ตอนที่ ๑๑. ปาร์ตี้ริมหาด
วันนี้นคินทร์ได้นัดให้เพื่อน ๆ ในทีมพร้อมทั้งเฮียหุยพาคุณชินดนัยไปร่วมกันพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศของคุณประพันธ์ ทุกคนดีใจมากเพราะนานๆ จะได้มีโอกาสไปเที่ยวทะเลกับกลุ่มเพื่อนรักด้วยกัน ทั้งหมดเดินทางมาพร้อมกันที่คฤหาสน์อัครกูล
ท็อปสวมหมวกแก๊ปเดินก้มหน้าก้มตาไม่ค่อยพูดจาจนเพื่อนผิดสังเกต เพราะปกติไม่ค่อยเห็นเขาสวมหมวกและมีท่าทางแบบนี้เท่าไร ด้วยความสงสัยโจอี้พยักหน้ากับจอนนี่เพื่อเข้าไปแกล้งจับเพื่อนไว้ นายช่างหนุ่มไม่ทันตั้งตัวถูกโจอี้รวบตัว จอนนี่ได้จังหวะเข้าไปดึงหมวกออก ท็อปรีบหันหน้าหนีแต่พวกเพื่อนก็ช่างสงสัยก็ตาไว พอจะมองเห็นบางอย่าง
“แกไปตัดผมร้านไหนมาวะ?” ชัยถามมองด้วยความแปลกใจ ทุกคนหันไปดูทรงผมของนายช่างหนุ่ม
“ร้านขวดเดียว” ท็อปช่วยสงเคราะห์เจ้าพวกเพื่อนช่างสงสัย เขาตอบเสียงเหนื่อยเหมือนจะเจอคำถามแบบนี้มาสักร้อยรอบแล้ว
“ร้านไหนวะ? ร้านขวดเดียว” โจอี้ถาม นายช่างใหญ่ถอนใจบอกเด็กในอู่มันเคยเรียนตัดผม อยากประหยัดก็เลยให้มันตัด มันบอกขอแค่ขวดเดียว ข้าก็แกล้งมันให้ไปครึ่งขวดบอกอีกครึ่งนึงเอาไว้ตอนตัดผมเสร็จแล้วค่อยให้ มันก็เลยตัดให้ข้าอย่างที่เห็นนี่แหละ คำตอบนี้ทำให้ทุกคนต้องมองกลับไปที่ผลงานอันวิจิตรเป็นศิลปะที่อยู่บนศีรษะของท็อปนั่นก็คือผมด้านนึงถูกซอยสั้นดูดี ส่วนผมอีกด้านนึงเหมือนจะยาวมากสั้น
“มันก็เลยตัดให้แกเสร็จแค่ครึ่งหัว” จอนนี่เฉลยคำตอบให้ ไอ้ท็อปพยักหน้าบอกถ้าไอ้หมอนั่นมันไม่ใช่ลูกน้องฝีมือดี ไล่มันออกไปนานล่ะ พวกเพื่อนก็รู้กันดีว่าท็อปเป็นคนที่ปากร้ายแต่ใจดี คราวนี้พวกเขาพากันหัวเราะด้วยความสาแก่ใจ เสียงหัวเราะของเฮียหุยฟังจะดังที่สุด จนนคินทร์กับชินดนัยที่เดินออกมาจากห้องโถงได้ยินต้องถามเรื่องที่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน พอเห็นชินดนัยมา ทุกคนก็เลยหันมาพูดสวัสดีกับเขาผู้เป็นลูกชายของคุณประพันธ์ ส่วนท็อปหลังจากพูดเสร็จก็ต้องแย่งโบกมือบอกไม่มีอะไร แล้วก็รีบก้าวเท้าไปที่รถตู้ เพื่อน ๆ ที่เดินตามกันมายังคงหัวเราะกันต่อ
