นิยาย : แกล้งเธอจนเผลอรัก (4. ขัดลาภเสียจริงยัยตัวแสบ)

เสียงเพลงชาติไทยตามโทรโข่งภายในโรงเรียนดังขึ้น  กำลังบอกเวลากับทุกคนให้เตรียมตัวเข้าแถวเคารพธงชาติ  นักเรียนและครูเมื่อได้ยินก็เริ่มเดินไปยังจุดหมายเดียวกัน  คือบริเวณลานโดมขนาดใหญ่หน้าเสาธง
                ตรีรัตนาเดินสง่างามพร้อมกลุ่มเพื่อนสาวเช่นทุกวันไปยังแถว 5/4 ขณะยืนรอเวลา  กระโปรงบานขาสั้นหลายคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูกระทู้เด็ดเรื่องราวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา  วันจันทร์นี้พึ่งได้เจอตัวจริงจึงพากันซุบซิบนินทารอบบริเวณจนเกิดเสียงอื้ออึงกันระงม  สายตาหลายคู่ก็แอบชำเลืองเจ้าของข่าวอยู่เนืองๆ เรื่องที่คนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจและพูดกันอย่างสนุกปาก  คงหนีไม่พ้น
                ...ตรีรัตนายื่นหน้าไปใกล้ใบหน้าของปลายนภา  จนเหมือนคนกำลังจะจูบกัน...
                การโดนมองด้วยสายตาประหลาดเป็นเรื่องชินชาของตรีรัตนา  จึงไม่ได้รู้สึกกระดากอาย  กลับยืนสง่าเป็นดุษฎีอยู่เช่นเดิมเพื่อนสนิทห้อง 5/4 เห็นคนรอบข้างส่งเสียงซุบซิบกันอย่างสนุกสนาน  เลยหันไปมองว่ากำลังดูข่าวเรื่องอะไรกันอยู่  พอรู้ว่าเป็นเรื่องของเพื่อนสาวคนสวยจึงเกิดความตื่นเต้นและสงสัย  เลยสะกิดไหล่บางทางด้านหลัง
                "ตรี...เธอชอบปลายเหรอ"
                ‘น้อย’ ที่รูปร่างไม่ได้น้อยตามชื่อ  ด้วยความสนิทและหวงแหนเพื่อนสาวคนนี้ที่สุด  กล้าถามขึ้นด้วยเสียงดังเป็นเอกลักษณ์  ร่างอ้วนใหญ่จึงยื่นโทรศัพท์ที่มีการแชร์รูปกันว่อนในโซเชียลให้ดู  ทำให้คนรอบข้างที่ได้ยิน  หูผึ่งรอฟังคำตอบจากสาวงาม
                ดวงหน้าพริ้มพราวยิ้มบางอย่างปลอดโปร่ง  โดยไม่ได้รู้สึกหนักใจกับข่าวดังกล่าว
                "ก็ชอบนะ  ปลายดูใกล้ๆ หน้าสวยดี  จนอยากจะจูบสักที  ใครไม่ชอบสิแปลก"
                ดวงตาของน้อยและดวงตาของคนรอบข้างลุกขึ้นโพลง  ตะลึงในคำตอบ  เหมือนเป็นคำพูดเล่นๆ  แต่ก็คล้ายเป็นเจตนาที่แท้จริงของคนตอบ  ดวงตาคู่งามดังเนื้อทรายภายใต้ขนตายาวงอน  หันไปมองคนที่ยืนเด่นถัดไปอีกสามแถว  แล้วเรียวปากอิ่มก็เม้มยิ้มให้คู่กรณี  ปลายนภาที่ฝืนขับรถมาโรงเรียนเพื่อไม่ให้ทางบ้านสงสัย  พอเดินมาเข้าแถวก็เฝ้ามองตรีรัตนาตลอด  เมื่อเห็นรอยยิ้มของเป้าหมายที่ส่งมา  ทำให้คิดไปเอง
                ...ตรีตอบตกลงแล้วสินะ...
