เรื่องราวจากทุกตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/36695065 ** บทนำ ** https://ppantip.com/topic/36974434 16 ** หายใจรดต้นคอ **
https://ppantip.com/topic/36707713 1 ** หน่วยเหยี่ยวพิฆาต ** https://ppantip.com/topic/36992032 17 ** เจ็บปวด **
https://ppantip.com/topic/36722529 2 ** ลางร้าย ** https://ppantip.com/topic/37011852 18 ** เริ่มชัดเจน **
https://ppantip.com/topic/36739946 3 ** ตัวเชื่อมโยง ** https://ppantip.com/topic/37036747 19 ** ระหํ่าเมือง **
https://ppantip.com/topic/36754111 4 ** เรียกตัว ** https://ppantip.com/topic/37057505 20 ** ต้องอยู่รอด **
https://ppantip.com/topic/36768151 5 ** พร้อมหน้า ** https://ppantip.com/topic/37074519 21 ** เดินหน้า **
https://ppantip.com/topic/36781641 6 ** ชายชราผมดอกเลา** https://ppantip.com/topic/37104891 22 ** เป็นต่อ **
https://ppantip.com/topic/36798608 7 ** เตรียมแผนการ ** https://ppantip.com/topic/37136014 23 ** เป้าหมาย **
https://ppantip.com/topic/36823217 8 ** เป็นไปตามแผน ** https://ppantip.com/topic/37147671 24 ** ด้วยสัญชาตญาณ **
https://ppantip.com/topic/36846614 9 ** พร้อมรับมือ ** https://ppantip.com/topic/37186839 25 ** เปิดหน้า **
https://ppantip.com/topic/36856028 10 ** ร่องรอยเรื่องราว **
https://ppantip.com/topic/36873802 11 ** หยั่งเชิง **
https://ppantip.com/topic/36889820 12 ** ผู้ทรงอิทธิพล **
https://ppantip.com/topic/36905595 13 ** ลวงให้ชิงตัว **
https://ppantip.com/topic/36924993 14 ** เป็นไปตามแผน **
https://ppantip.com/topic/36945317 15 ** องค์กรอสรพิษเขี้ยวเงิน **
26
** ความจริง **
‘แต้ม’ได้ยินเสียงกึ่ก! คล้ายกับของแข็งปะทะกัน โดยมีเสียงเปรี๊ยะ!ตามมาอีกที
พี่เจนสะบัดไปตามแรงถูกกระทบ หมุนคว้าง แต่ดูเหมือนทรงตัวได้ในฉับพลัน ร่างสมส่วนบิดและพลิกตัวตามแรงส่ง สองมือสองเท้าแตะลงพื้นราวกับนางเสือดาวกระโจนลงจากเงื้อมผา พี่เจนเหยียดตัวขึ้นยืน ต้นขากางเกงยีนส์ข้างซ้ายฉีกขาด เศษกระจกต้องแสงประกาย นับเป็นความโชคดีอย่างไม่คาดคิด ที่ปลายคมมีดกระแทกโดนเครื่องโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงเข้าอย่างพอเหมาะพอดี
พี่เจนกระชากโทรศัพท์ขว้างทิ้ง หากขืนปล่อยไว้ นั่นคืออุปสรรคสำหรับการเคลื่อนไหวแน่นอน แต้มยงโย่ยงหยกมองร่างนางเสือดาวพุ่งเข้าหาไอ้มือมีด สองก้าวครึ่งส่งร่างเพรียวทะยานขึ้น เท้าข้างหนึ่งขยับวูบ!
ไอ้มือมีดตวัดอาวุธในมือเข้าหา
จังหวะนั้น พี่เจนบิดตัวตลบร่าง วงมีดเฉือนอากาศผิดเป้าหมายไปอีกทาง หลังเท้าสลับหลอกของพี่เจนซัดเข้าหัวไหล่คนมีมีดเต็มแรง ร่างผู้เป็นเป้าถลำออกไปจากรัศมีลานต่อสู้ ร่างผมยาวชุดหนังแทรกตัวเข้ามาเหมือนรู้จังหวะจะโคน
หมัดซ้ายขวาในถุงมือหนังระดมชกใส่พี่เจนจนคนถูกชกต้องก้าวถอยก่อนยืนตรึงรับมือต้าน สองมือของผู้หญิงสองคนสะบัดเข้าใส่กันจนไม่รู้มือใครเป็นมือใคร แล้วสันหมัดข้างหนึ่งของพี่เจนก็ชิงจังหวะได้ มันซัดเข้าหน้าอกเปิดโล่งอย่างรุนแรง ร่างในชุดหนังดําเซออกไปหาไอ้มือมีดผู้กำลังสืบเท้าเข้ามาพอดี ไอ้มือมีดใช้แผ่นหลังรับการทรงตัวคู่หู ร่างพวกมันทั้งสองหันข้างมาเมื่อยืนประกบหลังกัน
สายตากร้าวของมันทั้งคู่ สาดประกายจ้า!
