🐤🐣🐓หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 20🐓🐣🐤



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวัสดีค่ะ ความรักของศิรินทร์เดินทางมาถึงตอนที่ 20 แล้วนะคะ ผลการเม้นต์ในความรักที่ถาโถมติดกันอย่างผู้อ่านรับไม่ไหวด้วยมิได้อยู่ในขอบเขตของความดีที่คาดไว้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้จะไม่เคยมีความรักมาแผ้วพานกับชีวิตจริงของใครบางคนก็ตาม

นิยายเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นไปได้ของบางคนที่ไม่มีใครกล้าจะยอมรับและเปิดเผย คนที่มีรักซ้ำซ้อนแม้แต่นางงามก็อาจจะมีคู่หลายหน ความรักเป็นความสุข ถ้าสมหวัง หญิงและชายสิทธิไม่เสมอกันในสังคมไทย ศิรินทร์จะแก้ปัญหาที่สร้างด้วยอารมณ์อย่างไร เชิญติดตามต่อไปนะคะ ขอบคุณทุกการมาเยี่ยมเยือนและคอมเมนต์อย่างเปิดใจในข้อคิดค่ะ เป็นพลังให้วางนิยายครั้งละสามชั่วโมงต่อไปค่ะ : เปลวอัคคี หลงรัก, มัศยวีร์ หลงรัก, Na(นะ) ถูกใจ, tedta ขำกลิ้ง, turtle_cheesecake หลงรัก,
เสาวรส17 หลงรัก, WANG JIE หลงรัก, สมาชิกหมายเลข 868666 ถูกใจ, ชุนเทียน หลงรัก, The Mario หลงรัก,GTW หลงรัก

🌲🌳🌴🌵

หล่อนมองหน้าแบบไม่เชื่อในประโยคหลัง

“ ผมหมายถึง ถ้าเราอยากทำ เราก็ทำ คือมีอารมณ์ คนนะจ๊ะศิ มันมีแฟกเตอร์ไม่กี่อย่างหรอก อย่างเรากำหนดว่าสามอย่างพอ
เราก็จะรู้สึกพอ เราก็คือเรา เราไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับใคร เพราะมาตรฐานของใครก็ของคนนั้น อย่างผม ผมมีแล้วทุกสิ่ง ขาดแต่เวลา อีกสองเดือนนะจ๊ะ ทุกสิ่งจะมาพร้อมกัน ศิรอผมนะจ๊ะ รออย่างมีความหวังร้อยเปอร์เซ็นต์ได้เลย แล้วถ้านะ"... เขาจ้องตาหล่อน

" เกิดมีอะไรแถมมาด้วย อย่าลืมบอกผม โทรเลยนะจ๊ะ ศิโทรได้ทุกเวลา เขาจะตามผมเองแหละ ศิมีสิทธิโทรทุกเวลานะจ๊ะไม่ต้องเกรงใจ”

“ ศิว่าคุณไม่โชคดีถึงขนาด ขนาดจะมีของแถมหรอก ขนาดนี้ศิก็อิจฉาคุณจะแย่อยู่แล้ว ถ้าไม่นับตัวศิเองนะคะ”

เขาโอบหล่อน ในรถไฟก็เถอะ ไม่สนใจใครแล้ว เขาจูบหล่อนเร็วๆแรงๆหนึ่งที โอบไม่ปล่อย

“ คนอะไรอิจฉาแม้กระทั่งตัวเอง” เขาว่าหล่อน

“ ศิจ๊ะ เดี๋ยวถ้าเครื่องยังไม่ออก มีเวลาจะโทรมานะจ๊ะ เครื่องออกราวหกโมง แล้วผมขอนะจ๊ะ ผมอยากเจอศิทุกครั้งที่โทร”
เขาทำตาคาดคั้น

“ ถ้าคิดว่าคลาดกันจริงๆ ศิต้องโทรไปนะ แต่ศิรอดีกว่าไม่อยากให้ศิจ่ายค่าโทรศัพท์ และผมสัญญาว่าจะไม่เขียนจดหมาย จะโทรอย่างเดียว อันนี้เป็นการบ้านนะจ๊ะ ศิต้องหัดทำตามผมสั่งบ้างแล้วหละ ได้ไหมจ๊ะ”

“ คงได้ “ หล่อนพูดเสียงอ่อน เขาเลิกคิ้วในหางเสียงหล่อน

“ ก้อ สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว” เขารัดหล่อนแน่น ยิ้มกับคำพูด

“ ใช่จ้ะ สถานการณ์จะไม่เปลี่ยนไปไหนอีกแล้วนะจ๊ะ ผมขอให้หยุดอยู่แค่นี้”

