เสียงเพลงชาติไทยตามโทรโข่งภายในโรงเรียนดังขึ้น กำลังบอกเวลากับทุกคนให้เตรียมตัวเข้าแถวเคารพธงชาติ นักเรียนและครูเมื่อได้ยินก็เริ่มเดินไปยังจุดหมายเดียวกัน คือบริเวณลานโดมขนาดใหญ่หน้าเสาธง
ตรีรัตนาเดินสง่างามพร้อมกลุ่มเพื่อนสาวเช่นทุกวันไปยังแถว 5/4 ขณะยืนรอเวลา กระโปรงบานขาสั้นหลายคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูกระทู้เด็ดเรื่องราวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา วันจันทร์นี้พึ่งได้เจอตัวจริงจึงพากันซุบซิบนินทารอบบริเวณจนเกิดเสียงอื้ออึงกันระงม สายตาหลายคู่ก็แอบชำเลืองเจ้าของข่าวอยู่เนืองๆ เรื่องที่คนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจและพูดกันอย่างสนุกปาก คงหนีไม่พ้น
...ตรีรัตนายื่นหน้าไปใกล้ใบหน้าของปลายนภา จนเหมือนคนกำลังจะจูบกัน...
การโดนมองด้วยสายตาประหลาดเป็นเรื่องชินชาของตรีรัตนา จึงไม่ได้รู้สึกกระดากอาย กลับยืนสง่าเป็นดุษฎีอยู่เช่นเดิมเพื่อนสนิทห้อง 5/4 เห็นคนรอบข้างส่งเสียงซุบซิบกันอย่างสนุกสนาน เลยหันไปมองว่ากำลังดูข่าวเรื่องอะไรกันอยู่ พอรู้ว่าเป็นเรื่องของเพื่อนสาวคนสวยจึงเกิดความตื่นเต้นและสงสัย เลยสะกิดไหล่บางทางด้านหลัง
"ตรี...เธอชอบปลายเหรอ"
‘น้อย’ ที่รูปร่างไม่ได้น้อยตามชื่อ ด้วยความสนิทและหวงแหนเพื่อนสาวคนนี้ที่สุด กล้าถามขึ้นด้วยเสียงดังเป็นเอกลักษณ์ ร่างอ้วนใหญ่จึงยื่นโทรศัพท์ที่มีการแชร์รูปกันว่อนในโซเชียลให้ดู ทำให้คนรอบข้างที่ได้ยิน หูผึ่งรอฟังคำตอบจากสาวงาม
ดวงหน้าพริ้มพราวยิ้มบางอย่างปลอดโปร่ง โดยไม่ได้รู้สึกหนักใจกับข่าวดังกล่าว
"ก็ชอบนะ ปลายดูใกล้ๆ หน้าสวยดี จนอยากจะจูบสักที ใครไม่ชอบสิแปลก"
ดวงตาของน้อยและดวงตาของคนรอบข้างลุกขึ้นโพลง ตะลึงในคำตอบ เหมือนเป็นคำพูดเล่นๆ แต่ก็คล้ายเป็นเจตนาที่แท้จริงของคนตอบ ดวงตาคู่งามดังเนื้อทรายภายใต้ขนตายาวงอน หันไปมองคนที่ยืนเด่นถัดไปอีกสามแถว แล้วเรียวปากอิ่มก็เม้มยิ้มให้คู่กรณี ปลายนภาที่ฝืนขับรถมาโรงเรียนเพื่อไม่ให้ทางบ้านสงสัย พอเดินมาเข้าแถวก็เฝ้ามองตรีรัตนาตลอด เมื่อเห็นรอยยิ้มของเป้าหมายที่ส่งมา ทำให้คิดไปเอง
...ตรีตอบตกลงแล้วสินะ...