‘จ่าเอกพล’ยันกายขึ้นพิงรถมองเบื้องหน้า ผู้กองปรางค์กับชายร่างสูงใหญ่กําลังยืนพิงหลังกัน โดยมีชายลึกลับยืนประจัญหน้าคนละข้าง เขาแน่ใจว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นคนจีน เพราะไอ้คนล้มเขาลงครั้งแล้วครั้งเล่าสบถภาษาจีนทุกคําที่มันออกอาวุธ รวมแม้กระทั่งตอนมันฟันเขาด้วยสันมือจนทรุดลงกับพื้นในครั้งสุดท้าย แล้วมันจึงผละไป
อาการเจ็บร้าวทั่วตัวเสมือนซ้อมมวยกับหลวงจีน ส่งผลให้เขาเซถลาเมื่อขยับเดิน เอกพลโผเข้าหารถซึ่งขวางลานต่อสู้ของคนสี่คนอยู่ เขาปาดรอยเลือดออกจากมุมปากบวมชํ้า มือข้างหนึ่งคํ้ากับฝากระโปรงรถ แขนอีกข้างวางคร่อมหลังคา การต่อสู้เบื้องหน้า เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว!
ราวกับพวกมันสื่อสารกันทางจิต สองร่างสันทัดก้าวและหมุนตัวเตะแบ็คคิกแทบจะพร้อมกัน เป้าเตะต่างก้มหลบพ้น หนึ่งในสองขยิกเข้าซ้ำผู้กองปรางค์ด้วยหมัดชกตรง ขณะคู่หูมันเตะสูงสามครั้งด้วยเท้าข้างเดียว คนร่างใหญ่ตรึงการ์ดต้านด้วยความรัดกุม สองเท้าสลับถอยมาพิงหลังกับผู้กองปรางค์ราวกับคนเคยซ้อมต่อสู้มาด้วยกัน
‘เจ้ายักษ์’ที่ผู้กองเรียกในโต๊ะประชุมปักหลักรับการรุกด้วยความนิ่ง อาวุธซ้ายขวาหน้าหลังซึ่งตะบันเข้าใส่คนร่างใหญ่ แตะต้องได้แค่เพียงท่อนแขน สันมือ และกระดูกสันหน้าแข้งของเขาเท่านั้น บางจังหวะเขายังจงใจเอี้ยวตัวใช้แผ่นหลังรับปลายเท้าคู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ เมื่อเห็นอาวุธประเคนมาเป็นแค่ปลายเท้าไร้น้ำหนัก สายตาไอ้คนออกอาวุธได้แต่ฉายแววเคียดแค้นกับท่าทีดูแคลนนั้น
ร่างสูงระหงหมุนออกซ้าย ร่างยักษ์หมุนออกขวาเมื่อคู่ต่อสู้โถมเข้าแทรกกลางและกระหน่ำสันมือใส่ วงหมุนครบรอบกลับมาพิงหลังกันเหมือนเดิม พอหลังแตะกัน ผู้กองปรางค์ก็ได้จังหวะเตะสูงขณะคนร่างยักษ์เตะตัดกลางลำตัว เหยื่อลูกเตะทั้งคู่โดนสันกระดูกหน้าแข้งเข้าชายโครงแทบจะพร้อมๆกัน ถึงพวกมันจะขืนตัวไม่ยอมล้ม แต่ก็เซแซดออกไปเพราะเสียหลัก
สองชายหญิงร่างสูงสูสีกันต่างฉวยโอกาสโจมตี
ผู้กองปรางค์กระโจนขึ้น คนร่างยักษ์ตวัดร่างครึ่งรอบ ทั้งคู่ออกอาวุธใส่เป้าหมายเบื้องหน้าอย่างหนักหน่วง!
