นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๒๐. สาวสวยของฟรังโก้)


                                          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ตอนที่ ๒๐.สาวสวยของฟรังโก้


              เกาะฮ่องกง ภายในโรงแรมหรูระดับห้าดาว พลกำลังยืนคุยโทรศัพท์กับลูกน้องที่เขามอบหมายงานให้ตามจับตา’ กร’ เจ้าเด็กหนุ่มที่เสี่ยซานดูท่าทางจะปลื้มกับฝีมือของมัน แต่เจ้านายของเขาคงจะไม่ปลื้มอีกต่อไปหากได้รู้ว่าไอ้กรมันกล้าที่จะเอื้อมเด็ดดอกฟ้า

             “ดีมาก แกคอยจับตาดูไอ้กรมันต่อ” พลพูดสั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

              “คุณเหมยนะ คุณเหมย!” พลพูดบ่นกับตัวเองด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ นึกถึงลูกสาวคนเล็กของเสี่ยซานที่เขาแอบหลงรักตั้งแต่ยังเป็นเด็กสาว ตอนนี้เรียนจบมหาวิทยาลัยกำลังจะต่อปริญญาโท ไม่เคยใส่ใจเขาแต่กลับไปสนใจไอ้กร จนยอมประเคนทุกอย่างให้เจ้าหนุ่มนั่นไปทั้งหมด พลนึกแล้วก็กำมือแน่นจนเส้นเลือดโปน ตอนนี้เขาเพียงแค่รอจังหวะเท่านั้น สายตาของพลมองเขม็งไปด้านหน้าด้วยความหมายจะขจัดศัตรูหัวใจออกไปให้พ้นจากทาง แล้วก็ต้องสะดุ้งกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น เป็นของลูกน้องอีกคนของเขานั่นเอง

              “เป็นไง?” พลถามกับคนที่โทรเข้ามา

             “ฟรังโก้แวะไปที่บริษัท ดูปกติดี แต่มันออกจากโรงแรมแล้ว น่าจะไปหาที่อยู่ใหม่ พี่จะให้ฉันจับตาดูมันต่อไหม?” ลูกน้องอีกคนโทรมารายงานให้พลรู้ข่าวคราวของเจ้าหนุ่มลูกครึ่งสเปน

             “ดี จับตาดูมันต่อไป ฉันอยากรู้ว่ามันจะทำอะไรอีกบ้าง” พลบอกสั่ง ลูกน้องคนนั้นยังได้รายงานว่าตอนนี้หาตัวนายคงไม่พบ ทำให้พลได้ฟังแล้วรู้สึกหัวเสีย ครั้งก่อนก็พลาดไปครั้งหนึ่งแล้วแถมตอนนี้ก็หายไปอย่างหาเบาะแสไม่ได้ พลสั่งกำชับว่าให้หานายคงให้พบแล้วลงมือให้สำเร็จ พูดจบก็กดวางสายไป

               ประตูห้องประชุมถูกเปิดออก สักครู่เสี่ยซานเดินออกมาจากห้องประชุมวีไอพี

               พ่อค้าหน้าขาวเพิ่งเสร็จจากการประชุมกับเจ้าหน้าที่หอการค้าและกลุ่มนักธุรกิจ เพราะเสี่ยซานเองก็มีกิจการธุรกิจที่ถูกกฏหมายเป็นฉากหน้าอยู่ด้วย และกำลังจะเดินทางต่อไปที่เมืองจีนเพื่อไปพบกับทัศนะ 

              “สถานการณ์ที่บริษัทเป็นยังไงบ้าง” เสี่ยซานเอ่ยถามในขณะที่พวกเขาเดินกันมาจากบริเวณนั้น

              “ปกติดีครับเสี่ย ส่วนฟรังโก้มันย้ายไปหาที่พักใหม่ ผมให้ไอ้เขียวจับตาดูมันต่อไป” พลเดินตามไปกับเสี่ยซานพร้อมบอกรายงานกับเจ้านาย ด้วยน้ำเสียงเอาอกเอาใจ