เสียงประกาศขบวนรถเที่ยวนี้ที่จะผ่านแฟรงเฟิร์ตจะออกแล้ว ศิรินทร์รีบลุกขึ้น นิธิลุกเดินมาส่งก่อนลงจากรถก็กอดกันแน่น

เสียงนิธิบอกอย่างแผ่วเบาด้วยอาลัยว่า

“ ผมรักศิของผมมากที่สุด”

“ ศิรักคุณค่ะ” หล่อนทัดทานความรู้สึกไว้ไม่อยู่ น้ำใสเอ่อท่วมตาเมื่อแยกจากกัน

“ ศิต้องเข้มแข็งสิจ๊ะ นะ ผมจะโทรเวลาเดิมนะจ๊ะ”

รถไฟเคลื่อนกระตุกนิดหนึ่งแล้วก็ออก หล่อนกระพริบตาด้วยใจหาย น้ำตาร่วงริน มันทรมานใจนิธิยิ่งนักเมื่อได้เห็น มือที่โบกก็ค้างอยู่อย่างนั้นดวงตาที่เพ่งมองหล่อนจนเหลือแค่จุดเล็กๆสุดสายตา

ศิรินทร์กลับถึงหอพัก เปิดประตูไล่อากาศอับออกเหมือนดังเคย ทรุดตัวลงนอนหลับตาที่โซฟา หล่อนรู้สึกระโหย โรยแรง
ด้วยจิตใจเหมือนจะติดกับเขาไปด้วย สักพักก็คงชิน หล่อนบอกตัวเอง ชินเหมือนที่เคยๆอยู่ เคยเป็น เดี่ยวนี้กลับมาที่นี่แล้ว ก็ต้องเป็นคนเดิม อยู่มาได้ตั้งเป็นปีๆ ไม่น่าจะยากที่จะอยู่
เหมือนขาดๆอะไรไปสักหน่อย นั่งนึกๆไปเรื่อยๆ

เสียงออดโทรศัพท์เรียก หล่อนลุกออกไปรับ

“ ศิค่ะ”

“ ศิจ๊ะ เป็นอะไรไป นัดโทรมาหลายหนแล้วนะจ๊ะ ป่วยหรือเปล่า”

“ ศิไม่ได้ป่วยค่ะ ศิไม่ได้อยู่ห้องตลอดเวลา นัดโทรมาเมื่อไรจ๊ะ ศิว่าจะโทรไปค่ำนี้ ทำรายงาน
เสร็จแล้วหรือคะ” หล่อนพูดตามสมองที่ยังจำเรื่องราวเขาได้

“ วันจันทร์ก็ส่งได้แล้ว นัดไปเดินซื้อของกับชัยยศมา มาถึงก็เลยโทรหาศิอีก ไม่ว่าจะโทรตอนเย็นๆ ศิเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ”

“ ศิก็ เอ้อ จะบอกนัดว่าไรดีล่ะ เอาเป็นว่าศิแข็งแรงดี แข็งแรงมากไม่ป่วยง่ายๆหรอก ศิกำลังคิดอะไรเรื่องเรียน แล้วก็จะส่ง
ผลบอกไปทางบ้าน บอกใครๆนะค่ะ”

“ ศิต้องบอกนัดก่อนนะจ๊ะ ได้ผลว่าไงแล้วแต่ศิ นัดตามใจศิจ้ะ”

“ แล้วถ้านัดทำรายงานเสร็จ จะไปหาข้อมูลให้ศิ แล้วนัดจะโทรหรือส่งมานะจ๊ะ ศิมีอะไรโทรมานะจ๊ะ นัดเป็นห่วง”

“ ศิขอบคุณนัดค่ะ ถ้าได้เรื่องยังไงศิจะเขียนไปนะคะ นัดอย่าห่วงศิเลย ศิฝากคิดถึงถึงคุณชัยยศด้วยค่ะ”

“ แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ ศิ นัดดีใจที่ศิสบายดี รักศิจ้ะ”

“ ศิขอบคุณ สวัสดีค่ะนัด”

หล่อนไม่บังอาจจะบอกรักวันนัดได้ ความรู้สึกมันเป็นไปเอง หล่อนหันกลับมาเข้าห้อง คิดว่าสักครู่หนึ่งจึงจะไปหาดูว่ามี
อะไรทานบ้าง ล็อกห้องแล้วหล่อนก็นอนหลับตา จนหลับไปจริง ด้วยความคิดเลื่อนลอย

ก็อก...ก็อก...

