[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ ๑. ปฐมบทของนคินทร์ https://ppantip.com/topic/37883882
ตอนที่ ๒. ความจริงที่ปรากฏ https://ppantip.com/topic/37889726
ตอนที่ ๓. เธอผู้แสนดี https://ppantip.com/topic/37890154
ตอนที่ ๔. บุพเพเล่นตลก https://ppantip.com/topic/37893257
ตอนที่ ๕. ตกหลุมรัก https://ppantip.com/topic/37893996
ตอนที่ ๖. แผนพิชิตใจนายบอดี้การ์ด https://ppantip.com/topic/37894598
ตอนที่ ๗. เพิ่งได้รู้ใจ https://ppantip.com/topic/37896270
ตอนที่ ๘. ใจสัมผัส https://ppantip.com/topic/37897664
ตอนที่ ๙.กลิ่นน้ำหอมของคุณ https://ppantip.com/topic/37898999
ตอนที่ ๑๐.ใครอยู่ในใจคุณ https://ppantip.com/topic/37899045
ตอนที่ ๑๑.ปาร์ตี้ริมหาด https://ppantip.com/topic/37899167
ตอนที่ ๑๒.จูบแรก https://ppantip.com/topic/37900113
ตอนที่ ๑๓. วาสนาพาให้พบ https://ppantip.com/topic/37883882
ตอนที่ ๑๔. เมื่อสองเราใกล้กัน https://ppantip.com/topic/37908202
ตอนที่ ๑๕. มิตรภาพ https://ppantip.com/topic/37908254
ตอนที่ ๑๖. ความในใจ https://ppantip.com/topic/37908525
ตอนที่ ๑๗. ความลับที่ถูกเผย https://ppantip.com/topic/37908779
ตอนที่ ๑๘. ปฏิบัติการของฟรังโก้ https://ppantip.com/topic/37914125
ตอนที่ ๑๙. ถ่านไฟเก่า https://ppantip.com/topic/ 37919981
ตอนที่ ๒๐. สาวสวยของฟรังโก้ https://ppantip.com/topic/37920050
ตอนที่ ๒๑. สัมผัสพิเศษ https://ppantip.com/topic/37920166
ตอนที่ ๒๒. ลุยเลยฟรังโก้ https://ppantip.com/topic/37923180
ตอนที่ ๒๓. ประมูลสวาท https://ppantip.com/topic/37925421
ตอนที่ ๒๔. ห่วงใย
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่ร้าน ‘พันณริน’ รถออดี้คันแกร่งได้แล่นเข้ามาจอดเรียบร้อย เมรันเอื้อมมือปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันไปมองใบหน้าคมคายที่กำลังมองมาทางเธอเช่นกัน
“ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเฉกเช่นเดียวกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“แค่คำขอบคุณเท่านั้นเหรอครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มไม่เพียงแค่พูด มือก็ปลดเข็มขัดนิรภัยเช่นกัน ตอนนี้หัวใจที่สั่งการได้เร็วกว่า ทำให้หนุ่มใบหน้าคมรีบโน้มตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับกระซิบบอก
“ผมขอกำลังใจหน่อยได้ไหมครับ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้านั้นดูออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้
เมรันรู้ความหมายของเขา แก้มนวลเปล่งสีชมพู แล้วยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ริมฝีปากสวยแตะที่ริมฝีปากของเขาอย่างนุ่มนวลและก่อนที่เธอจะทันได้เงยหน้าขึ้นมา สองมือของชายหนุ่มก็ได้คว้าประคองใบหน้าสวยนั้นไว้ให้นิ่ง แล้วกดแนบริมฝีปากประทับรอยจูบที่หนักหน่วงจนเธอต้องคว้าแขนเขาเพื่อยึดไว้ มือเรียวคู่สวยกำแขนเสื้อของเขาไว้แน่น สัมผัสจากริมฝีปากอุ่นนั้นสร้างความเสน่หา หัวใจของเธอเต้นโครมครามเลยทีเดียว เมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มได้กำลังใจจนชุ่มฉ่ำหัวใจแล้วริมฝีปากสวยของเธอถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แต่นัยน์ตาสีดำประกายคมยังคงมองสบตาเธอ เมรันเม้มปากด้วยความเขินอาย รีบพูดกับเขาก่อนที่ใจจะถูกหลอมละลายไปมากกว่านี้