              “ลื้อก็ระวังไว้หน่อย บอกให้ลูกน้องลื้ออย่าทำให้ไก่ตื่น เพราะฟรังโก้มันไม่ธรรมดา คราวก่อนมาเกซยังจับผิดมันไม่ได้เลย” เสี่ยซานหันไปบอกกับพล จากนั้นพวกเขาก็ขึ้นรถเพื่อออกจากโรงแรมนี้ทันที…

              อีกด้านหนึ่ง เดนิสได้โทรเอ่ยปากชวนเมรันไปทานอาหารมื้อค่ำ เมรันบอกปฏิเสธไปอย่างสุภาพแต่ดูเหมือนหนุ่มลูกครึ่งจะไม่ยอมแพ้ พยายามรบเร้าเพื่อชวนเมรันไปทานอาหารเย็นแทน เธอจึงต้องพากรองขวัญไปด้วย ซึ่งผู้เป็นเลขาก็เข้าใจเจ้านายสาวของเธอเป็นอย่างดี

              ทั้งสองสาวมาที่ร้านอาหารจีนชื่อดังตามนัด เดนิสก็ต้องรักษามารยาทและเทคแคร์ทั้งคู่เป็นอย่างดี แต่เขาไม่สามารถจะเอ่ยปากพูดอะไรเป็นการส่วนตัวกับเมรันได้มาก เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เมรันขอตัวเข้าห้องน้ำพร้อมกับกรองขวัญ โดยที่เธอลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ที่โต๊ะอาหาร สักครู่เสียงโทรศัพท์ของเมรันดังขึ้นเป็นบทเพลงพิเศษ …

              เดนิสเหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือของเมรัน ตอนแรกก็ไม่คิดอยากจะเสียมารยาท แต่เมื่อเห็นภาพที่ปรากฏบนหน้าจอสายเรียกเข้าเป็นรูปของเมรันคู่กับผู้ชายที่ชื่อนคินทร์คนนั้น ภาพนั้นทั้งสองคนแนบใบหน้าใกล้ชิดคลอเคลียแสดงความสนิทสนมกัน ซึ่งยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเดนิสให้รู้ว่าเมรันมีผู้ชายที่ชื่อนคินทร์อยู่ในใจ ยิ่งเลือกบทเพลงพิเศษนั้นเป็นเสียงเรียกเข้า มันมีความหมายสื่อถึงความผูกพันของทั้งสองคนนั้น…

              ตอนนี้เดนิสคิดในใจ คงจำเป็นที่จะต้องกดรับสายแทนเมรันเสียหน่อย

             “สวัสดีครับคุณนคินทร์” เดนิสกดรับสายและพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ แล้วทิ้งจังหวะรอให้อีกฝ่ายพูด

             ซึ่งนั่นก็ทำให้นคินทร์รู้สึกแปลกใจที่มีเสียงทุ้มของผู้ชายมารับสายแทน อีกทั้งคนที่มารับสายนั้นยังรู้จักชื่อของเขาอีกด้วย แต่นคินทร์ยังคงนึกไม่ออก

            “ผมเดนิสเองครับ ตอนนี้เมรันเธอเพิ่งเข้าห้องน้ำไปนะครับ” เดนิสบอกไป ตั้งใจจะพูดประโยคสั้น ๆ แบบนี้ แล้วปล่อยให้ชายหนุ่มปลายสายคิดจินตนาการเอาเอง
              นคินทร์ได้ยินแบบนั้น ถึงกับเงียบไปสักครู่ก่อนที่เอ่ยบอกว่า

             “สวัสดีครับคุณเดนิส ไม่เป็นไรครับไว้ผมโทรติดต่อมาใหม่” น้ำเสียงของนคินทร์แผ่วเบา

              ซึ่งทำให้เดนิสได้ยินน้ำเสียงของอีกฝ่ายแล้ว เขาก็ลอบยิ้มที่มุมปาก

               นคินทร์นั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาภายในห้องพัก เมื่อวางสายไปแล้ว ชายหนุ่มก็เอนตัวพิงพนักพร้อมกับหลับตาลง