ศิรินทร์รู้สึกตัวเมื่อเสียงเคาะหลังสุด หล่อนสลัดความง่วงออก ลุกไปเปิดประตู ปิยะยืนจังก้าอยู่

“ อ้าว ..ขอโทษคุณศินอนหลับอยู่เหรอ ผมไม่รบกวนหรอกฮะ”

“ โอ ไม่เป็นไรค่ะ ศิเผลอหลับไป โอ้โฮ มืดแล้วหรือนี่”

“ ไม่สบายหรือเปล่าครับ คุณศิไม่หลับกลางวันนี่”

“ ก็ยังไงไม่ทราบ คุณปิยะมีอะไรก็ว่ามาเลยค่ะ”

“ จะชวนไปทานข้าว คุณศิไปไหนมาฮะ ไม่เจอเลย”

“ ไปต่างเมืองมาค่ะ กลับมาแล้วก็ไม่ได้ไปไหน”

“ งั้นเดี๋ยวเชิญเลยนะครับ” ปิยะพูดก่อนจะรีบจากไป

ศิรินทร์ถอยปิดประตู มานั่งลง รู้สึกเหมือนยังตั้งสติไม่ได้เลยคล้ายคนเมาค้าง หล่อนไม่อยากไปร่วมทานอาหารเลย
แต่ว่าลืมปฏิเสธเขาไป อย่างไรก็ต้องฝืนไปจนได้

เสียงทานอาหารกันดังออกมานอกห้อง ก็แบบเดิมคือนั่งทานกับพื้นห้อง นอกจากเจ้าของสถานที่แล้ว ยังมีหลายคนที่หายหน้าไปก็กลับมารวมกลุ่มกันอีกได้ สี่ห้าคน ทุกคนมองศิรินทร์เป็นตาเดียว

“ สวัสดีทุกคนค่ะ” ศิรินทร์ทักสวัสดีรวมทั้งหมด

“ ทำอย่างไรถึงมาได้พร้อมหน้าล่ะคะ” หล่อนถามรวมๆ

“ ทานไปหนหนึ่งแล้วครับ พอดีคุณศิไม่อยู่ เมื่อกลางอาทิตย์” เสียงตอบจากคนหนึ่ง

หล่อนไม่ตอบ เพราะไม่มีคำตอบในทันที เหลียวดูเห็นธีระวุ่นตักข้าวให้หล่อนผู้เพิ่งมาใหม่

“ เชิญครับ” ธีระเชื้อเชิญ หมายถึงหล่อนต้องขยับเข้าไปนั่งข้างเขาที่คนอื่นรีบแหวกทางให้

“ ไม่ได้ทานข้าวด้วยกันเสียนาน” เขาเอ่ยเบาๆให้ทุกคนได้รับรู้ ด้วยคิดถึงอยู่ในใจระยะนี้

กับข้าวหลายอย่าง ผัดเผ็ดเนื้อ ผัดหอยแมลงภู่ ลาบหมู ผัดบรอคโคลี่อีกอย่างหนึ่ง และแกงจืดผักกาดขาวหมูสับ

คนอื่นๆดูจะเงียบไปกันมาก เพราะห่างเหินไปนาน หรือว่าสุภาพขึ้นเมื่อมีสุภาพสตรีมาร่วมวงด้วย

“ คุณศิสบายดีหรือครับ” เสียงเอ่ยถามกลางวง

“ สบายดีค่ะ ถึงไม่ค่อยได้เห็นกันแต่ก็ยังอยู่ค่ะ” หล่อนตอบและออกตัวที่เงียบหายไป

“ เทอมหน้าจะมีคนย้ายไปอีกคนหนึ่ง แต่ก็อาจจะมีคนมาแทน ต้องดูก่อน” มีเสียงพูดมา

“ ใครล่ะ “ เสียงถาม

“ กฤช จะย้ายไป ฮาเก้น ใกล้ ดอร์ทมุน ไปแค่นี้เดี๋ยวก็มาได้ ไปใหม่ๆไม่มีเพื่อนหรอก” ปิยะกล่าว

“ ย้ายไปย้ายมาก็พอดี ไม่งั้นสมาชิกน้อย มันเหงาว่ะ” ธีระเอ่ย

“ ปีนี้นายเหงามากกว่าทุกปีนะ “ ปิยะแซว คนอื่นยิ้มไปตามๆกัน

“ คนมันโตขึ้นนี่ อะไรก็ต้องมีมากขึ้นน้อยลงมั่ง” อีกคนช่วยพูดแก้ให้

“ ดีนะ ยังเรียนกันอีกนาน มิฉะนั้นคงต้องแยกกันไปทีละคนสองคน” อีกเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น

