[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Credit Reisenaktuell.com
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/36710604
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/36726785
ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/36744060
ตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/36760004
ตอนที่ 5 https://ppantip.com/topic/36774548
ตอนที่ 6 https://ppantip.com/topic/36788200
ตอนที่ 7 https://ppantip.com/topic/36809222
ตอนที่ 8 https://ppantip.com/topic/36823231
ตอนที่ 9 https://ppantip.com/topic/36846962
ตอนที่ 10 https://ppantip.com/topic/36859799
ตอนที่ 11 https://ppantip.com/topic/36876620
ตอนที่ 12 https://ppantip.com/topic/36889901
ตอนที่ 13 https://ppantip.com/topic/36907423
สวัสดีค่ะ หอรักริมไรน์ มีกิจกรรมเส้นทางรักอีกสายหนึ่งมาให้ชมกันนะคะ ก็ต้องเก็งกันว่าจะมาไม้ไหน และศิรินทร์จะ
ตั้งรับอย่างไร ในเหตุการณ์นี้ คงจะนึกกันได้หลายทาง ใครเดาถูกก็บอกมาด้วยนะคะ ขอบคุณแรงใจที่ตามอ่านและรวมทั้งผู้อ่านท่านใหม่ด้วยค่ะ : Eien Akai Debiru หลงรัก, GTW ถูกใจ, ส่องแสงตะวันฉาย หลงรัก, มัศยวีร์ หลงรัก, tedta
ถูกใจ, เสาวรส17 หลงรัก, Na(นะ) ถูกใจ, Lady Star 919 หลงรัก, turtle_cheesecake หลงรัก, เปลวอัคคี หลงรัก
🐓🐔🐰🐇
นิธิดูแผนที่แผ่นเล็กๆ ดูชื่อถนนบริษัทที่จะต้องไปติดต่อในวันรุ่งขึ้น ขนาดรายละเอียดของจะต้องสั่งเข้าโรงงาน การจ่ายเงินและช่วงเวลารับประกัน และการเปิดเครดิตธนาคารระหว่างประเทศ สักพักหนึ่งก็เอากระดาษโทรสารเขียนส่งกลับไปยังสำนักงานกรุงเทพ
โดยให้หัวกระดาษของโรงแรมและเบอร์ห้องไปด้วย ลงมาส่งโทรสารเสร็จก็กลับขึ้นห้องเปิดทีวีดูข่าวหารายการภาษาอังกฤษเป็นนานก็ไม่เจอจึงเปิดภาพทิ้งไว้อย่างนั้น สายตากลับทอดมองเหม่อไปลำดับภาพที่ผ่านในวันนี้ทุกภาพ ทุกลักษณะจนกระทั่งนึกถึงเสียงที่ได้ยินทางโทรศัพท์เมื่อครู่ใหญ่นี้ เขาถอนใจเมื่อความนึกคิดจบลง
ศิรินทร์กลับจากงานมาก่อนปิยะนิดหนึ่ง เพราะเข้าประตูมาแล้วจึงเห็นรถเขาวิ่งเข้าที่จอด หล่อนไม่รอคงเดินไปเรื่อยๆแวะดูจดหมายก่อนเข้าลิฟต์ เมื่อถึงห้องก็เปิดประตูระเบียงรับลมใหม่เข้ามา นั่งพักสักครู่จึงออกไปยืนมองรถวิ่งเข้าออกมากมายหลายคันในเบื้องล่าง หล่อนผลุบเข้ามานั่งๆนอนๆพักผ่อนสักครู่เสียงโทรศัพท์หน้าห้องก็ดังขึ้น เมื่อออกไปรับก็ได้ยินเสียงปิยะ
