💙 💝💗หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 31 💗💝💙



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวัสดีค่ะ ตอนนี้เป็นตอนที่ต่างคนก็ต่างกระวนกระวายใจ ด้วยความเกี่ยวข้อง ผูกพันกันมานาน เมื่อการจากจะเกิดขึ้น
หากได้มีโอกาสบอกความในใจสักครั้งคิดว่าผู้ที่ได้บอก ' รัก' กับใครสักคน สักครั้ง ย่อมนำมาซึ่งความสุขในขณะที่ได้กล่าวแน่แท้
ขอขอบคุณนักอ่านที่มาเป็นกำลังใจวางนิยายหอรักนี้ของ ' พลอยแดง' นี้นะคะ : สมาชิกหมายเลข 3228335 หลงรัก, The Mario
หลงรัก, WANG JIE หลงรัก, Lady Star 919 หลงรัก, GTW หลงรัก, จรัสภาพ ถูกใจ, ชุนเทียน หลงรัก, Soul Master หลงรัก,kasareev ซึ้ง, cnck4 หลงรัก, turtle_cheesecake หลงรัก, เสาวรส17 ถูกใจ

💓💞💓

“ เชิญครับ คุณจ้ำเข้าห้องเลย” ธีระเห็นยืนพูดอยู่ จึงกล่าวชวนและจึงนำอาหารไปที่ห้อง ศิรินทร์ยกอาหารที่ปรุงเสร็จตามมา

ปิยะรอน้ำต้มเครื่องในเดือดรอใส่เครื่องปรุงก็เสร็จ กลิ่นหอมตลบอบอวลเหมือนกัน ธีระตามมาดูอีกที

“ ระช่วยชิมหน่อยเดี๋ยวไม่แซ่บ” ปิยะบอก

“ เออ เข้าไปเถอะ น้ำแข็งพอนะ”

“ ไม่มีใครกินหรอก ดื่มเบียร์แล้วนี่” เขาเดินไปเอาเบียร์เผื่อคุณจ้ำด้วย ยกหม้อข้าวตามเข้าไปทุกคนนั่งเตรียมลงมือทาน คุณจ้ำราวกับเป็นแขกของวันนี้ เขาดูอาหารน่าทานไปหมด ขาดแต่ข้าวเหนียวนึ่งเท่านั้น เครื่องในต้มคงเหลือเก็บไว้ทานวันอื่นได้

“ เชิญทานอาหารได้แล้วครับ” ธีระเอ่ย ปิยะเคาะจานหนึ่งที เหมือนลั่นระฆังเริ่มชก

“ คุณศิครับ นั่งมองเฉยอยู่ได้ไง” ปิยะพูดทัก

“ ศิไม่นึกว่าจะมากเท่านี้ จำภาพไว้ด้วยค่ะ” หล่อนรับแก้วที่ธีระใส่โค้กส่งมาให้

“ ขอบคุณค่ะ” หล่อนกล่าวตามสายตาคุณจ้ำที่มองอยู่

คุณจ้ำตักลาบก่อน ศิรินทร์ตักส้มตำ ปิยะรีบลองชิมต้มเครื่องในที่ตนเองปรุงอีกที เพื่อความชัวร์ธีระมองทุกคนตักอาหารแล้วก็รู้สึกว่า ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสดี เขาตักส้มตำ มาใส่ปาก รสชาติดีทีเดียว มิน่าศิรินทร์ตักซ้ำโดยยังไม่ชิมอย่างอื่น ศิรินทร์คิดว่าทานส้มตำเป็นสลัดแล้วก็ทานลาบ ถึงไม่มีผักมาแนมมากมายแบบเมืองไทย สะระแหน่ช่วยให้รสชาติเหมือนมากๆต้มเครื่องในถูกตักแบ่งใส่ถ้วยที่เคยใส่ถั่วเขียวต้ม กลิ่นแรงเชียวแต่หล่อนรู้สึกว่าสะอาดและอร่อยเนื่องจากไม่เคยได้ทานนานแล้วไม่รู้กี่ปี

“ เป็นไงครับ” ธีระมองหล่อนอยู่

“สมอยากเลยค่ะ” หล่อนตอบธีระทำเอาเขายิ้มอย่างภูมิใจ

“อร่อยทุกอย่าง ระ แซ่บดีจริงๆ ขอบคุณคุณจ้ำนะครับ” ปิยะเคี้ยวลาบอย่างอร่อยถือใบสะระแหน่ในมือ

