...อย่าลืม ที่รับปากเราไว้นะ ไม่งั้นนายตายแน่...
ข้อความในมือถือสั่นดังในตอนดึก หนุ่มหุ่นสมาร์ทยืนมองหน้าจอ คิ้วหนาขมวดมุ่นในหัวคิดอะไรไม่ออก
...ไปรับปากปลายนภาตอนไหน…
รัตนะอยู่ภายในห้องนอนตัวเอง บ้านคอนกรีตสองชั้นสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัย เรียบ สวย ชิค ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างทุกขั้นตอนโดยพ่อกับแม่ ทั้งสองท่านเป็นสถาปนิกด้วยกันทั้งคู่
ห่างไกลตัวเมืองพิษณุโลกออกไปสิบกิโลเมตรย่านวัดจันทร์ตะวันตก บนถนนวังจันทร์ หันหน้าบ้านไปทางแม่น้ำน่านด้านทิศตะวันออก
สิบกิโลเมตร!!...รัตนะใช้จักรยานเสือภูเขาสีน้ำเงินเข้มลายขาวคันคู่ใจ ปั่นไปโรงเรียนทุกวันฝึกร่างกาย แล้วถ้าวันไหนฝนตกละ?
ก็บ้านนายศุภรักษ์...เพื่อนสนิท ม.5/11 สีแสด สายศิลป์เรียนห้องเดียวกัน บ้านกอล์ฟอยู่ใกล้โรงเรียนนิดเดียวแค่เพียงรั้วกั้น เป็นแหล่งพักพิงให้เพื่อนยากนั้นเอง
พ่อเทพบุตรเบอร์หนึ่งและโอปป้าเบอร์สอง ทั้งคู่สนิทสนมกันเป็นอย่างดี สาเหตุมาจากเรื่องฟุตบอลอย่างเดียวเท่านั้น ต่างก็ชื่นชอบและติดตามผลงานสุดยอดนักเตะระดับโลก ‘คริสติโน่ โรนัลโด้’ ตั้งแต่สมัยอยู่ ‘รีล มาดริด’ พอได้ข่าวย้ายสโมสรไปอยู่ทีม ‘ยูเวตุส’ ก็ตามเชียร์เหมือนเดิม เมื่อไรก็ตามที่เริ่มคุยกันเรื่องนี้ ต่างก็สนุกปากเมามันออกรสออกชาติกันเป็นอย่างมาก
ว่าง ๆ ช่วงหลบฝนทำอะไรนั้นเหรอ รัวเกมฟุตบอลฟีฟ่าเพลย์สเตชั่นเล่นกันยาวจนมืดค่ำ คุณแม่สาวิตรีจึงขับรถยนต์มารับ
แต่ในยามราตรีนี้ รัตนะต้องออกมายืนระบายลมเครียดที่ระเบียงห้องนอนอยากสูดอากาศภายนอก แหงนหน้ามองท้องฟ้าผืนดำมีดวงดาวมากมายประดับระยิบระยับพอเพลินตาคลายจิต เขายังรู้สึกสับสนมึนงงกับการไปตบปากรับคำอะไรก็ไม่รู้กับคู่อริช่วงหัวค่ำ
"นายรัตน์!.." เสียงใสร้องทักเสียงดัง
ทำให้ตรีรัตนาตกใจสะดุ้งเฮือก เหมือนเป็นคำสั่งกดชัทดาวน์ร่างกาย ร่างระหงหยุดเดินทันที กลืนน้ำลายอย่างฝืดลงคอหนึ่งอึก ลุ้นคำพูดต่อไป
ดาวโรงเรียนกำลังเดินผ่านห้องห้าทับหนึ่ง เพื่อลงบันไดไปกินน้ำ
"เธอเรียกฉันว่ายังไงนะ?" ตรีรัตนาสีหน้าชักเริ่มเครียด ขณะหันหลังให้อีกฝ่าย
"ปลายก็แค่ทัก อยากรู้อีตารัตน์ ได้คุยกับเธอรึยัง?" ปลายนภาสุ่มเสียงเฉื่อยช้าเจ้าเล่ห์เคลือบด้วยเลศนัย แอบแฝงไปด้วยแรงปรารถนา
สาวนักเก็บตัวต้องการรู้บางอย่าง แต่ก็อยากทราบรายละเอียดมากกว่าการร้องทักผิด ๆ และเรื่องที่รัตนะต้องมาคุยกับเธอ จึงหันหลังกลับไปคุยด้วยสีหน้าดูเป็นมิตร
"เดี๋ยวอาจารย์คงเข้ามาสอนละ เอาเป็นว่า เจอกันเที่ยงครึ่งที่สวนย่อมกระถินณรงค์นะ" เธอชิงกำหนดนัดหมายไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวปฏิเสธได้ แล้วปลิวหนีเดินจากไป