“ คุณศิสบายดีหรือครับ มาทานข้าวกันไหมครับ”
“ ก็สบายดีค่ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“ ไม่มีหรอกครับ เห็นคุณแว้บๆก็เลยอยากชวนทานข้าวด้วย”
“ ศิขอตัวนะคะ ขอบคุณมากค่ะ คนอื่นๆสบายกันดีนะคะ”
“ โอ้โฮ ถามอย่างนี้แสดงว่าคุณไม่ได้เจอใครเลยสินะ”
“ ศิไม่ค่อยได้เจอใครเลย ก้อคุณปิยะอยู่ใกล้แค่นี้ยังไม่เจอกันเลย แล้วคนไกลๆจะเจอได้ไงคะ” หล่อนกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ ยังงั้นไม่ได้ละ ผมยกข้าวไปทานกับคุณดีกว่านะครับ รอสิบนาที” ปิยะสรุปก่อนวางสายไป
สักพักใหญ่ก็มีเสียงลากรองเท้ารีบๆเดินมาเคาะห้องก่อนเปิด ศิรินทร์ยืนรับหน้าอยู่ในห้อง
“ มีอะไรพิเศษคะวันนี้” หล่อนถามอีกทีที่เขาตั้งใจมา
“ บอกแล้วไงครับว่าไม่มีอะไรพิเศษ มีแต่ไม่พิเศษเลย คือมันไม่มีอะไรเลย มันเลยเหงาครับ ขอสารภาพคุณศิเลย”
“ อ้าวคุณธีระไปไหนเสียล่ะ”
“ เห็นว่าจะไปค้างกับใครไม่รู้สองคืน ผมก็เตรียมใจแล้ว แต่มันยังไงๆไม่รู้ เดี๋ยวนี้เงียบๆนานไปหน่อยชักไม่เห็นใครก็เลยนึกถึงคุณศิ”
“ งั้นไปทานในครัวกัน ศิเองก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ” หล่อนเดินนำไปครัว
“ ผมมีข้าวมาเผื่อไม่มากหรอก แต่กับข้าวมาก เห็นไหมผัดหัวใจหมูทั้งแพ็ค คงพอนะ ถ้าจะให้ดีทอดไข่หน่อย คุณศิมีไข่ไหม”
“ มีประจำอยู่แล้วค่ะ” หล่อนหาจานสองที่ แก้วน้ำ ปิยะรีบทอดไข่กลิ่นหอมหวนชวนหิวได้ทันทีเลยทีเดียว เมื่อนั่งลงจะทานศิรินทร์ก็ให้นึกถึงคนไทยพลัดถิ่นอีกคนขึ้นมา เขาคงช่วยตัวเองได้หรอก
“ เชิญเลยค่ะคุณปิยะ น่าอร่อยจังไข่เจียวนี่”
ข้าวถูกแบ่งสองใส่จานโดยจานของศิรินทร์น้อยกว่าเป็นของผู้แบ่ง ปิยะตักอาหารเหมือนอย่างคนหิว
“ หิวเหรอคะ”ศิรินทร์อดถามไม่ได้
“ครับ กลางวันยังไม่ได้ทานอะไรเลย”
“ ตายละยังมาแบ่งให้ศิอีก” หล่อนโวยวายอย่างเกรงใจ
“ ก้อ กับเยอะแยะนี่ครับ ผมหิวไม่มากหรอก เชิญเถอะผมยิ่งหาเพื่อนทานอยู่”
“ คุณศิถามจริงๆเถอะ ไม่นึกเหงาบ้างเลยหรือ ขนาดผมเฮ้วๆอย่างนี้ วันไหนไม่มีใคร มันเหงาบอกไม่ถูกเลยเชียว”
