ประสบการณ์ตรงคบกับเด็กร้านนวด Chapter 5 : ติด

อ่านย้อนหลัง Ch 1-2
https://ppantip.com/topic/43274104
อ่านย้อนหลัง Ch 3-4
https://ppantip.com/topic/43275062

Chapter : 5 ติด
ผมไม่ได้มาตามนัดหมอหลายเดือนตั้งแต่อาการซึมเศร้าผมดีขึ้นจากการทำจิตบำบัดมาหลายปี
"ไม่ได้มาหลายเดือน ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างคะ" คุณหมอทักทายผม
“ผมมีคนที่กำลังติดพันครับ” ผมพูดต่อ ”ผมคิดว่าผมต้องการให้คุณหมอช่วยสะท้อนความคิดผมหน่อยครับ มันเป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากผมเป็นผู้รับฟังปัญหาของเธอ และแนะนำการจัดการตัวเองให้เธอ และเธอก็ทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีค่าสำหรับเธอ“
”ถ้าหมอจำไม่ผิด คุณมีแฟนอยู่แล้วใช่มั้ย“ หมอถามเพื่อเชคสถานภาพของผมหลังจากไม่เจอผมหลายเดือน เพราะมันจะเกี่ยวพันไปถึงความรู้สึกและผลกระทบต่อจิตใจผม
”ใช่ครับ“ ผมตอบ ”แต่หลังจากที่ผมฝึกจิตบำบัดกับคุณหมอ ผมเห็นนะครับ ว่าลึกๆแล้ว ผมพร้อมจะกระโจนไปมีความสัมพันธ์กับใครก็ตามที่ทำให้ผมรู้สึกดี หรือทำให้ผมรู้สึกมีค่า“
”ค่ะ หมอเข้าใจ เพราะคุณมีปมที่หนักเรื่องโดนทำร้าย ทำลายคุณค่า รุนแรงถึงชีวิตจนต้องนอน รพ ตอนเด็ก” หมอพูด “การมีคนให้คุณค่ากับคุณ มันจึงมีผลต่อจิตใจคุณอย่างมาก แต่คุณคงรู้นะคะ ว่ามันไม่ได้ความสัมพันธ์ใหม่นี้เป็นเรื่องถูกต้อง”
“ผมทราบครับ” ผมตอบ
“ความรู้สึกรัก เสน่หาที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ เพราะอารมณ์ ความรู้สึกไม่ใช่สิ่งที่จะควบคุมหรือห้ามไม่ให้เกิดได้ โดยเฉพาะเมื่อมันไปตอบโจทย์ปมในวัยเด็ก มันมีพลังและส่งผลกระทบกับเรามากกว่าคนทั่วไปค่ะ แต่เมื่อเกิดความรู้สึกขึ้น การกระทำที่เราเลือกทำค่ะ คือสิ่งที่จะทำให้มันกลายเป็นเรื่องถูกหรือผิด”
.
ชีวิตวัยเด็กที่โหดร้ายทำให้สิ่งที่ติดตัวผมมาจนโตคือ PTSD คนจำนวนไม่น้อยที่เป็น PTSD จะมีอาการติดการเสพย์อะไรบางอย่างที่มีความเข้มข้นทางอารมณ์มากพอที่จะดึงอารมณ์ออกจากความทุกข์ทรมาณในใจ บางคนซิ่งรถ บางคนเสพย์ยา บางคนติดเหล้า กรณีของผมคือเรื่องบนเตียง
“แล้วคุณกับแฟนความสัมพันธ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ ?” หมอถาม
“……..”
.
.