ศิรินทร์นั่งฟังเงียบ ตัวเองเข้าข่ายย้ายแน่ แต่ไม่รู้ว่าไปไหน ก็เลยยังไม่อยากเป็นข่าว และไม่อยากพูดถึงสาเหตุด้วย

อาหารพร่องไปมากแล้ว ธีระจัดการไปเติมจากในครัว

“ คุณศิรับอะไรเพิ่มไหมครับ” เขาบริการให้หล่อนด้วยเห็นว่าหล่อนมาจึงอยากได้ยินเสียงโต้ตอบจากหล่อนบ้าง

“ ศิชักอิ่มแล้วค่ะ” หล่อนทานมากเพราะธีระตักข้าวให้มาก แล้วก็หล่อนไม่ได้ทานข้าวมาหลายวันแล้วด้วย

“ เดี๋ยวมีถั่วเขียวต้มน้ำตาลนะ พรรคพวก” ปิยะชิงบอกรายการของหวาน

“ โอ้โฮ ทำไมวันนี้มีของหวานด้วยเหรอ” คนพูดๆอย่างยินดี

“ แน่ละ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศ ทำง่ายจะตาย แต่ลืมทำว่ะ” ปิยะพูด

“ คุณศิรับเลยไหมฮะ” ธีระถามเบาๆ

“ รอดีกว่าค่ะ” หล่อนกล่าวยกแก้วน้ำดื่ม ปิยะหันมามองนึกได้ว่าหล่อนเพิ่งตื่นมา แล้วเขาก็ลืม
บอกหล่อนว่ามีเพื่อนๆอีกด้วย แต่หล่อนก็มิได้แสดงหน้าตาแปลกใจอะไรออกมา เมื่อเห็นวงล้อมคนรอบอาหาร

“ ก็เปลี่ยนบรรยากาศดีนะ” หล่อนกล่าวกับปิยะ

“ ครับ นานๆทีผมว่าดีฮะ ตอนนี้ห่างๆไป ต่างคนต่างไปเที่ยว หน้าร้อนนี่ครับ”

หลายคนอิ่มแล้วก็ยกจานชามไปไว้ในครัว ขากลับเข้ามาก็ยกถ้วยใส่ถั่วเขียวต้มกลับมาด้วย ถ้วยใหญ่จัง ศิรินทร์นึก

“ คุณธีระ ศิทานไม่หมดหรอกค่ะ มากจริงๆ” หล่อนบอกเขาเมื่อเขาเอาถ้วยมาวางให้ตรงหน้าหล่อน

“ เหรอครับ “ เขามองหน้า รีบใช้ช้อนตักออกมาใส่ถ้วยของเขา แค่นี้สายตาทุกคู่ก็สนใจแล้ว

“ แล้วคุณทานหมดเหรอ” ศิรินทร์นึกขำ ถามออกไป ปริมาณมากจนไม่น่าทานหมด

“ ก็ไม่นึกว่าจะหมด เอ้า ใครเอาอีก” เขายื่นหน้าไปดูถ้วยคนอื่นๆ

“ เชิญเหอะ” ปิยะว่า “ จะได้นอนหลับสบาย”

“ จะบ้ารึ นอนท้องปริไม่ว่า “ ธีระตอบ

“ จะไปรู้เรอะ คิดว่าอะไรมันพองได้ ขยายได้”

“ ตีสำนวนอีกแล้วนะพวก” ธีระต่อข้อความ หลายคนนั่งหัวเราะ นึกว่าเริ่มรายการวาที ช้าไปหน่อย อาหารจวนจะเลิกแล้ว

“ วันนี้นึกว่าจะทานแบบสันติ นะคุณศินะ” ปิยะหาพวก

“ นานๆฟังทีสนุกดีค่ะ” หล่อนนึกอย่างนั้นจริงๆเมื่อแว่บนึกไปถึงหอโน้น ทางใต้ก็แซวกันทำนองนี้

“ ใครมีรายการโม้อะไรก็โม้มา อย่ากินแล้วอมพะนำอยู่ ที่หายๆไปน่ะไปทำวีรกรรมอะไรมาบ้าง” ปิยะถามไปทั่ว

“ อย่าเพิ่งเอาเรื่องเก่าเลย มีแต่ว่าจะมีใครไปเดนมาร์คมั่ง ที่ว่าจะไปๆน่ะ”

เหลียวซ้ายมองขวาก็เห็นยกมือหนึ่งคน พยักหน้าอีกสองคนรวมทั้งปิยะด้วย
(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่