“ก็มีค่ะ แต่แหม จะให้ไปบอกใครได้ยังไง ศิฟังเพลงแล้วก็อ่านอะไรไปตามเรื่อง แต่ก็สบายใจดีค่ะ”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสองสามครั้ง
“ เอ.. ของใคร” ศิรินทร์พูดขึ้น
“ เดี๋ยวผมไปรับก่อน” ปิยะรีบออกจากครัวไป แล้วก็กลับเข้ามาบอก
“ คุณศิของคุณแน่ะ”
ศิรินทร์รีบลุกรู้ทันทีว่าเป็นใคร
“สวัสดีครับ ผมรบกวนหรือเปล่าครับ”
“ เปล่าค่ะ ทานข้าวหรือยังคะ”
“ ก็กำลังคิดว่าจะทานข้าวหรือขนมปังดีอยู่นี่และครับ”
“ งั้นก็ยังไม่ได้ทานสิคะ ศิกำลังทานข้าว” พูดแล้วนึกได้ว่าไม่ควรบอกไป
“ เหรอครับ ผมขอโทษที่รบกวน....” นึกถึงเสียงชายไทยที่มารับสายแล้วไปเรียกหล่อน ใจก็วูบลงไปนิดหนึ่ง
“ เชิญคุณศิรินทร์ไปทานต่อเถอะครับ”
“ ค่ะ แล้วศิจะโทรไปนะคะ” หล่อนกล่าวอย่างขอจบก่อน
ปิยะทานข้าวรออย่างช้าๆ
“ คนรู้จักมาจากเมืองไทยนะค่ะ”
“ ไม่ชวนมาทานข้าวด้วยกันล่ะครับ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ อยู่โรงแรมก็สะดวกแล้ว” หล่อนทานต่อจนกระทั่งอิ่ม ปิยะรีบเก็บจานชามให้อย่างรู้งาน
“ เดี๋ยวศิล้างเองนะคะ เชิญคุณปิยะที่ห้องก่อน ทานน้ำอะไรดีคะ น้ำชาหรือน้ำกล่อง”
“ ขอชาดีกว่านะครับ ผมต้มเองดีกว่า” ปิยะตั้งกาต้มน้ำเล็กๆในช่วงที่ศิรินทร์ล้างชาม
ปิยะนั่งคุยอยู่จนสองทุ่มจึงได้กลับไป ศิรินทร์เริ่มจะง่วงแต่ก็นึกได้ว่า ควรโทรไปถามสารทุกข์สุกดิบของแขกต่างบ้าน หาเบอร์โทรศัพท์ ดูลายมือตัวเลขห้องที่เขียนไว้ อยู่สูงทีเดียวชั้นสิบห้าแน่ะ
เสียงต่อสายเรียกกริ๊งแรกก็มีผู้รับแล้ว
“ สวัสดีครับ” เสียงทักมาอย่างมั่นใจ
“ ศินะคะ ทานข้าวหรือยังคะ”
…..มัวแต่ฟังเสียงทีพูดจึงตอบช้าไปนิด
“ คงทานเสร็จพร้อมๆกับคุณแหละครับ”
“ จะกะเก่งถึงขนาดนั้นเชียวหรือคะ”
“มั่นใจครับ เพราะทานแฮมเบอรเก้อร์ร้านฟาสฟู้ดใกล้ๆนี่เอง” เขาตอบพยายามไม่นึกว่าหล่อนทานอย่างไร
“ งานวันนี้ successไหมคะ”
“อ๋อ ซัคเซสครับ บอกแล้วไงครับ โชคดีอยู่แล้ว”
“คุยมากเดี๋ยวโชคหายนะคะ” อดพูดไม่ได้
“ คงไม่เร็วขนาดนั้นหรอกครับ คุณศิรินทร์ว่าผมขี้คุยสิท่า”
“ ยังไม่ได้ว่านะคะ” หล่อนยิ้มออกมา
“ โอเค ยังก็ยัง คุณศิรินทร์รู้ไหมครับ ข้างบนนี่วิวสวยจังเลย มองได้กว้างไปหมดทั้งเมือง”
“ ดีจังที่มีวิวสวยๆดูด้วย”
“ ใช่ครับกลางคืนไฟเต็มไปหมด แทนดวงดาวเลยแหละครับ”
