[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ ๑. ปฐมบทของนคินทร์ https://ppantip.com/topic/37883882
ตอนที่ ๒. ความจริงที่ปรากฏ https://ppantip.com/topic/37889726
ตอนที่ ๓. เธอผู้แสนดี https://ppantip.com/topic/37890154
ตอนที่ ๔. บุพเพเล่นตลก https://ppantip.com/topic/37893257
ตอนที่ ๕. ตกหลุมรัก https://ppantip.com/topic/37893996
ตอนที่ ๖. แผนพิชิตใจนายบอดี้การ์ด https://ppantip.com/topic/37894598
ตอนที่ ๗. เพิ่งได้รู้ใจ https://ppantip.com/topic/37896270
ตอนที่ ๘. ใจสัมผัส https://ppantip.com/topic/37897664
ตอนที่ ๙.กลิ่นน้ำหอมของคุณ https://ppantip.com/topic/37898999
ตอนที่ ๑๐.ใครอยู่ในใจคุณ https://ppantip.com/topic/37899045
ตอนที่ ๑๑.ปาร์ตี้ริมหาด https://ppantip.com/topic/37899167
ตอนที่ ๑๒.จูบแรก https://ppantip.com/topic/37900113
ตอนที่ ๑๓. วาสนาพาให้พบ https://ppantip.com/topic/37883882
ตอนที่ ๑๔. เมื่อสองเราใกล้กัน https://ppantip.com/topic/37908202
ตอนที่ ๑๕. มิตรภาพ https://ppantip.com/topic/37908254
ตอนที่ ๑๖. ความในใจ https://ppantip.com/topic/37908525
ตอนที่ ๑๗. ความลับที่ถูกเผย https://ppantip.com/topic/37908779
ตอนที่ ๑๘. ปฏิบัติการของฟรังโก้ https://ppantip.com/topic/37914125
ตอนที่ ๑๙. ถ่านไฟเก่า https://ppantip.com/topic/ 37919981
ตอนที่ ๒๐. สาวสวยของฟรังโก้ https://ppantip.com/topic/37920050
ตอนที่ ๒๑. สัมผัสพิเศษ https://ppantip.com/topic/37920166
ตอนที่ ๒๒. ลุยเลยฟรังโก้ https://ppantip.com/topic/37923180
ตอนที่ ๒๓. ประมูลสวาท https://ppantip.com/topic/37925421
ตอนที่ ๓๓. ลูกผู้ชายหัวใจแกร่ง
คฤหาสน์อัครกูล ในเวลาหัวค่ำ ภายในห้องรับประทานอาหารที่เรือนใหญ่
บรรยากาศในวันนี้ดูไม่เงียบเหงาเหมือนที่ผ่านมาเพราะมีชายหนุ่มหญิงสาวถึงสามคู่มาร่วมรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน โดยมีป้าเยือนและอ่อนคอยดูแลจัดอาหารให้ ชินดนัยเป็นคนเอ่ยปากชวนน้องสาวทั้งสองคน น้องเขยกับนคินทร์ นานแล้วที่พวกเขาไม่ได้ร่วมวงสนทนากันพร้อมหน้า
ทำให้ป้าเยือนยิ้มเมื่อนึกถึงภาพของคนทั้งสามคู่ คู่คุณหนูรินกับคุณหมอปรัชญ์ คุณหนูเมรันกับคุณคิน และคุณชินดนัยกับกรองขวัญ ยิ่งถ้ามีท่านประพันธ์กับคุณแพรวมณี มาร่วมรับประทานอาหารอยู่ด้วยกันหน้าพร้อมตา บ้านอัครกูลคงจะมีบรรยากาศที่คึกคักและมีชีวิตชีวามากทีเดียว และหากว่าคุณผู้หญิงแหม่มยังมีชีวิตอยู่ได้เห็นพวกเขา คุณผู้หญิงเธอคงต้องดีใจที่สุด ป้าเยือนนึกแล้วก็มีทั้งดีใจและทั้งเสียดายไปด้วย...
