทำได้มากกว่าที่หล่อนนึกเสียอีก
ธีระให้ต้องแหงนหน้าขึ้นมองม่านหน้าต่างห้องของศิรินทร์อยู่ทุกครั้งที่เข้าออกจากหอ เขาจะขับรถผ่านตึกของหล่อนทุกครั้งให้ได้ เมื่อเช้านี้ม่านปิด แต่ขณะนี้ม่านเปิดแล้ว เขามองนาฬิกาก็บ่ายสามโมงนี่นา แสดงว่าหล่อนไม่ได้ไปทำงาน หล่อนคงไปส่งแขกของหล่อน เฮ้อ..เขาถอนใจไล่ความหนักอึ้งออกมา
ก่อนกลับเข้าห้อง เขาก็แวะไปดูปิยะ ยังไม่กลับมา เขาโทรศัพท์ถึงศิรินทร์ทันที แล้วก็รีบวางเมื่อนึกได้ว่ายังเร็วไป หล่อนอาจจะนอนก็ได้ เขานึกถึงรายการอาหารขึ้นมาทันที อย่างไรเสียเขาจะบอกหล่อนเช่นเดิม คือ ช่วยเดินมาทานข้าวกับผมหน่อยแล้วก็รีบๆวางหูเสีย ปิยะคงจะทานด้วยเพราะไม่ได้บอกว่าจะไม่อยู่ ซึ่งเป็นอันรู้กันว่าไม่บอกถือว่ากินตามปกติ คือถึงเวลาใครอยู่ก็ทำเผื่อไว้ได้เลย ถ้าปิยะมาช้า เขาจะเอาเป็นข้ออ้างว่า ทำไว้ไม่เห็นมา คุณศิช่วยมาทานแทนด้วยเถอะ เขาให้นึกไม่ชอบตัวเองที่วางแผนลักษณะนี้ แต่เขาต้องรีบแล้วดังปิยะว่า
ปิยะกลับมาก่อนห้าโมงนิดหน่อย เป็นเวลาที่ธีระเตรียมทำกับข้าวอยู่
“ อ้าวขยันจริงวันนี้ ทำแต่หัววันเชียว”
“ มาดูซิทำอะไรดี”
“อะไรๆก็กินได้น่า”
“ว่าแต่จะชวนคุณศิเขามากินด้วยน่ะ”
“อ้าวเรอะ เชิญแล้วเหรอ” ปิยะแปลกใจแต่ก็ยินดีขึ้นมา
“ยังหรอก เดี๋ยวว่าจะโทรไป นายโทรเลยนะ รีบๆวางหูจะได้ไม่ปฏิเสธ วันนี้เห็นอยู่นี่ คงไม่ได้ไปทำงาน”
“ อ้อ คงไปส่งแฟนมั้ง ป่านนี้ร้องไห้ตาบวมแล้วก็เป็นได้”
“ นายอย่าพูดอะไรที่มันฟังไม่ได้หน่อยเลย” ธีระต่อว่าทันที
ปิยะงงแล้วก็นึกได้
“ เออ ขอโทษพูดฟังไม่ได้จริงๆแหละ” ใครจะไปรับได้ว่าคนนั้นมาเป็นแฟนคุณศิ ปิยะนึกในใจ
“ โทรซะจะได้รู้ว่าเขาร้องไม่ร้องดังปากนายรึเปล่า” ธีระขุ่นใจขึ้นมา
ปิยะเดินมาโทรศัพท์อย่างงงๆ นึกในใจว่า เดี๋ยวนี้ว่าอะไรคุณศิไม่ได้เลยเชียวนะ
หล่อนรับสายแล้ว
“ คุณศิคร้าบ สบายดีเหรอคร้าบ ผมต้องมาเชิญคุณศิทานข้าวกับผมนะคร้าบ คุณระเขากำลังปรุงอยู่ เราสองคนรออยู่นะคร้าบ เวลาเดิมนะคร้าบ”
“ อะไรกันคะ คุณปิยะ พูดยังกะอัดเทป” เสียงหล่อนหัวเราะ