“เดี๋ยวเค้าเดินไปเอาให้เอง” วิว แฟนผมพูด หลังจากที่เราขนของจากรถมาถึงลานกางเต้นท์ แล้วถึงรู้ว่าลืมหยิบถุงใส่สมอบกลงมาด้วย
เราคบกันมาได้เข้าปีที่ห้าแล้ว มันจึงเลยสิ่งที่เรียกว่า “ช่วงโปรโมชั่น” มาได้สักพัก เราผ่านอะไรมากันหลายอย่าง และเธอก็รู้ดีว่าผมมีปัญหาอะไร อย่างเรื่องคนที่อาจจะเข้ามามีบทบาทในใจผมได้โดยไม่ตั้งใจ แต่ตลอดเวลาที่คบกันมาผมไม่เคยวอกแวก และผมก็แสดงให้เธอเห็นมาตลอดว่าผมระวังตัวอย่างดี….. จนตอนนี้
.
วิวไม่เคยอิดออดที่จะออกแรงช่วยผม ไม่เหมือนแฟนคนก่อนๆ ที่ชอบผลักภาระงานใช้แรงให้เป็นของผู้ชาย และมักมีท่าทีไม่พอใจถ้าพวกหล่อนต้องเดือดร้อนมาออกแรงช่วย ความเป็นคนง่ายๆ และยืดหยุ่นของเธอนี่เองที่ทำให้ผมอยู่กับเธอได้นาน ปัญหาใหญ่เพียงอย่างเดียวในความสัมพันธ์เรา คือ “ความต้องการ” ที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว ขณะที่ผมต้องมาก เธอขอแค่เดือนละครั้งสองครั้ง ไม่เกินนี้ เราปรับจูนเรื่องนี้กันหลายครั้ง จนมาถึงจุดที่ยอมรับกันว่าเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอีกฝ่ายให้เป็นอย่างใจเราได้ หรืออย่างน้อยก็ในเวลาสั้นๆ ผมคาดหวังให้วิวตอบสนองผมไม่ได้ วิวเองก็อยากจะทำได้ แต่มันก็ยากไปสำหรับเธอที่จะฝืนธรรมชาติตัวเอง เธอจึงอนุญาตให้ผมไปใช้บริการ นกป ได้เป็นครั้งคราวแบบไม่ต้องให้เธอรับรู้ เพียงแค่ไม่มีอะไรเกินเลย
.
เมื่อผมได้ข้ามเส้นเหมาะสมกับน้องพีช สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้ข้ามไปด้วย คือความตั้งใจที่จะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้มาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างผมกับวิว ผมจะให้เวลาพีชเท่าที่ผมให้ได้ แต่ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่จะต้องมาทีหลังวิวเสมอ ผมยังคงดูแลวิวเหมือนเดิมทุกอย่าง และให้เวลาเธอเต็มที่ เหตุผลมีเพียงเหตุผลเดียว คือวิวไม่ได้ทำอะไรผิด การที่ผมปล่อยให้พีชมามีบทบาทในใจ จึงเป็นสิ่งที่ผมต้องจัดการและรับผิดชอบเอง และทำทุกทางให้วิวไม่ต้องเสียใจ เหตุผลที่ผมใช้เข้าข้างตัวเองที่ทำให้ผมยอมปล่อยพีชเข้ามาในชีวิตและในใจ คือวันหนึ่งในอนาคตอันใกล้น้องก็ต้องหายไปจากชีวิตผม น้องบอกว่าถึงวันนึงที่น้องพอกับตรงนี้ ก็จะกลับไปอยู่ที่ของตัวเองและไม่กลับมาอีก ทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่
.
ในเมื่อเวลาที่เรามี มันคือแค่นี้ อาจจะปีนึง หรือเท่าไหร่ ก็เกินจะคาดเดา ในขณะที่ใจเราเป็นแบบนี้ ผมเลยเลือกที่จะให้เวลากับน้องพีช อีกสิ่งหนึ่งที่ผมยอมปล่อยให้น้องเข้ามาในชีวิต เพราะน้องไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผม ทำให้ผมรู้สึกว่า เธอไม่ได้มีเจตนาที่จะครอบครอง หรือทำลายความสัมพันธ์ของผมกับวิว ที่ผมเห็นคือเธอต้องการเพียงคนที่จะทำให้เธอสบายใจในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีใครที่เธอสามารถไว้ใจได้ จนเมื่อวันที่ผมหมดประโยชน์แล้ว ทุกอย่างก็จะจบ
.