“ ก็คงจะนอนดูดาวเพลินไปเลยนะคะ”
“ ถ้าเป็นไปได้ ไม่ทราบคุณศิรินทร์ได้เห็นหรือยัง อยากให้มาดูด้วยครับ”
“ ถ้าไปก็คงกลับยากหน่อย ตอนกลางคืนนะค่ะ กลางวันไม่มีปัญหาค่ะ”
“ งั้นไว้ผมจะไปส่งนะครับ วันหลัง”
“ ก็ได้ค่ะ”
“ ขอบคุณที่ช่วยให้ผมได้พูดภาษาไทยวันนี้ กู้ดไนท์นะครับ”
“ กู้ดไนท์ค่ะ”
เลิกงานวันนี้ถ้าอากาศดีกว่านี้อีกนิด ศิรินทร์ก็อยากจะเลยไปเยี่ยมแขกที่โรงแรมแต่ฟ้ามืดอากาศกลับเย็นขึ้นมาอีก หล่อนเปลี่ยนความคิดที่จะเลยไปเป็นกลับที่พัก เข้าห้องแล้วก็เลยนอนพักหลับไปนานจนตื่นมาอีกทีร่วมสามทุ่ม ลุกขึ้นแหวกม่านดูฟ้ามืดมิดไม่มีแม้ดาวสักดวงและคงไม่มีในท้องฟ้าซีกกะโน้นด้วย
ศิรินทร์ทำไข่ต้มทาขนมปังเป็นแซนวิซ ดื่มน้ำชาตามจนกระทั่งอิ่ม หยิบจดหมายวันนัดที่ได้รับวันก่อนมา อ่านและนึกถึงเรื่องที่จะเขียนตอบ หยิบปากกาจิ้มค้างอยู่อย่างนั้น นึกถึงเจ้าของจดหมายที่คงจะคร่ำเคร่งเตรียมสอบ ลุกขึ้นมาเปิดเพลงไทยฟัง ก็ให้นึกหวลถึงคนไทยอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก คง เอาตัวรอด หล่อนนึกสรุป เปลี่ยนไปล้างหน้าล้างตาแปรงฟันเสร็จก็กลับมานอนฟังเพลงสองสามจบ จิตใจล่องลอยไปตามเนื้อเพลง ลุกไปหยิบแมกกาซีนมาพลิกๆดูอย่างไม่รู้จะทำอะไรมากกว่านั้น เสียงคนเดินกุกกักอยู่ข้างนอกทั้งที่ดึกมากแล้ว ศิรินทร์เปลี่ยนเป็นเปิดวิทยุฟังเพลงบรรเลงสากลทำให้รู้สึกง่วงอีก หรือเป็นเพราะอากาศ รู้สึกว่าความขี้เกียจกำลังครอบตัวอยู่จึงล้มตัวลงนอนเมื่อราวสี่ทุ่ม
(มีต่อ)
🍹🍺🍻หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 14🍻🍺🍹
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สวัสดีค่ะ หอรักริมไรน์ มีกิจกรรมเส้นทางรักอีกสายหนึ่งมาให้ชมกันนะคะ ก็ต้องเก็งกันว่าจะมาไม้ไหน และศิรินทร์จะ
ตั้งรับอย่างไร ในเหตุการณ์นี้ คงจะนึกกันได้หลายทาง ใครเดาถูกก็บอกมาด้วยนะคะ ขอบคุณแรงใจที่ตามอ่านและรวมทั้งผู้อ่านท่านใหม่ด้วยค่ะ : Eien Akai Debiru หลงรัก, GTW ถูกใจ, ส่องแสงตะวันฉาย หลงรัก, มัศยวีร์ หลงรัก, tedta
ถูกใจ, เสาวรส17 หลงรัก, Na(นะ) ถูกใจ, Lady Star 919 หลงรัก, turtle_cheesecake หลงรัก, เปลวอัคคี หลงรัก
🐓🐔🐰🐇
