ประสบการณ์ตรงคบกับเด็กร้านนวดปู๋ Final Chapter : มาส่ง

Chapter 20 : มาส่ง
.
อ่านย้อนหลังได้ในสปอยล์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.
กว่าสัปดาห์แล้วที่ผมไม่ได้ไปหาพีช ไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้เจอหน้า หรือเห็นข้อความ หลังจากที่ไปเจอน้องมาครั้งสุดท้ายที่เหมือนอะไรๆ มันจะแตกหัก มันกลับง่ายกว่าที่คิดสำหรับผมที่จะห้ามตัวเองให้ไม่ไปหาน้องที่ร้าน คงเพราะว่าเราเจ็บมามากพอแล้ว
.
บ่ายวันนี้ผมกลับมาบ้าน ก็พบว่ามีพัสดุชิ้นหนึ่งส่งมาถึง เป็นห่อพลาสติกขนาดไม่ใหญ่ที่ดูออกว่าข้างในคือเสื้อผ้า.... มันคือของที่ผมสั่งสำหรับจะให้พีชเป็นของขวัญวันเกิดที่ผมบอกว่าจะให้ เป็นห่อเสื้อคลุมชายหาดที่ทำจากผ้าไฟเบอร์ขนาดสำหรับเด็กโต พีชชอบเล่นเจทสกี เธอถามผมหลายครั้งว่าที่นั่นมีมั้ย ที่นี่มีมั้ยเวลาเราพูดถึงทะเล เช่น บางแสน หรือพัทยา ความที่ผมเล่นเซิร์ฟ ผมจะมีเสื้อคลุมชายหาดตัวหนึ่งที่เมื่อขึ้นมาจากน้ำ ก็จะหยิบเอาเสื้อคลุมตัวนี้ขึ้นมาสวมทับโดยไม่ต้องเปลี่ยนชุด มันทั้งทำให้รู้สึกสบายและอุ่น แล้วถ้าจะลงน้ำต่อ ก็แค่ถอดเสื้อคลุมแล้วโดดลงน้ำต่อได้เลย และพีชเป็นคนขี้หนาว ผมจึงตั้งใจมากที่จะให้เสื้อคลุมนี้เป็นของขวัญวันเกิดเธอ
.
ผมนั่งมองเสื้อตัวนี้ สองจิตสองใจว่าจะเอาไปให้เธอดีมั้ย หรือเราแค่ส่งไปให้เธอที่ร้านก็พอ หรือทิ้งแม่มเลยดี
.
ผมคิดถึงเธอ เหมือนที่ผมคิดถึงมะม้า.... เธอจะสบายดีมั้ย.... ผมเป็นห่วงเธอ ผมทบทวนความคิดความรู้สึกตัวเองอยู่นาน ว่าผมเป็นห่วงเธอเท่านั้นจริงๆ รึเปล่า.... ผมยังมีความคาดหวังอะไรหลงเหลืออยู่มั้ย....
.
ผมพูดกับน้องไปว่า.... จะไม่มาหาที่ร้านอีกต่อไปแล้ว เพราะผมรู้แล้วว่าน้องไม่ต้องการผมอีกต่อไป ผมจึงคิดว่าผมหมดเหตุผลที่จะไปหาแล้ว
.
เสื้อตัวนี้เหมือนเป็นเหตุผล... ฟางเส้นสุดท้าย ผมจะยอมเสียคำพูด เพื่อเอาของที่เหมือนจะไร้ค่านี้ไปให้น้องดีมั้ย.... มีเสียงนึงดังขึ้นมาในหัวว่า ก็ไปดูให้เห็นกับตาเลยว่า ให้มันเห็นไปเลยว่าการไม่มีเราแล้วน้องก็สุขสบายดี จะได้หมดห่วงและหมดเหตุผลที่จะมานั่งคิดแบบนี้ซะที..... ผมมองความคิดตัวเองแล้วก็ต้องยอมรับ ว่าสุดท้ายผมก็ยังอยากรู้อยู่ดี ว่าพอผมหายไปจากชีวิตน้องแล้ว น้องเป็นยังไง
.
โทรศัพท์ผมดังขึ้นขณะที่ผมขับรถไปหาน้องพีชที่ร้าน กอล์ฟเพื่อนสนิทผมตั้งแต่สมัยประถมโทรมา มันเป็นนักเทคนิกการแพทย์ที่เคยออกจากงานมาเป็นช่างภาพออกลุยถ่ายงานด้วยกันกับผมอยู่หลายปี ก่อนที่จะเจอพิษเศรษฐกิจช่วงโควิด เลยกลับไปทำงานประจำ
"ไง" ผมรับสายอย่างเป็นกันเองกับเพื่อนรัก
"เออ สบายดี กูจะถามว่า สงกรานต์นี้กลับบ้านมั้ย"
"ยังไม่รู้ว่ะ ปีใหม่เพิ่งกลับมา อาจจะไม่" ผมตอบ "ทำไมวะ ?"