รถตู้คันนี้มุ่งหน้าจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดเพชรบุรี เพื่อไปที่บ้านพักตากอากาศของท่านประพันธ์ โดยมีท็อปเป็นคนขับ งานนี้มีผู้ร่วมเดินทางคือ เฮียหุย นคินทร์ ชัย โจอี้ จอนนี่ กับชินดนัยทั้งหมดนั่งมาในรถก่อนถึงที่พักท็อปกับเฮียหุยพาทุกคนยืดเส้นยืดสายด้วยการลงไปเดินช็อปปิ้งที่ตลาดของทะเลสด
ภายในตลาดของทะเลสด บรรยากาศที่แสนพลุกพล่านในยามเช้าของวันหยุดสุดสัปดาห์ คับคั่งด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่แวะมาจับจ่ายซื้ออาหารทะเลสดรวมทั้งที่มาหาของรับประทานสำหรับมื้อเช้า
“นี่เลยครับคุณชินดนัย อะเมซิ่งไทยแลนด์” เฮียหุยรีบโฆษณาด้วยความภาคภูมิใจ ชินดนัยรู้สึกตื่นเต้นเพราะเป็นบรรยากาศที่เขาไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าไรนัก พวกเขาได้แวะซื้อของกินประทังหิวที่ตลาดก่อนเฮียหุยจะพาไปซื้ออาหารทะเลสดไว้สำหรับมื้อเย็นและเช้าของวันรุ่งขึ้น
“เฮียรีบทำคะแนนกับคุณชินดนัยเลยนะเนี่ย” ท็อปอดแซวเฮียหุยไม่ได้ หนุ่มลูกครึ่งยิ้มให้กับพวกเขา
เฮียหุยพาทุกคนมาเดินตามกันเป็นโขยงไปหยุดยืนซื้อร้านไหนก็แทบจะยืนล้อมจนปิดร้านเขาเสียมิด
“ดูสิ พวกเราชายฉกรรจ์ทั้งนั้น เดี๋ยวพวกพ่อค้าแม่ค้าแตกตื่นนึกว่ามาเฟียมาซื้อของ แยกกันเดินบ้างดีกว่า” ชัยสะกิดบอกกับนคินทร์ ชายหนุ่มหัวเราะหันไปมองทุกคนที่พากันสวมแว่นตาดำกันจนติดเป็นนิสัยดูแล้วมีสภาพอย่างที่เพื่อนบอก
“เฮีย เดี๋ยวผม ชัยกับท็อปไปเดินดูอะไรเพิ่มเติมแล้วมาเจอกันที่หน้าตลาดนะครับ” นคินทร์พูด เฮียหุยพยักหน้าแล้วพาคุณชินดนัยไปด้วย ระหว่างเดินซื้ออาหารทะเลเฮียหุยก็พยายามต่อราคา แต่แม่ค้าไม่ยอมลดได้แต่เห็นจ้องหน้าหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อไม่วางสายตา ทำให้เฮียหุยคิดอะไรได้บ้างอย่าง
“เจ๊คนสวยจ้า วันนี้วันเกิดเจ้านายสุดหล่อของฉัน เขาเพิ่งกลับมาอังกฤษ ยังไงก็คิดราคาพิเศษเป็นของขวัญให้หน่อยก็แล้วกันนะจ๊ะ แม่ค้าคนสวย” เฮียหุยทุ่มคำหวานสุดสำหรับงานนี้ แม่ค้าเลยบอกให้พิเศษสำหรับหนุ่มลูกครึ่งคนนี้ ก็เลยได้กุ้งมาในราคาดีทำเอาเจ้าหนุ่มสองคนที่ตามมาด้วยคือโจอี้กับจอนนี่ถึงกับแอบหัวเราะในลีลาการต่อราคาของเฮียหุย
“แฮปปี้เบริด์เดย์ทูยูนะจ๊ะ “แม่ค้าหันมาส่งตาหวานบอกอวยพรวันเกิดให้กับชินดนัยตามที่เฮียหุยแอบอ้าง ทำให้พ่อหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถึงกับต้องรับมุกยิ้มขอบคุณกลับไปจากนั้นเฮียหุยก็พาไปซื้อของทะเลสดอีกสองสามร้านก็ใช้มุกวันเกิดของคุณชินดนัยทำให้ได้ในราคาพิเศษแต่จะมากจะน้อยก็ได้ผลทุกร้าน
