นคินทร์ที่รัก (ตอนที่๑๙. ถ่านไฟเก่า)


                                          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ตอนที่ ๑๙.ถ่านไฟเก่า


                เมรันยืนหลบตัวอยู่ที่มุมหนึ่งของทางเดิน ตอนนี้ความคิดของเธอสับสนวุ่นวายไปหมด นคินทร์บอกว่าวันนี้คงจะกลับมาไม่ทันร่วมงานเปิดตัวสินค้าของเธอในห้างสรรพสินค้า แต่กลับพบเขาที่โรงแรมแห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่จัดงาน ทำไมเขาถึงไปหาเธอไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกช็อกก็คือ ผู้หญิงสองคนที่ยืนคลอเคลียอยู่กับเขา

              เมื่อยิ่งคิดถึงเขา ใจก็ยิ่งรู้สึกเจ็บแปลบจนจุกแน่นไปหมด ดวงตาคู่สวยตอนนี้พร่าไปด้วยน้ำตา ตัวสั่นสะท้านไปด้วยแรงสะอื้นจนเธอต้องยกมือขึ้นปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงลอดออกไป 

               สักครู่เธอต้องสะดุ้งตัวเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จึงหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า เป็นพี่ชายของเธอที่โทรมานั่นเอง หญิงสาวกลั้นใจแล้วกดรับสาย

              “รัน ทำไมยูหายไปเข้าห้องน้ำนาน เป็นอะไรหรือเปล่า?” น้ำเสียงของพี่ชายค่อนข้างกระวนกระวายเป็นห่วง

              “รันกำลังจะเดินไปแล้ว..” เมรันบอกด้วยเสียงค่อนข้างเบาพร้อมกับรีบกดสายทิ้ง สูดลมหายใจลึกก่อนที่จะหยิบทิชชูออกมาจากกระเป๋าแล้วเช็คหน้าเช็คตาให้เรียบร้อยก่อน เพราะถ้าหากพวกเขาได้เห็นหน้าตาเธอในสภาพแบบนี้ คงจะต้องมีคำถามที่เธอยังไม่สามารถตอบได้

              เมรันเดินกลับไปที่ด้านหน้าล็อบบี้ ชินดนัยได้บอกให้คนขับรถตู้ไปส่งพนักงานของเมรันให้แล้ว  ตอนนี้จึงเหลือแค่สามคนที่รออยู่คือพี่ชายเธอ ไอศิกากับกรองขวัญ

               ชินดนัยรีบเดินไปหาน้องสาวแล้วเอ่ยถาม เมื่อเห็นสีหน้าของเธอที่ไม่ค่อยจะสู้ดี “รัน ยูโอเคหรือเปล่า? “

              “นั่นสิคะ คุณเมรันไม่สบายหรือเปล่าดูหน้าซีด ๆ นะคะ” ไอศิกาก็เอ่ยถามตามเพราะสังเกตเห็นใบหน้าของเมรันค่อนข้างซีดเซียว

               “รัน.. แค่ รู้สึกพะอืดพะอม เมื่อสักครู่ได้อาเจียนก็ดีขึ้น” เธอรีบบอกไปและไม่อยากจะพูดอะไรไปนี้

                 ชินดนัยบอกจะพาน้องสาวไปหาหมอ นางแบบสาวที่ยืนฟังอยู่ก็พยักหน้าเห็นด้วย

               “ไปหาหมอก็ดีนะคะคุณเมรัน”  ไอศิกาพูดพร้อมทั้งหยิบกระดาษแผ่นพับโบชัวร์ของโรงแรมในมือขึ้นมาพัดให้กับเมรันเพื่อช่วยบรรเทาอาการมึนงง

               “ขอบคุณนะครับคุณไอศิกาที่ช่วยดูแลน้องสาวผม” ชินดนัยหันมากล่าวขอบคุณในน้ำใจของนางแบบสาว

              “แหม! น้องสาวคุณชินดนัยก็เหมือนน้องศิกานะคะ” ไอศิกาพูดพร้อมส่งสายตาประกายหวานให้เขา ใบหน้าหล่อเหลานั้นยิ้มกว้างจนทำให้ใจของไอศิการู้สึกวาบหวิว เหลือแต่กรองขวัญที่รู้สึกเป็นห่วงเมรันมากเช่นกัน แต่พูดไม่ทันคนอื่น เธอจึงได้แต่แสดงความห่วงใยทางสีหน้าเท่านั้น

              “ไม่เป็นหรอกค่ะ รันอาจจะพักผ่อนไม่พอ” เมรันบอกพร้อมทั้งยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ตอนนี้เวลาเกือบจะสี่ทุ่มแล้วบอกขอตัวเพื่อกลับไปพักผ่อน

              “รัน ยูไหวแน่นะ?” ชินดนัยถามน้องสาวอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

              “ไอ..โอเค ยูไปส่งคุณไอศิกาเถอะ” เมรันรีบบอกกับพี่ชาย

              คำพูดนี้ทำให้ไอศิกาถึงกับมีรอยยิ้มหวานทีเดียวแต่ดูเหมือนชินดนัยจะห่วงใครอีกคนหนึ่งด้วย