นิธิดูแผนที่แผ่นเล็กๆ ดูชื่อถนนบริษัทที่จะต้องไปติดต่อในวันรุ่งขึ้น ขนาดรายละเอียดของจะต้องสั่งเข้าโรงงาน การจ่ายเงินและช่วงเวลารับประกัน และการเปิดเครดิตธนาคารระหว่างประเทศ สักพักหนึ่งก็เอากระดาษโทรสารเขียนส่งกลับไปยังสำนักงานกรุงเทพ
โดยให้หัวกระดาษของโรงแรมและเบอร์ห้องไปด้วย ลงมาส่งโทรสารเสร็จก็กลับขึ้นห้องเปิดทีวีดูข่าวหารายการภาษาอังกฤษเป็นนานก็ไม่เจอจึงเปิดภาพทิ้งไว้อย่างนั้น สายตากลับทอดมองเหม่อไปลำดับภาพที่ผ่านในวันนี้ทุกภาพ ทุกลักษณะจนกระทั่งนึกถึงเสียงที่ได้ยินทางโทรศัพท์เมื่อครู่ใหญ่นี้ เขาถอนใจเมื่อความนึกคิดจบลง
ศิรินทร์กลับจากงานมาก่อนปิยะนิดหนึ่ง เพราะเข้าประตูมาแล้วจึงเห็นรถเขาวิ่งเข้าที่จอด หล่อนไม่รอคงเดินไปเรื่อยๆแวะดูจดหมายก่อนเข้าลิฟต์ เมื่อถึงห้องก็เปิดประตูระเบียงรับลมใหม่เข้ามา นั่งพักสักครู่จึงออกไปยืนมองรถวิ่งเข้าออกมากมายหลายคันในเบื้องล่าง หล่อนผลุบเข้ามานั่งๆนอนๆพักผ่อนสักครู่เสียงโทรศัพท์หน้าห้องก็ดังขึ้น เมื่อออกไปรับก็ได้ยินเสียงปิยะ
“ คุณศิสบายดีหรือครับ มาทานข้าวกันไหมครับ”
“ ก็สบายดีค่ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“ ไม่มีหรอกครับ เห็นคุณแว้บๆก็เลยอยากชวนทานข้าวด้วย”
“ ศิขอตัวนะคะ ขอบคุณมากค่ะ คนอื่นๆสบายกันดีนะคะ”
“ โอ้โฮ ถามอย่างนี้แสดงว่าคุณไม่ได้เจอใครเลยสินะ”
“ ศิไม่ค่อยได้เจอใครเลย ก้อคุณปิยะอยู่ใกล้แค่นี้ยังไม่เจอกันเลย แล้วคนไกลๆจะเจอได้ไงคะ” หล่อนกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ ยังงั้นไม่ได้ละ ผมยกข้าวไปทานกับคุณดีกว่านะครับ รอสิบนาที” ปิยะสรุปก่อนวางสายไป
สักพักใหญ่ก็มีเสียงลากรองเท้ารีบๆเดินมาเคาะห้องก่อนเปิด ศิรินทร์ยืนรับหน้าอยู่ในห้อง
“ มีอะไรพิเศษคะวันนี้” หล่อนถามอีกทีที่เขาตั้งใจมา
“ บอกแล้วไงครับว่าไม่มีอะไรพิเศษ มีแต่ไม่พิเศษเลย คือมันไม่มีอะไรเลย มันเลยเหงาครับ ขอสารภาพคุณศิเลย”
“ อ้าวคุณธีระไปไหนเสียล่ะ”
“ เห็นว่าจะไปค้างกับใครไม่รู้สองคืน ผมก็เตรียมใจแล้ว แต่มันยังไงๆไม่รู้ เดี๋ยวนี้เงียบๆนานไปหน่อยชักไม่เห็นใครก็เลยนึกถึงคุณศิ”
“ งั้นไปทานในครัวกัน ศิเองก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ” หล่อนเดินนำไปครัว
“ ผมมีข้าวมาเผื่อไม่มากหรอก แต่กับข้าวมาก เห็นไหมผัดหัวใจหมูทั้งแพ็ค คงพอนะ ถ้าจะให้ดีทอดไข่หน่อย คุณศิมีไข่ไหม”
