[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ ๑. ปฐมบทของนคินทร์ https://ppantip.com/topic/37883882
ตอนที่ ๒. ความจริงที่ปรากฏ https://ppantip.com/topic/37889726
ตอนที่ ๓. เธอผู้แสนดี https://ppantip.com/topic/37890154
ตอนที่ ๔. บุพเพเล่นตลก https://ppantip.com/topic/37893257
ตอนที่ ๕. ตกหลุมรัก https://ppantip.com/topic/37893996
ตอนที่ ๖. แผนพิชิตใจนายบอดี้การ์ด https://ppantip.com/topic/37894598
ตอนที่ ๗. เพิ่งได้รู้ใจ https://ppantip.com/topic/37896270
ตอนที่ ๘. ใจสัมผัส https://ppantip.com/topic/37897664
ตอนที่ ๙.กลิ่นน้ำหอมของคุณ https://ppantip.com/topic/37898999
ตอนที่ ๑๐.ใครอยู่ในใจคุณ https://ppantip.com/topic/37899045
ตอนที่ ๑๑.ปาร์ตี้ริมหาด https://ppantip.com/topic/37899167
ตอนที่ ๑๒.จูบแรก https://ppantip.com/topic/37900113
ตอนที่ ๑๓. วาสนาพาให้พบ https://ppantip.com/topic/37883882
ตอนที่ ๑๔. เมื่อสองเราใกล้กัน https://ppantip.com/topic/37908202
ตอนที่ ๑๕. มิตรภาพ https://ppantip.com/topic/37908254
ตอนที่ ๑๖. ความในใจ https://ppantip.com/topic/37908525
ตอนที่ ๑๗. ความลับที่ถูกเผย https://ppantip.com/topic/37908779
ตอนที่ ๑๘. ปฏิบัติการของฟรังโก้ https://ppantip.com/topic/37914125
ตอนที่ ๑๙. ถ่านไฟเก่า https://ppantip.com/topic/ 37919981
ตอนที่ ๒๐. สาวสวยของฟรังโก้ https://ppantip.com/topic/37920050
ตอนที่ ๒๑. สัมผัสพิเศษ https://ppantip.com/topic/37920166
ตอนที่ ๒๒. ลุยเลยฟรังโก้ https://ppantip.com/topic/37923180
ตอนที่ ๒๓. ประมูลสวาท https://ppantip.com/topic/37925421
ตอนที่ ๒๙. ด้วยแรงศรัทธาได้พบหลวงปู่
พวกของไอ้เบิ้มออกมาจากโกดังนั้น หลังจากที่ชุลมุนต่อสู้กันเมื่อสักครู่ใหญ่ที่ผ่านมา เมื่อหนีออกมากันได้ มันก็จุดชนวนระเบิดโกดังทันที ตอนนี้รถเบนซ์คันหรูแล่นฝ่าความมืดไปตามเส้นทางลัด เบิ้มนั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับ เสี่ยซานถูกคุมตัวโดยลูกสมุนของพลที่คอยนั่งประกบอยู่ด้านหลัง เบิ้มหัวเราะเยาะเสียงดัง มันเอี้ยวตัวหันหน้ามามองเสี่ยซานที่ตอนนี้ดูหมดสภาพของพ่อค้าใหญ่ไปเลยทีเดียว
“ตอนนี้โกดังของแก เละเป็นผงไปแล้ว คงเสียดายมากสินะ”
เสี่ยซานฟังแล้วยังคงนั่งเฉย ใบหน้าเยือกเย็นนั้นไม่ได้ส่อแววหวาดกลัวพวกของไอ้เบิ้มเลยสักนิด