“ใครปรุงนี่” คุณจ้ำหันมองหน้าไปมา

“ พ่อครัวค่ะ” ศิรินทร์ตอบมองไปทางธีระ

“ ระ เอ๊ย ถ้าเป็นคนไทยโบราณ ก็พูดว่า แกงส้ม ต้มยำ ตำน้ำพริกได้ก็ออกเรือนได้แล้ว คือแต่งงานได้ ฝีมือเด็ดจริงๆ”คุณจ้ำกล่าวเท้าความ

“ งั้นศิก็แต่งงานไม่ได้สิคะ คุณธีระ” หล่อนกล่าวขึ้นมา

ปิยะแทบจะสำลัก คุณศินะคุณศิเล่นกันตรงๆเลยหรือนี่ ธีระทำหน้าปั้นยาก มองหล่อนอย่างมันเขี้ยวที่ทะลุกลางปล้องขึ้นมา

“แล้วทำไมต้องมาบอกผมด้วยล่ะครับ” ธีระหัวเราะหน้าเข้มขึ้นมา

“ ก็เห็นคุณธีระทำอาหารเก่งนี่คะ จริงไหมคะคุณปิยะ”

“ ผมไม่รู้” ปิยะลอยหน้าลอยตาพูด คุณจ้ำหัวเราะมองคนโน้นพูดทีคนนี้พูดที ลำดับความเข้าใจไปเรื่อยๆ

“ คุณจ้ำคะ ล้างชามได้นี่คงยังแต่งงานไม่ได้ใช่ไหมคะ”

“ ผมแค่ยกคำพูดหรอกครับ อย่างอื่นผมก็ไม่รู้.....” เขาทอดเสียงบ้าง

“ จริงนะคะ ศิทำไม่เก่งเลย” หล่อนบอกกับคุณจ้ำ

“ อย่าห่วงเลยครับ สมัยนี้ทำไม่เก่งจะได้ไม่อ้วน ดีไปอีกอย่างหนึ่ง” คุณจ้ำกล่าว

“ โหงวเฮ้งคุณศิดูไม่น่าจะล้างชามเป็นด้วยซ้ำไปนะครับ”

“หมายถึงว่าต้องถูบ้านกวาดบ้านอย่างเดียวใช่ไหมคะ” หล่อนซักต่อ

“ ไม่ใช่หรอกครับ อ้อ ไหนแบมือมาซิ” คุณจ้ำตั้งท่าราวกับหมอดู ศิรินทร์แบมือขวาให้ แต่ก็ถามว่า

“ มือไหนคะ”

“ทีละมือครับ” คุณจ้ำบอกขอโทษแล้วจับมือดูที่ฝ่ามือ พลิกดูด้านข้างดูลายเส้น แล้วก็ขอดูมือซ้ายอีก

“อ้าว ลายมือฝ่ามือสองข้างไม่เหมือนกัน เหมือนพวกถนัดซ้าย คือมีความพิเศษกว่าคนอื่น แต่เส้นข้างมือเหมือนกัน คุณศินี่ไม่ต้องล้างชามแล้วครับถ้าไปอังกฤษ” เขาเข้าเรื่องเลย ปิยะกับธีระหัวเราะก๊ากออกมาทันที

“ แหม หมอนี่ทายได้ทันต่อเหตุการณ์เสียจริงๆเลย บอกประเทศแม่นเผงเลย” ปิยะพูดขึ้นมา คุณจ้ำหัวเราะไปด้วย

“ เรียนหนังสืออย่างเดียวไหมคะ”

“คุณศิ พูดได้นา นี่นึกว่าไม่แม่นก็แล้วกันนะ” หมอมองหน้าหล่อนแล้วยิ้ม หล่อนก็ยิ้มไม่เชื่ออยู่แล้ว

“คุณศิคุณจะได้คู่นา” ศิรินทร์ฟังแล้วยิ้ม เพราะถ้าเป็นจริงก็ถือว่าเป็นเรื่องดี สีหน้าหล่อนเข้มขึ้น ปิยะสังเกตได้ ธีระจะ
รู้คิดไหมนะ เขานึก

