นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๓๐. ปาฏิหาริย์ที่หนองคาย)


                                          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ตอนที่ ๓๐. ปาฏิหาริย์ที่หนองคาย


            ภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง หนุ่มใหญ่ใบหน้าขาวยังคงถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้ หลายวันมานี้เขาติดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้โดยมีชายร่างใหญ่ไม่เปิดเผยใบหน้ายืนเฝ้าอยู่ เสี่ยซานรู้สึกว่าร่างกายของตนเองยังเจ็บระบมไปหมด เขาก้มลงมองตัวเองแล้วก็เค้นเสียงหัวเราะเยาะในสภาพของตนเองด้วยความสมเพช

          ชายร่างใหญ่ที่ไม่เปิดเผยใบหน้าคนนั้นยังดูเหมือนนิ่งอยู่ตลอดเวลาไม่ได้รับรู้อะไรไปกับเขา เสี่ยซานถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ที่ช่วยเขาออกมาจากเหตุการณ์ในคราวนั้นและช่วยเขาด้วยวัตถุประสงค์อะไร ขณะที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปนั้น ประตูห้องก็เปิดเข้ามาพร้อมกับการปรากฏตัวของเงาร่างชายหนุ่มสองคนที่กำลังเดินก้าวเข้ามาในห้องนี้ เสี่ยซานต้องหรี่ตาพร้อมกับกะพริบตา พยายามสู้สำแสงจ้าที่ลอดเข้ามา

           “เสี่ยเป็นยังไงบ้าง?”

           น้ำเสียงที่เอ่ยถามมานั้น เสี่ยซานแม้ว่าเขาจะมองเห็นใบหน้านั้นไม่ได้ถนัดนัก แต่ก็รู้สึกว่าคุ้นหูอยู่พอสมควร เมื่อร่างของชายสองคนนั้นเดินเข้ามาใกล้

           “เป็นพวกลื้อเอง!”

            เสี่ยซานพูดออกมาเมื่อเขาได้มองเห็นใบหน้าของชายสองคนนั้นได้อย่างชัดเจนด้วยความคาดคิดไม่ถึง…



           หมู่บ้านชาวประมง

           นายเพชรกับนคินทร์ได้มาถึงหมู่บ้านในเวลาเกือบสี่โมงเย็น ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปในบ้าน ด้วยจมูกที่ไวของนคินทร์ก็ได้สัมผัสกับกลิ่นหอมจรุง ทำให้ใบหน้าคมคายนั้นถึงกับยิ้มกว้างเลยทีเดียว กลิ่นหอมฉุยของกับข้าวก็ลอยฟุ้งมาถึงหน้าประตู ทำให้นายเพชรผู้เป็นเจ้าบ้านถึงกับต้องสูดกลิ่นกับข้าวเข้าเต็มปอด

          “อืม.. แบบนี้ต้องเป็นปลาทอดกับต้มยำปลารสเด็ดแน่นอน” เพชรพูดบรรยาย ท่าทางน้ำลายสอ หนุ่มใหญ่ชาวประมงก็รีบวางกระเป๋าของนคินทร์ลงแล้วก็รีบเดินตรงลิ่วเข้าไปหาภรรยาที่ทำกับข้าวอยู่ในครัว

           “เมียพี่นี่เป็นแม่ศรีเรือนจริง ๆ “นายเพชรไม่เพียงแค่พูดชมเชยภรรยาของตน เขายังเข้าไปโอบเอวภรรยาด้วยความรัก เหมือนพวกเขายังเป็นคนรุ่นหนุ่มสาว

           นคินทร์ยิ้มเมื่อได้เห็นภาพความสุขของครอบครัวนายเพชร เมื่อตอนที่นคินทร์ได้พักอยู่ที่นี่ ชายหนุ่มรู้ดีว่าฝีมือทำอาหารของคำหล้าภรรยาของนายเพชรนั้นเป็นเลิศ อีกทั้งคำหล้านั้นเป็นพยาบาลจึงได้ช่วยทำแผลให้กับเขาอีกด้วย ความมีน้ำใจของครอบครัวนี้ทำให้นคินทร์รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

           นคินทร์มองนาฬิกาบนข้อมือแล้วเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ เขาหันไปบอกกับเพชร

            “ผมขอตัวสักครู่นะครับ”

           นคินทร์บอกกับเพชรแล้วเดินเลี่ยงออกมา เขายกโทรศัพท์ค่อย ๆ เลื่อนนิ้วไปที่รายชื่อหนึ่ง เพื่อกดโทรออก เสียงสายปลายทางนั้นดังขึ้นเป็นเสียงอัตโนมัติบ่งบอกว่าติดต่อผู้รับสายปลายทางไม่ได้ เสียงของเพชรตะโกนเรียกแทรกขึ้นให้นคินทร์มาร่วมรับประทานเย็น นคินทร์จึงเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วเดินไปที่โต๊ะอาหาร สายตาของเขามองเห็นจานข้าวที่อยู่บนโต๊ะอาหารนั้นมีเพิ่มมาอีกสองจาน ชายหนุ่มนั่งลงที่เก้าอี้ ขณะที่กำลังจะเอ่ยถาม ก็รู้สึกเหมือนมีใครบางคนมายืนอยู่ด้านข้าง เมื่อหันไปมองก็พบกับแขกที่มาใหม่สองคนนั้น

           “คุณเมรันกับคุณชัยมาถึงวันนี้ พวกเขารอคุณนคินทร์อยู่ที่นี่ตั้งแต่บ่ายแล้วครับ” นายเพชรบอกเฉลยให้นคินทร์รู้ พร้อมทั้งเอ่ยเชิญให้แขกผู้มาเยี่ยมเยือนทั้งสองลงนั่ง

           เมรันยิ้มหวานพร้อมกล่าวขอบคุณ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ด้านขวาข้างนคินทร์ ส่วนชัยก็นั่งลงข้างนคินทร์ที่เก้าอี้ทางซ้ายตัวถัดไป นายเพชรเชิญให้ทั้งหมดรับประทานอาหารเย็น เมรันหันไปเห็นนคินทร์กำลังจ้องมองเธออยู่ ใบหน้าคมคายนั้นมองเธออย่างไม่ละสายตาเลยทีเดียว

           “คุณเซอร์ไพรส์ไหมคะ” เมรันเอ่ยถามกันนคินทร์ ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาทำให้หญิงสาวกลับเป็นฝ่ายรู้สึกแปลกใจเสียเองจนคิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นคินทร์พอจะอ่านความรู้สึกของเมรันได้ทันทีจึงบอกเธอ

            “ผมรู้สึกตั้งแต่ได้กลิ่นน้ำหอมของคุณแล้วล่ะครับ” นคินทร์ตอบพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก เพราะเมรันชอบน้ำหอมกลิ่นนี้มาก เธอใช้จึงไม่เคยเปลี่ยนน้ำหอมที่ใช้เลย ดังนั้นเขาจึงรู้ได้ทันทีทำให้เมรันรู้สึกเขินอายจนใบหน้าแดง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่