               ภายในร้านอาหาร สักครู่เมรันเดินกลับมาพร้อมกับกรองขวัญ แล้วมองเห็นโทรศัพท์อยู่บนโต๊ะ เธอจึงหยิบโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋าและบอกกับเดนิสเพื่อขอตัวกลับ เดนิสจึงเดินตามมาส่งสองสาวที่รถโดยไม่ได้บอกเรื่องที่นคินทร์โทรมาหาเธอ

               เมรันขับรถออกมาจากร้านอาหารจีนแล้วกลับมาถึงคอนโดฯ ก็เกือบจะทุ่มแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาคิดว่าจะพิมพ์ข้อความไปหานคินทร์ แต่กลับพบว่ามีข้อความเข้าจากเขา

                ‘ผมย้ายออกจากโรงแรมแล้วครับ ตอนนี้ไปพักอยู่ที่ใหม่แล้วผมจะติดต่อไปนะครับ คิดถึงคุณเสมอ’

               เมื่อได้อ่านข้อความแล้ว รู้สึกใจสั่นหวิว คิดถึงเขาเช่นกัน มือสวยเลื่อนกดดูโทรศัพท์จึงพบว่ามีสายโทรเข้ามาจากนคินทร์ในเวลาประมาณหกโมงเย็น จำได้ว่าตอนนั้นเธอเข้าห้องน้ำและลืมโทรศัพท์ไว้ หญิงสาวมั่นใจว่าเดนิสต้องกดรับสายแทน แต่ตอนที่เธอเดินออกมาไม่เห็นเขาจะบอกอะไรกับเธอเลย
                 เมรันรู้สึกร้อนใจมากขึ้นกว่าเดิม รีบกดโทรศัพท์โทรออกไปหาเขา แต่สายปลายทางเป็นสัญญาณเสียงที่ติดต่อไม่ได้ กรองขวัญที่มาพักที่คอนโดฯ เป็นเพื่อน เห็นเมรันมีทีท่ากระวนกระวายใจจึงเดินเข้ามาถาม

               ‘คุณเมรันมีอะไรหรือเปล่าคะ ดูสีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลย “

                 “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ขอบคุณมาก” เมรันยิ้มบอกกับกรองขวัญ แต่ดูเหมือนกรองขวัญจะรู้ใจเมรันดีแต่ก็ไม่อยากจะเซ้าซี้ถามไถ่อะไรในตอนนี้

                  สักครู่เหมือนเมรันจะนึกอะไรได้ นิ้วสวยเลื่อนหาเบอร์โทรศัพท์แล้วกดสายโทรออก..



                  นคินทร์นั่งอยู่ในห้องพัก กำลังอยู่ในโปรแกรมสนทนากับชัยและได้รับรายงานจากเพื่อนว่า มีคนติดตามดูหนุ่มฟรังโก้อยู่ซึ่งก็เป็นไปตามที่นคินทร์คาดการณ์ไว้ เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ขณะนี้เวลาเกือบจะสี่ทุ่ม จึงโทรศัพท์หาเฮียหุยอีกครั้ง

                  "เฮียหุยครับผมมีเรื่องจะขอให้เฮียช่วยอีกเรื่อง" นคินทร์เอ่ยบอกกับเฮียหุยพร้อมทั้งคุยรายละเอียดให้หนุ่มใหญ่ฟัง

                  หลังจากที่นคินทร์ได้สนทนาจบแล้วก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เพื่ออาบน้ำ เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินไปที่หน้าต่างแล้วเอื้อมมือขึ้นแหวกม่าน เพื่อที่จะได้มองออกไปด้านนอกตอนนี้ท้องฟ้าดูมืดแต่ยังคงมีแสงจากโคมไฟหน้าบ้านที่ส่องให้เห็นทางเดิน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่