นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๖.แผนพิชิตใจนายบอดี้การ์ด)


ตอนที่ ๖.แผนพิชิตใจนายบอดี้การ์ด


        คฤหาสน์อัครกูล นคินทร์ขับรถมาส่งเมรันที่บ้าน หญิงสาวรีบเปิดประตูรถแล้วปิดประตูกระแทกอย่างไม่สบกับอารมณ์ ร่างระหงเดินตัวปลิวเข้าไปที่เรือนใหญ่ ชายหนุ่มเห็นแล้วถึงกับส่ายหน้า ลุงชมเดินมาช่วยรอรับรถไปเก็บให้ หนุ่มร่างสูงลงจากรถแล้วเดินหยิบข้าวของที่คุณหนูเล็กทิ้งไว้เต็มท้ายรถ โดยเขารับหน้าที่หิ้วถุงมาเองทั้งหมดและวานให้ลุงชมช่วยขับรถไปเก็บ

       เมรันเดินตุปัดตุป่องเข้ามา วันนี้เธออยากจะใช้เวลาอยู่กับหนุ่มบอดี้การ์ดสักหน่อยแต่มาเจอเขาบังคับให้ต้องกลับมาแบบนี้ ความรู้สึกน้อยใจแล่นขึ้นมาจับใจ หญิงสาวร่างบางวิ่งขึ้นไปที่ห้องของตัวเองโดยไม่หันกลับไปมองเขาเลย

      นคินทร์เดินตามมาพร้อมกับถุงเต็มสองมือพะรุงพะรัง ในจังหวะเดียวกับที่ประพันธ์เดินมาพบเข้าจึงเรียกให้อ่อนนำถุงเหล่านี้ไปส่งให้กับเมรัน

      ประพันธ์เรียกนคินทร์ไปคุยเรื่องของทัศนะ ชายหนุ่มเล่าให้ประพันธ์ฟังตอนที่เดินทางกลับมาประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว เขาได้รู้จักเพื่อนชาวจีนคนหนึ่งชื่อลีเจี้ยน ในช่วงที่เข้ารับการฝึกอบรมที่ต่างประเทศ สายลับผู้นี้ได้ช่วยเขามากในด้านข้อมูลทั้งยังเป็นคนมณฑลซานตงซึ่งเป็นมณฑลเดียวกันกับมิสเตอร์เดวิด ฟาง ที่ได้เคยบอกกับเดวิดว่าหากต้องการความช่วยเหลือก็ให้ติดต่อกับเพื่อนคนนี้ได้

      “คุณทัศนะเดินทางไปประเทศจีนหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา” นคินทร์รายงานข้อมูลที่รับมาให้ประพันธ์

       ประพันธ์พยักหน้า พวกเขารู้กันว่าทัศนะเป็นหนึ่งในคนขององค์กรที่ติดตามอยู่ มีงานมูลนิธิการกุศลเป็นฉากหน้าและเป้าหมายการโน้มน้าวใจของคนระดับนักธุรกิจมหาเศรษฐีเพื่อให้เข้าร่วมองค์กรนั้นเป็นไปอย่างแนบเนียนและแน่นอนว่าย่อมต้องมีเครือข่ายที่สนับสนุนด้วย ท่านประพันธ์บอกให้หนุ่มผู้ช่วยติดตามแบบทิ้งห่างเพื่อไว้ระยะสักหน่อย ในช่วงนี้อย่าเพิ่งให้อีกฝ่ายไหวตัวได้

        ประพันธ์ยิ้มแล้วเปลี่ยนมาเป็นคุยเรื่องที่เขาอยากจะที่ได้ฟังความเห็นของนคินทร์

        “วันนี้รบกวนให้นายต้องเหนื่อยหน่อย เมรันเป็นยังไงบ้าง?”

