🍤🍪🌭หอรักริมไรน์ ชีวิตนักเรียนไทยในเยอรมัน (อยู่เมืองฝรั่ง) 24 🍯🍧🍛



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สวัสดีค่ะ ในบรรยากาศที่คนในหอพักดำเนินไปตามปกติ แขกที่มาเยี่ยมเยือนก็เปลี่ยนหน้ามาทำให้สองหนุ่มเจ้าถิ่น
ได้มีอะไรแปลกใหม่กว่าทุกๆวัน เรื่องราวค่อยๆนำไปสู่บทพิสูจน์ในความรักของพวกเขาทั้งหลาย เรื่องที่เกิดอยู่จริงบน
สถานที่หลักๆ นักแสดงที่สร้างขึ้นมาไม่มีส่วนไหนพ้องกับใคร เลยมิต้องกังวลในการผูกเรื่อง ซึ่งอ่านตรวจทวนคำผิดทีไรก็
ยิ้มทุกที ในบทบาทตัวละครของ ' พลอยแดง' ที่สามารถบีบคั้นความรู้สึกผู้อ่านได้บ้าง ยินดีกับคอมเม้นต์นะคะ วางนิยายไปก็ยิ้มไป ถึงแม้บางตอนจะดูเคร่งเครียดสักหน่อย แต่ก็ดีใจที่วางมาได้ค่อนเรื่องแล้วค่ะ ขอบคุณท่านผู้อ่านจากใจจริงค่ะ :
ชุนเทียน หลงรัก, Memories pink ถูกใจ, แก้วกรกช หลงรัก,WANG JIE หลงรัก, tedta ถูกใจ, มัศยวีร์ หลงรัก, Soul Master ถูกใจ, turtle_cheesecake หลงรัก, สมาชิกหมายเลข868666 ถูกใจ, kasareev ถูกใจ. GTW หลงรัก, Na (นะ) ถูกใจ
🍄🍊🍋

เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้นหน้าห้อง

“ คงของศิน่ะค่ะ” หล่อนบอกเขาเมื่อขยับตัว

“ ศิค่ะ” หล่อนตั้งใจฟังปลายสาย

“ ผมธีระครับคุณศิ วันนี้อยู่ทั้งวันหรือเปล่าครับ”

“ตอนนี้อยู่ค่ะ คุณธีระมีอะไรคะ”

“ คือ เย็นนี้ผมกับยะอยากเชิญมาทานฟองดูว์นะครับ ก็เลยโทรมาเช็คดูก่อน”

“มีอะไรพิเศษคะ ถึงทำอาหารหรูอย่างนั้น”

“ไอเดียผมเองครับจะได้ไม่น้อยหน้ายะเขา เขาคุยทุกวันเลยว่าเป็ดเขาอร่อย”

“ เข้าใจเล่นกันนะคะ “ หล่อนนึกนิยมในความเป็นเกลอของทั้งสอง

“ ตกลงคุณศิจะมานะครับ”

“ คุณธีระคะ ศิเองน่ะโอเคอยู่แล้ว แต่ศิมีแขกอยู่ แล้วไม่ทราบว่าเขาจะกลับกี่โมงค่ะ” หล่อนไม่ได้บอกว่าหล่อนควรจะเลี้ยงแขกด้วย

“ อ้าว เหรอครับ เอ้อ ถ้าคุณศิคิดว่าพามาได้ก็เชิญนะครับ ผมก็ทานกันง่ายๆนะครับ” เขานึกถึงแขกคนที่น่าเกรงใจคนนั้นขึ้นมา และรู้สึกผิดหวัง

“ ศิเกรงใจ คือจะเป็นภาระคุณธีระมากเกินไปอีก แต่คุณนิธิเขาเป็นคนง่ายๆน่ะค่ะ”หล่อนบอกชื่อให้เขารู้ว่าไม่ใช่คนที่เขาเคยพบ

“ งั้นเชิญเลยนะครับ” ทำอย่างไรได้ล่ะ รับแขกถนัดอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่แขกของหล่อนคนนั้น เขาเกร็งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“ ศิจะไปตอนไหนดีคะ”