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เบิ้มกดรับสาย ผู้ที่โทรเข้ามาคือพล เบิ้มรายงานไปว่าทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งสองคนคุยกันอยู่เพียงแค่ครู่เดียวก็วางสายกันไป แล้วไอ้เบิ้มก็หันกลับมาหาหนุ่มใหญ่ที่อยู่ในการควบคุมของมันอีกครั้ง มันแสยะยิ้มแล้วพูดกับเสี่ยซาน
“ยังทำเป็นเฉยอยู่อีก เดี๋ยวได้เจอกับพี่พล ดูว่าแกจะทำหน้ายังไง “
เพียงไม่นานนัก รถหรูคันนั้นได้เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยเปลี่ยว บริเวณนี้เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และต้นหญ้าขึ้นปกคลุมตลอดแนวทาง ทางเข้าที่ปราศจากผู้คนในตอนนี้ ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ชวนให้น่าขนลุก แสงจากเสาไฟด้านนอกถนนที่เห็นอยู่ด้านหลังนั้นริบรี่จนคล้ายเพียงดวงไฟดวงเล็กเมื่อรถคนนี้ได้แล่นเข้ามาลึกถึงด้านใน บริเวณโดยรอบนั้นมืดสนิท บัดนี้จึงมีเพียงแสงไฟดวงหน้าจากรถยนต์ ที่สาดแสงทำให้เห็นกันได้บ้างและผู้ที่ได้มาจอดรถรออยู่ก่อนแล้วก็คือพล ทันทีที่เขาเห็นรถเบนซ์หรูของอดีตเจ้านายแล่นเข้ามาจนจอดสนิท
ลูกสมุนคุมตัวของเสี่ยซานให้ลงมาจากรถ พลซึ่งนั่งรออยู่ในรถอีกคันหนึ่งก็เปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถทันที เดินเข้ามาใกล้เพื่อให้เห็นสภาพของอดีตเจ้านายให้ถนัดแก่สายตาของเขา ใบหน้าที่บวมช้ำ มือสองข้างของเสี่ยซานถูกพันธนาการด้วยเชือกแน่นหนา
“ยินดีต้อนรับเสี่ย” พลเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“พล! ลื้อมันไอ้งูพิษ ไอ้ทรยศ!” เสี่ยซานตะโกนเสียงลั่นใส่หน้าของพล เสี่ยขบกรามแน่น พยายามดิ้นขยับตัวพร้อมกับสลัดแขนที่ถูกควบคุมอยู่แต่ก็ถูกลูกสมุนพวกนั้นจับยึดแขนไว้ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปอย่างง่ายดาย
“เสี่ยคงไม่นึกว่าตัวเองจะมีวันนี้ใช่ไหม” พลยื่นหน้าที่บวมช้ำเข้าไปถาม ยิ้มเยาะที่มุมปาก คำพูดนี้ทำให้เสี่ยซานจ้องมองหน้าของพลด้วยความเคียดแค้น ใบหน้าของเสี่ยแดงก่ำด้วยความโกรธ
พลพูดแล้วก็โบกมือให้สัญญาณ สักครู่ลูกสมุนก็ยกลังใบที่เสี่ยซานรู้สึกคุ้นตา มาวางไว้ตรงหน้า พลพยักหน้าให้พวกนั้นเปิดมันออก เพียงแค่ฝาลังเปิดออก กลิ่นคลุ้งด้วยคาวเลือด ลอยอบอวล ชวนให้อาเจียน จนพวกสมุนบางคนนั้นถึงกับพะอืดพะอมต้องเบือนหน้าหนี มีเพียงพลที่ไม่รู้สึก นัยน์ตาสะท้อนความเย็นชาของอดีตลูกน้องคนสนิท มองอดีตเจ้านายที่ตอนนี้ดูสิ้นท่าอยู่ในกำมือของเขา พลมองที่ลังใบนั้นและหันกลับไปพูดด้วยน้ำเสียงกร้าว
“ผลงานของเสี่ยชิ้นนี้ ..ทำให้ฉันคิดได้ว่า ฉันควรจะตอบแทนเสี่ยยังไงดี!”