“ช่วงนี้คุณอาไพบูลย์จะมาช่วยให้คำปรึกษากับอัครกูลกรุ๊ป” ชินดนัยบอกกับทุกคนหลังจากสนทนากันได้สักพัก
คิ้วเรียวของเมรันขมวดเข้าหากันแล้วหันไปมองหน้ากับนคินทร์ที่นั่งอยู่ข้างเธอ
“รันไม่เห็นรู้เรื่องเลย จริงหรือคะ”
นคินทร์เห็นสีหน้าเต็มไปด้วยคำถามของเมรัน จึงอธิบายให้เธอฟัง
“เจ้าสัวเป็นผู้ใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์และประสบการณ์การทำธุรกิจมานาน ท่านจะช่วยให้คำแนะนำกับเราได้เป็นอย่างมาก”
ทุกคนฟังแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่สีหน้าของเมรันยังคงดูไม่ค่อยสบายใจนัก นคินทร์จึงหันไปเปลี่ยนเรื่องคุย
“ได้ข่าวคุณรินจะมีหลานให้ท่านประพันธ์แล้ว ผมยินดีด้วยนะครับ”
“หมอปรัชญ์ตั้งใจดีมาก ต้องให้ได้แบบนี้สิ” ชินดนัยพูดแล้วยกแก้วน้ำในมือขึ้นสูง แสดงความยินดีกับน้องเขยอีกคน
“แล้วเมื่อไหร่คุณเจฟจะมีข่าวดีบ้างล่ะครับ ผมกับรินไม่อยากนำหน้านาน” น้องเขยขยับแว่นตาพูดแซวกลับ มือโอบไหล่ภรรยาเข้ามาชิด ทำให้เมรินต้องยกมือตีเข้าที่แขนของสามีแล้วใบหน้าเปล่งประกายสีแดงเป็นลูกตำลึงทีเดียว
“น้องเขยคนนี้พูดถูกใจ ผมน่ะพร้อมแล้ว แต่ไม่รู้ว่าอีกคนจะพร้อมหรือยัง?”
ชินดนัยยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม สายตานั้นเหลือบไปมองกรองขวัญที่นั่งอยู่ข้างเขา ทำให้ทุกคนต่างก็พากันมองไปที่กรองขวัญเป็นสายตาเดียวกัน
หญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังถูกพูดถึงนั้นยังคงก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าเงยขึ้นมาสบสายตาของชินดนัย
“ท่าทางคุณเจฟคงต้องรีบทำให้เธอรู้ตัวหน่อยแล้วครับ” นคินทร์พูดแซวเสริมขึ้นอีกคน เมรันฟังอยู่ก็พลอยหัวเราะคิกคัก และหมอปรัชญ์ก็ยกแก้วน้ำขึ้นสูงแสดงความเห็นด้วย
ชินดนัยดีดนิ้วเปาะ เห็นด้วยกับคำพูดของนคินทร์ที่บอกได้ตรงกับใจของเขา “น้องเขยในอนาคตคนนี้พูดดีมาก”
นคินทร์ถึงกับสำลักน้ำที่ยกดื่ม ทั้งคุณหมอหนุ่มกับภรรยาพากันหัวเราะชอบใจ ส่วนเมรันนั่งหน้าแดงระเรื่อพร้อมกับรอยยิ้มเขิน
‘ไอกำลังคิดว่าจะชวนทุกคนไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศของคุณพ่อ” ชินดนัยยิ้มแล้วบอกกับทุกคน โดยที่ลืมไปว่าตนเองได้เอ่ยถึงบิดา ทำให้เมรันมีรอยยิ้มจางลงกว่าคนอื่น เมื่อนึกถึงว่าคุณพ่อนั้นยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อพักฟื้นตัว ชินดนัยเหลือบตาไปมองกับนคินทร์อย่างคนที่รู้กัน แล้วก็ต้องรีบพูดให้น้องสาวสบายใจ
“พี่หมายถึงรอให้คุณพ่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว พวกเราพาท่านไปพักผ่อนด้วยกัน”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อรับประทานอาหารเสร็จและนั่งสนทนากันอยู่อีกสักครู่ ทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน โดยปวรปรัชญ์กับเมรินไปพักที่ห้อง ส่วนกรองขวัญนั้นพักอยู่ห้องเดียวกับเมรัน แต่ชินดนัยยังคงมีทีท่าอิดออดที่จะขออยู่คุยกับกรองขวัญต่อ เมรันรู้ทันพี่ชายจึงปลีกตัวออกไปกับนคินทร์
เมื่อชินดนัยมองจนแน่ใจว่าทุกคนเดินออกกันไปหมดแล้ว คนมือไวก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือนุ่มของกรองขวัญ จูงมือเธอเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นบน แล้วหยุดตรงทางระเบียงข้างห้องนอนของเขา ทำให้กรองขวัญรีบละล่ำละลักถาม “คุณเจฟจะพาขวัญไปไหนคะ”