ดวงตาจึงเปล่งประกายขึ้น เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายจะมาซ้อมปอมปอมเชียร์ให้ จึงฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีสดใส
กิจกรรมในตอนเช้าไม่แตกต่างจากทุกวัน นักเรียนทุกคนล้วนเข้าเรียนตามห้องของตน จนมาถึงตอนเที่ยงภายในโรงอาหารบรรยากาศเจี๊ยวจ๊าววุ่นวายเป็นธรรมดาของคนวัยเรียน
...นายคุยกับตรีแล้วยัง คำตอบว่ายังไง…
เรียวคิ้วโค้งงามหลุบตาดูข้อความที่แสดงขึ้นหน้าจอโทรศัพท์ ขณะตรีรัตนากำลังนั่งทานข้าวกับกลุ่มเพื่อน
"ใครส่งมา อ่านแล้วก็ยิ้ม ปกติตรีอ่านข้อความแล้วก็เฉยๆ"
พฤติกรรมแปลก ผิดนิสัย ทำให้คนในโต๊ะสงสัย แม้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน แต่ตรีรัตนาก็ระวังและเก็บโลกส่วนตัวไว้เป็นอย่างดี เรื่องที่พูดคุยกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกม ‘ROV’ ที่เล่นกันเรื่อยมาจนจูนกันได้ลงตัวและก็ติดกันงอมแงมชนิดที่ว่าว่างเมื่อไหร่เป็นต้องไล่ฆ่า (หมายถึงในเกม) เมื่อได้ยินเพื่อนถาม ตรีรัตนานึกถึงหน้าคนที่ส่งข้อความมา หัวเราะในใจ ยิ้มพลางกล่าวตอบ
"อ๋อ...พอดีมีคนขอความช่วยเหลือ เขาทวงมา ตรีอดขำไม่ได้ คนอะไรจะบ้าการเต้นเชียร์ขนาดนั้น"
นักเรียนหญิงหุ่นอุ้ยอ้ายย่นจมูก ชักสีหน้า "เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า...ตรีจะไปช่วยสีฟ้า ทั้งที่พี่ประธานสีเราก็ตามตื้อให้ไปช่วยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ตั้งแต่ ม.4 ตรียังปฎิเสธเลย ฉันไม่เข้าใจ"
เสียงของน้อยดังเป็นปกติอยู่แล้ว ทำให้โต๊ะรอบข้างซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหญิงได้ยินชัดทุกคำ ทุกนางล้วนหูบานกางออกรอฟังคำตอบ การที่ตรีรัตนาไปเข้าทีมปอมปอมเชียร์ มีผลข้างเคียงอะไรกับพวกหล่อนหรือเปล่า ต่างคนต่างอยากรู้อยากเห็น
ตรีรัตนาตอบอย่างอ่อนหวานทีละคำ "ก็รัตน์ขอมา ตรีก็แค่ช่วย ตรีเห็นใจทั้งสองคนก็เท่านั้น"
เพื่อนในโต๊ะหรี่ตามองเจ้าของใบหน้าพริ้มพราวคล้ายจับผิด "เธอไปสนิทกับอีตารัตน์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงขั้นขอให้ช่วยได้เลยเหรอ มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า"
"อันนี้ขอไม่เล่า เดี๋ยวไม่สนุกจ้ะ" เธอยักไหล่ยิ้มออกมาเล็กน้อยเคี้ยวข้าวต่อ ยังคงสามารถตอบเลี่ยงได้เหมือนเดิม การเก็บความลับไว้ ถือเป็นเรื่องสนุกของพวกหล่อน แต่ถ้าเป็นเรื่องที่หนักหนาค่อยมาปรึกษาหาวิธีแก้ไขร่วมกัน คำพูดดังกล่าวทำให้เพื่อนในโต๊ะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากนัก จึงพากันทานข้าวตามเดิม
นิยาย : แกล้งเธอจนเผลอรัก (4. ขัดลาภเสียจริงยัยตัวแสบ)
ตรีรัตนาเดินสง่างามพร้อมกลุ่มเพื่อนสาวเช่นทุกวันไปยังแถว 5/4 ขณะยืนรอเวลา กระโปรงบานขาสั้นหลายคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูกระทู้เด็ดเรื่องราวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา วันจันทร์นี้พึ่งได้เจอตัวจริงจึงพากันซุบซิบนินทารอบบริเวณจนเกิดเสียงอื้ออึงกันระงม สายตาหลายคู่ก็แอบชำเลืองเจ้าของข่าวอยู่เนืองๆ เรื่องที่คนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจและพูดกันอย่างสนุกปาก คงหนีไม่พ้น
...ตรีรัตนายื่นหน้าไปใกล้ใบหน้าของปลายนภา จนเหมือนคนกำลังจะจูบกัน...
การโดนมองด้วยสายตาประหลาดเป็นเรื่องชินชาของตรีรัตนา จึงไม่ได้รู้สึกกระดากอาย กลับยืนสง่าเป็นดุษฎีอยู่เช่นเดิมเพื่อนสนิทห้อง 5/4 เห็นคนรอบข้างส่งเสียงซุบซิบกันอย่างสนุกสนาน เลยหันไปมองว่ากำลังดูข่าวเรื่องอะไรกันอยู่ พอรู้ว่าเป็นเรื่องของเพื่อนสาวคนสวยจึงเกิดความตื่นเต้นและสงสัย เลยสะกิดไหล่บางทางด้านหลัง
"ตรี...เธอชอบปลายเหรอ"
‘น้อย’ ที่รูปร่างไม่ได้น้อยตามชื่อ ด้วยความสนิทและหวงแหนเพื่อนสาวคนนี้ที่สุด กล้าถามขึ้นด้วยเสียงดังเป็นเอกลักษณ์ ร่างอ้วนใหญ่จึงยื่นโทรศัพท์ที่มีการแชร์รูปกันว่อนในโซเชียลให้ดู ทำให้คนรอบข้างที่ได้ยิน หูผึ่งรอฟังคำตอบจากสาวงาม
ดวงหน้าพริ้มพราวยิ้มบางอย่างปลอดโปร่ง โดยไม่ได้รู้สึกหนักใจกับข่าวดังกล่าว
"ก็ชอบนะ ปลายดูใกล้ๆ หน้าสวยดี จนอยากจะจูบสักที ใครไม่ชอบสิแปลก"
ดวงตาของน้อยและดวงตาของคนรอบข้างลุกขึ้นโพลง ตะลึงในคำตอบ เหมือนเป็นคำพูดเล่นๆ แต่ก็คล้ายเป็นเจตนาที่แท้จริงของคนตอบ ดวงตาคู่งามดังเนื้อทรายภายใต้ขนตายาวงอน หันไปมองคนที่ยืนเด่นถัดไปอีกสามแถว แล้วเรียวปากอิ่มก็เม้มยิ้มให้คู่กรณี ปลายนภาที่ฝืนขับรถมาโรงเรียนเพื่อไม่ให้ทางบ้านสงสัย พอเดินมาเข้าแถวก็เฝ้ามองตรีรัตนาตลอด เมื่อเห็นรอยยิ้มของเป้าหมายที่ส่งมา ทำให้คิดไปเอง
...ตรีตอบตกลงแล้วสินะ...