“เอ้อ ครั้งแรกคิดว่าเผื่อคุณศิมาช่วยหั่นอะไรให้มันสวยน่ากินขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง แต่ถ้าคุณศิไม่ว่าง ผมก็ช่วยกันเองได้ครับอ้อ แขกคุณศิดื่มเบียร์ด้วยใช่ไหมครับ จะได้เตรียมถูก”

“คนนี้ไม่ดื่มค่ะ” หล่อนหัวเราะก่อนตอบอย่างชัดเจน

“ งั้นเป็นโค้กก็แล้วกันนะครับ”

“คุณธีระอย่ากังวลกับแขกของศิมากนักเลย ศิเกรงใจแย่”

“ก้อ ผมว่าคุณศิเป็นแขกรับเชิญพิเศษในวันนี้ แล้วคุณศิมีแขกอีกก็ต้องไม่ให้เสียชื่อคุณศิสิครับ” เขาพูดจากความจริง

“ ศิต้องขอบคุณ คุณธีระอย่างมากในวันหลังนะคะ” หล่อนรู้สึกขอบคุณในเจตนาของเขา

“ สำหรับคุณศิไม่เป็นไรหรอกครับ แล้วเจอกันนะครับ”

“ ค่ะ ศิจะไป”

สีหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่เดินกลับเข้าห้องมา นิธิมองด้วยคำถาม

“ เพื่อนน่ะค่ะ เขาเชิญศิไปทานฟองดูว์เย็นนี้” หล่อนมองหน้าเขามั่ง

เขาฟังนิ่งเหมือนรอฟังอยู่ ก็หายไปตั้งนาน

“ ไม่ถามหรือคะว่าที่ไหน” หล่อนมานั่งใกล้ๆ

“ หน้าตาศิก็บอกอยู่แล้วว่าต้องเล่าให้ผมฟัง” เขายิ้มด้วยแววเอ็นดู

หล่อนยิ้มมากขึ้น

“ วันหลังคุณจะรู้ว่า คุณเดาศิผิดมั่งแหละ”

“วันไหนก็ช่วยบอกด้วยนะ เพราะผมมั่นใจว่าถูกทุกหน”

หล่อนหัวเราะแววตาสดใสขึ้นมา

“ แล้ววันนั้นคุณก็อาจจะไม่อยากฟังก็ได้” หล่อนพูดคาดการณ์

“ผมอยากให้ถึงวันนั้นจังเลย ศิดูมั่นใจจังนะ”เขายิ้มในท่าทีของหล่อน เป็นท่าของคนที่มั่นใจในตัวเองในคำพูดที่พูดออกมา

“ ศิรับปากเขาว่าจะไป” หล่อนพูดแค่นี้ เดินไปหยิบแก้วแล้วก็ออกไปเอาน้ำแอปเปิ้ลจากในครัวมาส่งให้เขา เขารับมาดื่ม เอื้อมมือวางแก้วไว้ที่ตู้ด้านข้าง แล้วเดินไปที่ระเบียง ศิรินทร์หยิบเสื้อแจ็คเก็ตที่เขาวางบนโซฟามาใส่ไม้แขวนที่หน้าตู้เสื้อผ้า หล่อนหยิบกระป๋องซุปข้าวโพดออกมาจนหมดถุงวางเรียงไว้ใกล้ทาร์ตแป้งขอบแข็งที่เขาซื้อมาสองชิ้น

ศิรินทร์นึกไม่ออกว่าจะพาเขาไปไหน นั่งอยู่อย่างนี้เหรอ อ้อ ดูเอกสารไงล่ะ หล่อนเพิ่งนึกขึ้นได้ แล้วหยิบกุหลาบที่วางอยู่ไปใส่แก้วน้ำมาตั้งคืนที่ แล้วเปิดตู้เอาเอกสารที่อ้อยส่งมาให้ เป็นรายชื่อโรงเรียนเลขานุการิณี หันมาอยากเรียกเขารู้สึกติดขัด
ในชื่อของเขา เขามีชื่อเล่นบ้างไหมนะ หล่อนควรจะเรียกให้สั้นง่ายกว่านี้นะ