อ้าว หล่อนหัวเราะได้ โดนด่าอีกแล้วงานนี้ ปิยะนึก ก่อนหัวเราะบ้าง
“ เดี๋ยวมาคุยกันนะครับ ว่าทำไมมันถึงเหมือนถูกอัดมา เอ้อ เทปนะครับ”
“ เทปนะคะ ไม่ใช่คุณ” เสียงหล่อนยังขำอยู่
“ เดี๋ยวก็รู้ ชวนติดตามดีไหมครับ ผมจะเงียบไว้ก่อนแล้วคุณศิค่อยมาถึงถามเลยนะครับ”
“ โอเคค่ะ เดี๋ยวศิไปค่ะ” หล่อนวางหู ปิยะนี่มีอะไรให้หล่อนได้สนุกเรื่อยเลยนะ
“ว่าไง” ธีระเลิกคิ้วถามอย่างลุ้นในใจ ปิยะยิ้มในอารมณ์ของเพื่อน
“ ยังจะมายิ้มอีกแน่ะ ยิ่งอยากรู้อยู่”
“ เดี๋ยวเขามาครับ” ปิยะตอบอย่างสุภาพ ธีระนึกได้ ยิ้มนิดหนึ่งในท่าทีของเพื่อน แล้วทำอาหารขะมักเขม้นต่อไป
สักครู่เสียงศิรินทร์เดินมาถึงในห้องครัว ส่งยิ้มมาให้ธีระ ด้วยยังนึกถึงเรื่องพูดโทรศัพท์อยู่
“ คุณธีระคะ เห็นคุณปิยะว่าคุณอัดอะไรเทปหรือคุณปิยะเหรอคะ”
ธีระหันขวับไปทางปิยะ
“ เห็นไหม เห็นไหมคุณศิ เขาจะอัดผม” พูดพลางวิ่งมาบังหลังศิรินทร์ หล่อนยืนหัวเราะ ดูเขาเล่นกันเหมือนเด็กๆ ธีระยิ้มเพราะศิรินทร์ยิ้มให้ก่อนแล้ว
“ เขาไปว่าอะไรหรือครับ บอกให้แค่ชวนคุณศิมาทานข้าว ไปพูดอะไรอีกหรือครับ”
ศิรินทร์หันไปมองหน้าปิยะ ปิยะส่งสายตาให้พูดต่อ
“ เขาพูดเหมือนอัดเทปนะค่ะ พูดยาวได้ใจความ ศิก็เลยขำ เขาว่าเขาถูกอัดมา ศิก็เลยถามว่า อัดคนหรืออัดเทป เขาก็ยัง
สงสัยอยู่เหมือนกัน ให้ศิมาถามเองค่ะ”
ธีระหัวเราะ ยะนะยะขายเพื่อนเรื่อยเลย เขานึกในใจ
“ ก็อย่างนี้แหละครับ คนมันขี้เหงา ก็หาเรื่องเล่นไปเรื่อย ไม่รู้จริงรู้เล่น” คำสุดท้ายมองไปทางปิยะ ปิยะยักคิ้วให้เขาทันที
ศิรินทร์เห็นก็หัวเราะอีก
“ อาหารมื้อนี้คงอร่อยนะคะ” หล่อนเดินเข้ามาใกล้ธีระ
“ ศิช่วยไหมคะ”
“ว่าไงยะ จะให้ทำอะไรอีกหรือเปล่า” ปิยะกำลังหยิบจานอยู่ก็หันมาถาม
“คุณศิทานที่ไหนดีครับ”
“ถ้าศิต้องหัวเราะอีกมากก็เอาในห้องดีกว่าค่ะ”
“ ไปเคลียร์พื้นที่ไป” ธีระสั่ง ปิยะยักคิ้วอีกแต่เหมือนให้ศิรินทร์ แล้วยกจาน ช้อนเดินออกจากครัว
ธีระให้รู้สึกดีขึ้นที่หล่อนมาอยู่ข้างๆนี่ เขาดีใจกะเกณฑ์ไม่ผิด หล่อนไม่ได้เศร้าโศกที่แขกของหล่อนไปนี่ ปิยะนะ พูดเสียเขาใจหล่นลงพื้น
