นิยาย : แกล็งเธอจนเผลอรัก (1. ดาวชังเดือน)

...หากคืนนี้ มีดาวอยู่ล้านดวง
ฉันขอได้ไหมสักดวงหนึ่ง ช่วยฟังฉันที
เพราะว่าคืนนี้ ฉันมีเรื่องร้อนใจ
อยากอธิษฐานและขอดวงดาวให้
ช่วยฉันสักที
เนื่องจากตอนนี้ ฉันรู้สึกจิตใจมันอ่อนไหว
อยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไง จากคำพูดวันนี้
เพราะฉันเพิ่งบอก....รักไป
และเขาก็รับฟังทุกอย่าง ทุกถ้อยคำ
เหมือนความฝัน แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ
พรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุข หรือแสนเศร้า
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก...
 
                ’ดาว’ เพลงดังในยุค 90 ของคริสติน  ถูกขับร้องประสานเสียงกับการเล่นกีตาร์โปร่งอย่างไพเราะ  บริเวณหน้าห้องเรียน ม.5/4 ใครก็ตามที่ได้ยินก็ล้วนเคลิบเคลิ้มแทบทั้งนั้น  นักเรียนชายมัธยมปลายแต่งกายในชุดนักเรียน  ผู้มีใบหน้าขาวนวล  คิ้วดกดำเป็นขอบชัดตัดกับใบหน้าที่ดูละมุนคล้ายผู้หญิง  หากแต่มีร่างสูงใหญ่แข็งแรงราวทหารหาญ  เป็นคนเล่นกีตาร์อย่างรื่นเริงกับเพื่อนอีก 5 คนบริเวณม้านั่งหินอ่อนพาดยาวตามระเบียงทางเดินชั้นที่ 3 ของอาคารเรียน 5 ชั้น  โดยมีเป้าหมายหลักคือนักเรียนหญิงในห้องนั้น 
                เมื่อมีเรื่องราวสนุกให้ดูในตอนเที่ยง  หลายคนบริเวณหน้าห้องเรียนก็เริ่มมีเสียงพูดคุยกัน
                “แก…ดูสิ เปิดเรียนวันแรก  กอล์ฟก็เอาซะละ”
                “ฉันก็นึกว่าเพื่อนของกอล์ฟ  จะเป็นคนจีบตรีซะเอง”
                “สองคนนั้นเขาเป็นเพื่อนกัน  คงไม่จีบผู้หญิงคนเดียวกันหรอก  ถึงแม้ทุกคนจะยกให้คู่ควรกันก็ตาม”
                “เดือนก็ต้องคู่กับดาวสินะ  ดูท่าโอปป้าของพวกเราคงรอให้พี่เชลล์เรียนจบ  แล้วค่อยมาจีบ  คงชอบตรีจริงๆ  นั้นแหละถึงรอมาได้เป็นปี  กว่าจะเปิดตัวได้ว่าจีบสาวคนไหน”  แล้วก็พากันเหลียวมองด้วยดวงตาเป็นประกายปลาบปลื้มปนเสียดาย
                สาวๆ ตามระเบียงจะคุยกันเจี๊ยวจ้าวอย่างไรเจ้าตัวไม่ใส่ใจ  เขาสนใจแต่ผู้หญิงในห้องเรียนนี้เท่านั้น  บนหน้าอกเสื้อระบุชื่อ “ศุภรักษ์  สมบูรณ์พาณิชย์” หรือ “กอล์ฟ” เขามีผิวพรรณขาวสะอาดหมดทั้งตัว  หุ่นสูงสมาร์ทตามมาตรฐานนักกีฬาฟุตบอล “โอปป้า”  คือสมญานามที่สาวๆ เรียกขาน  และเขาถูกจัดอันดับเป็นเดือนอันดับ 2 ของโรงเรียนรองเพียงคนเดียว
                แล้วอันดับ 1 คือใครล่ะ
                เจ้าของร่างกายที่นักเรียนหญิงพากันชื่นชมนี้ต้องการเปิดตัวเป็นวันแรก  เขารอเวลานี้มานาน  รอมาตั้งแต่ ม.4 วันที่ก้างขวางคอนักเรียนนักเลงโตคนนั้นเรียนจบออกไปเสียที  ต่อไปนี้คงไม่ได้มารังควานอย่างที่เคยเป็นมาเพราะพวกพี่แกมีเยอะจริงๆ
                ช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา  ต้องอดทนมองหญิงสาวห้อง 5/4 อยู่ห่างๆ พอรวบรวมความกล้าได้  ไม่ยอมเสียเวลาสักนาทีเดียว  การเปิดความรู้สึกออกไปอย่างเต็มตัว  มีประโยชน์หลายอย่าง  คล้ายเป็นการประกาศให้รู้กันทั่ว  ที่คอยจับเขาไปโยงคู่กับคนนู้นทีคนนี้ที  ข่าวที่มันไม่จริงพอเข้าหูก็ชวนหัวเสียทุกครั้งไปเพราะสิ่งที่เขากลัวที่สุดคือ  คนที่เขาแอบชอบปักใจเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
                กระนั้นแล้ว  การจีบสาวด้วยวิธีการนี้  มุกจีบเห่ยๆ เสี่ยวแดกชวนขนลุกแบบนี้  หารู้ไม่..นักเรียนหญิง 5/4 เธอรับไม่ได้  สำหรับเธอมันคือ...สิ่งต้องห้าม!