“ คุณนิธิคะ “ หล่อนเรียกเขาเต็มปากเต็มคำ เขาหันมาด้วความรู้สึกในคำเรียกที่เน้นเป็นพิเศษ หล่อนยิ้ม เขาคิดว่าหล่อนหายป่วยเร็วจัง อ้อ หล่อนไม่ได้บอกว่าป่วยนี่นะ

“ ลองเดาสิว่า ศิจะพูดอะไร” หล่อนพูดเมื่อเขามาใกล้

“ พูดเรื่องเมื่อกี้ต่อนะซี” เขาโอบเพราะท่าทีของหล่อน เขาเดาไม่ผิดหล่อนหมุนตัวมาอยู่กับอกเขา

“ คุณเดาผิดค่ะ” หล่อนยิ้มมองตาเขาด้วยแววขี้เล่นของหล่อน

“ ศิอยากจะถามว่า คุณน่ะ คุณนิธิน่ะมีชื่อเล่นหรือชื่ออื่นที่เรียกง่ายกว่านี้ไหม”

“ มีซิ” เขายิ้มเหมือนเพิ่งนึกได้

“ อะไรคะ” หล่อนกอดเขาอย่างอารมณ์ดี เงยหน้าขึ้นมาถาม

“ ที่รักไง” เขากอดหล่อน หัวเราะอย่างชอบใจ ศิรินทร์หัวเราะดังกว่าที่เคยได้ยินมาก่อน

“ เข้าใจตอบนะคะ” หล่อนหัวเราะอยู่กับอกเขา วันนี้คงเป็นวันดีสำหรับเขาๆให้นึกขึ้นมาอย่างคิดได้

“ แล้วศิจะเรียกไหมล่ะหือ”

“ มากไปค่ะ เอาที่ธรรมดาหน่อย”

“ ผมอยากเป็นคนพิเศษสำหรับศินี่”

“ผู้ชายควรจะเรียกผู้หญิงก่อนไม่ใช่หรือคะ”

“ เรียกได้ทั้งนั้นแหละ ถ้าเราอยากเรียก แล้วผมก็อยากเรียกศิที่รักด้วยได้ไหม”

“ เรียกเมื่อไรคะ”

“เดี๋ยวนี้ก็เรียกได้ แต่ผมคิดว่าจะเริ่มเรียกตอนไปอยู่อังกฤษด้วยกันรู้ไหม”

“ ศิอยากได้ชื่อเรียกตอนนี้ก่อนค่ะ”

“ อยู่อังกฤษเขาเรียกผมว่าเบ็น ศิเรียกด้วยก็ได้”

“ก็ดีค่ะ จะได้มีชื่อเดียวที่เรียกง่าย อ้อ แล้วศิเรียกเบ็นเฉยๆได้ไหมคะ”

“ ได้จ้ะ ไม่ต้องเติมที่รักลงไปก็ได้”

“ คุณน่ะมากไปใหญ่แล้ว” หล่อนหัวเราะอีก มิน่าอากาศวันนี้โปร่งจังเขานึก หล่อนมองตาเขาอย่างถูกใจ เขามองตอบ
ด้วยรู้สึกเข้าใจกันและกัน เขาอดไม่ได้ที่จะต้องจูบหล่อนสำหรับความรู้สึกที่ดีอย่างมากที่เกิดขึ้นเดี๋ยวนี้

“ ศิมีความสุขจังค่ะ” เขาได้ยินหล่อนพูดเบาๆ ไม่ใช่จากรสจูบของเขาหรอก เขารู้ หล่อนมีความสุขของหล่อนอยู่แล้วในอารมณ์

“ ผมเพิ่งจะได้ยินศิพูดเดี๋ยวนี้เอง”

หล่อนถอยออกมา ด้วยรู้สึกว่าอยู่ในอ้อมกอดเขานานไปแล้ว

“ ศิอยู่อย่างนี้มีความสุขก็อยู่ได้นี่จ๊ะ” เขาพูดเมื่อเห็นว่าหล่อนค่อยถอยห่าง

“ คุณเมื่อยแย่เลย” หล่อนดึงแขนเขามานั่ง

“ เดี๋ยวลืม ศิว่าจะเอาเอกสารให้คุณน่ะค่ะ”