ปล่อยให้ปลายนภายืนอึ้งค้างเติ่งที่หน้าประตู กัดมุมปากตัวเอง หงุดหงิดเซ็งนิด ๆ เสียเชิงไหวพริบเบอร์หนึ่งโรงเรียนในครั้งนี้
ถึงเวลานัดหมาย นางฟ้าประจำโรงเรียนเดินเผยร่างงามต่อหน้าสาธารณะชนแปลกที่ผิดนิสัย หลายสายตาขณะนั่งเล่นหัวออล้อกันอยู่ก่อน ล้วนแปลกใจจนต้องสะกิดเรียกกันให้หันไปมอง
เธอยืนสง่าเฉิดฉายมองเลือกโต๊ะหินอ่อนอยู่ครู่ อยากได้ตำแหน่งมุม ๆ เว้นห่างโต๊ะอื่นพอสมควร
สวนย่อมต้นกระถินณรงค์ เป็นมุมโปรดพักผ่อนของนักเรียนโดยเฉพาะช่วงพักเที่ยง อีกทั้งยังร่มรื้นไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นปกคลุมเต็มพื้นที่ มีอาณาเขตโล่งกว้างสามารถบรรจุสนามบาสเกทบอลสี่สนามได้เหลือ ๆ
เรือนร่างสะโอดสะองชวนมอง เดินไปโต๊ะที่หมายตาไว้ แล้วนั่งรออย่างเตรียมพร้อม
หนุ่ม ๆ น้อยใหญ่มีหรือจะพลาด ลุกพรวดทำทีเดินผ่านสลับสับเปลี่ยนหน้ากันไปมา หวังได้ยลหน้าโฉมงามในระยะใกล้ บ้างก็เนียนคว้ามือถือแอบถ่ายรูปบันทึกเก็บไว้
ตรีรัตนาไม่ค่อยเดินเพ่นพ่านไปไหนมาไหนในโรงเรียนให้คนพบเจอนัก เธอมักจำศีลที่ห้องเรียนตัวเอง มีไม่กี่ช่วงเวลาในแต่ละวัน อย่างเข้าแถวตอนเช้า และในเวลาเที่ยงที่ต้องออกไปโรงอาหารกับเพื่อน ๆ ทานเสร็จก็กลับมาห้องตามเดิม เพื่ออ่านนินายที่เธอรักเพราะต้องการความเงียบสงบเพื่อใช้สมาธิ
ดาวโรงเรียนหัวดีอยู่บ้าง จึงออกสังคมเพิ่มก็ตอนแข่งขันทางวิชาการในหมวดวิทยาศาสตร์ จึงเป็นเรื่องประหลาดใจที่ได้มานั่งเล่นคนเดียวไร้เพื่อนสนิทติดตาม
เมื่อกอล์ฟรู้ข่าวว่าตรี ออกนอกพื้นที่ ‘Safe Zone’ จึงไม่รอช้าเดินเร็วพุ่งตรงไปที่โต๊ะหินอ่อนของสาวงามอย่างมั่นใจในเหง้าหน้า
ข่าวเด่นเรื่องการเปลือยหน้าอกขาวเมื่อวานยังสด ๆ ร้อน ๆ ทำให้มีเสียงซุบซิบวี้ดว้ายไล่หลังขณะก้าวผ่าน
ร่างสูงหุ่นนักกีฬา ยืนนิ่งอยู่ตรงข้ามสาวร่างบาง ที่กำลังก้มหน้ามือเท้าค้างอ่านนิยายในมือถือฆ่าเวลา แล้วหน้าขาวเกาหลีก็ฉีกยิ้มกว้าง
"ขอนั่งด้วยได้ไหม? ตรี"
ถ้าเป็นสาวทั่วไปคงใจละลาย แต่สำหรับตรีรัตนาเธอไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปด้วยสิ มีความคุ้นชินกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
ดาวโรงเรียนฉุกคิดได้ เมื่อวานเกิดเรื่องขึ้นซากันทั้งโรงเรียน กอล์ฟก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย รัตนะคงจะพูดอะไรให้ศุภรักษ์ฟังบ้างก็เป็นได้ จึงอยากรู้ไปพร้อม ๆ กับเรื่องของปลายนภา
"ได้สิ เก้าอี้ของโรงเรียนไม่ใช่ของเราสักหน่อย" ว่าแล้วก็ยิ้มตามมารยาทให้หนุ่มร่างสูง
ศุภรักษ์หัวใจพองโตลิงโลดขึ้น
...มันคือการเปิดทางสู่บันไดขั้นแรกรึเปล่า...