“ไอ้พล!” เสี่ยซานตะโกนลั่น หน้ากระตุก หนุ่มใหญ่พยายามดิ้นอย่างสุดแรง แต่ก็ถูกลูกน้องของเบิ้มปล่อยหมัดสวนเข้าที่ท้องเต็มแรงจนเสี่ยต้องตัวงอ เพราะโดนหมัดหนักจนจุกทรงตัวไม่อยู่
พลเดินตามเข้าไปใช้มือจิกเข้าที่ผมของเสี่ยซานเต็มแรงจนใบหน้าขาวนั้นเงยเชิดขึ้นตามแรงดึง พลพูดเค้นเสียงเข้ม ใบหน้าของเขาเหี้ยมเกรียม แววตาของเขานั้นมองอดีตเจ้านายด้วยความสมเพช
“เสี่ยจะได้รู้รสชาดิของการที่จะต้องลงไปอยู่ในลังไม้ใบนี้แทนฉัน!” น้ำเสียงนั้นบอกชัดเจนอย่างไร้ซึ่งความปรานี
พลถอยตัวออกมา หยิบปืนพกขึ้นแล้วยกเล็งไปที่เสี่ยซาน นัยน์ตาของเสี่ยซานจ้องเขม็งมาที่พล แต่ก่อนที่พลจะได้ลงมือ
นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๒๙. ด้วยแรงศรัทธา ได้พบหลวงปู่)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พวกของไอ้เบิ้มออกมาจากโกดังนั้น หลังจากที่ชุลมุนต่อสู้กันเมื่อสักครู่ใหญ่ที่ผ่านมา เมื่อหนีออกมากันได้ มันก็จุดชนวนระเบิดโกดังทันที ตอนนี้รถเบนซ์คันหรูแล่นฝ่าความมืดไปตามเส้นทางลัด เบิ้มนั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับ เสี่ยซานถูกคุมตัวโดยลูกสมุนของพลที่คอยนั่งประกบอยู่ด้านหลัง เบิ้มหัวเราะเยาะเสียงดัง มันเอี้ยวตัวหันหน้ามามองเสี่ยซานที่ตอนนี้ดูหมดสภาพของพ่อค้าใหญ่ไปเลยทีเดียว
“ตอนนี้โกดังของแก เละเป็นผงไปแล้ว คงเสียดายมากสินะ”
เสี่ยซานฟังแล้วยังคงนั่งเฉย ใบหน้าเยือกเย็นนั้นไม่ได้ส่อแววหวาดกลัวพวกของไอ้เบิ้มเลยสักนิด
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เบิ้มกดรับสาย ผู้ที่โทรเข้ามาคือพล เบิ้มรายงานไปว่าทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งสองคนคุยกันอยู่เพียงแค่ครู่เดียวก็วางสายกันไป แล้วไอ้เบิ้มก็หันกลับมาหาหนุ่มใหญ่ที่อยู่ในการควบคุมของมันอีกครั้ง มันแสยะยิ้มแล้วพูดกับเสี่ยซาน
“ยังทำเป็นเฉยอยู่อีก เดี๋ยวได้เจอกับพี่พล ดูว่าแกจะทำหน้ายังไง “
เพียงไม่นานนัก รถหรูคันนั้นได้เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยเปลี่ยว บริเวณนี้เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และต้นหญ้าขึ้นปกคลุมตลอดแนวทาง ทางเข้าที่ปราศจากผู้คนในตอนนี้ ทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ชวนให้น่าขนลุก แสงจากเสาไฟด้านนอกถนนที่เห็นอยู่ด้านหลังนั้นริบรี่จนคล้ายเพียงดวงไฟดวงเล็กเมื่อรถคนนี้ได้แล่นเข้ามาลึกถึงด้านใน บริเวณโดยรอบนั้นมืดสนิท บัดนี้จึงมีเพียงแสงไฟดวงหน้าจากรถยนต์ ที่สาดแสงทำให้เห็นกันได้บ้างและผู้ที่ได้มาจอดรถรออยู่ก่อนแล้วก็คือพล ทันทีที่เขาเห็นรถเบนซ์หรูของอดีตเจ้านายแล่นเข้ามาจนจอดสนิท
