นคินทร์ที่รัก (ตอนที่ ๔๓. ด้วยแรงแค้น)


                                          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ตอนที่ ๔๓.ด้วยแรงแค้น


            อีกด้านหนึ่ง ชายชุดยูนิฟอร์มสีเข้มกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมด้วยอาวุธในมือ บัดนี้พวกเขามายืนอยู่ที่หน้าห้องของซาเซล โดยมีปีเตอร์เดินตามมาสมทบแล้วยืนคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างออกไป

           ปีเตอร์นึกถึงเรื่องในห้องประชุมแล้วยังไม่หายเจ็บใจ พร้อมกับนึกในใจคราวนี้ไอ้หน้าบากนั่นจะต้องตกเป็นฝ่ายเสียทีบ้าง เขาจึงอยากเห็นว่าซาเซลจะมีสีหน้ายังไง ใบหน้านั้นยิ้มกระหยิ่มเพราะตอนนี้กำลังถือไพ่เหนือกว่า

            เมื่อปีเตอร์ออกคำสั่งให้พังประตู พวกลูกน้องก็สนองให้ตามที่ผู้เป็นนายบัญชามา ประตูห้องถูกเปิดออก กลุ่มลูกน้องชายเหล่านั้นต่างก็ยกปืนในมือขึ้นเตรียมพร้อมเล็งไปข้างหน้า ภายในห้องนั้นข้าวของเกลื่อนกลาดดูไม่เป็นระเบียบ พวกลูกน้องนั้นก้าวเท้าเข้ามาในห้องพร้อมกับหันมองรอบ ๆ ด้วยความระมัดระวัง โดยที่พวกเขายังไม่รู้ว่าการบุกรุกเข้ามาในครั้งนี้กำลังอยู่ภายใต้สายตาของใครคนหนึ่ง...

           ซาเซลนั่งอยู่บนรถตู้ที่จอดอยู่ไม่ไกลจากหอแสดงศิลปะแห่งนี้ สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ภาพผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ขนาดเหมาะมือ เขากำลังรอเพียงแค่โอกาสที่ฝ่ายตรงข้ามจะก้าวเท้าเข้าใกล้มาถึงตำแหน่ง ในขณะที่กลุ่มชายในชุดยูนิฟอร์มก้าวมาถึงบริเวณกลางห้อง ชายที่เดินนำหน้าเพื่อนร่วมทีมเข้ามา สีหน้าถอดสีทันที…

                ตูม!  เพียงเสี้ยววินาที เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว

             อานุภาพของมันแรงพอที่ทำให้ร่างของชายเหล่านั้นกระเด็นไปปะทะผนัง บางชิ้นส่วนขาดกระเด็นออกจากร่าง เสียงร้องเจ็บปวดระงมดังขึ้นอย่างทุกข์ทรมาน แรงสั่นสะเทือนไปทั้งบริเวณ

             ทำให้คนที่ยังอยู่ด้านนอกถึงกับล้มตัวลงด้วย ลูกน้องช่วยอารักขาป้องกันตัวปีเตอร์เอาไว้ คนถือดีมีใบหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นพวกลูกน้องกระเด็นออกมาจากห้องเมื่อสักครู่ มันเกิดขึ้นเร็วมาก ร่างนั้นส่งเสียงร้องเจ็บปวดเพราะแขนขาดกระเด็น

           คนที่เหลืออยู่ด้านนอกต่างก็ต้องเข้าไปให้การช่วยเหลือ โดยขยับตัวชะโงกหน้ามาไปมองภาพที่เห็นภายในห้องหน้านั้นถึงกับทำให้ต้องเบือนหน้า รู้สึกใจฝ่อทันที คนที่ได้สติรีบตะโกนบอกให้ถอยห่างออกมาก่อน

             ปีเตอร์ได้รับรายงานจากลูกน้องว่าไม่พบแม้วี่แววของซาเซล มิหนำซ้ำลูกน้องทั้งสี่คนก็เดินไปสู่กับดักที่วางไว้ ปีเตอร์ได้แต่กัดฟันกรอดนึกไม่ถึงว่ากลับเป็นฝ่ายหลงกล แล้วยังต้องมาเสียลูกน้องไปอีก…


            อีกด้านหนึ่ง เสี่ยซานขยับเปลือกตาได้อย่างช้า ๆ และสลัดศีรษะเพื่อไล่ความมึนงง

                เมื่อความรู้สึกได้กลับคืนมาแล้ว พยายามนึกว่าเกิดอะไรขึ้น ครั้นจะขยับตัวก็กลับพบว่ามือทั้งสองข้างนั้นถูกมัดมือไว้ด้านหลัง เสี่ยซานเริ่มหันไปมองเห็นทั้งเปเรซกับวิกเตอร์ สองคนนั้นถูกจับมัดแขนไพล่หลังนั่งพิงหลังกับกำแพงอยู่ถัดไป สภาพไม่แตกต่างจากเขาเลย

                ตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนถูกคุมขังอยู่ในห้องนี้ อดีตพ่อค้าของเถื่อนส่ายหน้าไปมาแล้วพูดขึ้นอย่างตัดพ้อกับชะตากรรม

                “ฉันไม่น่าจะเชื่อพวกลื้อเลย ดูซิวะต้องมาอยู่ในซังเตจนได้!”

                เสี่ยซานยังคงนั่งบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ครั้นมองไปเห็นนคินทร์แล้วก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดใจมากขึ้นจนต้องเอาเท้าข้างหนึ่งยกไปสะกิดขาที่ยื่นเหยียดยาวของลูกค้าหนุ่มกำมะลอ เมื่อเห็นเจ้าหนุ่มลูกครึ่งสเปนยังคงนั่งหลับตามีท่าทีดูใจเย็นเป็นน้ำนิ่งราวกับไม่มีเรื่องผิดปกติอะไร

               “ไอ้เปเรซ! ลื้ออย่าทำเฉยสิวะ ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นมา”

                 โจอี้ในบทบาทวิกเตอร์เห็นท่าทีร้อนใจของเสี่ยซานแล้วก็เลยต้องกล่าวทักท้วง

                 “ไอ้คินมันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะเสี่ย พวกเราก็ถูกจับเข้ามาพร้อมกันนี่แหละ”

                 เสี่ยซานดูเหมือนจะไม่ได้สนใจคำพูดของโจอี้เลย ใบหน้าขาวนั้นยังคงมองและถามต่อ

                 “นคินทร์! คราวนี้ทำไมลื้อไม่บู๊บ้าง ถามจริง..ครั้งนี้ลื้อใจเสาะหรือไง”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่