“ มีประจำอยู่แล้วค่ะ” หล่อนหาจานสองที่ แก้วน้ำ ปิยะรีบทอดไข่กลิ่นหอมหวนชวนหิวได้ทันทีเลยทีเดียว เมื่อนั่งลงจะทานศิรินทร์ก็ให้นึกถึงคนไทยพลัดถิ่นอีกคนขึ้นมา เขาคงช่วยตัวเองได้หรอก
“ เชิญเลยค่ะคุณปิยะ น่าอร่อยจังไข่เจียวนี่”
ข้าวถูกแบ่งสองใส่จานโดยจานของศิรินทร์น้อยกว่าเป็นของผู้แบ่ง ปิยะตักอาหารเหมือนอย่างคนหิว
“ หิวเหรอคะ”ศิรินทร์อดถามไม่ได้
“ครับ กลางวันยังไม่ได้ทานอะไรเลย”
“ ตายละยังมาแบ่งให้ศิอีก” หล่อนโวยวายอย่างเกรงใจ
“ ก้อ กับเยอะแยะนี่ครับ ผมหิวไม่มากหรอก เชิญเถอะผมยิ่งหาเพื่อนทานอยู่”
“ คุณศิถามจริงๆเถอะ ไม่นึกเหงาบ้างเลยหรือ ขนาดผมเฮ้วๆอย่างนี้ วันไหนไม่มีใคร มันเหงาบอกไม่ถูกเลยเชียว”
“ก็มีค่ะ แต่แหม จะให้ไปบอกใครได้ยังไง ศิฟังเพลงแล้วก็อ่านอะไรไปตามเรื่อง แต่ก็สบายใจดีค่ะ”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสองสามครั้ง
“ เอ.. ของใคร” ศิรินทร์พูดขึ้น
“ เดี๋ยวผมไปรับก่อน” ปิยะรีบออกจากครัวไป แล้วก็กลับเข้ามาบอก
“ คุณศิของคุณแน่ะ”
ศิรินทร์รีบลุกรู้ทันทีว่าเป็นใคร
“สวัสดีครับ ผมรบกวนหรือเปล่าครับ”
“ เปล่าค่ะ ทานข้าวหรือยังคะ”
“ ก็กำลังคิดว่าจะทานข้าวหรือขนมปังดีอยู่นี่และครับ”
“ งั้นก็ยังไม่ได้ทานสิคะ ศิกำลังทานข้าว” พูดแล้วนึกได้ว่าไม่ควรบอกไป
“ เหรอครับ ผมขอโทษที่รบกวน....” นึกถึงเสียงชายไทยที่มารับสายแล้วไปเรียกหล่อน ใจก็วูบลงไปนิดหนึ่ง
“ เชิญคุณศิรินทร์ไปทานต่อเถอะครับ”
“ ค่ะ แล้วศิจะโทรไปนะคะ” หล่อนกล่าวอย่างขอจบก่อน
ปิยะทานข้าวรออย่างช้าๆ
“ คนรู้จักมาจากเมืองไทยนะค่ะ”
“ ไม่ชวนมาทานข้าวด้วยกันล่ะครับ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ อยู่โรงแรมก็สะดวกแล้ว” หล่อนทานต่อจนกระทั่งอิ่ม ปิยะรีบเก็บจานชามให้อย่างรู้งาน
“ เดี๋ยวศิล้างเองนะคะ เชิญคุณปิยะที่ห้องก่อน ทานน้ำอะไรดีคะ น้ำชาหรือน้ำกล่อง”
“ ขอชาดีกว่านะครับ ผมต้มเองดีกว่า” ปิยะตั้งกาต้มน้ำเล็กๆในช่วงที่ศิรินทร์ล้างชาม
ปิยะนั่งคุยอยู่จนสองทุ่มจึงได้กลับไป ศิรินทร์เริ่มจะง่วงแต่ก็นึกได้ว่า ควรโทรไปถามสารทุกข์สุกดิบของแขกต่างบ้าน หาเบอร์โทรศัพท์ ดูลายมือตัวเลขห้องที่เขียนไว้ อยู่สูงทีเดียวชั้นสิบห้าแน่ะ
เสียงต่อสายเรียกกริ๊งแรกก็มีผู้รับแล้ว