คิดในใจออกมาสะดังผ่านสีหน้าเปื้อนรอยยิ้มบานอย่างหุบไม่อยู่ ที่ผ่านมาตรีรัตนานั้นเข้าถึงตัวยาก ยิ่งโดยเฉพาะพวกผู้ชายแทบไม่ต้องหวัง
ยังไม่ทันที่นักเรียนขาสั้นจะนั่งลงดี ปลายและฟางก็เดินมาถึงจุดนัดพบ
"มีกอล์ฟด้วยเหรอ นึกว่าจะเป็นรัตน์?" เด็กห้องหนึ่งกล่าวอย่างผิดหวังเห็นได้ชัด
มันทำให้ตรีและกอล์ฟรู้สึกสงสัยขึ้นพร้อมกัน ...เกิดอะไรขึ้นเมื่อวานกันแน่ ทำไมรัตน์ถึงต้องเอาตรีมาเกี่ยวเรื่องนี้ด้วย...
"กอล์ฟ...ช่วยไปซื้อน้ำเปล่าให้หน่อยสิ" นางฟ้าประจำโรงเรียนใช้สุ่มเสียงหวานหยอดใส่มาจนเยิ้ม คนได้ฟังแทบตายหนุ่มหน้าไหนกล้าปฏิเสธ เธอต้องการให้กอล์ฟออกไปก่อน เมื่อได้ยินคำทักแปลก ๆ ของปลายนภา
"ได้สิจ๋ะ...เดี๋ยวป๋า เอ้ย! เดี๋ยวกอล์ฟเลี้ยงเอง" ว่าแล้วก็รีบลุกพรวดขึ้นยืนทันที เดินเร็วไปที่ซุ้มขายเครื่องดื่มอยู่อีกฟาก ซึ่งตอนนี้มาคนยืนรอคิวกันเต็ม ตรีรัตนาเห็นตั้งแต่แรกคงยื้อเวลาได้สักพัก อยากคุยกันแต่เฉพาะสาว ๆ
สาวแว่นกลมมองตามอย่างเว้าวอนในอารมณ์ เพราะยังเคลิ้มกับอกผายไหล่กว้างของชายหนุ่มเมื่อวานอยู่
ดรุณีสองนางคนหนึ่งสูงโปร่งอ้อนแอ้นคนหนึ่งบางเตี้ย เขยิบกายแทรกตัวลงนั่งเก้าอี้หินอ่อนที่เหลือคนละตัว
"รัตน์...ไปรับปากอะไรปลายเหรอ แล้วมาเกี่ยวอะไรกับตรี?" ตรีรัตนาเปิดประเด็นตรงตัว ไม่อยากเสียเวลา
"อ้าว!...นี่อีตารัตน์ ยังไม่มาคุยกับตรีอีกเหรอ ก็รับปากกันไว้ เป็นมั่นเป็นเหมาะเลย..”
“รับปากเรื่อง?”
“ให้ตรีช่วยลงแข่งปอมปอมเชียร์แทนปลาย" เธอตอบด้วยสีหน้าจริงจังดูเป็นทางการไร้แววโกหก
ดาวอันดับหนึ่งอึ้งอยู่พัก จึงถามต่อ
“แล้วรัตน์ว่ายังไงบ้างเกี่ยวกับตรี”
“รัตน์บอกว่าเธอสองคนคบกัน เรื่องแค่นี้ขอให้ช่วยได้สบาย ๆ” หน้าหมวยสบตาผู้ฟังอย่างเด็ดเดี่ยวตอบคืนทันควัน
เสียงขวดน้ำตกลงสู่พื้นดินนับสี่ขวดในทีเดียว สามสาวตกใจจนตัวกระตุกไปตาม ๆ กัน กอล์ฟแยกเขี้ยวเห็นฟันขาวขบกัดแรง
...ไอ้เพื่อนรักทำกูแล้ว...