“ คุณศิชิมดูหน่อยไหมครับ”
“ ไม่ละค่ะ คุณธีระทำทีไรก็อร่อยทุกทีนี่คะ”
เขามองหน้าหล่อน ยิ้มรับคำชม
“ วันนี้หิวมากไหมครับ” ศิรินทร์ให้รู้สึกมากในคำถามของเขา
“ ถ้าอาหารอร่อยมากก็คงหิวมากใช่ไหมคะ” หล่อนหิวสิเพราะกลางวันไม่ได้ทานอะไรเลย เพิ่งกลับมาทานขนมปังสองแผ่นที่ห้องนี่เอง
“ วันนี้ผมไม่ได้แวะซื้อกับข้าว เอาของเก่ามาทำ อาจจะอร่อยน้อยไปนิดนะครับ”
“ ทานอาหารอร่อยกันบ่อยๆ ศิก็ชักกลัวอ้วนเหมือนกันค่ะ” เขาก็ให้นึกไปถึงหุ่นของหล่อนขึ้นมาอีก ตัวก็อยู่ใกล้แค่นี้เอง
ธีระให้ว้าวุ่นใจโดยไม่รู้ตัว
“ ผมว่าเสร็จแล้วนะครับ มียำปลากระป๋อง ผัดวุ้นเส้น แล้วก็ต้มเห็ดกับไก่”
“ โอ้โฮ ทำไมทำสามอย่างเลยล่ะคะ ไหนว่าของเก่าไงคะ”
“ก็เห็ดกระป๋อง ปลาก็กระป๋อง มีวุ้นเส้นไงครับ”
“อ๋อ ใช่ศิยกไปนะคะ”
“ไม่รู้ยะจัดห้องเสร็จหรือยัง เดี๋ยวก็ได้ครับ”
ปิยะเดินมา ใบหน้ายิ้มเมื่อมองมาที่ศิรินทร์ หล่อนรู้ว่าปิยะมีอะไรที่จะพูดอีกมากในอาการ
“ คุณปิยะคะ ยกไปได้หรือยังคะ”
“ เชิญครับ” เขารีบมาช่วยยก แล้วเปลี่ยนใจ
“ ระยกไปซิ ถ้าเสร็จแล้วละก้อ”
ศิรินทร์ยกนำ ธีระยกตามหลังมา ปิยะอยู่เก็บของเข้าที่ แล้วจึงยกหม้อข้าว ทัพพีตามหลังเข้าห้องไปนั่งแล้ว ตักข้าวแจกแล้วปิยะก็อารัมภบททันที
“เนื่องจากไม่มีอะไรทำ จึงเชิญมาทานข้าวครับ”
ศิรินทร์หัวเราะในคำพูดแสนซื่อที่เจตนาพูดของปิยะ
“ อย่าไปฟังเขา ทานข้าวดีกว่าคุณศิ” ธีระพูดตัดบท ศิรินทร์ตักข้าวแล้วก็ไม่ได้ใส่ปากในทันที
“ ศิว่าศิอยากฟังเขานะคะ คุณธีระ”
“เอา พอดีไม่ต้องทานข้าวกัน” ธีระยิ้มที่ศิรินทร์ยังติดใจเรื่องนั้นอยู่
“ คุณธีระอัดอะไรคุณปิยะเหรอคะ” หล่อนมองไปมา
“ เขาพูดอะไรไม่รู้ ผมก็เลยให้โทรไปเชิญคุณศิมาทานข้าว เห็นช่างพูดนัก”
“ ครับ ผมก็เลยพูดแบบที่คุณศิได้ยินนั่นแหละครับ เขาคิดว่าคุณศิจะไม่มา ให้ผมพูดดีๆล่ะ”
“ อ๋อ ถ้าพูดดีศิถึงจะมาเหรอคะ ทั้งๆที่รับเชิญทานฟรีนี่นะคะ”
“ ถามเขา” ปิยะบุ้ยใบ้ ตักข้าวใส่ปาก
“ เอ้อ ผมเห็นทานกันบ่อย กลัวคุณศิจะว่าบ่อยเกินไป”
“ ก็ทานบ่อยๆ ศิก็ชักติดเหมือนกันนะคะ”
“ ถ้ายังงั้นผมขอเชิญทุกวันเลยนะครับ”