                ดวงตาจึงเปล่งประกายขึ้น  เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายจะมาซ้อมปอมปอมเชียร์ให้  จึงฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีสดใส  
 
                กิจกรรมในตอนเช้าไม่แตกต่างจากทุกวัน  นักเรียนทุกคนล้วนเข้าเรียนตามห้องของตน  จนมาถึงตอนเที่ยงภายในโรงอาหารบรรยากาศเจี๊ยวจ๊าววุ่นวายเป็นธรรมดาของคนวัยเรียน
...นายคุยกับตรีแล้วยัง  คำตอบว่ายังไง…
                เรียวคิ้วโค้งงามหลุบตาดูข้อความที่แสดงขึ้นหน้าจอโทรศัพท์  ขณะตรีรัตนากำลังนั่งทานข้าวกับกลุ่มเพื่อน 
                "ใครส่งมา  อ่านแล้วก็ยิ้ม  ปกติตรีอ่านข้อความแล้วก็เฉยๆ"
                พฤติกรรมแปลก  ผิดนิสัย  ทำให้คนในโต๊ะสงสัย  แม้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน  แต่ตรีรัตนาก็ระวังและเก็บโลกส่วนตัวไว้เป็นอย่างดี  เรื่องที่พูดคุยกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกม ‘ROV’  ที่เล่นกันเรื่อยมาจนจูนกันได้ลงตัวและก็ติดกันงอมแงมชนิดที่ว่าว่างเมื่อไหร่เป็นต้องไล่ฆ่า  (หมายถึงในเกม)  เมื่อได้ยินเพื่อนถาม  ตรีรัตนานึกถึงหน้าคนที่ส่งข้อความมา  หัวเราะในใจ  ยิ้มพลางกล่าวตอบ  
                "อ๋อ...พอดีมีคนขอความช่วยเหลือ  เขาทวงมา  ตรีอดขำไม่ได้  คนอะไรจะบ้าการเต้นเชียร์ขนาดนั้น"
                นักเรียนหญิงหุ่นอุ้ยอ้ายย่นจมูก ชักสีหน้า  "เดี๋ยวนะ  อย่าบอกนะว่า...ตรีจะไปช่วยสีฟ้า  ทั้งที่พี่ประธานสีเราก็ตามตื้อให้ไปช่วยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ตั้งแต่ ม.4  ตรียังปฎิเสธเลย  ฉันไม่เข้าใจ"
                เสียงของน้อยดังเป็นปกติอยู่แล้ว  ทำให้โต๊ะรอบข้างซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหญิงได้ยินชัดทุกคำ  ทุกนางล้วนหูบานกางออกรอฟังคำตอบ  การที่ตรีรัตนาไปเข้าทีมปอมปอมเชียร์  มีผลข้างเคียงอะไรกับพวกหล่อนหรือเปล่า  ต่างคนต่างอยากรู้อยากเห็น
                ตรีรัตนาตอบอย่างอ่อนหวานทีละคำ  "ก็รัตน์ขอมา  ตรีก็แค่ช่วย  ตรีเห็นใจทั้งสองคนก็เท่านั้น"  
                เพื่อนในโต๊ะหรี่ตามองเจ้าของใบหน้าพริ้มพราวคล้ายจับผิด  "เธอไปสนิทกับอีตารัตน์ตั้งแต่เมื่อไหร่  ถึงขั้นขอให้ช่วยได้เลยเหรอ  มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า"
                "อันนี้ขอไม่เล่า  เดี๋ยวไม่สนุกจ้ะ"  เธอยักไหล่ยิ้มออกมาเล็กน้อยเคี้ยวข้าวต่อ  ยังคงสามารถตอบเลี่ยงได้เหมือนเดิม  การเก็บความลับไว้  ถือเป็นเรื่องสนุกของพวกหล่อน  แต่ถ้าเป็นเรื่องที่หนักหนาค่อยมาปรึกษาหาวิธีแก้ไขร่วมกัน  คำพูดดังกล่าวทำให้เพื่อนในโต๊ะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากนัก  จึงพากันทานข้าวตามเดิม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่