“เย็นนี้คุณมาให้ทันไปงานเลี้ยงด้วยกันกับคุณพ่อนะคะ งานนี้คุณอามณีก็ไปด้วยนะ” เมรันกระซิบบอกเขา
“รับทราบครับคุณผู้หญิง” ใบหน้าคมคาย มีรอยยิ้มที่ทำให้ดูหล่อเหลามากยิ่งขึ้น
หญิงสาวเปิดประตูก้าวลงมาจากรถ หันหน้าไปมองแล้วยิ้มให้เขา
“ระวังตัวด้วยนะคะนคินทร์” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใยจนคนฟังรู้สึกได้
เมรันรู้ว่าหนุ่มบอดี้การ์ดยังคงต้องทำหน้าที่ของเขาต่ออีก เธอได้แต่พูดให้กำลังใจและภาวนาขอให้เขาปลอดภัย
หญิงสาวยิ้มแล้วโบกมือให้เขา นคินทร์เองก็โบกมือให้พร้อมรอยยิ้มกว้าง ก่อนที่กระจกรถจะถูกเลื่อนขึ้นจนปิดสนิท เธอมองตามกระทั่งรถแล่นออกไปจนลับตา …
ที่ร้านกาแฟของเฮียหุย เจ้าของร้านเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งที่หน้าประตูดังขึ้น ผู้ที่ก้าวเข้ามาคือชายหนุ่มร่างสูง สวมหมวกแก๊ปและแว่นตากันแดดสีชา อดีตนายตำรวจหนุ่มคู่หูเดินมาหยุดที่เคาน์เตอร์แล้วเอ่ยทักทาย
“สวัสดีครับเฮีย วันนี้ให้ผมมาหามีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
เจ้าของร้านหนุ่มใหญ่ มองใบหน้าคมคายตรงหน้าแล้วก็ต้องลอบถอนหายใจ เฮียหุยเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แม้ว่าพวกเขาจะเคยผ่านภารกิจ
เสี่ยงอันตรายกันมาก็ไม่น้อย แต่คำพูดของยี่สุ่นยังก้องอยู่ในโสตประสาทของเขา ทำให้ไม่สามารถคลายกังวล แต่เขาเองก็ต้องเก็บอาการไม่สบายใจนั้นไว้ ใบหน้าของหนุ่มใหญ่จึงระบายด้วยรอยยิ้มจาง
“นั่งก่อนสิ เดี๋ยวเฮียปิ้งขนมปังให้ เนยไม่น้ำตาลกับกาแฟรสชาติเหมือนเดิมนะ พ่อรูปหล่อ” เจ้าของร้านบอกกับชายหนุ่มรุ่นน้องอย่างคู่หูที่รู้ใจกันเป็นอย่างดี
“ครับ” นคินทร์ยิ้มและตอบรับ เดินไปที่โต๊ะตัวด้านในสุดและนั่งลงที่เก้าอี้โซฟาพร้อมกับวางกระเป๋าเป้คู่ใจไว้ด้านข้าง ชายหนุ่มถอดแว่นตากันแดดไว้บนโต๊ะแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ของวันนี้ขึ้นมาเปิดอ่านในระหว่างที่นั่งรอ
เฮียหุยยืนผิวปากอยู่ที่เคาน์เตอร์กำลังง่วนอยู่กับการชงกาแฟรสโปรดให้อดีตนายตำรวจหนุ่มคู่หู่ สักครู่ชายหนุ่มก็ได้กลิ่นหอมมันของขนมปังปิ้งเนยที่โชยมาจนแตะจมูก พร้อมทั้งกาแฟร้อนที่ควันลอยฟุ้งซึ่งมีกลิ่นหอมไม่แพ้กัน
เจ้าของร้านก็นำขนมปังและกาแฟถูกมาเสิร์ฟให้ตรงหน้า นคินทร์เงยหน้าขึ้น ปิดหนังสือพิมพ์วางลงบนโต๊ะ ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณให้กับเจ้าของร้านผู้มากด้วยน้ำใจ
“โอ้ น่ากินมากเลยเฮีย “นคินทร์มองขนมปังและกาแฟที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็ต้องน้ำลายสอ เขาหยิบขนมปังเข้าปากเคี้ยวแก้มตุ่ยแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มตาม เจ้าของร้านนั่งลงที่เก้าอี้ด้านตรงข้าม รอให้นคินทร์อร่อยกับขนมมื้อเช้าก่อน เมื่อเห็นว่าหนุ่มรุ่นน้องกินเสร็จแล้ว