“ โอย ไม่ได้หรอกค่ะ ศิจะมาทานทุกวันได้ยังไงกันคะ”
“ ก็ผมกับระเปลี่ยนกันเชิญไงครับ” ปิยะเข้าช่วยทันที
ธีระมองเพื่อนแววตาเปลี่ยนไป
“ ถ้าเกรงใจก็ช่วยยะเขาล้างชามที่ติดค้างวันนั้นก็ได้นี่ครับ”
“ อ้อ จริงค่ะ คุณธีระนี่จำเก่งจัง คุณปิยะล้างอยู่คนเดียวนะวันนั้นน่ะ เดี๋ยวศิล้างเลยนะคะวันนี้”
“ ประเดิมเลยหรือครับ” ปิยะถาม
“จะเป็นไรไปคะ “ หล่อนตอบ ตักข้าวใส่ปาก ธีระยิ้มในสีหน้า เมื่อปิยะทำลูกตาลอยไปมา อาหารอร่อย คุยสนุก ศิรินทร์
ทานจนอิ่ม เพราะธีระตักข้าวให้มาก แล้วหล่อนก็มาล้างจานโดยธีระช่วยเช็ดจานให้
“ คุณนิธิไปแล้วหรือครับ”
“ ค่ะ เมื่อเที่ยง” หล่อนตอบอย่างรู้สึกว่า หล่อนก็สบายใจด้วย ธีระไม่เห็นความผิดปกติใดๆในหล่อน เมื่อพูดถึงนิธิ
“ จะมาเที่ยวอีกเมื่อไรครับ”
“คงไม่มาหรอกค่ะ เอ้อ ศิอาจจะไปนะค่ะ”
ธีระหมดคำถามขึ้นมาดื้อๆ
“ วันนี้ดีนะคะ ที่ไม่มีขนมหรือผลไม้ เพราะอาหารมากทานเกือบไม่หมด”
“ ไม่มากหรอกครับ เป็นของเผ็ดก็เลยทานน้อยต่างหาก ถ้าเป็นผัดเป็นอะไรก็คงจะหมดเร็วน่ะครับ”
(มีต่อ)
🎀🎀🎀หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 27🎀🎀🎀
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สวัสดีค่ะ หอรักริมไรน์จะย้ายไปริมน้ำเทมส์หรือยัง ชีวิตที่ต้องโลดแล่นไปด้วยการตัดสินใจเท่าที่วัยจะอำนวย
จะต้องเจอปัญาอะไรก่อนจะจากหอพักที่อยู่มาจนคุ้นเคย เรื่องราวสาวน้อยและหนุ่มจะเป็นอย่างไรขอให้สนุกกับการ
อ่านนะคะ ขอขอบคุณผู้อ่านที่ร่วมทางสายน้ำหมึกมาด้วยกันด้วยค่ะ: cnck4 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 868666 ซึ้ง, GTW
หลงรัก, kasareev หลงรัก, มัศยวีร์ หลงรัก, ชุนเทียน หลงรัก, Na(นะ) ถูกใจ, WANG JIE หลงรัก, turtle_cheesecake
หลงรัก, Soul Master หลงรัก
🍑🍎
ศิรินทร์กลับจากโรงแรมถึงห้องพัก หล่อนรู้สึกตัวว่าหล่อนได้ทำอะไรไปมากมาย เพื่อความอยู่รอดของตัวเองและเขา
นิธิบอกให้หล่อนกลับโดยมิต้องไปส่งที่สนามบินนอกเมือง ด้วยว่าเขาไปในเวลากะทันหันแล้ว หล่อนไม่ควรเสียเวลาไปมากับเขาอีก เพราะว่าได้ใช้เวลาสุดท้ายด้วยกันมากเกินพอ และที่สำคัญที่สุดคือ
