นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๔๐. เป้าหมาย)


                                          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ตอนที่ ๔๐.เป้าหมาย


          วันนี้หลังจากที่ชินดนัยพากรองขวัญไปจดทะเบียนสมรสแล้ว เขาก็พาเธอมาฉลองกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านชานเมือง

          ภายในร้านอาหารแห่งเดียวกันนี้ 'ภาวินี' เศรษฐีนีม่ายสาวพราวเสน่ห์วัยสามสิบห้าปี ผิวพรรณขาวผ่อง ผมสีน้ำตาลแดงยาวสลวยรับกับใบหน้าเนียนที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นเลิศ ทำให้ผู้หญิงในวัยสามสิบกว่าคนนี้ยังคงดูสดสวยสวยกว่าวัย เธอกำลังนั่งทานอาหารอยู่กับนายแบบหนุ่มภูมิธเนศที่โต๊ะอาหารด้านในสุด

        “วันนี้ทั้งวันพี่โทรหาภูมิ ทำไมไม่ยอมรับสาย อย่าให้พี่รู้นะว่าแอบไปมีผู้หญิงอื่น” น้ำเสียงที่พูดนั้นเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าเนียนปราศจากริ้วรอยนั้นจ้องมองหนุ่มตรงหน้าเหมือนจะค้นหาความจริง เพราะรู้ดีว่าทั้งรูปร่างหน้าตาของภูมิธเนศนั้นชวนให้สาว ๆ หลงใหล จึงทำให้อดรู้สึกระแวงไม่ได้

         “ผมจะไปมีใครที่ไหนล่ะ แค่ติดธุระด่วนเลยไม่สะดวกเปิดโทรศัพท์ ตอนนี้ผมก็มาหาพี่อยู่นี่แล้วไง” นายแบบหนุ่มพูดน้ำเสียงอ้อน เขาพอจะรู้ใจเศรษฐีนีม่ายตรงหน้า แล้วเอื้อมไปจับมือของเธอไว้ ดูเหมือนท่าทางการเอาใจของหนุ่มนายแบบจะทำให้ภาวินีหายโกรธ แต่ก็ยังไม่อาจคลายความกังวลเลยซะทีเดียว

        “ไม่มีอะไรก็ดี แต่ถ้ามีละก็ อย่าหาว่าพี่ใจร้ายนะภูมิธเนศ” ภาวินีมองจ้องตากับนายแบบหนุ่มอย่างไม่เกรงใจ  เธอมีอายุมากกว่าภูมิธเนศถึงแปดปี ทั้งสายตาและคำพูดในเชิงขู่ของผู้หญิงตรงหน้าทำให้หนุ่มลูกครึ่งต้องแอบเก็บความไม่พอใจไว้ 

         “พี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน” ภาวินีพูดแล้วก็ขยับตัวลุกขึ้นเดินไป ภูมิธเนศได้แต่นั่งถอนหายใจ พร้อมกับนึกในใจ ตอนนี้เขาอยากจะตีตัวออกห่างจากผู้หญิงคนนี้ แต่ภาวินีเป็นชนักชิ้นใหญ่ที่เขาเป็นคนเสาะหามาใส่ตัวเอง ดูท่าจะยากที่จะสลัดออกจากตัวเสียด้ว


         เวลาผ่านไปสักครู่ในจังหวะเดียวกันกับที่ภาวินีเดินออกจากห้องน้ำ

        “สวัสดีครับคุณภาวินี” เสียงทุ้มน่าฟังของใครคนหนึ่งเอ่ยทักเธอขึ้นก่อน

         ภาวินีต้องเงยหน้าขึ้นมามองหนุ่มลูกครึ่งร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาอีกคนเดินออกมาพอดี เธอรู้จักชินดนัยดีในฐานะไฮโซหนุ่มของวงสังคม  หนุ่มคนนี้มีพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ อายุอานามก็ใกล้เคียงได้กับหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศสอีกคนที่เธอควงอยู่ เพียงแต่หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษคนนี้มีธุรกิจและชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลที่ดูจะดีเด่นกว่ามาก

          ชินดนัยเห็นผู้หญิงตรงหน้าขยับเรือนร่างที่ยังดูเต่งตึงไม่แพ้สาวรุ่นเดินเข้ามาใกล้
          “แหม! โลกกลมจังนะคะ วิอุตส่าห์มาหาอะไร ๆ อร่อยทานถึงชานเมือง ยังเจอคุณชินดนัยที่นี่จนได้” เศรษฐีนีม่ายสาวพูดพร้อมกับส่งสายตาดูจะพึงพอใจกับหนุ่มตรงหน้าไม่น้อย   “แล้วนี่คุณชินดนัยมาคนเดียวเหรอคะ” ภาวินีเอ่ยถามสายตาเป็นประกายพราว

          “ผมมากับ…”  ยังไม่ทันที่ชินดนัยจะได้พูด เสียงทุ้มสำเนียงคุ้นเคยก็ดังขึ้นตามมา

          “อ้าว! คุณเจฟ ไม่ยักรู้ว่าคุณก็ชอบบรรยากาศชานเมืองแบบนี้เหมือนกัน” ร่างสูงของหนุ่มลูกครึ่งอีกคนก็เดินมาหยุดยืนตรงหน้า ซึ่งก็ทำให้ภาวินีต้องคลายยิ้มลงทันที

          “ผมพอจะมีเวลาก็เลยชอบแวะหาร้านอาหารเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ”  คำพูดอย่างตรงไปตรงมาและด้วยความที่มีอัธยาศัยดี ทำให้ภาวินียิ่งมองแล้วนึกชื่นชมหนุ่มลูกครึ่งอังกฤษคนนี้

          “เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ” ชินดนัยบอกกับทั้งสองคน แล้วก็ขยับตัวเดินไป ภาวินีมองตามชินดนัยจนเหลียวหลัง ภูมิธเนศนั้นเองก็ดูออก เพราะรู้ดีว่าภาวินีชอบเด็กหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาดี เขาไม่ได้รู้สึกหึงหวงผู้หญิงคนนี้เลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ต้องแสดงท่าทางเพื่อให้ภาวินีหายระแวงสงสัยในตัวของเขา
          “พี่วิดูจะสนใจคุณเจฟเขามากไปแล้วนะครับ” ภูมิธเนศแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ภาวินีหันมามองภูมิธเนศแล้วยิ้มเยาะที่มุมปาก

          “ภูมิก็คอยทำตัวดี ๆ ก็แล้วกัน”  ภาวินีพูดแล้วก็เดินนำหน้ากลับไปที่โต๊ะก่อน โดยภูมิธเนศได้แต่เก็บสีหน้าไว้ เหมือนเขาต้องตกเป็นเบี้ยล่างผู้หญิงคนนี้ หนุ่มนายแบบจึงรีบเดินไปเข้าห้องน้ำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่