เฮียหุยล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อหยิบตลับกล่องหนึ่งออกมาแล้วยื่นส่งให้กับนคินทร์ หนุ่มรุ่นน้องหยิบกระดาษขึ้นเช็ดมือและปากจนเรียบร้อยแล้วรับของนั้นไว้ในมือ
“อะไรเหรอครับเฮีย” นคินทร์เอ่ยถาม นัยน์ตาประกายคมยังคงมองไปที่กล่องนั้น คิ้วเข้มเลิกสูง มือแกะตลับกล่องออกมาดู ด้านในเป็นตลับพระเครื่องที่ได้เลี่ยมกรอบไว้อย่างดีซึ่งชายหนุ่มรู้ดีว่าสิ่งที่เฮียหุยได้ส่งให้เขานั้นคืออะไร
“พระรอด! “นคินทร์ต้องอุทานออกมา
หนึ่งในเบญจภาคีที่ทรงพุทธคุณ เป็นของล้ำค่าที่เขาเห็นอดีตนายตำรวจหนุ่มใหญ่ห้อยคอติดตัวไว้ตลอดด้วยความเคารพศรัทธา วันนี้เฮียหุยกลับนำมามอบให้กับเขา คิ้วเข้มยิ่งขมวดตึง
นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๒๔. ห่วงใย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่ร้าน ‘พันณริน’ รถออดี้คันแกร่งได้แล่นเข้ามาจอดเรียบร้อย เมรันเอื้อมมือปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันไปมองใบหน้าคมคายที่กำลังมองมาทางเธอเช่นกัน
“ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานเฉกเช่นเดียวกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“แค่คำขอบคุณเท่านั้นเหรอครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มไม่เพียงแค่พูด มือก็ปลดเข็มขัดนิรภัยเช่นกัน ตอนนี้หัวใจที่สั่งการได้เร็วกว่า ทำให้หนุ่มใบหน้าคมรีบโน้มตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับกระซิบบอก
“ผมขอกำลังใจหน่อยได้ไหมครับ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้านั้นดูออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้
เมรันรู้ความหมายของเขา แก้มนวลเปล่งสีชมพู แล้วยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ริมฝีปากสวยแตะที่ริมฝีปากของเขาอย่างนุ่มนวลและก่อนที่เธอจะทันได้เงยหน้าขึ้นมา สองมือของชายหนุ่มก็ได้คว้าประคองใบหน้าสวยนั้นไว้ให้นิ่ง แล้วกดแนบริมฝีปากประทับรอยจูบที่หนักหน่วงจนเธอต้องคว้าแขนเขาเพื่อยึดไว้ มือเรียวคู่สวยกำแขนเสื้อของเขาไว้แน่น สัมผัสจากริมฝีปากอุ่นนั้นสร้างความเสน่หา หัวใจของเธอเต้นโครมครามเลยทีเดียว เมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มได้กำลังใจจนชุ่มฉ่ำหัวใจแล้วริมฝีปากสวยของเธอถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แต่นัยน์ตาสีดำประกายคมยังคงมองสบตาเธอ เมรันเม้มปากด้วยความเขินอาย รีบพูดกับเขาก่อนที่ใจจะถูกหลอมละลายไปมากกว่านี้
“เย็นนี้คุณมาให้ทันไปงานเลี้ยงด้วยกันกับคุณพ่อนะคะ งานนี้คุณอามณีก็ไปด้วยนะ” เมรันกระซิบบอกเขา
“รับทราบครับคุณผู้หญิง” ใบหน้าคมคาย มีรอยยิ้มที่ทำให้ดูหล่อเหลามากยิ่งขึ้น
หญิงสาวเปิดประตูก้าวลงมาจากรถ หันหน้าไปมองแล้วยิ้มให้เขา
“ระวังตัวด้วยนะคะนคินทร์” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใยจนคนฟังรู้สึกได้
