นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๑๒. จูบแรก)


ตอนที่ ๑๒. จูบแรก


          ภายในห้องเสื้อ “พันณริน”

            วันนี้บรรยากาศภายในร้านคึกคักเป็นพิเศษเพราะเจ๊มี่พาช่างแต่งหน้าทำผมมาเนรมิตให้เมรันสวยอยู่ในห้องสำหรับไปงานแฟชั่นวีคการกุศลที่เธอได้รับบัตรเชิญให้ไปร่วมงานด้วย

            เวลาราวบ่ายโมงก็มีชายหนุ่มร่างสูงก้าวเข้ามาในร้าน เจ๊มี่หันไปมองถึงกับเอามือทาบที่อก อุทานออกมาด้วยความชื่นชม ไม่เพียงแต่เจ๊มี่เท่านั้นพนักงานสาว ๆ ภายในร้านต่างก็มองชายหนุ่มด้วยความชื่นชมเหมือนกัน นคินทร์สวมชุดสูทดีไซน์เก๋ทำให้รูปร่างสูงยิ่งดูเท่ สมาร์ต ราวกับเดินออกมาจากแมกกาซีนเลยทีเดียว

           “โอ้โห! นี่นายแบบที่ไหนกันจ๊ะ หล่อจนทำเอาหัวใจสาว ๆ แถวนี้หล่นเลยล่ะ” เจ๊มี่เอ่ยปากชมพร้อมกับมองพิจารณาชายหนุ่มร่างสูงหุ่นเพอร์เฟกต์ขวัญใจของเพื่อนรัก

           “สวัสดีครับคุณมี่ คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” นคินทร์ยิ้มกว้าง เจ๊มี่บอกเขาว่าเมรันอยู่บนชั้นสองกำลังให้ช่างแต่งหน้าทำผมให้อยู่ เดี๋ยวจะเรียกช่างแต่งหน้าทำผมให้นคินทร์ด้วย

          “ผมต้องแต่งหน้าทำผมด้วยเหรอครับ?” นคินทร์เลิกคิ้วสูง

           เจ๊มี่เดินเข้ามาแตะตัวนคินทร์และถอยออกมามองสำรวจดูชายหนุ่มอีกครั้ง

          “ดูซิเนี่ย เสื้อสูทออกจะดูดี รองเท้าเอี่ยมก็แล้ว เหลือแต่ทรงผมจะปล่อยแบบนี้ไม่ได้ต้องให้ดูเท่ชนิดที่ดาราเกาหลียังต้องหลบเลย”

            "อันที่จริงหน้าที่อย่างผมต้องไม่ควรที่จะดูเด่นเกินไปนะครับ" นคินทร์บอกเพราะปกติเขาก็เน้นตัวแต่งตามสภาพงานโดยไม่ต้องเสริมแต่งอะไรกับตัวเองมากนัก

           "แหม! วันนี้เป็นวันพิเศษก็ต้องหล่อกันหน่อย ไม่เป็นไรหรอก " เจ๊มี่บอกกับบอดี้การ์ดหนุ่ม ระหว่างนี้เองเขาได้ดึงแขนชายหนุ่มไปกระซิบกระซาบคุยอะไรกันบางอย่าง ทำให้ทั้งคู่หัวเราะกันเบา ๆ ก่อนที่นคินทร์จะพยักหน้า

            “ผมเตรียมไว้พร้อมแล้วล่ะครับ” นคินทร์ยิ้มกว้างบอกเจ้าของโมเดลลิ่ง เจ๊มี่ยิ้มอย่างพอใจแล้วเรียกให้ช่างผมมืออาชีพอีกคน ให้มาดูแลทำผมให้นคินทร์ ส่วนตัวเจ๊มี่เองไม่ได้ไปในงานนี้กับเมรันด้วยเพราะค่ำวันนี้เขาต้องเดินทางไปธุระกับเพื่อนที่ฮ่องกง

          เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เมื่อทั้งคู่ถูกเนรมิตให้สวยหล่อกันแล้วก็ถึงเวลาที่เจ๊มี่บอกขอตัวกลับ วันนี้ทั้งหมดให้รับอนุญาตจากเมรันให้กลับก่อนเวลา เมรันเดินออกมาจากห้องพบกับนคินทร์ สายตาของคนทั้งสองประสานกันต่างก็ตะลึงกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า

           เมรันดูสวย เซ็กซี่ด้วยชุดเดรสเกาะอกผ้าเนื้อดีปักเลื่อม ส่วนนคินทร์อยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มที่เธอบรรจงตัดให้ ผมดำขลับของเขาถูกหวีปัดทรงอย่างประณีตทำให้ชายหนุ่มดูเท่ที่สุดในสายตาของเธอยังไม่ทันที่คนทั้งคู่จะพูดอะไรกันคุณสุดาผู้ช่วยก็เดินขึ้นมาบอกว่าเดี๋ยวเธอจะปิดร้านให้เอง หนุ่มสาวทั้งสองคนกล่าวขอบคุณแล้วพากันเดินออกจากร้านไปขึ้นรถเรียบร้อยแล้วนคินทร์ก็ขับรถพาเมรันไปที่งานทันที

         ในระหว่างที่อยู่บนรถ เมรันหันไปมองนคินทร์ ใบหน้าคมคายของเขาถูกแต่งให้ดูยิ่งคมเข้ม หล่อเหลา ผมถูกจัดทรงอย่างดี ยิ่งมองเขาก็ยิ่งเหมือนนายแบบสุดเท่ เมรันยิ้มให้ตัวเอง

        นคินทร์ก็เหลือบไปมองเมรันเช่นกันแล้วเอ่ยถามเธอ

       "วันนี้คุณจัดเต็มเป็นพิเศษเลยนะครับ"

        "ฉันก็ต้องให้เกียรติเจ้าของงานหน่อยสิคะ งานแฟชั่นแบบนี้ไม่แต่งตัวสวยไม่ได้หรอกค่ะ" เมรันบอกกับเขาแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าชายหนุ่มที่มากับเธอก็แต่งตัวเต็มยศเหมือนกัน

        "คุณเองก็เหมือนกันแหละค่ะ วันนี้ฉันนึกว่ามางานกับนายแบบซะอีก" เมรันแกล้งพูดหยอกเขา

         "แล้วคุณชอบไหมล่ะครับ" นคินทร์เหลือบตาไปมองเมรัน หญิงสาวยิ้มหวานให้เขาโดยไม่ได้ตอบอะไร ชายหนุ่มใบหน้าคมคายลอบยิ้มที่มุมปาก


          บรรยากาศงานแฟชั่นวีค เริ่มขึ้นในตอนเย็น มีนักข่าวและช่างภาพมารอเก็บภาพกันอยู่มากทีเดียว รถยนต์คันหรูต่างก็แล่นเข้าที่จอดในบริเวณงานคันแล้วคันเล่า คนที่ลงจากรถจะเดินผ่านเข้างานทางด้านนี้ ตลอดทางเดินด้านหน้าจะโดยมีสายกั้นยาวเพื่อกันไม่ให้ผู้คนทะล้นทะลักเข้ามาและมีทีมรักษาความปลอดภัยคอยยืนดูแลอยู่ทั้งสองด้าน รถยุโรปหรูคันงามก็ถูกขับเข้ามาจอดสนิท พวกเขามาถึงที่งานได้เวลาพอดี พนักงานต้อนรับวิ่งมาเปิดประตูรถให้เมรัน นคินทร์เองก็ก้าวลงจากรถแล้วเดินตามมา