         ประพันธ์บอกให้นคินทร์รายงานตามตรง หนุ่มบอดี้การ์ดก็ได้รายงานบอกไปตามความจริง

         “เธอคงไม่ค่อยพอใจครับท่าน” นคินทร์รู้ดีด้วยปฏิกิริยาของหญิงสาวที่แสดงออกมา

         ประพันธ์ยิ้มให้นคินทร์แล้วบอกว่าลูกสาวของเขาคนนี้คงต้องการให้คนมาช่วยดูให้สักหน่อย ทั้งยังบอกอนุญาตให้นคินทร์ตัดสินใจจัดการได้ตามสมควร หากพบว่าเมรันผิดพลาดอะไรก็ให้ช่วยสอนให้ด้วย

         นคินทร์ฟังแล้วรู้สึกแปลกใจ “ท่านครับ ผม…”

        ประพันธ์จึงตัดบทบอกกับหนุ่มผู้ช่วยว่าฝากให้ช่วยดูแลเมรันในช่วงนี้ อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยก็จะดีขึ้น แม้ว่านคินทร์จะยังไม่ค่อยแน่ใจสักทีเดียวแต่เขาก็พยักหน้ารับคำกับผู้มีพระคุณ

        ก่อนที่นคินทร์จะเดินกลับไปที่เรือนที่พักส่วนตัวก็ได้พบกับสาวใช้อ่อนที่เมื่อสักครู่ได้นำถุงช้อปปิ้งไปส่งให้เมรัน
       “คุณเมรันเธอฝากมาให้คุณคินค่ะ” อ่อนยิ้มพร้อมกับยื่นส่งกระดาษให้กับนคินทร์ ชายหนุ่มรับกระดาษที่พับมาอย่างดีนั้นมาแล้วบอกขอบใจสาวใช้คนนั้น ระหว่างทางนคินทร์เดินไปด้วยก็คลี่กระดาษออกอ่านข้อความไปด้วย แล้วคิ้วเข้มต้องเลิกสูงมองกระดาษข้อความในมือพร้อมกับถอนหายใจ ก่อนที่จะพับเก็บเข้ากระเป๋าแล้วเดินกลับไปที่เรือนพักของตน

       คืนนั้นภายในห้องของเมรัน เธอกำลังโทรศัพท์คุยกันเพื่อนสนิทบอกให้เขาช่วยเตรียมตัวในเรื่องที่เธอได้เคยคุยไว้ หญิงสาววางสายไป ดวงตากลมโตทอประกายวาวเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ..

    รุ่งเช้าวันต่อมา นคินทร์ตื่นแต่เช้ามาทำบุญใส่บาตรเนื่องในวันเกิดของเขา ก่อนที่จะกลับไปแต่งตัวเพราะเมรันบอกเวลาการนัดหมายให้รู้โดยเขียนในกระดาษที่ฝากให้เขาเมื่อวานนี้ 

        เมรันลงมาที่ห้องโถงใหญ่ภายในเจ็ดโมงเช้า เธออยากจะเอาใจเขาบ้างเดี๋ยวจะว่าตื่นสายปล่อยให้เขาต้องคอยอีก หญิงสาวรวบผมเกล้าไว้ด้านหลังเผยให้เห็นต้นคองามระหง สวมชุดเสื้อแขนกุด กระโปรงกางเกงขาสั้นติดกัน ผ้ายีนส์สีชมพู สวมรองเท้าผ้าใบสีเดียวกับชุด สะพายกระเป๋าทรงสปอร์ต

       เมรันอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษในวันนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอตื่นเช้า นึกในใจ เพื่อเขาเหรอ? ไม่สิ ต้องเพื่อเรา หมายถึงเราสองคน คิดไปก็ยิ้มกับตัวเองไป เดินไปเรื่อยจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ก่อนหน้านี้

      นคินทร์สวมชุดลำลองเสื้อยืดตัวในสีขาวสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์กับรองเท้าผ้าใบ ดูสบายๆ แต่สำหรับเธอแล้วเขายิ่งดูหล่อและเท่มากขึ้นทุกที หญิงสาวยิ้มให้เขา