หลังจากที่ช้อปปิ้งของทะเลสดแล้วก็มาเจอที่จุดนัดพบที่ตลาด นคินทร์กับชัยเดินหิ้วผลไม้ เฮียหุยได้อาหารทะเลสดมาครบ ทั้งหมดก็พากันขึ้นรถเพื่อไปอย่างจุดหมายต่อก็มาถึงที่พัก
บริเวณบ้านพักตากอากาศบนชายหาดส่วนตัว บ้านพักแยกเป็นสองหลัง แต่ละหลังมีสองชั้นแบ่งเป็นสองห้องนอน มีพื้นที่กว้างขวางติดริมทะเล พวกเขาต่างก็พากันแยกย้ายไปที่ห้องเก็บสัมภาระของตนเอง ชินดนัยพักที่ห้องหนึ่ง นคินทร์พักคู่กับชัยอีกห้องหนึ่งอยู่หลังเดียวกัน ส่วนอีกหลังหนึ่งมีเฮียหุยพักคู่กับท๊อป อีกห้องก็คือโจอี้พักคู่กับจอนนี่
สถานที่จัดกิจกรรมปาร์ตี้กันสำหรับกลุ่มชายหนุ่มทั้งหกคนและวัยกลางคนอีกหนึ่งก็คือบริเวณหน้าบ้านพักบนริมหาดทรายละเอียด ที่พวกเขาจะปักหลักสังสรรค์กันวันนี้ พวกเขาเริ่มต้นกิจกรรมของหนุ่ม ๆ ด้วยการปลดเปลื้องเสื้อผ้าท่อนบนออก ถ้าสถานที่นี้เป็นชายหาดที่เปิดสำหรับนักท่องเที่ยว แล้วมีสาว ๆ นั่งอยู่ริมหาด พวกเธอคงจะได้เห็นกล้ามแขนและแผงอกของพวกเขาที่โชว์อวดสายตาอยู่ในตอนนี้ วินาทีนี้พวกเขาไม่สนใจอะไรมากไปกว่าการสูดอากาศสดชื่น ลมพัดเย็นสบาย บ้างก็ทิ้งตัวนอนเกลือกกลิ้งบนพื้นทราย บ้างก็ดื่มด่ำความสุขด้วยการวิ่งกระโจนลงน้ำทะเลแล้วพาร่างอันเปียกโชกขึ้นมาเพื่อให้ไอแดดอุ่นสัมผัสเนื้อตัวให้แห้ง สนุกสนานไปกับการเล่นบอลชายหาด ส่งเสียงเฮฮาเหมือนเมื่อครั้งสมัยที่ยังเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่น
หลังจากใช้เวลากับกิจกรรมในเบื้องต้นไปแล้ว นคินทร์เตรียมเตาบาบีคิว และเตรียมเตาถ่านเพิ่มอีกเตาไว้ทำต้มยำกุ้ง เฮียหุยกับท๊อปช่วยกันเตรียมอาหารทะเลที่นำมาเป็นมื้ออร่อยของวันนี้ ชินดนัยกับชัยสนุกสนานอยู่กับการเตรียมเครื่องเล่นลิมโบเพื่อวัดความสามารถระดับการโน้มตัวอ่อนผ่านไม้พาดยาวไปได้ ส่วนโจอี้กับจอนนี่คู่หูดูโอ้ก็เป็นช่างภาพเก็บภาพของเพื่อน ๆ อิริยาบถต่าง ๆ
“มองกล้องหน่อยเพื่อน ไม่ต้องห่วงฉันถ่ายรูปแกหล่ออยู่แล้ว” จอนนี่เอากล้องไปซูมใกล้นคินทร์พร้อมแซว ทำเอานายแบบที่ถูกถ่ายภาพต้องเอาก้านใบมะพร้าวมาถือไว้ข้างตัวแล้วทำหน้าทะเล้นใส่ไอ้ช่างกล้อง
