ตำนานพื้นบ้าน พระลอตามไก่ มาเป็นนวนิยาย 'อลเวงรักสองภพ' ตอนที่ 24


ตอนเดิม



ตอนที่ 24

ข้างหน้าช่อชบาคือเวทีสูงระดับอก แสงไฟส่องสว่างจ้า ขณะรอบตัวเธอค่อนข้างมืดสลัว บนเวทีมีชายหนุ่มในชุดสวมกางเกงในตัวน้อย แทบจะปิดเจ้าโลกไม่มิด กำลังเดินวนเวียนกันออกมาหน้าเวทีด้วยลีลาที่ยั่วเย้าคนดู บางคนเน้นโชว์ท่อนล่างของร่างกายด้วยการเดินเด้งหน้าเป็นจังหวะ สลับกับโยกคลึงสะโพกไปมา บ้างก็ทำท่าเอานิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในตัวจิ๋ว ดึงลงมาให้เห็นเส้นขนรำไร ช่อชบารีบเบือนหน้าหนี เมื่อชายหนุ่มหุ่นล่ำคนหนึ่ง เดินโยกคลึงมาถึงตรงหน้าเธอ

จะบ้าตาย ดันโผล่มายืนอยู่ด้านหน้าเวทีพอดิบพอดีเลยเรา...

ฉับพลันสายตาเธอก็ไปปะทะเข้ากับใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งยืนห่างจากเธอไปแค่ไม่กี่ก้าว สายตาของเขากำลังจับจ้องไปที่ชายหนุ่มบนเวที ขณะขาก็เต้นตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน พลางชูมือที่ถือธนบัตรหลายใบให้พ่อหนุ่มคนหนึ่งบนเวทีดู ทันทีที่มองเห็น หนุ่มหล่อล่ำในชุดวาบหวิวก็รีบเดินควงสะเอวเข้ามาให้ชายหนุ่มด้านล่างซุกธนบัตรใส่ในขอบกางเกงในตัวเอง พอใส่เงินเสร็จ มือข้างนั้นของคนใส่ก็ลูบไล้ไปตามหน้าขาของหนุ่มบนเวที ซึ่งก้มตัวลงมาหา เห็นจะ ๆ ต่อสายตาของช่อชบาเองว่า ชายหนุ่มทั้งสองสัมผัสริมฝีปากกันอย่างดูดดื่ม 

ช่อชบายืนมองคนทั้งคู่ตัวแข็ง...พะ...พี่อนุชา

“พี่อนุชาของเจ้าเขาเป็นเกย์ เขาไม่ได้นึกนิยมชมชอบผู้หญิงหรอก ที่นี่เป็นบาร์เกย์ที่เขามาเที่ยวเป็นประจำ แล้วนั่นก็คือคู่ขาของเขา ชื่อเต้ย”

เสียงพูดของสีมอยดังได้ยินถนัดชัดเจนท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมอย่างน่าประหลาด ผู้คนในนี้ล้วนแต่เป็นเพศชายที่ต่างอยู่ในอาการมึนเมา สนุกครื้นเครง เฮฮากันอย่างมีความสุข ช่อชบาค่อย ๆ เบือนหน้ากลับมามองคนพูด เธอยืนอึ้งจากพูดอะไรไม่ออก น่าแปลกที่ไม่มีใครสนใจพวกเธอเลย ทั้งที่ยืนหัวโด่กันอยู่หน้าเวทีทั้งสองคน หญิงสาวยืนอึ้งอยู่เป็นครู่ ก่อนถามสีมอยเสียงเครือ

“ทำไมเธอรู้ว่าพี่เขาเป็น...เป็น...”

“ก็เจ้าหลงใหลใฝ่ฝันแต่กับเขา ข้าเลยอยากรู้จักเขาว่าเป็นใคร พอตามดูแค่ไม่กี่วัน ข้าก็รู้แจ้งว่าทำไมพี่อนุชาของเจ้าถึงไม่มีแฟนเสียที ที่แท้เขาชอบไม้ป่าเดียวกัน แต่คบผู้หญิงบังหน้า รวมทั้งเจ้าด้วย”

ช่อชบาหันไปจ้องหน้าชายในดวงใจ อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เห็นว่าบัดนี้ผู้ชายบนเวทีคนนั้นเดินลงมาด้านล่างแล้ว เขาเดินผ่านหน้าพวกเธอตรงรี่ไปหาอนุชา แล้วผู้ชายทั้งสองคนก็โอบกอดกัน เดินหายไปทางโต๊ะตัวที่ซุกอยู่ในมุมมืด ช่อชบามองตามด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มันทั้งเจ็บใจ ทั้งอายตัวเองและผิดหวัง เกิดอาการเข่าอ่อนเซไปด้านข้าง ทำท่าจะเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาอีก ต้องรีบคว้าเก้าอี้ตัวที่อยู่ใกล้พยุงตัวไว้กันล้ม คนที่ยืนเต้นอยู่แถวนั้น มีบางคนจ้องมองมาที่เก้าอี้ตาเป๋ง ทำท่าประหลาดใจ คงสงสัยว่าทำไมเก้าอี้มันถึงขยับได้เอง