เขามาทันได้ยินคำพูดบาดใจ วิ่งเร็วปรื้อมุ่งหน้าไปที่ห้องพยาบาลแหล่งกบดานเจ้าของคดี
ปล่อยให้คนในโต๊ะหินอ่อน และผู้คนมากมายในบริเวณสวนย่อมมองตามพฤติกรรมพุ่งเร็วของเขา ต่างเริ่มซุบซิบนินทาหัวข้อใหม่กันไปต่าง ๆ นานา
"เดี๋ยวๆๆๆ รัตน์ ว่ายังงันเหรอ?" เธออยากฟังซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจและไม่อยากให้เข้าใจอะไรผิด ๆ
"นี่เธอสองคนไม่ได้คบกันเหรอ รัตน์จะโมเมเรื่องนี่ทำไม?" ปลายนภาประมวลผลเองได้จากสีหน้าและคำพูดของตรีรัตนา
"เอ่อ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวตรีไปคุยกับรัตน์ก่อนนะ อาจมีเรื่องเข้าใจผิดกัน" เธอยังจับต้นชนปลายไม่ถูก รัตนะไปอ้างแบบนี้ได้ยังไง
"ถ้าได้คุยกัน ช่วยบอกรัตน์ด้วยนะ เป็นลูกผู้ชายรับปากอะไรผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบเรา ๆ ไว้แล้ว ก็ควรที่จะทำให้ได้ แล้วยังทำให้ปลายต้องเป็นแบบนี้อีก ตรีก็เอาสิ"
ว่าแล้วเธอก็เสยผมเปิดหน้าผากโชว์รอยแดงช้ำบนหน้าผาก ที่ตอนนี้หวีเป็นหน้าม้าบังไว้ และยื่นมือขวาเลิกปอกรัดข้อมือออก กล้ามเนื้อส่วนนี้ดูนูนบวมผิดรูป
มือขาวเรียวเคลื่อนไปจับข้อมือของปลายนภาพลิกซ้ายขวาไปมาช้า ๆ พิจารณา แล้ววางลง ต่อด้วยโน้มตัวไปยื่นมือลูบเปิดปรอยผมออก แล้วเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าจิ้มลิ้มเพื่อดูรอยแดงให้ชัด
ดวงตาคู่งามประสานกัน ประกายตานางหนึ่งงามดุจดาวบนท้องฟ้ายามราตรี ประกายตาอีกนางงดงามดุจฟ้าสีครามสดใสและมหาสมุทรน้ำใสอันกว้างใหญ่มารวมกัน
ร่างระหงทั้งคู่หยุดลงเล็กน้อย บรรยากาศเวิ้งว้างสงบนิ่งลงฉับพลัน ทุกสายตาของนักเรียนชายหญิงทั้งหมดร่วมเป็นสักขีพยาน นี่สินะ...นางฟ้าประจำโรงเรียนจึงครองตัวเป็นโสด ถึงไม่มีข่าวออกมาเลยว่าคบหากับใครตั้งแต่เรียน ม.1
เรื่องเมื่อวานว่าเด็ดแล้ว และเมื่อครู่กอล์ฟก็เหมือนได้สร้างข่าวใหม่ขึ้นมาสยบคลื่นข่าวเก่า แต่ทว่า...ตอนนี้อาจมีรูปจิ้นคู่ใหม่สะเทือนโรงเรียนอีกเป็นแน่
แม้ทั้งคู่เป็นผู้หญิงด้วยกัน แต่ในใจต่างก็นึกตรงกัน ว่าอีกฝ่ายสวยงดงามหมดจดทั้งใบหน้าจริง ๆ
"ทำอะไรนะ?" ฟางเสียงดังทำลายภวังค์ เรียกสติหญิงทั้งคู่ ตรีรัตนาจึงถอนมือออกเร็ว แล้วทรุดตัวลงนั่งที่เดิม
ปลายก็อยู่ในอาการเก้อเขินอยู่นิด ๆ หลังโดนสตันท์ด้วยดวงตากลมโตเจ้าของฉายา ‘สาวสามวิ’ ตอนนี้เธอประสบด้วยตัวเองจริงแท้แล้ว
นิยายเบาสมอง : Mikaza ไอ้บ้าเอ๊ย! ( 4 : มั่วแล้วรัตน์ )
ข้อความในมือถือสั่นดังในตอนดึก หนุ่มหุ่นสมาร์ทยืนมองหน้าจอ คิ้วหนาขมวดมุ่นในหัวคิดอะไรไม่ออก
...ไปรับปากปลายนภาตอนไหน…
รัตนะอยู่ภายในห้องนอนตัวเอง บ้านคอนกรีตสองชั้นสไตล์โมเดิร์นร่วมสมัย เรียบ สวย ชิค ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างทุกขั้นตอนโดยพ่อกับแม่ ทั้งสองท่านเป็นสถาปนิกด้วยกันทั้งคู่
ห่างไกลตัวเมืองพิษณุโลกออกไปสิบกิโลเมตรย่านวัดจันทร์ตะวันตก บนถนนวังจันทร์ หันหน้าบ้านไปทางแม่น้ำน่านด้านทิศตะวันออก
สิบกิโลเมตร!!...รัตนะใช้จักรยานเสือภูเขาสีน้ำเงินเข้มลายขาวคันคู่ใจ ปั่นไปโรงเรียนทุกวันฝึกร่างกาย แล้วถ้าวันไหนฝนตกละ?