“คิน แกแน่ใจนะเว้ยว่า จะเอาท่านี้ “จอนนี่ถามเพื่อนเพื่อความแน่ใจ นคินทร์พยักหน้า เจ้าตากล้องเลยจัดให้เสียงกดชัตเตอร์ ดัง…แชะ…แชะ … จอนนี่เช็คดูภาพ นึกในใจ เออว่ะ มันทำหน้าทะเล้นยังดูหล่อได้ เหลือเชื่อ เมื่อเขายกนิ้วเป็นการยืนยันบอกเพื่อนที่แบบให้ถ่ายว่าภาพออกมาดูดีแล้ว ตากล้องฝีมือดีก็หันมาหาคุณชินดนัย
“คุณชินดนัยครับ ขอหล่อ ๆ สักภาพครับผม” จอนนี่พูดอย่างสุภาพ พร้อมคำนับน้อบน้อมสุดชิวิต
“คุณชินดนัย เขาหล่ออยู่แล้ว แกถ่ายรูปเขากี่รูปก็หล่อหมด ไม่ใช่ฝีมือแกนะที่ดี แต่หน้าตาเขาดีอยู่แล้วเว้ย” ท๊อปนึกขำเลยพูด เสียงตบมือเฮ พร้อมเสียงผิวปากของเพื่อน ๆ ส่งสัญญาณว่าเห็นด้วยกับคำพูดของท๊อป
“พวกเราก็เป็นยังนี้อยู่กันนาน ๆ กัดกันเองบ้างเป็นธรรมดา” จอนนี่หันไปส่งยิ้มให้กับชินดนัย หนุ่มลูกครึ่งคนหล่อ ก็ยิ้มกว้างตอบ
“พวกคุณเป็นเพื่อนที่รักกันดีมาก” ชินดนัยพูดด้วยเสียงชื่มชม เขารู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
“ผมกับพวกคุณเป็นทีมเดียวกัน อยากให้พวกคุณเรียกผมว่า 'เจฟ' แล้วกัน “ชินดนัยบอกกับทุกคน เพราะชื่อเล่นของเขาน่าจะเรียกได้ถนัดว่าชื่อยาวที่เป็นทางการ ทุกคนทั้งหมดก็เลยพากันเรียกเขาว่า 'คุณเจฟ' แทน
แดดร่มพระอาทิตย์ตกในยามเย็นของวันนี้ เสียงคลื่นซัดและอากาศกำลังเย็นสบายทีเดียว ทำให้บรรยากาศริมหาดหน้าบ้านพักดูมีชีวิตชีวากับเสียงเฮฮาของบรรดาหนุ่ม ๆ โดยมีชินดนัยหรือคุณเจฟชวนให้ทุกคนเล่นลิมโบ โดยมีเสียงเพลงในจังหวะเร้าใจเปิดโดยดีเจจำเป็นท็อป พร้อมที่จะทำให้ทุกคนเกิดอาการอยากจะออกท่าเต้นตามจังหวะ เพื่อให้เอนตัวลอดผ่านไม้ที่วางขวางอยู่ด้านหน้าไปให้ได้ ทั้งสนุกทั้งลุ้น ซึ่งก็ผ่านกันได้บ้างไม่ได้บ้าง เป็นที่สนุกสนานกันทุกคน เรียกเป็นกิจกรรมเรียกน้ำย่อย
หลังจากพักเหนื่อยกันพอสมควรนั้นก็ถึงเวลาอาหาร ของทะเลที่ถูกปิ้งสุกแล้วทั้งกุ้ง ปลา ปลาหมึก หอยแมลงภู่ หอยแครง หอยเซลล์ ส่งกลิ่นหอมชวนน่ารับประทาน ปลุกให้น้ำลายสอด้วยความหิวกันเป็นแถว ข้าวก็สุกพร้อมเสิร์ฟให้เพื่อน ๆ ที่นำจานมาให้กับเชฟผู้ทำหน้าที่ปิ้งหน้าเตาสุดหล่ออย่างนคินทร์กับชัย โดยน้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรเด็ดก็มาจากฝีมือของนคินทร์ ส่วนต้มยำกุ้งรสเด็ดแซ่บเวอร์ต้องพ่อครัวอาวุโสอย่างเฮียหุย
นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๑๑. ปาร์ตี้ริมหาด)
วันนี้นคินทร์ได้นัดให้เพื่อน ๆ ในทีมพร้อมทั้งเฮียหุยพาคุณชินดนัยไปร่วมกันพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศของคุณประพันธ์ ทุกคนดีใจมากเพราะนานๆ จะได้มีโอกาสไปเที่ยวทะเลกับกลุ่มเพื่อนรักด้วยกัน ทั้งหมดเดินทางมาพร้อมกันที่คฤหาสน์อัครกูล
ท็อปสวมหมวกแก๊ปเดินก้มหน้าก้มตาไม่ค่อยพูดจาจนเพื่อนผิดสังเกต เพราะปกติไม่ค่อยเห็นเขาสวมหมวกและมีท่าทางแบบนี้เท่าไร ด้วยความสงสัยโจอี้พยักหน้ากับจอนนี่เพื่อเข้าไปแกล้งจับเพื่อนไว้ นายช่างหนุ่มไม่ทันตั้งตัวถูกโจอี้รวบตัว จอนนี่ได้จังหวะเข้าไปดึงหมวกออก ท็อปรีบหันหน้าหนีแต่พวกเพื่อนก็ช่างสงสัยก็ตาไว พอจะมองเห็นบางอย่าง
“แกไปตัดผมร้านไหนมาวะ?” ชัยถามมองด้วยความแปลกใจ ทุกคนหันไปดูทรงผมของนายช่างหนุ่ม
“ร้านขวดเดียว” ท็อปช่วยสงเคราะห์เจ้าพวกเพื่อนช่างสงสัย เขาตอบเสียงเหนื่อยเหมือนจะเจอคำถามแบบนี้มาสักร้อยรอบแล้ว
“ร้านไหนวะ? ร้านขวดเดียว” โจอี้ถาม นายช่างใหญ่ถอนใจบอกเด็กในอู่มันเคยเรียนตัดผม อยากประหยัดก็เลยให้มันตัด มันบอกขอแค่ขวดเดียว ข้าก็แกล้งมันให้ไปครึ่งขวดบอกอีกครึ่งนึงเอาไว้ตอนตัดผมเสร็จแล้วค่อยให้ มันก็เลยตัดให้ข้าอย่างที่เห็นนี่แหละ คำตอบนี้ทำให้ทุกคนต้องมองกลับไปที่ผลงานอันวิจิตรเป็นศิลปะที่อยู่บนศีรษะของท็อปนั่นก็คือผมด้านนึงถูกซอยสั้นดูดี ส่วนผมอีกด้านนึงเหมือนจะยาวมากสั้น
“มันก็เลยตัดให้แกเสร็จแค่ครึ่งหัว” จอนนี่เฉลยคำตอบให้ ไอ้ท็อปพยักหน้าบอกถ้าไอ้หมอนั่นมันไม่ใช่ลูกน้องฝีมือดี ไล่มันออกไปนานล่ะ พวกเพื่อนก็รู้กันดีว่าท็อปเป็นคนที่ปากร้ายแต่ใจดี คราวนี้พวกเขาพากันหัวเราะด้วยความสาแก่ใจ เสียงหัวเราะของเฮียหุยฟังจะดังที่สุด จนนคินทร์กับชินดนัยที่เดินออกมาจากห้องโถงได้ยินต้องถามเรื่องที่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน พอเห็นชินดนัยมา ทุกคนก็เลยหันมาพูดสวัสดีกับเขาผู้เป็นลูกชายของคุณประพันธ์ ส่วนท็อปหลังจากพูดเสร็จก็ต้องแย่งโบกมือบอกไม่มีอะไร แล้วก็รีบก้าวเท้าไปที่รถตู้ เพื่อน ๆ ที่เดินตามกันมายังคงหัวเราะกันต่อ