      “ไปกันเลยนะคะคุณบอดี้การ์ด” เมรันเดินนำหน้าตัวปลิวโดยไม่รอคำตอบ เดินไป หมุนตัวไปอย่างร่าเริง โดยมีหนุ่มบอดี้การ์ดร่างสูงถอนหายใจเบา ๆ เขายอมรับว่าบางครั้งก็ตามอารมณ์ของเมรันไม่ค่อยจะทัน เมื่อวานเธอยังแสดงท่าทางไม่พอใจเขาอยู่แต่มาวันนี้ดูเหมือนกับเธอจะกลับมาอารมณ์ดีตามเดิม

      อากาศยามเช้าในสวนสาธารณะ

       นคินทร์ขับรถยุโรปคันงามมาจอดภายในสวนสาธารณะ พระอาทิตย์ส่องประกายสีแดงอ่อน แสงแดดบางยามเช้า อากาศสดชื่นและเย็นชื้นด้วยละอองน้ำที่อยู่รอบบริเวณยอดหญ้า เมรันเปิดประตูก้าวลงจากรถแล้วกวาดตามองบรรยากาศรอบข้าง เป็นวันที่สดใสที่สุดสำหรับเธอ เพราะปกติเธอมักไม่ค่อยจะตื่นเช้าสักเท่าไหร่โดยมีนคินทร์เดินตามมา ทั้งคู่พากันเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ผ่านรอบบริเวณมีต้นไม้ต้นใหญ่ ทางเดินและสวนน้ำที่มีคู่หนุ่มสาวหรือครอบครัวมาถีบเรือเล่น บางคนก็กำลังวิ่งออกกำลังกายสวนมาทางที่พวกเขาเดินกันอยู่

       เมรันเหมือนจะมาปิคนิกมากกว่า รู้สึกดีใจเวลามากับเขา คิดในใจ เหมือนได้ออกเดตจริง ๆ ด้วย เธอนึกแล้วยิ้มกับตัวเอง

       นคินทร์หันไปเห็นเมรันแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ บ้างครั้งก็เห็นเธอเหมือนคิดอะไรยิ้มอะไรกับตัวเองคนเดียว เขาเองก็แอบขำในพฤติกรรมแปลก ๆ ของเธออยู่ไม่น้อยเลย เมื่อเดินมาถึงบริเวณนี้มีม้านั่งตัวยาวสองสามตัวตั้งอยู่ห่างกันไปเป็นระยะไกลพอที่มีความเป็นส่วนตัว บริเวณนี้เป็นมุมที่ดูเงียบสงบ ด้านหน้าเป็นริมทะเลสาบขนาดย่อม หญิงสาวเลยชวนเขานั่งลงที่นี่

        เมรันยกมือสองข้างขึ้นสุดแขนวาดกลางอากาศพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ เป็นอากาศยามเช้าที่สดชื่นที่สุด เธอหันหน้าไปหาเขาที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ถัดไป ใบหน้าของนคินทร์จากด้านข้าง ชายผมข้างหูที่ระลงมาข้างแก้มของเขานั้นดูเซ็กซี่ชวนมอง เขากำลังนั่งเท้าศอกไปด้านหลังพนักเก้าอี้ ท่อนขายาวเหยียดตรงไปด้านหน้าแล้วสายตาของเมรันที่กำลังพิจารณาหนุ่มบอดี้การ์ใบหน้าคมคายอยู่อย่างเพลิดเพลินเมื่อสักครู่ก็ต้องหยุดการสำรวจทันทีเพราะไปสะดุดกับนัยน์ตาเป็นประกายของเขาที่หันมามองเธอ