“ แต่ดูๆจะมากนา หลายคนมายุ่งๆ ใช่ไหมครับ”

“ แหมศิจะไปรู้เหรอว่า มีใครมั่งแล้วจะมีกี่คน หมอก็ลองพูดสิคะ” ธีระกลืนอาหารฝืดคอ ยกเบียร์ขึ้นดื่ม มองดูหล่อนพูด

“ คุณศิเลือกเอาเหอะ มีสิทธิเลือกงานนี้น่ะ ก็ดีๆทั้งนั้น”

”หน้าเหมือนผมด้วยหรือเปล่าครับ” ปิยะแกล้งถาม

ศิรินทร์หัวเราะ

“ แหม ถ้าเห็นหน้าด้วย คงเลือกได้แม่นนะคะ จะได้ถามหมอว่าคนไหนดีไงคะ”

“อ้าวจริงๆนาคุณศิ คุณลองไปคิดๆดูเถอะ ดวงคุณไม่ตกต่ำหรอก อย่างอื่นก็ไม่ชัดเท่าคู่หรอก”

หล่อนอยากจะบอกว่าแม่น ถ้าธีระไม่อยู่ด้วย เมื่อเอามือมาดู เส้นมากก็จริง หล่อนไม่เชื่อมือหรอก เชื่อความจริงต่างหากเล่า

“ แล้วหมอดูอะไรได้อีกคะ”

“ดูว่าสวยไม่สวย แต่ไม่ต้องดูมือหรอกครับ” เขาพูด ธีระเลยได้หัวเราะบ้าง

“หมอดูคนมาดูบอกได้เลยใช่ไหม ว่าสวยไม่สวย” ปิยะบอก

“แหม รู้ทัน” คุณจ้ำพูดหัวเราะ

อาหารหมดไปจนใกล้จะอิ่มกันแล้ว

“คุณศิทานอีกสิครับ หาทานยากนะที่อังกฤษน่ะ” ธีระตักต้มเครื่องในใส่ถ้วยให้หล่อนอีก ทุกคนสนุกเพราะอาหารอร่อย
และเพราะเบียร์ด้วย

“คุณศิลักษณะคุณดูเป็นเด็กนะครับ มีคู่ควรจะหาผู้ใหญ่สักหน่อยจึงจะดีนะครับ”

“ แล้วถ้าหาไม่เจอล่ะคะ กับเด็กๆด้วยกันจะเป็นอย่างไรคะ”

“ลักษณะคุณดวงแข็งจะข่มเขานา”

“ ศิไม่ข่มใครหรอกค่ะ” หล่อนหัวเราะ

“ ครับก็ไม่เห็นดวงเขา แต่ลักษณะบางคนจมูกสิงโต เป็นใหญ่เป็นโตไงครับ”

“ งั้นพอแล้วละค่ะ เดี๋ยวศิเชื่อมากเลยมองหาแต่ผู้ใหญ่” หล่อนยิ้มเมื่อพูด

“พวกผมก็แย่นะซี่” ปิยะอุทธรณ์ขึ้นมา

“ ครับ ถ้าคุณศิไปอังกฤษผมก็แย่อยู่แล้ว ยิ่งไม่มีเพื่อนอยู่” ธีระพูดบ้าง

“ แล้วไม่คิดถึงเขาเหรอ” คุณจ้ำถามขึ้นมา

“ ครับ คิดถึง” ธีระตอบเสียงเรียบ

เงียบไปอึดใจหนึ่ง ทำเอาบรรยากาศซึมไปด้วย

“ ศิว่าจะไม่พูดแล้วนะคะ คราวก่อนพูดทีก็ซึมกันไปหมด” หล่อนกล่าวขึ้นมา

“ ศิเองก็ทำใจไม่ได้ ไม่เฉพาะคุณธีระคุณปิยะหรอกค่ะ ศิได้รับโทรศัพท์ว่าไปได้แล้วเมื่อวันอังคาร ศิยังดื้อดึงอยู่ว่า ไม่อยากรับรู้วันเปิดเทอมวันไหน ไม่ต้องบอกมา ให้บอกตอนถึงวันเลย แล้วศิก็จะไปเลย มันไม่ต้องมานึกว่าวันนั้นนะ อะไรอย่างนี้นะค่ะ”