รถตู้คันนี้มุ่งหน้าจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดเพชรบุรี เพื่อไปที่บ้านพักตากอากาศของท่านประพันธ์ โดยมีท็อปเป็นคนขับ งานนี้มีผู้ร่วมเดินทางคือ เฮียหุย นคินทร์ ชัย โจอี้ จอนนี่ กับชินดนัยทั้งหมดนั่งมาในรถก่อนถึงที่พักท็อปกับเฮียหุยพาทุกคนยืดเส้นยืดสายด้วยการลงไปเดินช็อปปิ้งที่ตลาดของทะเลสด
ภายในตลาดของทะเลสด บรรยากาศที่แสนพลุกพล่านในยามเช้าของวันหยุดสุดสัปดาห์ คับคั่งด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่แวะมาจับจ่ายซื้ออาหารทะเลสดรวมทั้งที่มาหาของรับประทานสำหรับมื้อเช้า
“นี่เลยครับคุณชินดนัย อะเมซิ่งไทยแลนด์” เฮียหุยรีบโฆษณาด้วยความภาคภูมิใจ ชินดนัยรู้สึกตื่นเต้นเพราะเป็นบรรยากาศที่เขาไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าไรนัก พวกเขาได้แวะซื้อของกินประทังหิวที่ตลาดก่อนเฮียหุยจะพาไปซื้ออาหารทะเลสดไว้สำหรับมื้อเย็นและเช้าของวันรุ่งขึ้น
“เฮียรีบทำคะแนนกับคุณชินดนัยเลยนะเนี่ย” ท็อปอดแซวเฮียหุยไม่ได้ หนุ่มลูกครึ่งยิ้มให้กับพวกเขา
เฮียหุยพาทุกคนมาเดินตามกันเป็นโขยงไปหยุดยืนซื้อร้านไหนก็แทบจะยืนล้อมจนปิดร้านเขาเสียมิด
“ดูสิ พวกเราชายฉกรรจ์ทั้งนั้น เดี๋ยวพวกพ่อค้าแม่ค้าแตกตื่นนึกว่ามาเฟียมาซื้อของ แยกกันเดินบ้างดีกว่า” ชัยสะกิดบอกกับนคินทร์ ชายหนุ่มหัวเราะหันไปมองทุกคนที่พากันสวมแว่นตาดำกันจนติดเป็นนิสัยดูแล้วมีสภาพอย่างที่เพื่อนบอก
“เฮีย เดี๋ยวผม ชัยกับท็อปไปเดินดูอะไรเพิ่มเติมแล้วมาเจอกันที่หน้าตลาดนะครับ” นคินทร์พูด เฮียหุยพยักหน้าแล้วพาคุณชินดนัยไปด้วย ระหว่างเดินซื้ออาหารทะเลเฮียหุยก็พยายามต่อราคา แต่แม่ค้าไม่ยอมลดได้แต่เห็นจ้องหน้าหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อไม่วางสายตา ทำให้เฮียหุยคิดอะไรได้บ้างอย่าง
“เจ๊คนสวยจ้า วันนี้วันเกิดเจ้านายสุดหล่อของฉัน เขาเพิ่งกลับมาอังกฤษ ยังไงก็คิดราคาพิเศษเป็นของขวัญให้หน่อยก็แล้วกันนะจ๊ะ แม่ค้าคนสวย” เฮียหุยทุ่มคำหวานสุดสำหรับงานนี้ แม่ค้าเลยบอกให้พิเศษสำหรับหนุ่มลูกครึ่งคนนี้ ก็เลยได้กุ้งมาในราคาดีทำเอาเจ้าหนุ่มสองคนที่ตามมาด้วยคือโจอี้กับจอนนี่ถึงกับแอบหัวเราะในลีลาการต่อราคาของเฮียหุย
“แฮปปี้เบริด์เดย์ทูยูนะจ๊ะ “แม่ค้าหันมาส่งตาหวานบอกอวยพรวันเกิดให้กับชินดนัยตามที่เฮียหุยแอบอ้าง ทำให้พ่อหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ถึงกับต้องรับมุกยิ้มขอบคุณกลับไปจากนั้นเฮียหุยก็พาไปซื้อของทะเลสดอีกสองสามร้านก็ใช้มุกวันเกิดของคุณชินดนัยทำให้ได้ในราคาพิเศษแต่จะมากจะน้อยก็ได้ผลทุกร้าน