        “มีอะไรหรือเปล่าครับ” นคินทร์เอ่ยถามส่วนคนถูกถามก็รีบหลบสายตาเปลี่ยนเป็นเอื้อมมือหยิบกระเป๋ามาเปิดแล้วหยิบของชิ้นหนึ่งออกมา

        “สุขสันต์วันเกิดนะคะ คุณบอดี้การ์ด” เธอยิ้มหวานพร้อมกับพูดอวยพรให้เขา

         นคินทร์มองหน้าเมรัน คิ้วเข้มเลิกสูง หญิงสาวยื่นกล่องของขวัญในมือให้ชายหนุ่มรับไว้

         “อะไรเหรอครับ”

         “เปิดดูซิ ไม่เปิดคุณจะรู้ไง จริงไหมคะ”

         ชายหนุ่มยื่นมือรับกล่องนั้น เขาแกะกระดาษที่ถูกบรรจงห่อด้วยกระดาษลายเรียบสีเงินแต่มีกลิ่นหอมอ่อน กล่องที่เปิดออกมา สิ่งที่ปรากฏแก่สายตา ทำให้ชายหนุ่มต้องยิ่งประหลาดใจ ของที่อยู่ด้านในมันเป็นนาฬิกาข้อมือ เมื่อพิจารณาดูแล้วนาฬิกาเรือนนี้ถูกออกแบบอย่างมีศิลปะชั้นเยี่ยม ทั้งปุ่มและหน้าปัดสีน้ำเงินเข้ม เคร่งขรึมด้วยตัวเรือนที่ทำจากวัสดุที่แข็งแกร่งสีเงินรมดำกึ่งเงากึ่งด้านลงตัวอย่างมีสไตล์ เขาเคยเห็นนาฬิกาแบบนี้ คุณสมบัตินั้นกันกระแทกและกันน้ำลึกได้เป็นอย่างดี จึงรู้ได้ทันทีว่านาฬิกาเรือนนี้ต้องมีราคาสูงมากทีเดียวซึ่งเขาคงจะรับไว้ไม่ได้

       “คงไม่เหมาะกับผมหรอกครับ” นคินทร์รีบปิดกล่องแล้วเตรียมยื่นกลับไปให้เมรัน

       “ทำไมถึงคิดว่าไม่เหมาะล่ะคะ” เธอถามเขาพร้อมกับเอื้อมมือไปกุมมือของเขาโดยไม่รู้ตัว เมรันเปิดฝากล่องออกแล้วบอกเหตุผลที่เธอเลือกของขวัญชิ้นนี้ให้เขา

      “นาฬิกาเรือนนี้เหมาะกับคุณที่สุดเพราะเหมือนกับคุณอย่างกับฝาแฝดเลย ดูแข็งแกร่ง ทนทาน แวบแรกที่เห็นฉันนึกถึงคุณเลยล่ะ” เธอพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้เขา

       “คุณลองใส่ดูสิคะ “เมรันบอกเขา หนุ่มบอดี้การ์ดมีท่าทีลังเลที่จะหยิบนาฬิกาเรือนนี้ออกมาจากกล่อง

       เมื่อเธอเห็นชายหนุ่มเจ้าของวันเกิดยังคงนั่งนิ่งอยู่จึงตัดสินใจเอื้อมมือไปหยิบนาฬิกาขึ้นมาปลดล็อกแล้วคว้าข้อมือซ้ายของเขามาเธอก็เป็นคนหยิบนาฬิกาสวมเข้าที่ข้อมือให้เขาเอง

       นคินทร์ก้มมองมือเรียวที่บรรจงสวมนาฬิกาเข้าที่มือของเขา มันเป็นอย่างที่เธอบอก นาฬิกาเรือนนี้ดูเข้ากับข้อมือของเขาได้พอดีเลย หญิงสาวบอกว่านาฬิกาเรือนเก่าของเขาชำรุดจนซ่อมไม่ได้แล้วส่วนนาฬิกาเรือนใหม่นี้ยังมีความพิเศษตรงที่มันทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยได้หลายอย่างเหมาะกับหน้าที่ของเขาด้วย นคินทร์ฟังการบรรยายถึงคุณสมบัติแล้วมองนาฬิกาที่ข้อมืออยู่พักใหญ่