‘ศิต้องเตรียมตัวพร้อมที่จะไปทันทีที่ผมบอกมานะจ๊ะ’ นี่เป็น
การบ้านที่เขาทิ้งไว้อีกดังแต่ก่อน
หล่อนเชื่อว่าเดี๋ยวเขาก็ทำทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อยในเวลาอันสั้น นั่นหมายถึงว่าเวลาของหล่อนย่อมสั้นไปด้วย หล่อนรู้ว่าเขาอาจยืดเวลาให้หล่อนได้ เพราะเขาตามใจหล่อน แต่กำหนดของโรงเรียนจะทำให้หล่อนไม่สามารถยืดเยื้อไปได้อีก เขาคงเตรียมจัดหาสิ่งจำเป็นในการอยู่ที่นั่นให้พร้อม เขาคงต้องใช้ทั้งความพยายาม อุตสาหะ และค่าใช้จ่ายในการนี้ไม่น้อยเลย แต่เขาก็ไม่เคยพูดถึงสิ่งเหล่านี้ให้หล่อนต้องรับรู้หรือเป็นภาระ เขามีน้ำใจที่จะทำให้ได้ ดังเขาพูดว่า ผมจะใช้ความตั้งใจในปัญหาเฉพาะ
หน้า ถ้าแก้ได้ปัญหาอื่นก็เป็นรอง หล่อนชื่นชมที่เขาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้จริงๆ โดยหล่อนมิต้องพะวงไปด้วย เหมือนหล่อนหลับสบายจนเขาต้องปลุกเมื่อถึงเวลา เขาทำได้มากกว่าที่หล่อนนึกเสียอีก
ธีระให้ต้องแหงนหน้าขึ้นมองม่านหน้าต่างห้องของศิรินทร์อยู่ทุกครั้งที่เข้าออกจากหอ เขาจะขับรถผ่านตึกของหล่อนทุกครั้งให้ได้ เมื่อเช้านี้ม่านปิด แต่ขณะนี้ม่านเปิดแล้ว เขามองนาฬิกาก็บ่ายสามโมงนี่นา แสดงว่าหล่อนไม่ได้ไปทำงาน หล่อนคงไปส่งแขกของหล่อน เฮ้อ..เขาถอนใจไล่ความหนักอึ้งออกมา
ก่อนกลับเข้าห้อง เขาก็แวะไปดูปิยะ ยังไม่กลับมา เขาโทรศัพท์ถึงศิรินทร์ทันที แล้วก็รีบวางเมื่อนึกได้ว่ายังเร็วไป หล่อนอาจจะนอนก็ได้ เขานึกถึงรายการอาหารขึ้นมาทันที อย่างไรเสียเขาจะบอกหล่อนเช่นเดิม คือ ช่วยเดินมาทานข้าวกับผมหน่อยแล้วก็รีบๆวางหูเสีย ปิยะคงจะทานด้วยเพราะไม่ได้บอกว่าจะไม่อยู่ ซึ่งเป็นอันรู้กันว่าไม่บอกถือว่ากินตามปกติ คือถึงเวลาใครอยู่ก็ทำเผื่อไว้ได้เลย ถ้าปิยะมาช้า เขาจะเอาเป็นข้ออ้างว่า ทำไว้ไม่เห็นมา คุณศิช่วยมาทานแทนด้วยเถอะ เขาให้นึกไม่ชอบตัวเองที่วางแผนลักษณะนี้ แต่เขาต้องรีบแล้วดังปิยะว่า
ปิยะกลับมาก่อนห้าโมงนิดหน่อย เป็นเวลาที่ธีระเตรียมทำกับข้าวอยู่