“เจ้าไม่ต้องกลัวเป็นลมดอก นางช่อ ร่างเจ้าตอนนี้เป็นดวงจิตเช่นเดียวกับข้า เจ้าเพียงแต่ถอดดวงจิตตามข้ามา ทิ้งกายหยาบของเจ้าไว้ที่บ้าน เจ้าจึงไม่มีอาการเจ็บป่วยของกายหยาบอีก ผู้คนในนี้มิอาจมองเห็นเรา แต่พลังงานดวงจิตของเจ้ายังพอมีแรงดันเก้าอี้ให้เลื่อนไป จนคนผู้นั้นผิดสังเกตเอา” 

หล่อนบุ้ยปากไปทางคนซึ่งกำลังทำหน้าแปลกใจ จ้องมองเก้าอี้ด้วยท่าทางงุนงง หญิงสาวที่หัวใจกำลังสลายฝืนยืนตัวตรง สายตายังพุ่งไปทางที่ผู้ชายสองคนเดินหายลับเข้าไปด้วยกัน พึมพำออกมาด้วยใบหน้าที่หมองลง

“ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ทำไมผู้ชายหล่อ ๆ เดี๋ยวนี้ ถึงกลายเป็นเกย์กันหมดนะ พี่อนุชาไม่เคยมีวี่แววมาก่อนว่าจะชอบผู้ชายด้วยกัน เห็นมีแต่สาว ๆ มาตามกรี๊ดเขา”

“ความลุ่มหลงมันบังตาเจ้าไว้ไม่ให้เห็นถึงสิ่งผิดปกติน่ะซี เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือไร คนอายุปูนนี้แล้วไฉนยังไม่มีแฟนสักที มาทำท่าจีบสาวไปเรื่อย ๆ แต่ไม่เคยมีใครเป็นแฟนจริงจังสักครั้งเดียว”

ช่อชบานิ่งเงียบ จริงของสีมอย ทำไมเธอถึงไม่ฉุกคิดถึงเรื่องนี้มาบ้างนะ เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาสอดส่องดูแม่พวกสาว ๆ ที่มาห้อมล้อมเขาอยู่ เห็นพี่อนุชามักอยู่แต่ในกลุ่มผู้หญิง นึกว่าเขาเจ้าชู้เสียอีก ที่ไหนได้ แท้จริงเขามีใจเป็นหญิงนั่นเอง รู้สึกเบื่อโลกขึ้นมากะทันหัน เหลียวมาบอกสีมอยเสียงสั่น

“พาฉันกลับไปเถอะสีมอย อย่าเสียเวลาอยู่ตรงนี้อีกเลย” 

วินาทีนี้สาวอกหักทำใจไม่ได้ น้ำตาซึมหัวตา ความพ่ายแพ้ถ้าแพ้ให้กับสาวอื่นจะไม่ว่าอะไรเลยสักคำ เพราะตัวเองใช่ว่าจะสะสวยอะไรนัก แต่เมื่อต้องมาแพ้ให้กับผู้ชายทั้งแท่งแบบนี้ นอกจากความเจ็บช้ำแล้วมันยังมีความอายแฝงอยู่ เป็นชะนีแท้ ๆ ยังมาแพ้รักให้กับผู้ชายอีก มันช่างน่าสมเพชเสียจริงเชียว

“ไปซี ข้าก็ไม่ชอบที่นี่นักหรอก ผู้ชายพวกนั้นทำตัวราวกับจะยั่วยวนผู้ชายด้วยกันเอง เดี๋ยวฟ้าก็ผ่าเอาดอก ที่บ้านข้าเขาถือว่าขึด แต่ในยุคของพวกเจ้าข้าเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก คนเดี๋ยวนี้ไม่มีการผิดผี รักเพศเดียวกันก็ไม่ถือว่าขึดอีกแล้ว”

สาวน้ำหมากพยักหน้าเห็นด้วย ขึดของหล่อนหมายถึงผิดธรรมชาติ เป็นที่ติฉินนินทาของคนทั่วไป และอาจทำให้เกิดเหตุอาเพศต่าง ๆ ตามความเชื่อของคนล้านนาสมัยโบราณ

สีมอยคว้าข้อมือเพื่อนสาวมากำไว้ เพียงชั่วพริบตาเดียว ช่อชบาก็รู้ตัวว่าเข้ามายืนอยู่ในอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งเงียบสงบ แตกต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง 

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่