ก็บ้านนายศุภรักษ์...เพื่อนสนิท ม.5/11 สีแสด สายศิลป์เรียนห้องเดียวกัน บ้านกอล์ฟอยู่ใกล้โรงเรียนนิดเดียวแค่เพียงรั้วกั้น เป็นแหล่งพักพิงให้เพื่อนยากนั้นเอง
พ่อเทพบุตรเบอร์หนึ่งและโอปป้าเบอร์สอง ทั้งคู่สนิทสนมกันเป็นอย่างดี สาเหตุมาจากเรื่องฟุตบอลอย่างเดียวเท่านั้น ต่างก็ชื่นชอบและติดตามผลงานสุดยอดนักเตะระดับโลก ‘คริสติโน่ โรนัลโด้’ ตั้งแต่สมัยอยู่ ‘รีล มาดริด’ พอได้ข่าวย้ายสโมสรไปอยู่ทีม ‘ยูเวตุส’ ก็ตามเชียร์เหมือนเดิม เมื่อไรก็ตามที่เริ่มคุยกันเรื่องนี้ ต่างก็สนุกปากเมามันออกรสออกชาติกันเป็นอย่างมาก
ว่าง ๆ ช่วงหลบฝนทำอะไรนั้นเหรอ รัวเกมฟุตบอลฟีฟ่าเพลย์สเตชั่นเล่นกันยาวจนมืดค่ำ คุณแม่สาวิตรีจึงขับรถยนต์มารับ
แต่ในยามราตรีนี้ รัตนะต้องออกมายืนระบายลมเครียดที่ระเบียงห้องนอนอยากสูดอากาศภายนอก แหงนหน้ามองท้องฟ้าผืนดำมีดวงดาวมากมายประดับระยิบระยับพอเพลินตาคลายจิต เขายังรู้สึกสับสนมึนงงกับการไปตบปากรับคำอะไรก็ไม่รู้กับคู่อริช่วงหัวค่ำ
"นายรัตน์!.." เสียงใสร้องทักเสียงดัง
ทำให้ตรีรัตนาตกใจสะดุ้งเฮือก เหมือนเป็นคำสั่งกดชัทดาวน์ร่างกาย ร่างระหงหยุดเดินทันที กลืนน้ำลายอย่างฝืดลงคอหนึ่งอึก ลุ้นคำพูดต่อไป
ดาวโรงเรียนกำลังเดินผ่านห้องห้าทับหนึ่ง เพื่อลงบันไดไปกินน้ำ
"เธอเรียกฉันว่ายังไงนะ?" ตรีรัตนาสีหน้าชักเริ่มเครียด ขณะหันหลังให้อีกฝ่าย
"ปลายก็แค่ทัก อยากรู้อีตารัตน์ ได้คุยกับเธอรึยัง?" ปลายนภาสุ่มเสียงเฉื่อยช้าเจ้าเล่ห์เคลือบด้วยเลศนัย แอบแฝงไปด้วยแรงปรารถนา
สาวนักเก็บตัวต้องการรู้บางอย่าง แต่ก็อยากทราบรายละเอียดมากกว่าการร้องทักผิด ๆ และเรื่องที่รัตนะต้องมาคุยกับเธอ จึงหันหลังกลับไปคุยด้วยสีหน้าดูเป็นมิตร
"เดี๋ยวอาจารย์คงเข้ามาสอนละ เอาเป็นว่า เจอกันเที่ยงครึ่งที่สวนย่อมกระถินณรงค์นะ" เธอชิงกำหนดนัดหมายไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวปฏิเสธได้ แล้วปลิวหนีเดินจากไป
ปล่อยให้ปลายนภายืนอึ้งค้างเติ่งที่หน้าประตู กัดมุมปากตัวเอง หงุดหงิดเซ็งนิด ๆ เสียเชิงไหวพริบเบอร์หนึ่งโรงเรียนในครั้งนี้
ถึงเวลานัดหมาย นางฟ้าประจำโรงเรียนเดินเผยร่างงามต่อหน้าสาธารณะชนแปลกที่ผิดนิสัย หลายสายตาขณะนั่งเล่นหัวออล้อกันอยู่ก่อน ล้วนแปลกใจจนต้องสะกิดเรียกกันให้หันไปมอง