                “แล้วกรองขวัญล่ะกลับบ้านยังไง? “ชินดนัยหันไปถามกรองขวัญซึ่งยืนอยู่ข้างเมรัน โดยที่ไม่รู้ว่าไอศิการู้สึกหงุดหงิดแต่ก็พยายามเก็บอาการไว้ได้ กรองขวัญได้แต่มองหน้าเขาแล้วพูดอะไรไม่ออก

               “ไม่เป็นไรคุณขวัญกลับกับรันได้” เมรันบอกแทนกรองขวัญที่กำลังยืนนิ่งอยู่

                 กรองขวัญยกมือไหว้ลาชินดนัยกับไอศิกา หนุ่มลูกครึ่งเลยตามใจแล้วก็พานางแบบสาวเดินไปกับเขา

                เมื่อทั้งหมดแยกย้ายกันไปแล้ว กรองขวัญเดินตามเมรันมาที่ลานจอดรถ เธอรู้สึกผิดสังเกตตั้งแต่เมื่อสักครู่แล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับผู้เป็นเจ้านายสาว ตอนนี้เลยตัดสินใจที่จะถามเมรัน

               “คุณเมรันมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ? บอกขวัญได้นะคะ” กรองขวัญเอ่ยถามด้วยความรู้สึกที่เป็นห่วงเป็นใย

                เมรันหันไปมองหน้ากรองขวัญแล้วส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ แต่ดวงตาแดงก่ำของเมรันไม่อาจจะปกปิดสายตาของกรองขวัญไปได้ จนต้องเอ่ยทักขึ้นมาอีก

                “คุณเมรันอย่าปิดบังขวัญอีกเลยนะคะ ขวัญเห็นคุณเป็นแบบนี้แล้วรู้สึกไม่สบายใจเลย”

                “ถ้าขวัญพูดอะไรตรง ๆ คุณเมรันอย่าโกรธนะคะ” กรองขวัญคิดว่าควรต้องพูดให้เจ้านายของเธอรู้ เมรันหันไปพยักหน้าเป็นการอนุญาต

                “พักนี้ถึงแม้คุณเมรันจะดูปกติ แต่ขวัญสังเกตเห็นว่าบางครั้งเห็นคุณเมรันแอบถอนหายใจ บางครั้งคุณก็ช่างคิดน้อยใจ คุณอาจจะไม่รู้ตัว ถ้ามีอะไรที่ขวัญพอจะช่วยคุณได้ก็บอกออกมาเถอะนะคะ” ทั้งน้ำเสียงและแววตาของกรองขวัญแสดงความเป็นห่วงด้วยความจริงใจ

                 เมรันหันไปมองหน้ากรองขวัญ เลขาของเธอช่างสังเกตและรู้ใจเธอ  “ฉัน…” เมรันพูดได้เท่านั้นก็พูดอะไรไม่ออกอีก

                ประโยคคำพูดของกรองขวัญเมื่อสักครู่จี้ถูกใจดำของเธอจนทำให้ไม่อาจจะกลั้นน้ำตาไว้ได้อีก ความรู้สึกที่อยากจะปกปิดก็ถูกเปิดเผยออกมาพร้อมด้วยน้ำตาที่ไหลหยดลงแก้มอย่างไม่รู้ตัว ทำให้กรองขวัญรู้สึกตกใจที่ได้เห็นเจ้านายสาวร้องไห้สะอื้นแบบนั้น เธอรีบเข้าไปกอดปลอบเมรัน

              “คุณเมรันค่อย ๆ เล่าให้ขวัญฟังได้ไหมคะ” กรองขวัญพูดพร้อมกับเอื้อมมือลูบหลังปลอบใจเจ้านายของเธอ

              เมรันตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้กรองขวัญฟัง แม้อาจจะไม่ค่อยเชื่อมต่อเรื่องราวได้สักเท่าไร แต่คนฟังก็พอจะเข้าใจและบอกกับเจ้านายของเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

               “ขวัญไม่ทราบว่าเรื่องแท้จริงเป็นยังไง แต่จากที่ได้รู้จักคุณนคินทร์ ขวัญว่าเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้นะคะ” 

             “แล้วคุณเมรันไว้ใจคุณนคินทร์เขาหรือเปล่าคะ” กรองขวัญมองใบหน้าเจ้านายของเธอ

              เมรันยืนนิ่งไปสักครู่ แล้วหวนนึกถึงภาพของหญิงสาวคนอื่นที่ยืนพะเน้าพะนอ คลอเคลียข้างกายนคินทร์ ทำให้เธอรู้สึกโกรธจนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ไม่ยอมรับฟังเหตุผลแล้วเธอก็เดินหนีมาแบบนั้น 

              “ขวัญรู้ว่าพวกคุณทั้งสองคนมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน ขวัญอยากให้คุณเมรันทำความเข้าใจกับคุณนคินทร์นะคะ”

               คำพูดของกรองขวัญทำให้เมรันมีสติกลับคืนมา เธอได้ใช้เวลาสงบอารมณ์และคิดสักครู่แล้วหันกลับมาจับมือของกรองขวัญด้วยความดีใจ ก่อนที่จะพูดออกมา

                “ขอบคุณคุณขวัญมากนะ คุณเป็นเลขาที่รู้ใจฉันที่สุดเลย”

                 หญิงสาวทั้งสองคนเดินมาขึ้นรถ เมรันยิ้มทั้งน้ำตาแล้วเปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดสายโทรออกไปหาคนที่รู้จัก จากนั้นเธอก็ขับรถออกไปจากโรงแรม..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่