"จะชวนไปดำหัวป๋าด้วยกันหน่อย"
ป๋าคือพ่อของเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่ผมเคยไปหมกตัวเมื่อสมัยม.ปลาย ตอนนั้นผมหนีออกจากบ้านเพราะทนความรุนแรงที่โดนไม่ไหว และไม่รู้จะไปที่ไหน ก็มีบ้านป๋านี่แหละ ที่อ้าแขนต้อนรับผมอยู่หลายวันโดยไม่ถามคำถามอะไรผมเลยแม้สักคำเดียว เป็นหนึ่งในเซฟโซนไม่กี่แหล่งที่ผมมีในชีวิตวัยเด็ก
"เอาไว้ใกล้ๆ ค่อยบอกนะ ไม่แน่ใจเลย..... ละแม่นางเป็นไงมั่ง" ผมถามไปถึงเมียมัน
"ช่วงนี้ไม่ค่อยดี" มันตอบผม "ลางานพักฟื้นอยู่"
"เป็นไรวะ ?"
"ท้องละครรภ์เป็นพิษ เลยต้องยุติการตั้งครรภ์ ละนางเค้าไม่ค่อยแข็งแรง ช่วงนี้เลยต้องดูแลดีๆ หน่อย" แม่นางเป็นพยาบาลประจำอยู่ รพ. แล้วประจำอยู่ห้องฉุกเฉิน ทำให้เวลานอนเปลี่ยนตลอดตามเวรที่ไม่แน่นอน เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง
"โอเคนะ" ผมถามเพื่อน
"กูเฉยๆ นางแหละเค้าอยากมี ก็คิดว่าไม่มีอะไรน่าห่วงนะ"
..... ครรภ์เหรอ.... แท้ง..... ?
"เออ  ถามหน่อย.....​ ตอนแท้งลูกอะ หมอเค้าทำยังไงวะ" ผมถาม ฉุกคิดถึงอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง
"ก็ ถ้ายุติ ก็ดูดออก มันจะมีเครื่องดูด"
"เหรอ..... แล้ว มันมีอะไรอย่างอื่นมั้ย ที่ใช้เครื่องดูด แต่ไม่ได้ท้อง" ผมถาม "เช่น เนื้องอก หรือก้อนเนื้อ"
"อืม..... เท่าที่รู้ ไม่มีนะ มันไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นก้อนเนื้อ ต้องผ่า ดูดไม่ได้" มันตอบผม
"แปลว่าถ้าดูดออก....​ คือท้องเท่านั้นเลยใช่มั้ย"
"ใช่ ทำแท้งเค้าก็ทำแบบนี้ เหมือนกันหมด ถ้ายังไม่เป็นตัวมีแขนขานะ ยังเป็นแค่ก้อนอยู่"
.... ข้อมูลที่ผมได้จากไอ่กอล์ฟ ทำให้ผมเริ่มสะท้อนความจริงอะไรได้มากขึ้น เรื่องน้องพีช
.
.
ผมจองคิวน้องได้ก็เกือบเย็นแล้ว พีชยังคงมีลูกค้าเยอะเหมือนเดิม
“สวัสดีค่ะ” เธอมีสีหน้าอีกแบบที่ผมไม่คุ้นเคย แต่มองออกว่ามันซ่อนความหมายบางอย่างเอาไว้… ความหมายว่า “ไม่มีเธอ ชั้นก็อยู่ได้ (เชอะ)” เป็นท่าทีของพีชที่ผมไม่รู้จัก
.
คราวนี้แปลกที่ในใจผมแม้จะยังมีความเสียใจกับท่าทีเธอ แต่กลับมีเสียงหัวเราะปนอยู่ในนั้น
.
“กูว่าแล้ว”
“โง่นะเนี่ย”
“นี่ชอบเด็กแบบนี้เนี่ยนะ”
“ให้ความปราถนาดีกับเค้าทุกอย่าง แต่มาทำกับแบบนี้”
.
ผมอดยิ้มให้กับเสียงในหัวตัวเองไม่ได้
ผมพูดในใจตอบโต้เสียงในหัวตัวเอง เพื่อไม่ให้อารมณ์หงุดหงิดถูกปั่นขึ้นมาว่า “เอาน่า เค้าทำแบบนี้เพราะเค้าเป็นแบบนี้ เราจะทำอะไร ดีไม่ดี มันไม่ได้ไปเปลี่ยนเค้าได้”
.
