นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๔๕. เธอผู้เป็นดั่งดวงใจ)


                                          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ตอนที่ ๔๕.เธอผู้เป็นดั่งดวงใจ


      ในเย็นวันนี้ นคินทร์ได้นัดหมายให้พวกเพื่อนมาพบกันที่คฤหาสน์อัครกูล ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจต่อไป นคินทร์ก็ได้รับโทรศัพท์จากเจนสินนายตำรวจรุ่นพี่

      “ตอนนี้เป้าหมายติดกับ ส่วนตัวประกันได้รับบาดเจ็บไม่มากถูกส่งไปที่โรงพยาบาล”

       นคินทร์รู้เรื่องของเป้าหมายที่เจนสินบอกซึ่งเขาคนนั้นก็คือ “ภูมิธเนศ” นายแบบหนุ่มที่นายตำรวจรุ่นพี่และจอนนี่กำลังติดตามดูพฤติกรรมอยู่ ส่วนตัวประกันก็คือ” ภาวินี”

      นายตำรวจรุ่นพี่ยังคงเล่าเหตุการณ์ให้ฟังคร่าว ๆ จากการให้ปากคำของภาวินี เธอกับภูมิธเนศมีปากเสียงเรื่องเงินที่ไปใช้หนี้การพนันและเรื่องอื่น ๆ รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ระหองระแหง ทำให้ภูมิธเนศต้องการตีตัวออกจากภาวินีเพื่อหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่ภาวินีไม่ยินยอม ภูมิธเนศจึงข่มขู่จะทำร้ายเธอ แต่ยังโชคดีที่หนุ่มนายแบบแค่เพียงพลั้งมือทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้ภูมิธเนศถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ในพื้นที่รับผิดชอบ ส่วนภาวินียังอยู่ในภาวะซึมเศร้าเพราะยังทำใจเรื่องนี้ไม่ได้

      หลังจากเล่าเรื่องให้ฟัง เจนสินก็บอกกำชับให้นคินทร์กับพวกเพื่อนระมัดระวังตัว ก่อนที่จะวางสายสนทนาไป

      อดีตนายตำรวจฟังแล้วก็พลอยรู้สึกหดหู่ใจไปด้วย เมื่อรู้ข่าวนายแบบหนุ่มที่เคยมีชีวิตรุ่งโรจน์ต้องมามีอนาคตดับวูบไปทันที ตอนนี้ลูกชายของทัศนะถูกควบคุมตัวไว้แล้ว เหลือเพียงแค่ทัศนะที่ยังไม่รู้เหตุการณ์ในภายหน้าจะเป็นอย่างไร

      ชัย โจอี้และท็อปเดินมาหานคินทร์ ตอนนี้พวกเขาทุกคนแต่งตัวรัดกุมเพื่อพร้อมที่จะออกไปปฏิบัติงาน

      “พวกนายไปสมทบกับทีมของคุณพ่อก่อน เดี๋ยวฉันจะตามไป” นคินทร์หันไปบอกกับพวกเพื่อน ทุกคนต่างก็พยักหน้ารับทราบแล้วขึ้นรถกันไป


       อีกด้านหนึ่ง เมรันอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดของลูกค้าประจำห้องเสื้อรายใหญ่คนหนึ่ง  ซึ่งเจ้าของงานชอบบรรยากาศธรรมชาติเลยมาจัดงานเลี้ยงที่ร้านอาหารอยู่ติดสวนและริมน้ำ ดีไซเนอร์สาวจึงชวนมีมี่เพื่อนรักมางานด้วยกัน โดยที่จะต้องกลับภายในเวลาไม่เกินหนึ่งทุ่มตามที่บอดี้การ์ดหนุ่มได้บอกกำชับไว้

       “วันนี้ไม่มีหนุ่มหล่อมาด้วยเหรอคะ” เสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยถาม เมรันรู้สึกคุ้นหน้าตาคนถามว่าเป็นคนในกลุ่มผู้สื่อข่าวสังคมซึ่งมักจะพบกันเป็นประจำในงาน เธอก็เลยตอบตามมารยาทไปว่านคินทร์ติดธุระ

            คำตอบของเมรันนั้นได้ยินไปถึงหูของใครอีกคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลด้วยเช่นกัน ชายคนที่ยืนฟังอยู่นั้นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์โทรออกแล้วเดินเลี่ยงไปอีกมุมหนึ่งทันที...

             ดีไซเนอร์สาวมัวแต่คุยสัพเพเหระเพลินจนเวลาเลยไปเกือบครึ่งชั่วโมง มีมี่จึงดึงแขนเพื่อนคนสนิทมาบอกกระซิบให้รู้ตัว เธอถึงนึกขึ้นได้แล้วเอ่ยปากขอตัวกลับกับเจ้าของงาน

       ท้องฟ้าในยามฤดูหนาวที่มืดเร็วกว่าปกติ มีมี่เดินมาได้สักพัก มองซ้ายและขวาก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่แสนจะเงียบเชียบจนต้องแอบกังวล  เขาจึงรีบพาเมรันเร่งฝีเท้าเดินให้พ้นจากที่นี่จนกระทั่งทั้งคู่ใกล้จะถึงที่จอดรถ 

       ทันใดนั้น! กีมีท่อนแขนใหญ่ยื่นมาจากด้านหลังล็อกเข้าที่คอของมีมี่ ทำให้เขาสะดุ้งสุดตัว หากแต่เสียงที่พยายามเปล่งเพื่อขอความช่วยเหลือนั้นไม่สามารถหลุดลอดออกมา

             คนร้ายมีอยู่ทั้งหมดห้าคน สองคนพยายามจะก้าวเข้าไปรวบตัวหญิงสาวซึ่งเป็นเป้าหมาย แต่เมรันคอยระวังตัวอยู่ก่อนจึงยกกระเป๋าฟาดเข้าไปที่ตัวของชายคนที่เข้ามาประชิดตัว โชคดีที่เธอสวมชุดเสื้อกางเกงตามที่นคินทร์ได้บอกเอาไว้ เธอจึงยกขาเรียวถีบเข้าที่ลำตัวของมัน

            เมรันรีบหยิบปืนจากกระเป๋าขึ้นมาจ่อไปทางคนร้ายทั้งสอง ทำให้มันต้องสะดุดหยุดกึกทันที แต่พวกมันอีกคนก็พูดจาข่มขู่พร้อมที่จะทำร้ายเพื่อนใบหน้าซีดเซียวที่กำลังตกอยู่ในกำมือของมัน ทำให้เธอต้องชั่งใจ คนยิ้มเยาะหมายเดินปรี่เข้าไปหา เมรันจึงหันกระบอกปืนไปแล้วตัดสินใจเหนี่ยวไก ทำให้มันก็ต้องร้องด้วยความเจ็บปวดทันทีเมื่อกระสุนแล่นเข้าไปที่ไหล่ของมันอย่างจัง หากแต่หญิงสาวที่ลงมือลั่นไกเป็นครั้งแรกกลับรู้สึกตื่นตระหนก อกสั่นเมื่อมองคนที่ถูกยิงบาดเจ็บพร้อมกับโลหิตที่ไหลซึมออกมาจากบาดแผล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่