“ อ้าวขยันจริงวันนี้ ทำแต่หัววันเชียว”
“ มาดูซิทำอะไรดี”
“อะไรๆก็กินได้น่า”
“ว่าแต่จะชวนคุณศิเขามากินด้วยน่ะ”
“อ้าวเรอะ เชิญแล้วเหรอ” ปิยะแปลกใจแต่ก็ยินดีขึ้นมา
“ยังหรอก เดี๋ยวว่าจะโทรไป นายโทรเลยนะ รีบๆวางหูจะได้ไม่ปฏิเสธ วันนี้เห็นอยู่นี่ คงไม่ได้ไปทำงาน”
“ อ้อ คงไปส่งแฟนมั้ง ป่านนี้ร้องไห้ตาบวมแล้วก็เป็นได้”
“ นายอย่าพูดอะไรที่มันฟังไม่ได้หน่อยเลย” ธีระต่อว่าทันที
ปิยะงงแล้วก็นึกได้
“ เออ ขอโทษพูดฟังไม่ได้จริงๆแหละ” ใครจะไปรับได้ว่าคนนั้นมาเป็นแฟนคุณศิ ปิยะนึกในใจ
“ โทรซะจะได้รู้ว่าเขาร้องไม่ร้องดังปากนายรึเปล่า” ธีระขุ่นใจขึ้นมา
ปิยะเดินมาโทรศัพท์อย่างงงๆ นึกในใจว่า เดี๋ยวนี้ว่าอะไรคุณศิไม่ได้เลยเชียวนะ
หล่อนรับสายแล้ว
“ คุณศิคร้าบ สบายดีเหรอคร้าบ ผมต้องมาเชิญคุณศิทานข้าวกับผมนะคร้าบ คุณระเขากำลังปรุงอยู่ เราสองคนรออยู่นะคร้าบ เวลาเดิมนะคร้าบ”
“ อะไรกันคะ คุณปิยะ พูดยังกะอัดเทป” เสียงหล่อนหัวเราะ
อ้าว หล่อนหัวเราะได้ โดนด่าอีกแล้วงานนี้ ปิยะนึก ก่อนหัวเราะบ้าง
“ เดี๋ยวมาคุยกันนะครับ ว่าทำไมมันถึงเหมือนถูกอัดมา เอ้อ เทปนะครับ”
“ เทปนะคะ ไม่ใช่คุณ” เสียงหล่อนยังขำอยู่
“ เดี๋ยวก็รู้ ชวนติดตามดีไหมครับ ผมจะเงียบไว้ก่อนแล้วคุณศิค่อยมาถึงถามเลยนะครับ”
“ โอเคค่ะ เดี๋ยวศิไปค่ะ” หล่อนวางหู ปิยะนี่มีอะไรให้หล่อนได้สนุกเรื่อยเลยนะ
“ว่าไง” ธีระเลิกคิ้วถามอย่างลุ้นในใจ ปิยะยิ้มในอารมณ์ของเพื่อน
“ ยังจะมายิ้มอีกแน่ะ ยิ่งอยากรู้อยู่”
“ เดี๋ยวเขามาครับ” ปิยะตอบอย่างสุภาพ ธีระนึกได้ ยิ้มนิดหนึ่งในท่าทีของเพื่อน แล้วทำอาหารขะมักเขม้นต่อไป
สักครู่เสียงศิรินทร์เดินมาถึงในห้องครัว ส่งยิ้มมาให้ธีระ ด้วยยังนึกถึงเรื่องพูดโทรศัพท์อยู่
“ คุณธีระคะ เห็นคุณปิยะว่าคุณอัดอะไรเทปหรือคุณปิยะเหรอคะ”
ธีระหันขวับไปทางปิยะ
“ เห็นไหม เห็นไหมคุณศิ เขาจะอัดผม” พูดพลางวิ่งมาบังหลังศิรินทร์ หล่อนยืนหัวเราะ ดูเขาเล่นกันเหมือนเด็กๆ ธีระยิ้มเพราะศิรินทร์ยิ้มให้ก่อนแล้ว
“ เขาไปว่าอะไรหรือครับ บอกให้แค่ชวนคุณศิมาทานข้าว ไปพูดอะไรอีกหรือครับ”