หลังจากที่ช้อปปิ้งของทะเลสดแล้วก็มาเจอที่จุดนัดพบที่ตลาด นคินทร์กับชัยเดินหิ้วผลไม้ เฮียหุยได้อาหารทะเลสดมาครบ ทั้งหมดก็พากันขึ้นรถเพื่อไปอย่างจุดหมายต่อก็มาถึงที่พัก
บริเวณบ้านพักตากอากาศบนชายหาดส่วนตัว บ้านพักแยกเป็นสองหลัง แต่ละหลังมีสองชั้นแบ่งเป็นสองห้องนอน มีพื้นที่กว้างขวางติดริมทะเล พวกเขาต่างก็พากันแยกย้ายไปที่ห้องเก็บสัมภาระของตนเอง ชินดนัยพักที่ห้องหนึ่ง นคินทร์พักคู่กับชัยอีกห้องหนึ่งอยู่หลังเดียวกัน ส่วนอีกหลังหนึ่งมีเฮียหุยพักคู่กับท๊อป อีกห้องก็คือโจอี้พักคู่กับจอนนี่
สถานที่จัดกิจกรรมปาร์ตี้กันสำหรับกลุ่มชายหนุ่มทั้งหกคนและวัยกลางคนอีกหนึ่งก็คือบริเวณหน้าบ้านพักบนริมหาดทรายละเอียด ที่พวกเขาจะปักหลักสังสรรค์กันวันนี้ พวกเขาเริ่มต้นกิจกรรมของหนุ่ม ๆ ด้วยการปลดเปลื้องเสื้อผ้าท่อนบนออก ถ้าสถานที่นี้เป็นชายหาดที่เปิดสำหรับนักท่องเที่ยว แล้วมีสาว ๆ นั่งอยู่ริมหาด พวกเธอคงจะได้เห็นกล้ามแขนและแผงอกของพวกเขาที่โชว์อวดสายตาอยู่ในตอนนี้ วินาทีนี้พวกเขาไม่สนใจอะไรมากไปกว่าการสูดอากาศสดชื่น ลมพัดเย็นสบาย บ้างก็ทิ้งตัวนอนเกลือกกลิ้งบนพื้นทราย บ้างก็ดื่มด่ำความสุขด้วยการวิ่งกระโจนลงน้ำทะเลแล้วพาร่างอันเปียกโชกขึ้นมาเพื่อให้ไอแดดอุ่นสัมผัสเนื้อตัวให้แห้ง สนุกสนานไปกับการเล่นบอลชายหาด ส่งเสียงเฮฮาเหมือนเมื่อครั้งสมัยที่ยังเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่น
หลังจากใช้เวลากับกิจกรรมในเบื้องต้นไปแล้ว นคินทร์เตรียมเตาบาบีคิว และเตรียมเตาถ่านเพิ่มอีกเตาไว้ทำต้มยำกุ้ง เฮียหุยกับท๊อปช่วยกันเตรียมอาหารทะเลที่นำมาเป็นมื้ออร่อยของวันนี้ ชินดนัยกับชัยสนุกสนานอยู่กับการเตรียมเครื่องเล่นลิมโบเพื่อวัดความสามารถระดับการโน้มตัวอ่อนผ่านไม้พาดยาวไปได้ ส่วนโจอี้กับจอนนี่คู่หูดูโอ้ก็เป็นช่างภาพเก็บภาพของเพื่อน ๆ อิริยาบถต่าง ๆ
“มองกล้องหน่อยเพื่อน ไม่ต้องห่วงฉันถ่ายรูปแกหล่ออยู่แล้ว” จอนนี่เอากล้องไปซูมใกล้นคินทร์พร้อมแซว ทำเอานายแบบที่ถูกถ่ายภาพต้องเอาก้านใบมะพร้าวมาถือไว้ข้างตัวแล้วทำหน้าทะเล้นใส่ไอ้ช่างกล้อง