เธอยืนสง่าเฉิดฉายมองเลือกโต๊ะหินอ่อนอยู่ครู่ อยากได้ตำแหน่งมุม ๆ เว้นห่างโต๊ะอื่นพอสมควร
สวนย่อมต้นกระถินณรงค์ เป็นมุมโปรดพักผ่อนของนักเรียนโดยเฉพาะช่วงพักเที่ยง อีกทั้งยังร่มรื้นไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้นปกคลุมเต็มพื้นที่ มีอาณาเขตโล่งกว้างสามารถบรรจุสนามบาสเกทบอลสี่สนามได้เหลือ ๆ
เรือนร่างสะโอดสะองชวนมอง เดินไปโต๊ะที่หมายตาไว้ แล้วนั่งรออย่างเตรียมพร้อม
หนุ่ม ๆ น้อยใหญ่มีหรือจะพลาด ลุกพรวดทำทีเดินผ่านสลับสับเปลี่ยนหน้ากันไปมา หวังได้ยลหน้าโฉมงามในระยะใกล้ บ้างก็เนียนคว้ามือถือแอบถ่ายรูปบันทึกเก็บไว้
ตรีรัตนาไม่ค่อยเดินเพ่นพ่านไปไหนมาไหนในโรงเรียนให้คนพบเจอนัก เธอมักจำศีลที่ห้องเรียนตัวเอง มีไม่กี่ช่วงเวลาในแต่ละวัน อย่างเข้าแถวตอนเช้า และในเวลาเที่ยงที่ต้องออกไปโรงอาหารกับเพื่อน ๆ ทานเสร็จก็กลับมาห้องตามเดิม เพื่ออ่านนินายที่เธอรักเพราะต้องการความเงียบสงบเพื่อใช้สมาธิ
ดาวโรงเรียนหัวดีอยู่บ้าง จึงออกสังคมเพิ่มก็ตอนแข่งขันทางวิชาการในหมวดวิทยาศาสตร์ จึงเป็นเรื่องประหลาดใจที่ได้มานั่งเล่นคนเดียวไร้เพื่อนสนิทติดตาม
เมื่อกอล์ฟรู้ข่าวว่าตรี ออกนอกพื้นที่ ‘Safe Zone’ จึงไม่รอช้าเดินเร็วพุ่งตรงไปที่โต๊ะหินอ่อนของสาวงามอย่างมั่นใจในเหง้าหน้า
ข่าวเด่นเรื่องการเปลือยหน้าอกขาวเมื่อวานยังสด ๆ ร้อน ๆ ทำให้มีเสียงซุบซิบวี้ดว้ายไล่หลังขณะก้าวผ่าน
ร่างสูงหุ่นนักกีฬา ยืนนิ่งอยู่ตรงข้ามสาวร่างบาง ที่กำลังก้มหน้ามือเท้าค้างอ่านนิยายในมือถือฆ่าเวลา แล้วหน้าขาวเกาหลีก็ฉีกยิ้มกว้าง
"ขอนั่งด้วยได้ไหม? ตรี"
ถ้าเป็นสาวทั่วไปคงใจละลาย แต่สำหรับตรีรัตนาเธอไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปด้วยสิ มีความคุ้นชินกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
ดาวโรงเรียนฉุกคิดได้ เมื่อวานเกิดเรื่องขึ้นซากันทั้งโรงเรียน กอล์ฟก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย รัตนะคงจะพูดอะไรให้ศุภรักษ์ฟังบ้างก็เป็นได้ จึงอยากรู้ไปพร้อม ๆ กับเรื่องของปลายนภา
"ได้สิ เก้าอี้ของโรงเรียนไม่ใช่ของเราสักหน่อย" ว่าแล้วก็ยิ้มตามมารยาทให้หนุ่มร่างสูง
ศุภรักษ์หัวใจพองโตลิงโลดขึ้น
...มันคือการเปิดทางสู่บันไดขั้นแรกรึเปล่า...