                กอล์ฟพลาดแล้ว
                พอตั้งวงร้องกันได้ไม่ทันจบเพลง  ก็มีเสียงฝีเท้าบางเบาแฝงไปด้วยอาการเร่งรีบนำพาร่างอ้อนแอ้นนางหนึ่งออกมาปรากฏโฉมที่ประตูหน้าห้องเรียน  ทุกสายตาตามระเบียงทางเดินตั้งแต่ต้นทางจนถึงสุดทาง  จับมาเป็นตาเดียวกัน
                ร่างระหงในชุดนักเรียนสีขาว  บนหน้าอกเสื้อระบุชื่อ ‘ตรีรัตนา พรหมณี’ เธอมีดวงตากลมโตสุกใสคล้ายประกายตามีดาวระยิบระยับนับล้านดวงประทับอยู่ในนั้น  คิ้วเป็นรูปเด่นชัดมีหางคิ้วโค้งทำให้ดูหวานมีลูกเล่น  ขนตาเป็นแพยาวงอน  จมูกโด่งสันเรียวรับใบหน้าทรงรูปเพชร  ผิวพรรณละเอียดอ่อนขาวอมชมพู  เรือนผมถักเปียรวบไว้เป็นหางม้า  เรือนร่างสูงอ้อนแอ้น
                หล่อนคือเป้าหมายของกลุ่มคนที่กำลังร้องเพลง  ตรีรัตนา พรหมณีจัดเป็นหญิงสาววัยแรกแย้มในอุดมคติของผู้ชายเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์และเป็นดาวอันดับ 1 ของโรงเรียน
                ภาพการปรากฏตัวของนักเรียนสาวที่ประตูห้อง 5/4  เป็นดุษฎีภาพที่ตราตรึงใจผู้พบเห็นแทบทุกคนแม้แต่ผู้หญิงด้วยกันก็ยังอดชื่นชมไม่ได้
                พอร่างระหงก้าวพ้นประตู  รีบเดินไปยังคนเล่นกีตาร์  เรียวมืองามไร้ตำหนิยื่นไปจับที่คอเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายกำแน่นเพื่อหยุดเสียงไม่ให้เล่นจบเพลง  ห้วงเวลาสั้นๆ นี้  ศุภรักษ์และหนุ่มๆอีก 5 คนล้วนตกอยู่ในภวังค์ไปเสียแล้ว  เมื่อได้ยลโฉมดาวอันดับ 1 ของโรงเรียนในระยะใกล้
                แต่ใบหน้าที่ไร้เดียงสากลับมีริ้วรอยเคร่งเครียดเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
                ทันใดนั้น!!