             เมรันเดินนำหน้าเข้างานด้วยท่าทางสง่างาม เธอมาในชุดของแบรนด์ Massimo ซึ่งเป็นชุดเดรสสั้นสีซิลเวอร์ผ้าเนื้อดีปักเลื่อมประกายเงินวาววับ ชุดเกาะอกเผยให้เห็นไหล่กลมมน ผิวผ่องของเธอดูเนียนสวย ชายกระโปรงบานพลิ้วเลยเข่าเล็กน้อย รองเท้าส้นสูงทรงแหลมสีเทาดำรัดข้อรับกับขาเรียวสวยของเธอ หญิงสาวนักดีไซน์ดูปราดเปรียวและมั่นใจ รูปร่างสูงโปร่งได้สัดส่วนและดวงตากลมโตเป็นประกายพร้อมรอยยิ้มที่น่ารักสดใสเหมือนเด็กที่ทำให้เธอเป็นหญิงสาวอีกคนที่ดูโดดเด่น มีชีวิตชีวาในงานนี้มากทีเดียว

            นคินทร์เดินตามมา ชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม เสื้อเชิ้ตสีดำ เนกไทสีน้ำเงินเข้มทอลายงานประณีต ดีไซน์เก๋ทันสมัยที่เมรันตัดเย็บให้เขา ใบหน้าคมคายภายใต้แว่นตากันแดดสีอ่อน ผมดำขลับที่ถูกหวีปัดให้ตั้งขึ้นเป็นทรงอย่างประณีต เสริมทำให้เขายิ่งดูหล่อ เท่ มากที่สุดในวันนี้ พอทั้งคู่ได้เดินเลยบริเวณนั้นก็มาสู่บริเวณหน้างานที่มีแบคดรอปชื่องาน Massimo ของดีไซเนอร์ชาวอิตาเลี่ยนชื่อซาจิโอ้ที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี

          “นั่น ๆ คุณเมรัน” ช่างภาพส่วนหนึ่งต่างก็กรูกันมาขอถ่ายรูปของเมรัน นคินทร์จึงถอยตัวออกมายืนเฝ้าระวังอยู่ด้านหนึ่ง เมรันยืนอยู่ด้านหน้าของแบคดรอปของงานแล้วยิ้มหวานให้กล้อง โบกมือให้ทุกคนที่กำลังถ่ายรูปอยู่ราวกับเธอเป็นนักแสดงฮอลลีวูดก็ไม่ปาน นคินทร์เห็นแล้วก็นึกขำในใจแต่ภายใต้ใบหน้าของเขายังคงมีสีหน้าเรียบขรึม เมื่อถ่ายรูปกันเสร็จแล้วคุณหนูคนสวยก็หันไปพยักหน้าให้บอดี้การ์ดหนุ่มที่ยืนเฝ้าระวังอยู่ เขายิ้มให้และพยักหน้าตอบรับพร้อมกับรีบเข้ามาที่ด้านหน้าพาเธอเดินเข้าทางห้องโถง

            เมื่อมาถึงบริเวณหน้าห้องโถงก็มาเจอกับช่างภาพและผู้สื่อข่าวนิตยสารอีกกลุ่มที่ต่างก็เข้ามาขอสัมภาษณ์เมรัน หนุ่มบอดี้การ์ดเข้ามายืนประกบเธอที่ด้านข้างถามเธอว่าอนุญาตหรือไม่ หญิงสาวพยักหน้าให้เขา นคินทร์เดินก้าวออกมา ด้วยใบหน้าที่คมคายภายใต้แว่นตาสีอ่อน รูปร่างสูงและบุคลิกที่ดูเท่ เขาพูดกับช่างภาพและผู้สื่อข่าวนิตยสารกลุ่มนั้นพร้อมยกมือกางออกเหมือนอธิบายขอให้ถอยออกไปสักระยะหนึ่ง

           “ขอความกรุณานะครับเพื่อความปลอดภัย ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือกันครับ” ด้วยกิริยาที่สุภาพเต็มไปด้วยน้ำเสียงชัดเจนที่ทุ้มนุ่มไพเราะของเขาทำให้บรรดาผู้สื่อข่าวนิตยสารและช่างภาพกลุ่มนั้นต่างก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มใจ ถอยกันออกไประยะหนึ่ง บางคนถึงกับกระซิบกันว่า “เขาหล่อนะเธอ”

            “คนนี้บอดี้การ์ดเหรอ?”