“คิน แกแน่ใจนะเว้ยว่า จะเอาท่านี้ “จอนนี่ถามเพื่อนเพื่อความแน่ใจ นคินทร์พยักหน้า เจ้าตากล้องเลยจัดให้เสียงกดชัตเตอร์ ดัง…แชะ…แชะ … จอนนี่เช็คดูภาพ นึกในใจ เออว่ะ มันทำหน้าทะเล้นยังดูหล่อได้ เหลือเชื่อ เมื่อเขายกนิ้วเป็นการยืนยันบอกเพื่อนที่แบบให้ถ่ายว่าภาพออกมาดูดีแล้ว ตากล้องฝีมือดีก็หันมาหาคุณชินดนัย
“คุณชินดนัยครับ ขอหล่อ ๆ สักภาพครับผม” จอนนี่พูดอย่างสุภาพ พร้อมคำนับน้อบน้อมสุดชิวิต
“คุณชินดนัย เขาหล่ออยู่แล้ว แกถ่ายรูปเขากี่รูปก็หล่อหมด ไม่ใช่ฝีมือแกนะที่ดี แต่หน้าตาเขาดีอยู่แล้วเว้ย” ท๊อปนึกขำเลยพูด เสียงตบมือเฮ พร้อมเสียงผิวปากของเพื่อน ๆ ส่งสัญญาณว่าเห็นด้วยกับคำพูดของท๊อป
“พวกเราก็เป็นยังนี้อยู่กันนาน ๆ กัดกันเองบ้างเป็นธรรมดา” จอนนี่หันไปส่งยิ้มให้กับชินดนัย หนุ่มลูกครึ่งคนหล่อ ก็ยิ้มกว้างตอบ
“พวกคุณเป็นเพื่อนที่รักกันดีมาก” ชินดนัยพูดด้วยเสียงชื่มชม เขารู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
“ผมกับพวกคุณเป็นทีมเดียวกัน อยากให้พวกคุณเรียกผมว่า 'เจฟ' แล้วกัน “ชินดนัยบอกกับทุกคน เพราะชื่อเล่นของเขาน่าจะเรียกได้ถนัดว่าชื่อยาวที่เป็นทางการ ทุกคนทั้งหมดก็เลยพากันเรียกเขาว่า 'คุณเจฟ' แทน
แดดร่มพระอาทิตย์ตกในยามเย็นของวันนี้ เสียงคลื่นซัดและอากาศกำลังเย็นสบายทีเดียว ทำให้บรรยากาศริมหาดหน้าบ้านพักดูมีชีวิตชีวากับเสียงเฮฮาของบรรดาหนุ่ม ๆ โดยมีชินดนัยหรือคุณเจฟชวนให้ทุกคนเล่นลิมโบ โดยมีเสียงเพลงในจังหวะเร้าใจเปิดโดยดีเจจำเป็นท็อป พร้อมที่จะทำให้ทุกคนเกิดอาการอยากจะออกท่าเต้นตามจังหวะ เพื่อให้เอนตัวลอดผ่านไม้ที่วางขวางอยู่ด้านหน้าไปให้ได้ ทั้งสนุกทั้งลุ้น ซึ่งก็ผ่านกันได้บ้างไม่ได้บ้าง เป็นที่สนุกสนานกันทุกคน เรียกเป็นกิจกรรมเรียกน้ำย่อย
หลังจากพักเหนื่อยกันพอสมควรนั้นก็ถึงเวลาอาหาร ของทะเลที่ถูกปิ้งสุกแล้วทั้งกุ้ง ปลา ปลาหมึก หอยแมลงภู่ หอยแครง หอยเซลล์ ส่งกลิ่นหอมชวนน่ารับประทาน ปลุกให้น้ำลายสอด้วยความหิวกันเป็นแถว ข้าวก็สุกพร้อมเสิร์ฟให้เพื่อน ๆ ที่นำจานมาให้กับเชฟผู้ทำหน้าที่ปิ้งหน้าเตาสุดหล่ออย่างนคินทร์กับชัย โดยน้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรเด็ดก็มาจากฝีมือของนคินทร์ ส่วนต้มยำกุ้งรสเด็ดแซ่บเวอร์ต้องพ่อครัวอาวุโสอย่างเฮียหุย