นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๔๔. ศัตรูตัวฉกาจ)


                                          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ตอนที่ ๔๔.ศัตรูตัวฉกาจ


            ก่อนที่นคินทร์จะไปพบกับท่านประพันธ์ เขาได้พาเมรันเดินแวะไปที่เรือนทางด้านเหนือ เพราะต้องการไปเยี่ยมคุณแม่ของกรองขวัญ เมื่อสองหนุ่มสาวเดินไปใกล้จะถึงเรือนพัก พวกเขาก็เห็นชินดนัยกำลังยืนโบกไม้โบกมือทักทายมาให้พร้อมกับตะโกนเรียกเสียงดังอีกด้วย

           “เฮ้! น้องเขยทางนี้” ชินดนัยเอ่ยปากเรียกอย่างเป็นกันเอง โดยไม่รู้ว่าน้องสาวของตนกำลังหน้าแดงจัดเป็นลูกตำลึง แต่หนุ่มบอดี้การ์ดที่ถูกเรียกว่า“น้องเขย” นั้นกลับมีใบหน้ายิ้มระรื่นราวกับชอบใจที่ถูกเรียกขานเช่นนั้น ชินดนัยอ้าแขนแล้วสวมกอดกับนคินทร์ด้วยธรรมเนียมฝรั่ง พวกเขาตบไหล่ทักทายกันอย่างสนิทชิดเชื้อเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน

            “ของในมือนายเป็นอาวุธใช่ไหม จะต้องไปบู๊กันอีกนะสิ” เจฟพูดกระซิบกับนคินทร์ รู้ว่าภารกิจของบอดี้การ์ดหนุ่มยังไม่เสร็จสิ้น นคินทร์ได้แต่พยักหน้าให้แล้วหยิบของชิ้นนั้นสะพายไว้ด้านหลังแทน แล้วกลับมาคุยแซวพี่ชายของคนรักทันที

              “คุณเจฟดูสมบูรณ์ขึ้นหรือเปล่าครับเนี่ย” นคินทร์ถอยตัวออกมายืนมองหนุ่มลูกครึ่งที่ตอนนี้ดูมีใบหน้าอิ่มเอิบราวกับมีความสุขใจ ชินดนัยยิ้มอย่างมีเลศนัย โดยไม่ต้องมีคำอธิบายออกจากปาก นคินทร์ก็สามารถรู้ได้ถึงสัมพันธภาพที่ลึกซึ้งของชินดนัยกับกรองขวัญได้

                นคินทร์เดินเข้าไปเยี่ยมเยือนถามไถ่อาการของหญิงวัยกลางคน ซึ่งเห็นแล้วก็รู้สึกสบายใจ เพราะว่าดูจากลักษณะท่าทางคุณแม่ของกรองขวัญนั้นมีกำลังใจที่ดีมากทีเดียว อีกทั้งเมื่อได้ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วก็ยังมีพวกป้าเยือนกับอ่อนคอยพลัดกันมาช่วยดูแล ชวนพูดคุยทำให้คุณแม่ของกรองขวัญไม่รู้สึกเหงาอีกด้วย หลังจากที่พวกเขาได้สนทนากันเป็นเวลาพอสมควร นคินทร์จึงได้ยกมือไหว้แล้วกล่าวลาเพื่อขอตัวไปพบท่านประพันธ์

              พวกเขาเดินออกมาที่ด้านหน้าระเบียง ชินดนัยเดินโอบไหล่กรองขวัญอย่างสนิทสนมโดยคนที่ถูกโอบไหล่พยายามที่ดันตัวเองออกด้วยความเกรงว่าจะดูไม่เหมาะสมในสายตาของคนรอบข้าง แต่หนุ่มลูกครึ่งก็เหมือนจะไม่ต้องแคร์สายตาของใคร แขนแกร่งจึงยังคงรั้งไหล่กลมมนของหญิงสาวคนรักไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมือ

              “จริงสิ เกือบลืม พรุ่งนี้ผมมีนัดให้สัมภาษณ์กับคุณภาวินี”

               คำพูดของชินดนัยทำให้นคินทร์หันไปมองหน้ากับเมรัน เขายังคงจำผู้หญิงที่ชื่อภาวินีคนนั้นได้ดี เพราะเธอคือผู้หญิงที่ไปหาภูมิธเนศที่ร้านดอกไม้ของนลินญาในวันนั้นนั่นเอง

               “ผมคิดว่าจะให้ไปสัมภาษณ์ที่ห้องเสื้อของรัน เผื่อจะได้ให้คุยเรื่องธุรกิจร้านเสื้อของน้องสาว”

              ” นี่ไอก็อุตส่าห์ช่วยโปรโมทร้านให้ยูด้วยนะ ยูว่าดีไหมล่ะ” ชินดนัยหันไปหาน้องสาว เมรันได้แต่ยิ้มให้พี่ชาย ขอบคุณความหวังดีของพี่ชายแต่หญิงสาวนึกในใจว่าตัวเองจะรู้สึกยินดีมากกว่านี้ ถ้าคนที่มาสัมภาษณ์ไม่ใช่ภาวินี เพราะคราวที่แล้วยังไม่ลืมสีหน้าของผู้หญิงคนนั้นที่มองนคินทร์ แถมยังพูดจาไม่ค่อยจะให้เกียรติกัน 

                  นคินทร์เห็นสีหน้าของสาวคนรักแล้วก็พอจะเดารู้สึกของเธอได้ เมรันหันมากระตุกแขนนคินทร์ รีบบอกกับเขาให้ไปหาคุณพ่อ แล้วทั้งสองก็พากันเดินไปที่เรือนใหญ่



              ภายในห้องหนังสือที่เรือนใหญ่

            นคินทร์เดินจูงมือเมรันเข้ามา ชายหนุ่มยกมือไหว้สวัสดีท่านประพันธ์ ทำให้คนเป็นพ่อตาเงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ ใบหน้าเปี่ยมด้วยความเมตตานั้นก็ยิ้มให้กับคนทั้งสอง พร้อมกับกวักมือเรียกให้ทั้งสองคนเดินเข้าไปใกล้

            สายตาของท่านประพันธ์ยังคงจับจ้องที่จอคอมพิวเตอร์ นคินทร์กับเมรันต่างก็ได้พากันเดินไปอยู่ด้านหลังของท่าน ภาพที่ทั้งหนุ่มสาวสองคนเห็นผ่านหน้าจอก็คือภาพเหตุการณ์ที่มามิยะกำลังยืนคุยกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งนคินทร์เพ่งมองแล้วก็จำได้แม่นยำว่าชายคนนั้นเป็นคนเดียวกันกับที่เขาได้ปะทะฝีมือไปด้วยถึงสองครั้ง 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่