ดึกแล้วในอุทยานแห่งชาติ อากาศเย็นสบายและลมแรง ผมเดินออกจากเต้นท์มานั่งดูดาวคนเดียว ขณะที่วิวหลับไปแล้ว เธอไม่มีทางตื่นแม้จะมีฟ้าผ่าลงข้างตัวก็ตาม ผมกดโทรศัพท์หาน้องพีช
.
เธอตัดสาย.... เป็นสัญญาณให้รู้ว่าไม่สามารถรับสายได้ กลางดึกแบบนี้ แปลได้เพียงอย่างเดียว คือเธอไม่ได้อยู่คนเดียว ความคิดเพียงเท่านี้ก็ทำให้ผมนอยได้แล้ว ผมไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย ผมเตือนตัวเองว่าผมไม่ควรรู้สึกแบบนี้ คืนนี้เป็นคืนที่ดาวชัดมาก ทำให้ผมคิดว่าน้องพีชจะอยากมาเที่ยวแบบนี้ด้วยกันบ้างมั้ยนะ ผมลุกขึ้นเดินไปแอบเปิดลังน้ำแข็งหยิบโซจูมานั่งยกดื่มอยู่คนเดียวเงียบๆ ขณะปล่อยความคิดล่องลอยและวนเวียนเรื่องน้องพีช
.
.
“คืนนั้นเค้ามาค่ะ ทะเลาะกันด้วย” น้องพีชบอกผมวันถัดมาเมื่อผมไปเจอเธอที่ร้าน
“ทำไมล่ะ” พอได้ยินว่าทะเลาะกัน ความรู้สึกผมก็เปลี่ยน แม้จะไม่อยากเห็นเธอเครียด แต่ผมกลับดีใจที่ความสัมพันธ์เธอไม่ดีนัก กูหนอกู
“หลังๆ เค้ามาไม่บอก ถามไปว่าวันนี้จะเข้ามามั้ยก็ไม่ยอมบอก มันทำให้หนูอึดอัด เหมือนโดนเค้าตามเชค“
“ลองทำมั่งสิ” ผมพูด
“ทำอะไรคะ ?” น้องพีชถามอย่างตามไม่ทัน
“ถ้าเค้าทำให้เราอึดอัด ด้วยการมาไม่บอก เราก็ทำบ้าง ไม่ต้องบอกเวลาทำงาน เวลากลับ วันหยุด หรือไปไหนไม่บอก“
”แบบนั้นก็ทะเลาะกันสิ“ เธอตอบ
”ไม่ได้บอกให้ชวนเค้าทะเลาะ หรือทำเพื่อเอาคืนนะ แต่มันเป็นวิธีหนึ่งของการสื่อสาร คนเราเจตนาทำให้อึดอัดแบบนี้มันไม่ถูก อยู่กับใครไม่มีใครชอบหรอก คนเราคบกันต้องนึกถึงความสบายใจของอีกฝ่าย ถ้าคุยกันตรงๆด้วยเหตุผลไม่ได้ เราอาจจะต้องทำอะไรบ้าง ย้ำว่าไม่ใช่เพื่อเอาคืน แต่พอคุยกันให้บอกเค้าว่า ‘ถ้าเค้าไม่ชอบ ละทำไมเค้าถึงทำกับเราล่ะ?“
พีชนิ่งเงียบ ไม่แสดงท่าทีปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเห็นด้วย ผมไม่แน่ใจนักว่าเธอจะเข้าใจที่ผมบอกสักแค่ไหนเรื่องการจัดการความสัมพันธ์ แต่ผมเห็นไปถึงใจเธอว่าเด็กอยุ 20 แต่กลับต้องมาเจอแรงกกดันจากคนรอบตัวที่อายุมากกว่าเธอแบบนี้ 
.