คิดในใจออกมาสะดังผ่านสีหน้าเปื้อนรอยยิ้มบานอย่างหุบไม่อยู่ ที่ผ่านมาตรีรัตนานั้นเข้าถึงตัวยาก ยิ่งโดยเฉพาะพวกผู้ชายแทบไม่ต้องหวัง
ยังไม่ทันที่นักเรียนขาสั้นจะนั่งลงดี ปลายและฟางก็เดินมาถึงจุดนัดพบ
"มีกอล์ฟด้วยเหรอ นึกว่าจะเป็นรัตน์?" เด็กห้องหนึ่งกล่าวอย่างผิดหวังเห็นได้ชัด
มันทำให้ตรีและกอล์ฟรู้สึกสงสัยขึ้นพร้อมกัน ...เกิดอะไรขึ้นเมื่อวานกันแน่ ทำไมรัตน์ถึงต้องเอาตรีมาเกี่ยวเรื่องนี้ด้วย...
"กอล์ฟ...ช่วยไปซื้อน้ำเปล่าให้หน่อยสิ" นางฟ้าประจำโรงเรียนใช้สุ่มเสียงหวานหยอดใส่มาจนเยิ้ม คนได้ฟังแทบตายหนุ่มหน้าไหนกล้าปฏิเสธ เธอต้องการให้กอล์ฟออกไปก่อน เมื่อได้ยินคำทักแปลก ๆ ของปลายนภา
"ได้สิจ๋ะ...เดี๋ยวป๋า เอ้ย! เดี๋ยวกอล์ฟเลี้ยงเอง" ว่าแล้วก็รีบลุกพรวดขึ้นยืนทันที เดินเร็วไปที่ซุ้มขายเครื่องดื่มอยู่อีกฟาก ซึ่งตอนนี้มาคนยืนรอคิวกันเต็ม ตรีรัตนาเห็นตั้งแต่แรกคงยื้อเวลาได้สักพัก อยากคุยกันแต่เฉพาะสาว ๆ
สาวแว่นกลมมองตามอย่างเว้าวอนในอารมณ์ เพราะยังเคลิ้มกับอกผายไหล่กว้างของชายหนุ่มเมื่อวานอยู่
ดรุณีสองนางคนหนึ่งสูงโปร่งอ้อนแอ้นคนหนึ่งบางเตี้ย เขยิบกายแทรกตัวลงนั่งเก้าอี้หินอ่อนที่เหลือคนละตัว
"รัตน์...ไปรับปากอะไรปลายเหรอ แล้วมาเกี่ยวอะไรกับตรี?" ตรีรัตนาเปิดประเด็นตรงตัว ไม่อยากเสียเวลา
"อ้าว!...นี่อีตารัตน์ ยังไม่มาคุยกับตรีอีกเหรอ ก็รับปากกันไว้ เป็นมั่นเป็นเหมาะเลย..”
“รับปากเรื่อง?”
“ให้ตรีช่วยลงแข่งปอมปอมเชียร์แทนปลาย" เธอตอบด้วยสีหน้าจริงจังดูเป็นทางการไร้แววโกหก
ดาวอันดับหนึ่งอึ้งอยู่พัก จึงถามต่อ
“แล้วรัตน์ว่ายังไงบ้างเกี่ยวกับตรี”
“รัตน์บอกว่าเธอสองคนคบกัน เรื่องแค่นี้ขอให้ช่วยได้สบาย ๆ” หน้าหมวยสบตาผู้ฟังอย่างเด็ดเดี่ยวตอบคืนทันควัน
เสียงขวดน้ำตกลงสู่พื้นดินนับสี่ขวดในทีเดียว สามสาวตกใจจนตัวกระตุกไปตาม ๆ กัน กอล์ฟแยกเขี้ยวเห็นฟันขาวขบกัดแรง
...ไอ้เพื่อนรักทำกูแล้ว...