หล่อนเปิดใจเล่าหมดหลังจากอึดอัดมานาน ธีระกับปิยะฟังเงียบไปทั้งคู่

“ แล้วรู้วันหรือยังครับ” คุณจ้ำถาม

“ คนบอกรู้แล้ว แต่ศิยังไม่ให้บอกศิค่ะ ไม่อยากได้ยิน ตอนนี้ต้องไปลงทะเบียน ให้คนทำแทนให้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องไปลงเองค่ะ”

สองคนยังนั่งฟังอย่างเงียบเชียบ หล่อนมองหน้าทั้งสองคนพูดว่า

“ ศิก็ยังอยู่อีกหลายวันค่ะ เชื่อเถอะ พรุ่งนี้อยากจะชวนคุณธีระไปดูที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยซ้ำไป อยากจะเรียนที่นี่ จะได้ถ่วงเวลาไปที่โน่นไงคะ”

ธีระให้รู้สึกดีใจ อย่างน้อย
หล่อนยังนึกถึงพวกเขา หล่อนคงไม่อยากไปจริงๆ ถึงพยายามหาทางที่จะยืดเวลาอยู่ต่อ นิธิคุณคงไม่ใช่อย่างที่ผมเข้าใจผิดไปหรอกนะ เขาอดรำพึงไม่ได้ ยัง..ยังมีอีกคนที่ธีระรู้เสมอว่า คงจะเป็นเขา คนใต้นั่นไง ที่หล่อนก็เพิ่งกลับมา
เฮ้อ.. เขาให้ลำบากใจเสียจริง ว่าหมดหวังไปแล้วเชียวนะ ยังมีเฮือกฮึดขึ้นมาอีก คุณจ้ำนั่งฟังเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ วัยหนุ่มสาวก็มักจะมีอะไรยุกยิกยุ่งเหยิงเสมอ ไม่ว่าเขาหรือใครต่างก็มีปัญหาใหญ่น้อยต่างกันไป เขาคิดว่าเรื่องหลังๆนี้เป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว เขาจึงขอตัวกลับ

“ ขอบคุณนะคะคุณจ้ำที่อุตส่าห์สงเคราะห์เครื่องในวัวให้พวกเราทานกัน แล้วก็ดูหมอให้อีกขอบคุณมากๆค่ะ” ศิรินทร์มองตาคุณจ้ำอย่างขอบคุณจากใจจริง

“ไม่เป็นไรครับ พวกเดียวกัน ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ไว้มีเลี้ยงช่วยบอกอีกนะครับ เต็มใจครับ”

“ คุณจ้ำแล้วไว้พบกันนะครับ” ธีระกล่าวบ้าง ปิยะถือโอกาสเดินไปส่ง

ธีระมองศิรินทร์ตรงๆ

“ คุณศิจะหาที่เรียนที่นี่จริงๆเหรอครับ”

“จริงสิคะ ต้องลองไปติดต่อดู อย่างน้อยยังได้ใบไปเทียบไงคะ”

“คุณศิคิดว่าจะไปกี่โมงล่ะครับ”

“ไม่ทราบว่าสักบ่ายสามโมงจะทันไหมคะ”

“ น่าจะทัน ธรรมดาพวกเรียนภาษาจะเรียนตอนเย็นๆนะครับ เพราะเรียนเป็นชั่วโมงไม่ใช่ทั้งวัน”

“งั้นศิเลิกงานสามโมงเย็น มาถึงนี่สามโมงครึ่งนะคะ”

“ คุณศิไม่ต้องเกรงใจ ผมไปรับที่ทำงานก็ได้ครับ”

“ศิไม่อยากให้ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ศิมาเองได้”

“คุณศิก็จะไปอยู่แล้ว อย่าเกรงใจอยู่เลยนะครับ ผมไปรอนะครับพรุ่งนี้”

“ ก็ได้ค่ะ”

ปิยะกลับเข้ามาในห้อง ไม่พูดจาดื่มเบียร์เงียบๆ เหมือนรอฟังสองคนคุยกันต่อ

“ ยะ ทานต่อซะจะได้เก็บ”

“ เอาเหอะ เดี๋ยวเก็บเอง”

( มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่