”…..ได้ดอกไม้ที่ส่งให้วันก่อนมั้ย“ ผมเว้นช่วงไว้นิดนึง ก่อนจะถามเปลี่ยนเรื่อง
”ได้ค่ะ“ เธอตอบ ”พี่ส่งมาเหรอ“ ผมเป็นแบบนี้เอง สั่งดอกไม้ไปให้เธอโดยไม่บอก ชอบทำเซอไพรส์ และเพราะส่งไปให้ที่ร้าน ผมจึงไม่เปิดเผยว่าใครเป็นคนส่ง ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจนักว่าน้องจะรู้มั้ยว่าเป็นผม เพราะผมคิดมาตลอดว่าดาวของร้านอย่างเธอ คงไม่แปลกถ้าจะมีใครต่อใครส่งของขวัญ ดอกไม้ให้เธอ
“หนูคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นพี่ ขอบคุณนะคะ ให้หนูเนื่องในโอกาสอะไรเหรอ“ เธอถามผม
”ครบรอบวันที่เราคบกันไง จำได้มั้ยว่าวันไหน”
“จำได้ค่ะ จริงๆ หนูก็เดานะ แต่ถามเพราะอยากแน่ใจว่าคิดตรงกันมั้ย”
ผมดีใจเห็นเธอผ่อนคลายลงจากเรื่องไม่สบายใจ และเหมือนเธอก็เข้าใจสิ่งที่ผมทำให้ในแบบเดียวกัน
“ละรู้ได้ไงว่าเป็นพี่” ผมถาม
“ก็มันมีพี่คนเดียวที่ส่งข้าวส่งน้ำส่งของมาให้หนูแบบนี้”
คำนี้ทำผมประหลาดใจเล็กน้อย ร้านนี้เป็นร้านที่ลูกค้าเยอะมาก จนผมสงสัยเหมือนกันว่าจะไม่มีการถูกอกถูกใจกัน ละส่งข้าวส่งขนมให้น้องเชียวเหรอ
”แล้วดอกไม้พี่ทิ้งไปยัง“ ผมถาม เพราะมันผ่านมาก็หลายวันแล้ว
”ยังค่ะ หนูเอากลับไปห้องด้วย“ เธอเล่า ”หนูเอาวางบนตู้ หนูยิ้มตอนเห็นมันทุกครั้งเลย“ ผมยิ้มดีใจที่เธอชอบ ”เค้าถามด้วยนะ ว่าใครให้มา หนูก็บอกว่าลูกค้า เค้าดูไม่พอใจด้วยที่เห็นหนูยิ้มให้มันบ่อยๆ แต่หนูไม่แคร์ หนูชอบของหนู“
ผมดึงเธอขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนหน้าขาผมและกอด “หลับตาหน่อย พี่มีอะไรจะให้“ เธอหลับตาลงอย่างว่าง่าย ผมเอื้อมมือไปหยิบกล่องใส่เครื่องประดับที่อยู่ในถุงกระดาษที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงที่ผมไปเดินหาซื้อมาให้เธอก่อนจะเข้ามาหาเธอวันนี้ ผมกอดเธอไว้ให้หน้าเธอซบอยู่บนไหล่ผม เปิดฝากล่องออกแล้วหยิบสร้อยเส้นเล็กๆที่ห้อยจี้เป็นรูปดาวขนาดจิ๋วเอาไว้ ผมบรรจงเอาเอาคล้องคอเธอแล้วถึงบอกให้เธอลืมตา เธอเอี้ยวตัวไปหากระจกติดผนังที่ใหญ่เต็มผนัง แล้วลุกไปดูเงาตัวเองใกล้ๆ ให้ชัดๆ
”มันเล็กจังเลย มันจะขาดมั้ย“ เธอพูดติดตลก ผมยิ้มให้โดยไม่ตอบอะไร เธอหมุนตัวกลับมากอดผมและบอกขอบคุณ
“พี่รู้มั้ย มีลูกค้าให้ของหนูมาเยอะแยะเลย บางคนซื้อมาให้เป็นเซทเลย” น้องเล่าให้ผมฟัง ทำให้ผมนอยอีกละ “แต่หนูไม่เคยใส่เลยนะ แต่ของพี่หนูจะใส่ให้นะคะ” เธอสวมกอดและหอมแก้มผม และเริ่มต้นเต้นลีลาศกันอีกครั้ง
.......ผมเชื่อเธอง่ายไปมั้ยนะ ?
