นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๒๘. พลาดเป้า)


                                          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ตอนที่ ๒๘. พลาดเป้า


              รถบรรทุกสินค้าจากโกดังของทัศนะ กำลังจะแล่นข้ามเข้าเขตชายแดน แต่ก็พบกับด่านตรวจเสียก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ตรวจพบเพียงแค่สินค้าอุปโภคธรรมดาเท่านั้นไม่พบสินค้าต้องสงสัยที่บรรทุกมาในรถเหล่านี้

               เมื่อชาญผู้เป็นมือขวาของทัศนะเมื่อได้รับรายงานข่าวจากลูกน้อง เขากับทัศนะก็พากันหัวเราะกระหยิ่มที่ทำให้พวกของนคินทร์หลงกลจนได้ เพราะสินค้าพิเศษจะถูกขนถ่ายจากโกดังของเสี่ยซานแทน และผู้ที่รู้จักเส้นทางนี้ดีก็ต้องเป็นพลลูกน้องมือขวาของเสี่ยซาน ซึ่งได้ย้ายสถานที่ขนถ่ายสินค้าเพื่อจะจัดการส่งออกไปที่ปลายทางอีกที

               ทางด้านโกดังของเสี่ยซาน รถบรรทุกขนส่งผลไม้ที่เพิ่งออกจากโกดังไปคันหนึ่งเมื่อสักครู่นี้ มองดูจากภายนอกคล้ายกับลังผลไม้ธรรมดาที่ตั้งเรียงดูอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เต็มแน่นขนัดรถนั้นเป็นเพียงแค่การช่วยพรางสายตาผู้อื่นเท่านั้น เพราะแท้ที่จริงแล้ว ภายในรถนั้นเป็นช่องลับสำหรับใช้วางสินค้าพิเศษ ซึ่งจะมีลังไม้ซ้อนกันไว้ชั้นล่าง โดยที่มีสินค้าวางปะปนอยู่ตรงกลาง เส้นทางที่รถบรรทุกผลไม้คันนี้ผ่านไปโดยไม่มีด่านตรวจอยู่เลย จึงผ่านไปได้โดยไม่มีอุปสรรค …


               อีกด้านหนึ่งเพชรจอดรถหลบมุมอยู่ มองจากกระจกมองหลัง เห็นนคินทร์กับเพื่อนอีกคนเดินมาจึงปลดล็อกประตูเพื่อให้นคินทร์กับเพื่อนรีบขึ้นมาที่รถ นคินทร์แนะนำให้รุ่งภพรู้จักกับนายเพชร ทั้งสองคนจับมือทักทายกัน สักครู่รถกระบะสี่ประตูคันนี้ก็แล่นออกไป

               เพชรแวะมาจอดรถที่ปั๊มน้ำมันซึ่งอยู่ใกล้บริเวณนี้ หนุ่มใหญ่ชาวหนองคาย ยื่นกระเป๋าเสื้อผ้าที่นคินทร์ฝากไว้ให้ ทั้งนคินทร์และรุ่งภพลงจากรถไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการเปลี่ยนชุด นคินทร์จัดการเช็คหน้าตาตัวเองให้สะอาด เพียงไม่นานทุกอย่างเรียบร้อย พวกเขาออกมาขึ้นรถของเพชรที่จอดรออยู่ สักครู่รถก็แล่นออกจากปั๊มน้ำมันไปทันที

               ขณะนี้รถกระบะแล่นอยู่บนถนนสายหลักมุ่งหน้าไปยังจุดหมายตามที่นคินทร์ได้บอกไว้ ที่นั่นคือโกดังอีกแห่งของเสี่ยซาน

               รุ่งภพนึกถึงคำพูดของนคินทร์เรื่องลังบรรจุสินค้า จึงโน้มตัวไปบอกกับนคินทร์ที่นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับ

               “ที่คุณนคินทร์พูดถึงเรื่องสัญลักษณ์ ทำให้ผมนึกอะไรได้”

               รุ่งภพบอกพร้อมกับหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กขึ้นมาจากกระเป๋าของเขา เปิดพลิกไปหาหน้าที่ต้องการ แล้วยื่นให้นคินทร์ ชายหนุ่มรับสมุดมา แล้วก้มลงมองภาพวาดนั่น คิ้วเข้มเลิกสูง นั่นเป็นสิ่งที่เขาค้นหาอยู่