“ ดูเมื่อไรก็ได้ ยังมีเวลาอีกแยะ ไม่ใช่หรือจ๊ะ”

“ศิกลัวลืมค่ะ”

“ไม่ลืมหรอก ผมมีงานอย่างเดียวในวันนี้ คือดูเอกสารของศิ อ่านเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ เวลาทั้งหมดเป็นของศิจ้ะ”

“เป็นแขกที่ดีนะคะ รู้ว่าต้องทำอะไรมั่งที่มานี่น่ะ”

“อ้าว นอกนั้นก็ต้องแล้วแต่เจ้าภาพ พูดเหมือนครั้งก่อนไหมจ๊ะ”

“ยังจำได้หรือคะ”

“ ผมจำทุกอย่างเกี่ยวกับศิได้ แล้วยังจำเรื่องอื่นได้อีกแยะ”

หล่อนหยิบซองเอกสารส่งให้เขาทั้งซอง แล้วหล่อนก็นอนหนุนตักเขาอย่างถือสนิท นิธิมองด้วยสายตาพอใจ ขยับตัวให้หล่อนนอนให้สบายขึ้น หลังพิงพนักโซฟา เทเอกสารลงข้างตัวมาอ่านทีละใบ เขารู้ว่าหล่อนมองเขา กระดาษสี่ห้าแผ่นเป็นชื่อโรงเรียนที่ตั้ง วิชาที่สอน แตกต่างกันตรงวิชาที่สอน เวลาเปิดเรียน ระยะทางห่างจากลอนดอนเท่าไรเป็นโรงเรียนเลขานุการทั้งนั้น ที่เป็นวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่สอนวิชาดีไซน์ที่หล่อนพูดถึงไม่มี เขาคงต้องไปสอบถามดูให้หล่อน

หล่อนนอนมองเขาสังเกตเขา เขาก็รู้จึงเลื่อนมือมากุมมือหล่อนที่วางบนอกมาบีบเบาๆเหมือนตอนดูคอนเสิร์ต หล่อนจำได้ว่าตาเขาก็ดูคอนเสิร์ตอยู่นั่น เขาคงแยกสมาธิได้ดี เช่น คนตีกลองไปร้องเพลงไป หล่อนนึกเปรียบเทียบในใจ

“ เอ้า เสร็จแล้ว” เขาวางเอกสารลงมองหน้าหล่อนๆจึงขยับจะลุก เขาจับตัวไว้ เขายิ้ม

“ ผมพูดว่าเสร็จดูว่าศิจะทำอะไรผม เห็นจ้องอยู่นานแล้วนี่ แล้วไง”

หล่อนขัดเขินที่เขาพูดมาตรงๆ

“ศิ เอ้อ ก็ดูคนชื่อเบ็นไงล่ะ”หล่อนเลี่ยงไปดื้อๆ

“งั้นเบ็นก็จะแนะนำตัวเองแล้วนะ ศิยังไม่รู้จักใช่ไหม มองใหญ่เลย” เขาก้มหน้ามาหาหล่อน

“ โอย ขี้โกง” หล่อนโวยวาย หันหน้าเข้าหาตัวเขา ซบอย่างอบอุ่นดังใจปรารถนา เขาหัวเราะขำหล่อน ยังเล่นเป็น
เด็กอยู่เลย หล่อนนิ่งอยู่อย่างนั้น เขามองร่างที่ตะแคงทอดยาวออกไป ร่างนี้ที่เขาได้โอบกอดด้วยความคิดถึงอย่างมาก

วันนี้หล่อนทำราวกับว่าเป็นวันของหล่อน เขาลูบท่อนขาที่สวมกางเกงยืดหนาเบาๆ

“ ศิง่วงหรือเปล่า”

หล่อนสั่นศีรษะ แล้วค่อยๆถดตัวลุกขึ้น

“ศิเอาเปรียบมากไปหรือเปล่าคะ”

“ ไม่หรอกจ้ะ ศิคงดีขึ้นแล้วใช่ไหม”

หล่อนส่งสายตาเหมือนต่อว่าเขากลายๆ เขาขมวดคิ้ว
( มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่