ศิรินทร์หันไปมองหน้าปิยะ ปิยะส่งสายตาให้พูดต่อ
“ เขาพูดเหมือนอัดเทปนะค่ะ พูดยาวได้ใจความ ศิก็เลยขำ เขาว่าเขาถูกอัดมา ศิก็เลยถามว่า อัดคนหรืออัดเทป เขาก็ยัง
สงสัยอยู่เหมือนกัน ให้ศิมาถามเองค่ะ”
ธีระหัวเราะ ยะนะยะขายเพื่อนเรื่อยเลย เขานึกในใจ
“ ก็อย่างนี้แหละครับ คนมันขี้เหงา ก็หาเรื่องเล่นไปเรื่อย ไม่รู้จริงรู้เล่น” คำสุดท้ายมองไปทางปิยะ ปิยะยักคิ้วให้เขาทันที
ศิรินทร์เห็นก็หัวเราะอีก
“ อาหารมื้อนี้คงอร่อยนะคะ” หล่อนเดินเข้ามาใกล้ธีระ
“ ศิช่วยไหมคะ”
“ว่าไงยะ จะให้ทำอะไรอีกหรือเปล่า” ปิยะกำลังหยิบจานอยู่ก็หันมาถาม
“คุณศิทานที่ไหนดีครับ”
“ถ้าศิต้องหัวเราะอีกมากก็เอาในห้องดีกว่าค่ะ”
“ ไปเคลียร์พื้นที่ไป” ธีระสั่ง ปิยะยักคิ้วอีกแต่เหมือนให้ศิรินทร์ แล้วยกจาน ช้อนเดินออกจากครัว
ธีระให้รู้สึกดีขึ้นที่หล่อนมาอยู่ข้างๆนี่ เขาดีใจกะเกณฑ์ไม่ผิด หล่อนไม่ได้เศร้าโศกที่แขกของหล่อนไปนี่ ปิยะนะ พูดเสียเขาใจหล่นลงพื้น
“ คุณศิชิมดูหน่อยไหมครับ”
“ ไม่ละค่ะ คุณธีระทำทีไรก็อร่อยทุกทีนี่คะ”
เขามองหน้าหล่อน ยิ้มรับคำชม
“ วันนี้หิวมากไหมครับ” ศิรินทร์ให้รู้สึกมากในคำถามของเขา
“ ถ้าอาหารอร่อยมากก็คงหิวมากใช่ไหมคะ” หล่อนหิวสิเพราะกลางวันไม่ได้ทานอะไรเลย เพิ่งกลับมาทานขนมปังสองแผ่นที่ห้องนี่เอง
“ วันนี้ผมไม่ได้แวะซื้อกับข้าว เอาของเก่ามาทำ อาจจะอร่อยน้อยไปนิดนะครับ”
“ ทานอาหารอร่อยกันบ่อยๆ ศิก็ชักกลัวอ้วนเหมือนกันค่ะ” เขาก็ให้นึกไปถึงหุ่นของหล่อนขึ้นมาอีก ตัวก็อยู่ใกล้แค่นี้เอง
ธีระให้ว้าวุ่นใจโดยไม่รู้ตัว
“ ผมว่าเสร็จแล้วนะครับ มียำปลากระป๋อง ผัดวุ้นเส้น แล้วก็ต้มเห็ดกับไก่”
“ โอ้โฮ ทำไมทำสามอย่างเลยล่ะคะ ไหนว่าของเก่าไงคะ”
“ก็เห็ดกระป๋อง ปลาก็กระป๋อง มีวุ้นเส้นไงครับ”
“อ๋อ ใช่ศิยกไปนะคะ”
“ไม่รู้ยะจัดห้องเสร็จหรือยัง เดี๋ยวก็ได้ครับ”
ปิยะเดินมา ใบหน้ายิ้มเมื่อมองมาที่ศิรินทร์ หล่อนรู้ว่าปิยะมีอะไรที่จะพูดอีกมากในอาการ
“ คุณปิยะคะ ยกไปได้หรือยังคะ”
“ เชิญครับ” เขารีบมาช่วยยก แล้วเปลี่ยนใจ
“ ระยกไปซิ ถ้าเสร็จแล้วละก้อ”