            “ฉันว่าเหมือนนายแบบเลย”

            “นั่นสิ ฉันก็นึกว่านายแบบซะอีก” กับสารพัดเสียงกระซิบกระซาบอยู่บริเวณนั้น ตัวนคินทร์เองก็เดินถอยไปทางด้านข้าง 

            “มีบอดี้การ์ดติดตามมาด้วยแบบนี้จะมีเวลาไปเดตกับคนรู้ใจมั้ยคะ?” ผู้สื่อข่าวบันเทิงยิงคำถามแรกรุกก่อน

             เมรันยิ้ม 'ไม่เป็นปัญหาค่ะ คุณบอดี้การ์ดเขาเก่ง รู้จักหน้าที่ดี” เมรันยิ้มตอบพร้อมกับชำเลืองตาไปทางนคินทร์ที่ยืนเท่อยู่อีกมุมหนึ่ง แสงแฟลซจากกล้องถ่ายภาพยังคงสว่างวาบ รัวติด ๆ ทำให้บริเวณนั้นสว่างไสวเป็นระยะ

             “แล้วเรื่องที่ผับคราวนั้นคุณเมรันผิดหวังกับใครหรือเปล่าคะ?” ผู้สัมภาษณ์จากนิตยสารเหล่าเซเลปถามต่อ

              เมรันไม่นึกว่าจะเจอคำถามแบบนี้แต่เธอก็พอจะตั้งตัวที่จะตอบกลับไปได้

             “อ๋อ.. เรื่องมันผ่านไปแล้ว เมรันต้องขอโทษด้วยนะคะและก็ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจด้วยค่ะ” เมรันตอบออกไปอย่างที่คิดว่าดีที่สุด

              “แล้วเมื่อไร? คุณเมรันจะเปิดตัวคนรู้ใจละคะ” ผู้สัมภาษณ์จากนิตยสารแฟชั่นถามเธอ

              “ทั้งสวย น่ารัก เก่งแบบนี้น่าจะมีคนรู้ใจแล้วนะครับ” นักข่าวหนุ่มอีกคนช่วยส่งมุก

             “ก็มีที่คุย ๆ กันอยู่แล้วนะคะ ตอนนี้รู้สึกแฮปปี้ดีค่ะ” เมรันตอบไปพร้อมยิ้มกับตัวเอง

              “แฮปปี้แบบนี้คราวหน้าก็พามาเปิดตัวด้วยนะคะ” ผู้สัมภาษณ์จากนิตยสารแฟชั่นบอก

               เมรันยิ้มหวานที่สุดแล้วตอบว่า “ค่ะ” แล้วก็บอกขอตัว หันไปพยักหน้าให้นคินทร์ที่ยืนคอยอยู่ เขาก็รีบเข้ามาที่ด้านหน้าและพาตัวเธอออกมากลุ่มช่างภาพและบรรดาผู้สื่อข่าวบันเทิงทันที

              ทั้งคู่ได้นั่งแถวที่อยู่บริเวณแถวหน้าชิดด้านริม งานนี้หญิงสาวได้กระซิบบอกซาจิโอ้ดีไซเนอร์ให้จัดที่นั่งให้  ลูกค้าวีไอพีอย่างเธอก็ได้ตามที่ขอ เมื่อได้เวลาแฟชั่นโชว์ในแต่ละชุดที่ถูกสวมใส่บนเรือนร่างอันได้มาตรฐานของเหล่านางแบบและนายแบบก็ทยอยออกสู่สายตาของบรรดาแขกและชาวเซเลบริตี้ชาวต่างชาติที่มาร่วมงาน ในขณะที่แฟชั่นโชว์กำลังดำเนินอยู่ได้สักพัก

              เมรันหันไปบอกนคินทร์ขอตัวเข้าห้องน้ำ เขาก็เดินตามเธอไป ห้องน้ำส่วนตัวถูกแยกเป็นสัดส่วนที่ทางดีไซเนอร์จัดไว้ให้สำหรับกลุ่มแขกคนพิเศษโดยเฉพาะ ชายหนุ่มเดินตามเธอมาด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเบา ๆ จนเธอได้ยิน