“พี่มีเพลงอยากให้เราฟัง” ผมบอกเธอเมื่อประตูห้องปิดลง พีชนิ่งฟังไม่ได้ตอบอะไรผม ตลอดทางขับรถมาร้านเกือบครึ่งชั่วโมงผมฟังเพลงนี้วนๆ ไม่รู้กี่รอบ มันเป็นเพลงที่ตรงกับความรู้สึกผมแบบไม่มีความคลาดเคลื่อนเลยแม้สักคำ
.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
.... แค่อยากรู้สบายดีไหม
และชีวิตของเธอวันนี้เป็นไง....

....เปรียบเธอดั่งดอกไม้ที่แย้มบาน
บานได้เพียงหนึ่งครั้ง เวลาฉันมีเท่านั้น....

....ฉันเดินทางเพื่อมาพบเธอ
ฉันเพียงต้องการได้เจอ
ได้เห็นหน้าเธอแค่นั้น ไม่เป็นไร
ฉันเพียงแค่อยากเก็บเรื่องราว เก็บรอยยิ้มเอาไว้
ให้ลึก ลงไป
เผื่อสุดท้ายถ้าเราไม่ได้เจอกัน
อยากให้รู้ว่าฉันต้องการ แค่นั้น....
.
.
ผมเปิดเพลงจากโทรศัพท์แล้วยื่นให้เธอ ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนยังรักกัน ผมคงนั่งอยู่ด้วยกันกับเธอ ทำซีนโรแมนติกฟังเพลงไปด้วยกัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ พอเพลงเริ่มผมก็ลุกไปถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ ผมคิดว่าแบบนี้น่าจะดีกว่า ไม่อยากทำให้เธออึดอัด ขณะที่อาบน้ำ น้ำเย็นๆ จากฝักบัวไหลผ่านตัวผม ผมหลับตานึกไปถึงสิ่งที่พูดกับไอ่กอล์ฟเพื่อนผม.... เธอท้อง แล้วก็ไปเอาออกมา หรือมีอะไรมากกว่านี้ที่เราไม่รู้กันนะ ? ที่แน่ๆ ว่านั่นไม่มีทางเป็นเพราะผม เพราะผมไม่เสี่ยงสด และถ้าสมมติว่ามันเป็นเพราะผม ผมเชื่อว่าในวันนั้นที่เราคบกัน เธอน่าจะบอกผม
.
.
“พี่ล้อกจอเหรอ” เธอพูดขึ้นขณะที่เพลงยังไม่จบ…. เออดิ ให้ฟังเพลง ไม่ได้ให้ทำอย่างอื่น ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งว่าเธอต้องการทำอะไรถึงพยายามจะเข้ามือถือผม…. เธอคงอยากเข้าไปลบรูปที่ผมเคยถ่ายให้ และรายละเอียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ออกจากมือถือผม
.
หึ...ไม่มีวันซะล่ะ
.
ผมเดินออกจากห้องน้ำมาแต่งตัวใส่เสื้อผ้าขณะที่เพลงจบลงพอดี
สีหน้าเธอดูผ่อนคลายลงจากทีแรก “ไหนพี่ว่าจะไม่มาละไง” เธอถามผม
"เราท้องใช่มั้ย" ผมถามสวนกลับไปเรียบๆ
"ไม่ใช่" เธอตอบลากเสียงเล็กน้อย ปฏิเสธเหมือนเป็นเรื่องเล็กว่ามันไม่จริง
"พีชบอกพี่ว่า หมอ 'ดูดออก' ใช่มั้ย"
เธอพยักหน้า
"มีแต่คนท้องเท่านั้นแหละ ที่ต้องไปดูดออก"
"ก็มันมีก้อนเนื้อ...."
"การดูดใช้กับการตั้งครรภ์เท่านั้น" ผมพูดสวน "....เท่านั้น" ผมพูดซ้ำย้ำเสียงลงไป
พีชนิ่ง ผมก็นิ่ง ปล่อยให้เธอคิดว่าจะแก้ตัวยังไง เพราะการที่เธอตั้งท้อง แปลว่าเธอไม่ได้มีผมเพียงคนเดียว และทุกอย่างที่เธอบอกว่าไม่ได้มีอะไรกับคนที่ห้อง ที่เธอปฏิเสธการมีอะไรกับเค้า แต่เกิดสิ่งที่ทำให้เธอท้องขึ้นมาได้ แปลว่าเธอหลอกผมมาตลอด เพียงเพื่อให้ผม "ติด" เธอ และมันจะเลวร้ายยิ่งกว่า ถ้าเธอตั้งท้องจากการมีอะไรกับลูกค้า.... แบบผม
.