เมรันรู้ว่าหนุ่มบอดี้การ์ดยังคงต้องทำหน้าที่ของเขาต่ออีก เธอได้แต่พูดให้กำลังใจและภาวนาขอให้เขาปลอดภัย
หญิงสาวยิ้มแล้วโบกมือให้เขา นคินทร์เองก็โบกมือให้พร้อมรอยยิ้มกว้าง ก่อนที่กระจกรถจะถูกเลื่อนขึ้นจนปิดสนิท เธอมองตามกระทั่งรถแล่นออกไปจนลับตา …
ที่ร้านกาแฟของเฮียหุย เจ้าของร้านเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งที่หน้าประตูดังขึ้น ผู้ที่ก้าวเข้ามาคือชายหนุ่มร่างสูง สวมหมวกแก๊ปและแว่นตากันแดดสีชา อดีตนายตำรวจหนุ่มคู่หูเดินมาหยุดที่เคาน์เตอร์แล้วเอ่ยทักทาย
“สวัสดีครับเฮีย วันนี้ให้ผมมาหามีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
เจ้าของร้านหนุ่มใหญ่ มองใบหน้าคมคายตรงหน้าแล้วก็ต้องลอบถอนหายใจ เฮียหุยเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แม้ว่าพวกเขาจะเคยผ่านภารกิจ
เสี่ยงอันตรายกันมาก็ไม่น้อย แต่คำพูดของยี่สุ่นยังก้องอยู่ในโสตประสาทของเขา ทำให้ไม่สามารถคลายกังวล แต่เขาเองก็ต้องเก็บอาการไม่สบายใจนั้นไว้ ใบหน้าของหนุ่มใหญ่จึงระบายด้วยรอยยิ้มจาง
“นั่งก่อนสิ เดี๋ยวเฮียปิ้งขนมปังให้ เนยไม่น้ำตาลกับกาแฟรสชาติเหมือนเดิมนะ พ่อรูปหล่อ” เจ้าของร้านบอกกับชายหนุ่มรุ่นน้องอย่างคู่หูที่รู้ใจกันเป็นอย่างดี
“ครับ” นคินทร์ยิ้มและตอบรับ เดินไปที่โต๊ะตัวด้านในสุดและนั่งลงที่เก้าอี้โซฟาพร้อมกับวางกระเป๋าเป้คู่ใจไว้ด้านข้าง ชายหนุ่มถอดแว่นตากันแดดไว้บนโต๊ะแล้วหยิบหนังสือพิมพ์ของวันนี้ขึ้นมาเปิดอ่านในระหว่างที่นั่งรอ
เฮียหุยยืนผิวปากอยู่ที่เคาน์เตอร์กำลังง่วนอยู่กับการชงกาแฟรสโปรดให้อดีตนายตำรวจหนุ่มคู่หู่ สักครู่ชายหนุ่มก็ได้กลิ่นหอมมันของขนมปังปิ้งเนยที่โชยมาจนแตะจมูก พร้อมทั้งกาแฟร้อนที่ควันลอยฟุ้งซึ่งมีกลิ่นหอมไม่แพ้กัน
เจ้าของร้านก็นำขนมปังและกาแฟถูกมาเสิร์ฟให้ตรงหน้า นคินทร์เงยหน้าขึ้น ปิดหนังสือพิมพ์วางลงบนโต๊ะ ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณให้กับเจ้าของร้านผู้มากด้วยน้ำใจ
“โอ้ น่ากินมากเลยเฮีย “นคินทร์มองขนมปังและกาแฟที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็ต้องน้ำลายสอ เขาหยิบขนมปังเข้าปากเคี้ยวแก้มตุ่ยแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มตาม เจ้าของร้านนั่งลงที่เก้าอี้ด้านตรงข้าม รอให้นคินทร์อร่อยกับขนมมื้อเช้าก่อน เมื่อเห็นว่าหนุ่มรุ่นน้องกินเสร็จแล้ว
เฮียหุยล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อหยิบตลับกล่องหนึ่งออกมาแล้วยื่นส่งให้กับนคินทร์ หนุ่มรุ่นน้องหยิบกระดาษขึ้นเช็ดมือและปากจนเรียบร้อยแล้วรับของนั้นไว้ในมือ
“อะไรเหรอครับเฮีย” นคินทร์เอ่ยถาม นัยน์ตาประกายคมยังคงมองไปที่กล่องนั้น คิ้วเข้มเลิกสูง มือแกะตลับกล่องออกมาดู ด้านในเป็นตลับพระเครื่องที่ได้เลี่ยมกรอบไว้อย่างดีซึ่งชายหนุ่มรู้ดีว่าสิ่งที่เฮียหุยได้ส่งให้เขานั้นคืออะไร
“พระรอด! “นคินทร์ต้องอุทานออกมา
หนึ่งในเบญจภาคีที่ทรงพุทธคุณ เป็นของล้ำค่าที่เขาเห็นอดีตนายตำรวจหนุ่มใหญ่ห้อยคอติดตัวไว้ตลอดด้วยความเคารพศรัทธา วันนี้เฮียหุยกลับนำมามอบให้กับเขา คิ้วเข้มยิ่งขมวดตึง