“ สวัสดีครับ” เสียงทักมาอย่างมั่นใจ
“ ศินะคะ ทานข้าวหรือยังคะ”
…..มัวแต่ฟังเสียงทีพูดจึงตอบช้าไปนิด
“ คงทานเสร็จพร้อมๆกับคุณแหละครับ”
“ จะกะเก่งถึงขนาดนั้นเชียวหรือคะ”
“มั่นใจครับ เพราะทานแฮมเบอรเก้อร์ร้านฟาสฟู้ดใกล้ๆนี่เอง” เขาตอบพยายามไม่นึกว่าหล่อนทานอย่างไร
“ งานวันนี้ successไหมคะ”
“อ๋อ ซัคเซสครับ บอกแล้วไงครับ โชคดีอยู่แล้ว”
“คุยมากเดี๋ยวโชคหายนะคะ” อดพูดไม่ได้
“ คงไม่เร็วขนาดนั้นหรอกครับ คุณศิรินทร์ว่าผมขี้คุยสิท่า”
“ ยังไม่ได้ว่านะคะ” หล่อนยิ้มออกมา
“ โอเค ยังก็ยัง คุณศิรินทร์รู้ไหมครับ ข้างบนนี่วิวสวยจังเลย มองได้กว้างไปหมดทั้งเมือง”
“ ดีจังที่มีวิวสวยๆดูด้วย”
“ ใช่ครับกลางคืนไฟเต็มไปหมด แทนดวงดาวเลยแหละครับ”
“ ก็คงจะนอนดูดาวเพลินไปเลยนะคะ”
“ ถ้าเป็นไปได้ ไม่ทราบคุณศิรินทร์ได้เห็นหรือยัง อยากให้มาดูด้วยครับ”
“ ถ้าไปก็คงกลับยากหน่อย ตอนกลางคืนนะค่ะ กลางวันไม่มีปัญหาค่ะ”
“ งั้นไว้ผมจะไปส่งนะครับ วันหลัง”
“ ก็ได้ค่ะ”
“ ขอบคุณที่ช่วยให้ผมได้พูดภาษาไทยวันนี้ กู้ดไนท์นะครับ”
“ กู้ดไนท์ค่ะ”
เลิกงานวันนี้ถ้าอากาศดีกว่านี้อีกนิด ศิรินทร์ก็อยากจะเลยไปเยี่ยมแขกที่โรงแรมแต่ฟ้ามืดอากาศกลับเย็นขึ้นมาอีก หล่อนเปลี่ยนความคิดที่จะเลยไปเป็นกลับที่พัก เข้าห้องแล้วก็เลยนอนพักหลับไปนานจนตื่นมาอีกทีร่วมสามทุ่ม ลุกขึ้นแหวกม่านดูฟ้ามืดมิดไม่มีแม้ดาวสักดวงและคงไม่มีในท้องฟ้าซีกกะโน้นด้วย
ศิรินทร์ทำไข่ต้มทาขนมปังเป็นแซนวิซ ดื่มน้ำชาตามจนกระทั่งอิ่ม หยิบจดหมายวันนัดที่ได้รับวันก่อนมา อ่านและนึกถึงเรื่องที่จะเขียนตอบ หยิบปากกาจิ้มค้างอยู่อย่างนั้น นึกถึงเจ้าของจดหมายที่คงจะคร่ำเคร่งเตรียมสอบ ลุกขึ้นมาเปิดเพลงไทยฟัง ก็ให้นึกหวลถึงคนไทยอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก คง เอาตัวรอด หล่อนนึกสรุป เปลี่ยนไปล้างหน้าล้างตาแปรงฟันเสร็จก็กลับมานอนฟังเพลงสองสามจบ จิตใจล่องลอยไปตามเนื้อเพลง ลุกไปหยิบแมกกาซีนมาพลิกๆดูอย่างไม่รู้จะทำอะไรมากกว่านั้น เสียงคนเดินกุกกักอยู่ข้างนอกทั้งที่ดึกมากแล้ว ศิรินทร์เปลี่ยนเป็นเปิดวิทยุฟังเพลงบรรเลงสากลทำให้รู้สึกง่วงอีก หรือเป็นเพราะอากาศ รู้สึกว่าความขี้เกียจกำลังครอบตัวอยู่จึงล้มตัวลงนอนเมื่อราวสี่ทุ่ม
(มีต่อ)