              “คุณขำอะไรคะ?” เมรันถามเขา

             “เรื่องที่พวกเขายังจำได้ที่คุณไปผับคืนนั้น แถมคุณยังบอกมีคนที่คุยอยู่ด้วยอีก” เขาเอียงหน้าไปมองเธอ เมรันหยุดเดินแล้วหันไปมองชายหนุ่มที่ดูท่าทางกำลังจะกวนประสาทเธอในตอนนี้

             “นี่! คุณ” เธอผลักเขาอย่างเบามือไปติดผนังแล้วมือเรียวสวยของเธอทาบไปที่กลางอกเสื้อของเขาโดยไม่รู้ตัว

             “ถ้าคุณยังไม่หยุดหัวเราะเยาะ ฉันจะ…” ก่อนที่เมรันจะได้ทันพูดจบ มือแกร่งของเขาก็ชิงโอบเข้าที่เอวเธอซะก่อน ทำให้ร่างบางถลามาหาเขา ชายหนุ่มรวบตัวเธอไว้แนบชิดตัวเขาทันที ใบหน้าคมคายก้มลงมองใบหน้านวลของหญิงสาวในวงแขน

             “เรื่องที่ผับคืนนั้นผมรู้เรื่องดี แต่เรื่องคนรู้ใจ ผมยังไม่เห็นคุณมีผู้ชายคนไหน แล้วใคร? คือคนที่คุณบอกคุย ๆ อยู่ด้วยล่ะครับ” หนุ่มบอดี้การ์ดเอ่ยถามพร้อมกับคิ้วเข้มเลิกสูงแล้วใบหน้าคมคายก็เริ่มโน้มลงมาใกล้

              “ฉัน…” หญิงสาวมองหน้าเขา ดวงตาสวยกะพริบตาถี่ ใบหน้าร้อนผ่าวเพราะลมหายใจอุ่นที่อยู่ใกล้กับใบหน้าของเธอ

               “แต่ว่าผมพอจะรู้นะว่าเขาเป็นใคร? “ชายหนุ่มก็ชิงตอบขึ้นก่อนทันที เมรันรู้สึกใจหวิว วาบหวามเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ นคินทร์มองเธอด้วยประกายตาเสน่หา

               “ฉะ…ฉัน… ขอเข้าห้องน้ำก่อน” เธอบอกเสียงตะกุกตะกัก ทำให้นคินทร์ต้องรีบคลายมือที่โอบเอวเธอลง เมื่อเมรันเป็นอิสระ หญิงสาวยิ้มแล้วหันไปถามเขาพร้อมกับแกล้งส่งสายตายั่วยวน “จะตามเข้ามาไหมคะ? คุณบอดี้การ์ด”

                นคินทร์มองไปที่เมรัน “คุณรีบเข้าไปเถอะ เดี๋ยวเข้าไปไม่ทันเกิดเลอะเทอะขึ้นมาคุณจะไม่สวยนะครับ”

               เมรันหุบยิ้มทันที เม้มปากแล้วปรายตาค้อนเขาอีกรอบ จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ ผ่านไปสักครู่เมื่อหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำเห็นเขายังคงยืนรอหน้านิ่งเรียบอยู่ เธอนึกในใจ แค่เขายืนเฉย ๆ ยังดูดีเลย นคินทร์มองดูเมรัน กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ที่โชยมาแตะจมูกเวลาที่เธอเดินผ่านเขาไปช่างเป็นกลิ่นหอมที่เย้ายวนใจทีเดียว ชายหนุ่มมีรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากแล้วหนุ่มร่างสูงก็เดินตามเธอไป

                ขณะที่เมรันกำลังจะเดินกลับไปที่งาน ชายหนุ่มกลับบอกให้เธอเปลี่ยนมาใช้อีกเส้นทางหนึ่งซึ่งเมรันก็พยักหน้าเดินตามเขาไป ขณะที่เดินมาที่ทางเดินนั้น ไฟบริเวณนี้ก็ดับ ๆ ติด ๆ เมรันชะงักเท้ารู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเลยแล้วไฟก็ไล่ดับมาเรื่อยจนมืดสนิท
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่