เขามาทันได้ยินคำพูดบาดใจ วิ่งเร็วปรื้อมุ่งหน้าไปที่ห้องพยาบาลแหล่งกบดานเจ้าของคดี
ปล่อยให้คนในโต๊ะหินอ่อน และผู้คนมากมายในบริเวณสวนย่อมมองตามพฤติกรรมพุ่งเร็วของเขา ต่างเริ่มซุบซิบนินทาหัวข้อใหม่กันไปต่าง ๆ นานา
"เดี๋ยวๆๆๆ รัตน์ ว่ายังงันเหรอ?" เธออยากฟังซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจและไม่อยากให้เข้าใจอะไรผิด ๆ
"นี่เธอสองคนไม่ได้คบกันเหรอ รัตน์จะโมเมเรื่องนี่ทำไม?" ปลายนภาประมวลผลเองได้จากสีหน้าและคำพูดของตรีรัตนา
"เอ่อ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวตรีไปคุยกับรัตน์ก่อนนะ อาจมีเรื่องเข้าใจผิดกัน" เธอยังจับต้นชนปลายไม่ถูก รัตนะไปอ้างแบบนี้ได้ยังไง
"ถ้าได้คุยกัน ช่วยบอกรัตน์ด้วยนะ เป็นลูกผู้ชายรับปากอะไรผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบเรา ๆ ไว้แล้ว ก็ควรที่จะทำให้ได้ แล้วยังทำให้ปลายต้องเป็นแบบนี้อีก ตรีก็เอาสิ"
ว่าแล้วเธอก็เสยผมเปิดหน้าผากโชว์รอยแดงช้ำบนหน้าผาก ที่ตอนนี้หวีเป็นหน้าม้าบังไว้ และยื่นมือขวาเลิกปอกรัดข้อมือออก กล้ามเนื้อส่วนนี้ดูนูนบวมผิดรูป
มือขาวเรียวเคลื่อนไปจับข้อมือของปลายนภาพลิกซ้ายขวาไปมาช้า ๆ พิจารณา แล้ววางลง ต่อด้วยโน้มตัวไปยื่นมือลูบเปิดปรอยผมออก แล้วเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าจิ้มลิ้มเพื่อดูรอยแดงให้ชัด
ดวงตาคู่งามประสานกัน ประกายตานางหนึ่งงามดุจดาวบนท้องฟ้ายามราตรี ประกายตาอีกนางงดงามดุจฟ้าสีครามสดใสและมหาสมุทรน้ำใสอันกว้างใหญ่มารวมกัน
ร่างระหงทั้งคู่หยุดลงเล็กน้อย บรรยากาศเวิ้งว้างสงบนิ่งลงฉับพลัน ทุกสายตาของนักเรียนชายหญิงทั้งหมดร่วมเป็นสักขีพยาน นี่สินะ...นางฟ้าประจำโรงเรียนจึงครองตัวเป็นโสด ถึงไม่มีข่าวออกมาเลยว่าคบหากับใครตั้งแต่เรียน ม.1
เรื่องเมื่อวานว่าเด็ดแล้ว และเมื่อครู่กอล์ฟก็เหมือนได้สร้างข่าวใหม่ขึ้นมาสยบคลื่นข่าวเก่า แต่ทว่า...ตอนนี้อาจมีรูปจิ้นคู่ใหม่สะเทือนโรงเรียนอีกเป็นแน่
แม้ทั้งคู่เป็นผู้หญิงด้วยกัน แต่ในใจต่างก็นึกตรงกัน ว่าอีกฝ่ายสวยงดงามหมดจดทั้งใบหน้าจริง ๆ
"ทำอะไรนะ?" ฟางเสียงดังทำลายภวังค์ เรียกสติหญิงทั้งคู่ ตรีรัตนาจึงถอนมือออกเร็ว แล้วทรุดตัวลงนั่งที่เดิม
ปลายก็อยู่ในอาการเก้อเขินอยู่นิด ๆ หลังโดนสตันท์ด้วยดวงตากลมโตเจ้าของฉายา ‘สาวสามวิ’ ตอนนี้เธอประสบด้วยตัวเองจริงแท้แล้ว