       “เป็นของขวัญที่ฉันอยากให้คุณเพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยดูแลฉันนะคะ” เมรันพูดน้ำเสียงนุ่มนวล รอยยิ้มหวานบนใบหน้านวล ทำให้นคินทร์หันไปมองหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ ด้วยความรู้สึกที่เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน

         เมรันเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง ขณะนี้ได้เวลาพอดี เธอจึงลุกจากม้านั่งตัวยาวนั้นแล้วเดินไปข้างหน้าพร้อมกับเริ่มออกตัววิ่ง นคินทร์ตั้งตัวไม่ทันที่จู่ ๆ เมรันก็ลุกไปวิ่งซะอย่างนั้นจนหนุ่มร่างสูงต้องวิ่งตามพร้อมกับเรียกชื่อเธอไปด้วย หญิงสาวหันมาบอกเขาว่าตอนนี้เธออยากจะออกกำลังกาย ชายหนุ่มรีบวิ่งตามเธอให้ทัน

       เพียงสักครู่เดียวก็มีบุรุษแปลกหน้าสองคนสวมแว่นตาดำเดินมาขวางทางด้วยท่าทางจิ๊กโก๋ คนหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาแย่งกระเป๋าและจับตัวเมรันไว้ ส่วนอีกคนตรงมาที่นคินทร์ เจ้าหมอนั่นเหมือนกำลังจะกำหมัดขึ้นชก บอดี้การ์ดหนุ่มคว้าจับข้อมือข้างนั้นของอีกฝ่ายบิดม้วนดึงจนเจ้าคนนั้นต้องย่อตัวลงตามแรงแล้วกดไหล่ข้างหนึ่งของมันลงจนมันร้องด้วยความเจ็บ ก่อนที่จะรวบแขนทั้งสองข้างของมันมาไว้ด้านหลัง ภายในไม่ถึงนาทีก็สิ้นฤทธิ์ เพื่อนมันอีกคนเห็นท่าไม่ดีร้องบอกว่า

       “ปล่อยเพื่อนของกู! ไม่อย่างนั้น นังนี่เจ็บตัว” เจ้าโจรนั้นขู่เมื่อเห็นท่าทางของนคินทร์มีความไวกว่าพวกเขาหลายเท่า

         “ใจเย็น" นคินทร์ยกมือโบกห้าม "อย่าทำอันตรายคุณผู้หญิง อยากได้เงินบอกมา เดี๋ยวฉันให้” นคินทร์บอกพร้อมกับมองไปที่เมรัน ซึ่งเธอร้องบอกเสียงสั่นให้เขาช่วยเธอด้วย สายตาของนคินทร์ที่นิ่งคมกริบ ทำให้เจ้าจิ๊กโก๋นั้นรู้สึกสะท้านกลัวขึ้นมาอย่างประหลาด

         “เดินมาพร้อมกัน ปล่อยคุณผู้หญิงมาแล้วฉันจะปล่อยเพื่อนของแก ฉันไม่กลับคำแน่” นคินทร์พูดด้วยน้ำเสียงเข้ม ไม่ละสายตาแม้เสี้ยววินาที ชายหนุ่มพาเพื่อนของมันที่ถูกเขารวบตัวอยู่เดินเข้าไปใกล้

         เจ้าเพื่อนคนนั้นพยักหน้าให้อีกคน มองหน้ากันสักพักก็ผลักเมรันให้ถลาไปทางนคินทร์ หนุ่มบอดี้การ์ดปล่อยเพื่อนมันไปตามที่รับปาก พวกมันโยนกระเป๋าลงพื้นแล้วเจ้าสองคนนั้นก็พากันวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่