               “คุณวาดเองเหรอนี่ เยี่ยมมาก!” นคินทร์รู้สึกทึ่ง กล่าวชื่นชมด้วยความจริงใจเพราะรูปนั้นก็คือ สัญลักษณ์ที่รุ่งภพบอกว่าทัศนะใช้ในการขนส่ง ซึ่งแต่ละเที่ยวจะสลับกันใช้และสัญลักษณ์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันนี้ ซึ่งเมื่อครั้งที่เขาปลอมตัวเป็นฟรังโก้ก็เคยเห็นอยู่บนลังสินค้าในโกดังของเสี่ยซาน อดีตนายตำรวจกำลังครุ่นคิดบางอย่าง

               “รถบรรทุกที่ทำเหมือนแยกสินค้าไป โดยไม่มีการแยกสัญลักษณ์อย่างชัดเจน เจตนาก็น่าจะหลอกให้พวกเราหลงเชื่อว่ามีสินค้าพิเศษอยู่ ถ้าอย่างงั้น สินค้าจริงก็จะออกจากโกดังของเสี่ยซาน” นคินทร์พูดกับรุ่งภพ

               ชายหนุ่มเหมือนนึกอะไรได้ เปิดสัญญาณมือถือและจับหาพิกัดของรถบรรทุกอีกสองคัน เขามองตามจุดที่เคลื่อนไปตามทาง แล้วหันหน้าขึ้นมาสอบถามเส้นทางกับเพชรที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่

               “คุณเพชร คุณพอจะทราบเส้นทางลัดที่พวกเราจะไปได้ไหมแล้วสภาพถนนเป็นยังไงบ้างครับ”

               “มีอยู่สองสามทางครับ จากนี้ไปสักสองร้อยเมตรจะมีทางซ้ายมือทางลัดเป็นซอยเล็ก รถใหญ่เข้าไม่ได้ ส่วนอีกทางจะต้องขับเลยจากนี่ไปอีกราวสี่ร้อยเมตรทางแยกซ้าย เป็นถนนกว้างรถใหญ่สามารถวิ่งได้แต่ทางไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะรถบรรทุกใช้เส้นทางนั้นกันมาก และมีอีกเส้นหนึ่งห่างจากนี่ไปอีกราวสักหกร้อยเมตร แยกซ้ายเหมือนกัน ถนนดีครับแต่เส้นนั้นต้องขับอ้อมไกลอีกหน่อย” เพชรอธิบายเส้นทางให้นคินทร์ฟัง

               ชายหนุ่มพยักหน้าก้มลงมองไปที่ ตำแหน่งของรถบรรทุกคันที่เขาจับตามองอยู่ จุดที่เคลื่อนเหมือนกำลังจะเปลี่ยนเส้นทาง คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ทำให้รุ่งภพที่คอยสังเกตอยู่ รู้สึกถึงบางอย่าง

               “คุณยังมีอะไรสงสัยเหรอครับ”

               นคินทร์นิ่งไปสักพัก กำลังใช้ความคิดอยู่ เมื่อพอจะประมวลผลได้ก็บอกกับรุ่งภพ

               “เคมีที่อยู่ในถุงปุ๋ยในลังไม้นั้น ผมกำลังคิดว่าพวกเขาจะเอาไปใช้กับอะไร แล้วตอนนี้รถบรรทุกคันนั้นวนกลับเข้าสู่เส้นทางเดียวกับเรา”

               “จริงหรือครับ!” รุ่งภพรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินนคินทร์บอกแบบนั้น

               “พวกเราจะทำยังไงดีล่ะครับคุณนคินทร์” นายเพชรรู้สึกกระวนกระวาย จนนคินทร์รู้สึกได้จากน้ำเสียงของเขา อดีตนายตำรวจยังคงใจเย็น พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

               “คุณเพชรช่วยขับไปตามทางลัดแรกแล้วเราคอยดูว่าพวกมันไปเส้นทางไหน”

               นายเพชรมองที่กระจกมองหลังเห็นใบหน้าคมคายนั้นดูราวกับไม่รู้สึกสะทกสะท้าน ทำให้นายเพชรยิ้มออกเพราะเชื่อฝีมือชายหนุ่มคนนี้ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่นคินทร์เคยให้การช่วยเหลือเขาไว้ในคราวนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่