“จะไปไหนล่ะ? ก็ยังอยู่ในบ้านนี่แหละ”
กรองขวัญมองซ้ายมองขวา มุมที่ชินดนัยพาเธอมายืนอยู่นั้น เป็นมุมสงบ จากบริเวณนี้ทำให้เธอมองผ่านประตูกระจกเห็นวิวในสวนสวยที่อยู่ภายนอกระเบียง
“ผมชอบหาเวลามานั่งพักผ่อนตรงนี้”
คำพูดของชินดนัยทำให้กรองขวัญต้องหันไปมองด้านหลังซึ่งมีโซฟาตัวยาวตั้งอยู่ แล้วยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองคนตัวสูง
“ผมหาโอกาสนี้มานานแล้ว”
“อะ..โอกาสอะไรคะ?” น้ำเสียงของกรองขวัญนั้นสั่นจนชินดนัยยิ้มขำเมื่อเห็นท่าทางสั่นเป็นลูกนกตกน้ำของเธอ
“โอกาสที่ผมจะได้พาผู้หญิงที่ผมชอบมานั่งมองวิวด้วยกันสิครับ”
กรองขวัญพยายามที่จะระวังตัวอยู่ เธอไม่อยากจะให้ตัวเองต้องใกล้ชิดกับเขามากไปกว่านี้ แต่หากว่าหัวใจดวงน้อยนั้นไม่ได้ทำในสิ่งที่เธอพยายามห้ามกับตัวเองเลย
นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๓๓. ลูกผู้ชายหัวใจแกร่ง)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คฤหาสน์อัครกูล ในเวลาหัวค่ำ ภายในห้องรับประทานอาหารที่เรือนใหญ่
บรรยากาศในวันนี้ดูไม่เงียบเหงาเหมือนที่ผ่านมาเพราะมีชายหนุ่มหญิงสาวถึงสามคู่มาร่วมรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน โดยมีป้าเยือนและอ่อนคอยดูแลจัดอาหารให้ ชินดนัยเป็นคนเอ่ยปากชวนน้องสาวทั้งสองคน น้องเขยกับนคินทร์ นานแล้วที่พวกเขาไม่ได้ร่วมวงสนทนากันพร้อมหน้า
ทำให้ป้าเยือนยิ้มเมื่อนึกถึงภาพของคนทั้งสามคู่ คู่คุณหนูรินกับคุณหมอปรัชญ์ คุณหนูเมรันกับคุณคิน และคุณชินดนัยกับกรองขวัญ ยิ่งถ้ามีท่านประพันธ์กับคุณแพรวมณี มาร่วมรับประทานอาหารอยู่ด้วยกันหน้าพร้อมตา บ้านอัครกูลคงจะมีบรรยากาศที่คึกคักและมีชีวิตชีวามากทีเดียว และหากว่าคุณผู้หญิงแหม่มยังมีชีวิตอยู่ได้เห็นพวกเขา คุณผู้หญิงเธอคงต้องดีใจที่สุด ป้าเยือนนึกแล้วก็มีทั้งดีใจและทั้งเสียดายไปด้วย...
“ช่วงนี้คุณอาไพบูลย์จะมาช่วยให้คำปรึกษากับอัครกูลกรุ๊ป” ชินดนัยบอกกับทุกคนหลังจากสนทนากันได้สักพัก
คิ้วเรียวของเมรันขมวดเข้าหากันแล้วหันไปมองหน้ากับนคินทร์ที่นั่งอยู่ข้างเธอ
“รันไม่เห็นรู้เรื่องเลย จริงหรือคะ”
นคินทร์เห็นสีหน้าเต็มไปด้วยคำถามของเมรัน จึงอธิบายให้เธอฟัง
“เจ้าสัวเป็นผู้ใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์และประสบการณ์การทำธุรกิจมานาน ท่านจะช่วยให้คำแนะนำกับเราได้เป็นอย่างมาก”
ทุกคนฟังแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่สีหน้าของเมรันยังคงดูไม่ค่อยสบายใจนัก นคินทร์จึงหันไปเปลี่ยนเรื่องคุย
“ได้ข่าวคุณรินจะมีหลานให้ท่านประพันธ์แล้ว ผมยินดีด้วยนะครับ”
“หมอปรัชญ์ตั้งใจดีมาก ต้องให้ได้แบบนี้สิ” ชินดนัยพูดแล้วยกแก้วน้ำในมือขึ้นสูง แสดงความยินดีกับน้องเขยอีกคน
“แล้วเมื่อไหร่คุณเจฟจะมีข่าวดีบ้างล่ะครับ ผมกับรินไม่อยากนำหน้านาน” น้องเขยขยับแว่นตาพูดแซวกลับ มือโอบไหล่ภรรยาเข้ามาชิด ทำให้เมรินต้องยกมือตีเข้าที่แขนของสามีแล้วใบหน้าเปล่งประกายสีแดงเป็นลูกตำลึงทีเดียว
“น้องเขยคนนี้พูดถูกใจ ผมน่ะพร้อมแล้ว แต่ไม่รู้ว่าอีกคนจะพร้อมหรือยัง?”
ชินดนัยยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม สายตานั้นเหลือบไปมองกรองขวัญที่นั่งอยู่ข้างเขา ทำให้ทุกคนต่างก็พากันมองไปที่กรองขวัญเป็นสายตาเดียวกัน
หญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มที่กำลังถูกพูดถึงนั้นยังคงก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าเงยขึ้นมาสบสายตาของชินดนัย
“ท่าทางคุณเจฟคงต้องรีบทำให้เธอรู้ตัวหน่อยแล้วครับ” นคินทร์พูดแซวเสริมขึ้นอีกคน เมรันฟังอยู่ก็พลอยหัวเราะคิกคัก และหมอปรัชญ์ก็ยกแก้วน้ำขึ้นสูงแสดงความเห็นด้วย
ชินดนัยดีดนิ้วเปาะ เห็นด้วยกับคำพูดของนคินทร์ที่บอกได้ตรงกับใจของเขา “น้องเขยในอนาคตคนนี้พูดดีมาก”
นคินทร์ถึงกับสำลักน้ำที่ยกดื่ม ทั้งคุณหมอหนุ่มกับภรรยาพากันหัวเราะชอบใจ ส่วนเมรันนั่งหน้าแดงระเรื่อพร้อมกับรอยยิ้มเขิน
‘ไอกำลังคิดว่าจะชวนทุกคนไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศของคุณพ่อ” ชินดนัยยิ้มแล้วบอกกับทุกคน โดยที่ลืมไปว่าตนเองได้เอ่ยถึงบิดา ทำให้เมรันมีรอยยิ้มจางลงกว่าคนอื่น เมื่อนึกถึงว่าคุณพ่อนั้นยังคงอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อพักฟื้นตัว ชินดนัยเหลือบตาไปมองกับนคินทร์อย่างคนที่รู้กัน แล้วก็ต้องรีบพูดให้น้องสาวสบายใจ
“พี่หมายถึงรอให้คุณพ่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว พวกเราพาท่านไปพักผ่อนด้วยกัน”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อรับประทานอาหารเสร็จและนั่งสนทนากันอยู่อีกสักครู่ ทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน โดยปวรปรัชญ์กับเมรินไปพักที่ห้อง ส่วนกรองขวัญนั้นพักอยู่ห้องเดียวกับเมรัน แต่ชินดนัยยังคงมีทีท่าอิดออดที่จะขออยู่คุยกับกรองขวัญต่อ เมรันรู้ทันพี่ชายจึงปลีกตัวออกไปกับนคินทร์
เมื่อชินดนัยมองจนแน่ใจว่าทุกคนเดินออกกันไปหมดแล้ว คนมือไวก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือนุ่มของกรองขวัญ จูงมือเธอเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นบน แล้วหยุดตรงทางระเบียงข้างห้องนอนของเขา ทำให้กรองขวัญรีบละล่ำละลักถาม “คุณเจฟจะพาขวัญไปไหนคะ”
“จะไปไหนล่ะ? ก็ยังอยู่ในบ้านนี่แหละ”
กรองขวัญมองซ้ายมองขวา มุมที่ชินดนัยพาเธอมายืนอยู่นั้น เป็นมุมสงบ จากบริเวณนี้ทำให้เธอมองผ่านประตูกระจกเห็นวิวในสวนสวยที่อยู่ภายนอกระเบียง
“ผมชอบหาเวลามานั่งพักผ่อนตรงนี้”
คำพูดของชินดนัยทำให้กรองขวัญต้องหันไปมองด้านหลังซึ่งมีโซฟาตัวยาวตั้งอยู่ แล้วยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองคนตัวสูง
“ผมหาโอกาสนี้มานานแล้ว”
“อะ..โอกาสอะไรคะ?” น้ำเสียงของกรองขวัญนั้นสั่นจนชินดนัยยิ้มขำเมื่อเห็นท่าทางสั่นเป็นลูกนกตกน้ำของเธอ
“โอกาสที่ผมจะได้พาผู้หญิงที่ผมชอบมานั่งมองวิวด้วยกันสิครับ”
กรองขวัญพยายามที่จะระวังตัวอยู่ เธอไม่อยากจะให้ตัวเองต้องใกล้ชิดกับเขามากไปกว่านี้ แต่หากว่าหัวใจดวงน้อยนั้นไม่ได้ทำในสิ่งที่เธอพยายามห้ามกับตัวเองเลย