                ตรีรัตนาเหวี่ยงกีตาร์โปร่งลงสู่พื้นถนนด้านล่างทันที  ทำให้คนเดินสัญจรไปมาบริเวณนั้นแตกตื่นลนลาน  ไม่กี่อึดใจก็พากันแหงนหน้าขึ้นไปหาต้นตอ  บางคนก็เข้าไปดูเศษซากที่แตกกระจัดกระจายด้วยความประหลาดใจ
                ทั้งชั้น ม.5  เมื่อได้ยินเสียงอะไรบางบางอย่างกระแทกพื้นถนนด้านล่างเสียงดัง  พากันสะดุ้งตื่นตัว  รีบออกจากห้องชะเง้อลงไปดูซากกีตาร์ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจนเต็มระเบียงทางเดิน  
                โชคดีที่เป็นช่วงพักเที่ยง...ครูไม่อยู่
                ดีอีกต่อหนึ่ง...ที่ไม่โดนหัวใคร 
                นักเรียน 5/4 คิ้วขมวดย่นเข้าหากัน  หลุบตามองหน้าชายหนุ่มด้วยสายตาคาดโทษ  สูดลมหายใจเข้า-ออกหลายทีระงับอารมณ์  พอรวบรวมสมาธิได้  จึงเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงหวานนุ่ม
                "ใครก็ตามที่คิดจะจีบตรี  ขอเรื่องเดียว!!...อย่าใช้มุกนี้จีบเลยนะ  กีตาร์ตัวนั้นคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ย"  แม้น้ำเสียงเจือไปด้วยรอยขุ่น  แต่เสียงของเธอมันหวานหยดย้อย  กอปรกับรอยยิ้มแบบฝืนๆ  ซึ่งนั้นก็มากพอที่จะทำให้ลืมเหตุการณ์สะเทือนขวัญเมื่อครู่ลงไปได้
                เจ้าของกีตาร์และเพื่อนได้ฟัง  ล้วนเคลิบเคลิ้มโง่งมยาวนาน
                “ไม่ว่าครับ...”  ทั้ง 6 นายตอบรับเป็นเสียงเดียวกันอย่างลืมตัว
                ในโรงเรียนขวัญเฉลิมคงมีเพียง 2 คน  ที่ทำของพังแล้วแค่ยิ้มหวานให้ก็จบเรื่อง
                "ปลายนภา  อนันตชีวา"  ห้อง 5/1 ดาวอันดับ 2 ของโรงเรียน  ได้ยินเสียงผิดปกติก็เดินออกมาหน้าห้องเรียนตัวเองไม่ต่างจากคนอื่นเพื่อดูเรื่องราว
                ปลายนภาคือคนที่ 2 ที่ว่านั้น  ความสวยสดงดงามของสองคนนี้กินกันไม่ขาด  หากเทียบกันเป็นข้อๆ  คงแพ้กันอยู่เรื่องเดียว  ที่พวกนักเรียนชายหัวเกรียนโหวตให้ตรีรัตนาได้มากกว่า  ตรงที่..นมใหญ่กว่า!  เห้อ...พวกผู้ชาย
                ตรีรัตนากัดเม้มริมฝีปากเครียดขึงเซ็งเข้าขั้น  พูดจบปลิวตัวหนีไปเข้าห้องน้ำเพื่อสงบใจให้เย็นลงอีกรอบ  ขณะเดินผ่านห้อง 5/1  โดยมีปลายนภาที่ยืนกอดอกมองดูอยู่แล้วนั้น  ทั้งคู่เผลอเหลียวตาประสานกันวูบหนึ่ง
                ปลายนภานั้นสวยแต่ร้าย  ดวงตากลมโตชั้นเดียวอย่างคนมีเชื้อสายจีนเหลียวดูตรีรัตนาด้วยหางตา  สาวหน้าหมวยมีความหมั่นไส้ดาวอันดับ 1 เป็นทุนเดิมตามประสาคนที่อยู่อันดับด้อยกว่า  จึงไม่สบอารมณ์กับเหตุการณ์โอเวอร์นี้สักเท่าไร  ได้แต่จำไว้ว่า...ยัยนี่ไม่ชอบกีตาร์
                "เชอะ!" เด็กเรียนห้อง 1 สบถขึ้นเมื่อตรีรัตนาเดินผ่านไปได้ไม่กี่ก้าว
                คนได้ยินรู้ดีว่าสื่อถึงใคร  หยุดเดิน  เอี้ยวตัวกลับไปมองหน้า  แล้วเรียวปากเอิบอิ่มเหยียดยิ้มขึ้นพร้อมยักคิ้วข้างหนึ่งให้อย่างท้าทาย  แล้วจึงเดินต่อ
                “นึกว่าแน่เหรอ” ปลายนภาสวนขึ้นทันควันอยากตามไปเอาเรื่อง  แต่พอเห็นตามหน้าชั้นเรียนมีคนอยู่กันเยอะ  จำต้องรักษาภาพลักษณ์ตนเองไว้ก่อน  จึงได้แต่ยืนนิ่งมองตามหลังด้วยความหงุดหงิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่