ดวงตาจึงเปล่งประกายขึ้น เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายจะมาซ้อมปอมปอมเชียร์ให้ จึงฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีสดใส
กิจกรรมในตอนเช้าไม่แตกต่างจากทุกวัน นักเรียนทุกคนล้วนเข้าเรียนตามห้องของตน จนมาถึงตอนเที่ยงภายในโรงอาหารบรรยากาศเจี๊ยวจ๊าววุ่นวายเป็นธรรมดาของคนวัยเรียน
...นายคุยกับตรีแล้วยัง คำตอบว่ายังไง…
เรียวคิ้วโค้งงามหลุบตาดูข้อความที่แสดงขึ้นหน้าจอโทรศัพท์ ขณะตรีรัตนากำลังนั่งทานข้าวกับกลุ่มเพื่อน
"ใครส่งมา อ่านแล้วก็ยิ้ม ปกติตรีอ่านข้อความแล้วก็เฉยๆ"
พฤติกรรมแปลก ผิดนิสัย ทำให้คนในโต๊ะสงสัย แม้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน แต่ตรีรัตนาก็ระวังและเก็บโลกส่วนตัวไว้เป็นอย่างดี เรื่องที่พูดคุยกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกม ‘ROV’ ที่เล่นกันเรื่อยมาจนจูนกันได้ลงตัวและก็ติดกันงอมแงมชนิดที่ว่าว่างเมื่อไหร่เป็นต้องไล่ฆ่า (หมายถึงในเกม) เมื่อได้ยินเพื่อนถาม ตรีรัตนานึกถึงหน้าคนที่ส่งข้อความมา หัวเราะในใจ ยิ้มพลางกล่าวตอบ
"อ๋อ...พอดีมีคนขอความช่วยเหลือ เขาทวงมา ตรีอดขำไม่ได้ คนอะไรจะบ้าการเต้นเชียร์ขนาดนั้น"
นักเรียนหญิงหุ่นอุ้ยอ้ายย่นจมูก ชักสีหน้า "เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า...ตรีจะไปช่วยสีฟ้า ทั้งที่พี่ประธานสีเราก็ตามตื้อให้ไปช่วยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ตั้งแต่ ม.4 ตรียังปฎิเสธเลย ฉันไม่เข้าใจ"
เสียงของน้อยดังเป็นปกติอยู่แล้ว ทำให้โต๊ะรอบข้างซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหญิงได้ยินชัดทุกคำ ทุกนางล้วนหูบานกางออกรอฟังคำตอบ การที่ตรีรัตนาไปเข้าทีมปอมปอมเชียร์ มีผลข้างเคียงอะไรกับพวกหล่อนหรือเปล่า ต่างคนต่างอยากรู้อยากเห็น
ตรีรัตนาตอบอย่างอ่อนหวานทีละคำ "ก็รัตน์ขอมา ตรีก็แค่ช่วย ตรีเห็นใจทั้งสองคนก็เท่านั้น"
เพื่อนในโต๊ะหรี่ตามองเจ้าของใบหน้าพริ้มพราวคล้ายจับผิด "เธอไปสนิทกับอีตารัตน์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงขั้นขอให้ช่วยได้เลยเหรอ มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า"
"อันนี้ขอไม่เล่า เดี๋ยวไม่สนุกจ้ะ" เธอยักไหล่ยิ้มออกมาเล็กน้อยเคี้ยวข้าวต่อ ยังคงสามารถตอบเลี่ยงได้เหมือนเดิม การเก็บความลับไว้ ถือเป็นเรื่องสนุกของพวกหล่อน แต่ถ้าเป็นเรื่องที่หนักหนาค่อยมาปรึกษาหาวิธีแก้ไขร่วมกัน คำพูดดังกล่าวทำให้เพื่อนในโต๊ะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากนัก จึงพากันทานข้าวตามเดิม