ลูกสมุนคุมตัวของเสี่ยซานให้ลงมาจากรถ พลซึ่งนั่งรออยู่ในรถอีกคันหนึ่งก็เปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถทันที เดินเข้ามาใกล้เพื่อให้เห็นสภาพของอดีตเจ้านายให้ถนัดแก่สายตาของเขา ใบหน้าที่บวมช้ำ มือสองข้างของเสี่ยซานถูกพันธนาการด้วยเชือกแน่นหนา
“ยินดีต้อนรับเสี่ย” พลเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“พล! ลื้อมันไอ้งูพิษ ไอ้ทรยศ!” เสี่ยซานตะโกนเสียงลั่นใส่หน้าของพล เสี่ยขบกรามแน่น พยายามดิ้นขยับตัวพร้อมกับสลัดแขนที่ถูกควบคุมอยู่แต่ก็ถูกลูกสมุนพวกนั้นจับยึดแขนไว้ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปอย่างง่ายดาย
“เสี่ยคงไม่นึกว่าตัวเองจะมีวันนี้ใช่ไหม” พลยื่นหน้าที่บวมช้ำเข้าไปถาม ยิ้มเยาะที่มุมปาก คำพูดนี้ทำให้เสี่ยซานจ้องมองหน้าของพลด้วยความเคียดแค้น ใบหน้าของเสี่ยแดงก่ำด้วยความโกรธ
พลพูดแล้วก็โบกมือให้สัญญาณ สักครู่ลูกสมุนก็ยกลังใบที่เสี่ยซานรู้สึกคุ้นตา มาวางไว้ตรงหน้า พลพยักหน้าให้พวกนั้นเปิดมันออก เพียงแค่ฝาลังเปิดออก กลิ่นคลุ้งด้วยคาวเลือด ลอยอบอวล ชวนให้อาเจียน จนพวกสมุนบางคนนั้นถึงกับพะอืดพะอมต้องเบือนหน้าหนี มีเพียงพลที่ไม่รู้สึก นัยน์ตาสะท้อนความเย็นชาของอดีตลูกน้องคนสนิท มองอดีตเจ้านายที่ตอนนี้ดูสิ้นท่าอยู่ในกำมือของเขา พลมองที่ลังใบนั้นและหันกลับไปพูดด้วยน้ำเสียงกร้าว
“ผลงานของเสี่ยชิ้นนี้ ..ทำให้ฉันคิดได้ว่า ฉันควรจะตอบแทนเสี่ยยังไงดี!”
“ไอ้พล!” เสี่ยซานตะโกนลั่น หน้ากระตุก หนุ่มใหญ่พยายามดิ้นอย่างสุดแรง แต่ก็ถูกลูกน้องของเบิ้มปล่อยหมัดสวนเข้าที่ท้องเต็มแรงจนเสี่ยต้องตัวงอ เพราะโดนหมัดหนักจนจุกทรงตัวไม่อยู่
พลเดินตามเข้าไปใช้มือจิกเข้าที่ผมของเสี่ยซานเต็มแรงจนใบหน้าขาวนั้นเงยเชิดขึ้นตามแรงดึง พลพูดเค้นเสียงเข้ม ใบหน้าของเขาเหี้ยมเกรียม แววตาของเขานั้นมองอดีตเจ้านายด้วยความสมเพช
“เสี่ยจะได้รู้รสชาดิของการที่จะต้องลงไปอยู่ในลังไม้ใบนี้แทนฉัน!” น้ำเสียงนั้นบอกชัดเจนอย่างไร้ซึ่งความปรานี
พลถอยตัวออกมา หยิบปืนพกขึ้นแล้วยกเล็งไปที่เสี่ยซาน นัยน์ตาของเสี่ยซานจ้องเขม็งมาที่พล แต่ก่อนที่พลจะได้ลงมือ