ผมหยิบถุงกระดาษที่ใส่เสื้อคลุมยังไม่ถูกแกะออกจากห่อวางลงบนเตียงส่งให้เธอ ”จำได้มั้ย ว่าพี่ติดของขวัญวันเกิดเราอยู่“ ผมถามเตือนความจำเธอเรียบๆ เธอพยักหน้าเบาๆ ยังคงไม่พูดอะไร
“แฮปปี้เบิร์ทเดย์” ผมยื่นให้ เธอบอกขอบคุณผม แกะแล้วคลี่ออก ยกขึ้นมองพิจารณา
“หนูเคยบอกว่าชอบเล่นเจทสกี” ผมพูดให้เธอฟัง “ขึ้นน้ำมาก็ใส่อันนี้ จะได้ไม่หนาว” ผมยังแสดงความเป็นห่วงและใส่ใจเธอในทุกรายละเอียดที่ผมนึกได้เหมือนเดิม แต่ในตอนนี้ มันเริ่มเป็นสิ่งที่เลือนรางลงอย่างรวดเร็ว ถ้าจะทำอะไรให้พีช ก็ต้องทำตอนนี้แหละ.... ก่อนที่มันจะไม่เหลืออะไรอีกต่อไป
“ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้” เธอถาม
“คิดซะว่าทำบุญ” ผมตอบ
“ทำบุญเหรอ !!” เธอสวนผมกลับน้ำเสียงแสดงให้เห็นทันทีว่าไม่พอใจที่ผมพูดคำนี้ แสดงว่าเธอคงคิดว่าผมกำลังมองเธอไม่ดีมากๆ อย่างงั้นเหรอ ?
“ทำไม… ?” ผมถาม ดูท่าทีเธออีกหน่อยว่าเธอคิดอะไรเมื่อได้ยินคำนี้
“ทำไมพี่พูดแบบนี้อะ”
“เราเข้าใจคำว่าบุญว่ายังไง” ผมถามเชคความคิดเธอ แต่เธอนั่งเงียบ ไม่ตอบผม สีหน้ายังคงไม่พอใจ
“ใส่บาตรพระน่ะ บุญ เราปราถนาดีต่อกันน่ะ เป็นบุญ เราทำดีต่อกันน่ะ เป็นบุญ เราคิดถึงกันคิดว่าของชิ้นนี้มีประโยชน์แล้วหามาให้กันน่ะ บุญ ความดีที่เราทำต่อกันน่ะ บุญหมดแหละ” ผมตอบเหวี่ยงๆ คืนไปหาเธอบ้าง ให้รู้ตัวหน่อยว่าตัวเองต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ ที่เมื่อได้ยินคำนี้แล้วถึงได้มีความรู้สึกไม่ดี “สิ่งที่หนูทำกับพี่ให้เสียความรู้สึก เจตนาทำร้ายความรู้สึกกัน โกหกกันเพื่อผลประโยชน์….. นั่นน่ะ บาป” ผมกระแทกคำแต่ไม่ตะคอก
.
ผมเริ่มเห็นมากขึ้น ว่าเด็กคนนี้ไม่มีทางเข้ากันกับผมได้ ความคิดเองเออเอง มั่นใจในความคิดตัวเองทั้งที่ยังไม่โต สำคัญที่สุด..... หลอกลวง..... ผมลงไปนั่งพิงที่หัวเตียงแบบไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
"วันที่เราคบกัน พี่บอกเรา ว่าให้ซื่อตรงต่อกัน..... พี่ไม่เคยโกหกหนูเลย แม้สักครั้ง ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน.... "
.
“เป็นแบบนี้มันดีกว่าใช่มั้ย” ผมถามเธอแบบแฝงนัยยะเอาไว้หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอพยักหน้า “ละเวลามีปัญหา จะไปคุยกับใคร” ยังมีหน้าไปห่วงเค้าอีก กูหนอกู
“ลูกค้าที่หนูสนิทมีอีกตั้งหลายคน” นี่อยากทำให้อะไรมันแย่ลงไปเรื่อยๆเลยรึไง
ผมถอนหายใจ รู้สึกเหนื่อยที่ตัวเองยังพยายามสอน ยังหวังดีกับเธออยู่ ความรู้สึกมันเริ่มพลิกจนมีความคิดว่า….. อยากเป็นอะไรก็เป็นไปก็แล้วกัน
“อะ งั้นก็มา…..อยากทำให้เป็นแค่ลูกค้าใช่มั้ย“
เธอลุกไปถอดชุดตัวเองออก ผมเริ่มรู้สึกตลกตัวเอง ว่าสุดท้ายก็มาถึงจุดนี้....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่