.
.
เย็นวันนี้ผมมารับวิวที่ทำงานเหมือนปกติที่มารับเธอ ผมไม่เคยมีปัญหากับการขับรถเข้าเมือง ฝ่ารถติดและรอเธอเลิกงาน ถ้าผมไม่ติดธุระนี่คือสิ่งที่ผมจะทำเป็นปกติ วันที่ผมไม่ได้มารับ คือติดงานหรือเธอกลับบ้านแม่เท่านั้น
“ไง เหนื่อยมั้ย งานยุ่งรึเปล่า” ผมถามเธอแบบนี้ทุกวันหลังเลิกงาน ระหว่างเวลางานเธอไม่ค่อยส่งข้อความหากัน วิวถือว่าเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากๆ คนหนึ่ง และผมเองถ้าไม่จำเป็นก็ไม่คิดจะไปรบกวน
“เหนื่อยค่ะ วันนี้เจอลูกค้างี่เง่ามาวีนใส่วิวด้วย” วิวบ่นเมื่อขึ้นมานั่งข้างคนขับ “อยากกินเล้งอะ เย็นนี้ไปกินเล้งตรงไฟฉายกันมั้ย” เธอขอให้ผมพาไปกินอาหารโปรดของเธอที่ไม่ได้กินมาสักพักหนึ่ง
.
ผมพาวิวขับรถไปตามที่เธอร้องขอ ผมชอบตามใจคนอื่น ขอแค่บอกว่าต้องการอะไร ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ไม่มีเหตุผลที่จะขัดใจกัน ตลอดเวลาขับรถที่ผมจะทำเป็นนิสัยคือขับรถด้วยมือขวา และจับมือแฟนไปด้วยเวลาด้วยมือซ้าย เธอชอบให้ผมนวดมือให้ เพราะเธอทำงานละปวดเมื่อยเป็นประจำ โดยเฉพาะการเกร็งมือเมื่อทำงานจับเม้าส์เกือบตลอดวัน คำที่บอกว่ามีแฟนอายุ 30+ นั้นไม่ต้องทำอะไรมาก แค่นวดเก่งๆ ก็พอนั้นถือว่าไม่เกินจริง
.
พอกลับถึงห้อง เราเปิดซีรี่ย์ดูกัน คืนนี้เราเปิดเรื่อง Crash landing on you ดูเป็นรอบที่ห้าได้แล้วมั้ง เป็นซีรี่ย์เกาหลีเรื่องเดียวที่ผมดูซ้ำ และดูจนจบทุกครั้ง ตอนที่เราดูค้างไว้ คือคืนแรกๆ ที่นางเอกติดอยู่ที่เกาหลีเหนือและต้องอาบน้ำสระผมด้วยสบู่ พอตกกลางคืนทุกอย่างมืดและน่ากลัว สำหรับนางเอกแล้วที่ตัวเองพลัดถิ่นมาอยู่ไกลถึงต่างแดน ยากจะคาดเดาว่ารอบตัวมีอะไรอันตรายมากน้อยแค่ไหน ผู้คนเป็นยังไง ใครไว้ใจได้บ้างมั้ยก็ไม่อาจแน่ใจได้ มันเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัว และชวนให้หวาดหวั่นในการใช้ชีวิตให้ผ่านไปในแต่ละวันมาก ทำให้ผมนึกถึงน้องพีช ว่าเธอจะวิตกและหวาดกลัวได้ขนาดไหนกับการใช้ชีวิตในวัยเพียงเท่านี้ที่นี่ที่ห่างไกลจากบ้านเธอกันนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่