ศิรินทร์ยกนำ ธีระยกตามหลังมา ปิยะอยู่เก็บของเข้าที่ แล้วจึงยกหม้อข้าว ทัพพีตามหลังเข้าห้องไปนั่งแล้ว ตักข้าวแจกแล้วปิยะก็อารัมภบททันที
“เนื่องจากไม่มีอะไรทำ จึงเชิญมาทานข้าวครับ”
ศิรินทร์หัวเราะในคำพูดแสนซื่อที่เจตนาพูดของปิยะ
“ อย่าไปฟังเขา ทานข้าวดีกว่าคุณศิ” ธีระพูดตัดบท ศิรินทร์ตักข้าวแล้วก็ไม่ได้ใส่ปากในทันที
“ ศิว่าศิอยากฟังเขานะคะ คุณธีระ”
“เอา พอดีไม่ต้องทานข้าวกัน” ธีระยิ้มที่ศิรินทร์ยังติดใจเรื่องนั้นอยู่
“ คุณธีระอัดอะไรคุณปิยะเหรอคะ” หล่อนมองไปมา
“ เขาพูดอะไรไม่รู้ ผมก็เลยให้โทรไปเชิญคุณศิมาทานข้าว เห็นช่างพูดนัก”
“ ครับ ผมก็เลยพูดแบบที่คุณศิได้ยินนั่นแหละครับ เขาคิดว่าคุณศิจะไม่มา ให้ผมพูดดีๆล่ะ”
“ อ๋อ ถ้าพูดดีศิถึงจะมาเหรอคะ ทั้งๆที่รับเชิญทานฟรีนี่นะคะ”
“ ถามเขา” ปิยะบุ้ยใบ้ ตักข้าวใส่ปาก
“ เอ้อ ผมเห็นทานกันบ่อย กลัวคุณศิจะว่าบ่อยเกินไป”
“ ก็ทานบ่อยๆ ศิก็ชักติดเหมือนกันนะคะ”
“ ถ้ายังงั้นผมขอเชิญทุกวันเลยนะครับ”
“ โอย ไม่ได้หรอกค่ะ ศิจะมาทานทุกวันได้ยังไงกันคะ”
“ ก็ผมกับระเปลี่ยนกันเชิญไงครับ” ปิยะเข้าช่วยทันที
ธีระมองเพื่อนแววตาเปลี่ยนไป
“ ถ้าเกรงใจก็ช่วยยะเขาล้างชามที่ติดค้างวันนั้นก็ได้นี่ครับ”
“ อ้อ จริงค่ะ คุณธีระนี่จำเก่งจัง คุณปิยะล้างอยู่คนเดียวนะวันนั้นน่ะ เดี๋ยวศิล้างเลยนะคะวันนี้”
“ ประเดิมเลยหรือครับ” ปิยะถาม
“จะเป็นไรไปคะ “ หล่อนตอบ ตักข้าวใส่ปาก ธีระยิ้มในสีหน้า เมื่อปิยะทำลูกตาลอยไปมา อาหารอร่อย คุยสนุก ศิรินทร์
ทานจนอิ่ม เพราะธีระตักข้าวให้มาก แล้วหล่อนก็มาล้างจานโดยธีระช่วยเช็ดจานให้
“ คุณนิธิไปแล้วหรือครับ”
“ ค่ะ เมื่อเที่ยง” หล่อนตอบอย่างรู้สึกว่า หล่อนก็สบายใจด้วย ธีระไม่เห็นความผิดปกติใดๆในหล่อน เมื่อพูดถึงนิธิ
“ จะมาเที่ยวอีกเมื่อไรครับ”
“คงไม่มาหรอกค่ะ เอ้อ ศิอาจจะไปนะค่ะ”
ธีระหมดคำถามขึ้นมาดื้อๆ
“ วันนี้ดีนะคะ ที่ไม่มีขนมหรือผลไม้ เพราะอาหารมากทานเกือบไม่หมด”
“ ไม่มากหรอกครับ เป็นของเผ็ดก็เลยทานน้อยต่างหาก ถ้าเป็นผัดเป็นอะไรก็คงจะหมดเร็วน่ะครับ”
(มีต่อ)