ผลั๊วะ ‼
ฉาด ‼
แต้มไม่เคยเห็นความรวดเร็วของพี่เจนมาก่อน อารามอกสั่นขวัญแขวนหายไปหมดสิ้นเมื่อได้เห็นฝีมือคนคุ้มครองตัวเอง พี่เจนดูเหมือนเป็นฝ่ายจู่โจมคนพวกนั้นด้วยซ้ำ การเข้าต่อสู้ของคนทั้งสอง คล้ายกับการรุมเอาเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ทว่า คนซึ่งถูกเอาเปรียบกลับเป็นฝ่ายต้านและรุกเข้าใส่เสียมากกว่า เห็นได้ชัดเมื่อพวกมันหลังแตะกันเมื่อไหร่ ต้องเด้งดีดตัวแยกจากกันทุกครั้ง เมื่อพี่เจนแหวกเข้ากลางด้วยท่อนขาเรียวแต่แข็งทึบราวกับดุ้นเหล็ก
ทว่าครั้งนี้ พอออกอาวุธคร่อมเป้า พี่เจนก็ถูกรุมเข้าหาทั้งซ้ายขวา ปลายเท้าผู้หญิงคร่อมหัวไป หน้าแข้งไอ้คนมีมีดสะบัดตามมาอีก พี่เจนโยกตัวหลบพ้น ก่อนจะกระโดดถีบใส่ผู้หญิงชุดหนังและสลับเท้าเตะใส่อีกคน!
คลิ๊ก ‼
ใบมีดสปริงโผล่ขึ้นในมือคู่ต่อสู้ผู้กองปรางค์ จ่าเอกพลใจหายวาบ! เมื่อเห็นมันทิ่มมีดปลายแหลมเข้าใส่หัวหน้าของเขา ร่างสูงตลบตัวออกด้านข้างราวกับนักเต้นรําบนฟลอร์ลีลาศ สันหน้าแข้งซ้ายตวัดตามวงหมุน มันฟาดเป็นแนวขวางเข้าแผ่นหลังที่กำลังซวนเซอย่างถนัดถนี่ แรงส่งตามน้ำทำให้มันหน้าทิ่มมีดหลุดมือในทันที เอกพลเห็นอีกคู่อาการเดียวกัน นั่นคือ ไอ้หลวงจีนคู่มวยกับเขามาก่อนหน้านั้นกำลังหัวคะมำลงไปกับพื้น เพราะถูกหลังเท้าชายร่างใหญ่ตบเปรี้ยงเข้าเต็มกราม
สมนํ้าหน้าmึงเสียจริง...
ที่ผู้กองเรียก‘บอดี้การ์ดขี้เก๊ก ’ในโต๊ะประชุม สงสัยผู้กองไม่เคยเห็นฝีมือเจ้ายักษ์มาก่อนแน่... เอกพลคิดในใจ
แล้วที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น ก็พลอยได้เห็นกับตา ผู้กองปรางค์กับชายร่างสูงยิ้มส่งให้กันขณะเอี้ยวตัวไปสบตากันและกัน และนั่นเองที่ทำให้ทั้งคู่มองไม่เห็นชายคนใหม่ผู้ผ่านเข้ามาในจอสายตาของเอกพล ลางบอกเหตุบางอย่างกระชากสติให้เขาตะโกนขึ้นในทันที
“ผู้กองระวัง!!” เอกพลส่งเสียงลั่น อารามรีบร้อนทำให้หลุดปากเรียกตำแหน่งหัวหน้าไปด้วยความไม่ตั้งใจ
ฟุ่บ ! ฟุ่บ ! ฟุ่บ !
กระจกหน้าต่างรถคันใกล้ตัวผู้กองระเบิดกราว พร้อมๆกับร่างสูงสองร่างม้วนตัวหลบฉากออกทันท่วงที คนสาดกระสุนเดินเข้ามาหาอย่างไม่สะทกสะท้าน สองมือกุมด้ามปืนสวมท่อเก็บเสียง เอกพลควานหาปืนคู่กาย บ้าจริง! ปืนเขาหล่นหายไปเสียแล้วตั้งแต่ถูกไอ้หลวงจีนถลุงเอา จ่าตํารวจก้าวโซเซกลับไปยังจุดต่อสู้เมื่อครู่ ก้มหาปืนพกตัวเอง แต่ไม่เจอ
(มีต่อ)
๏ ล่าสะท้านเมือง ๏ บทที่ 26
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
** ความจริง **
‘แต้ม’ได้ยินเสียงกึ่ก! คล้ายกับของแข็งปะทะกัน โดยมีเสียงเปรี๊ยะ!ตามมาอีกที
พี่เจนสะบัดไปตามแรงถูกกระทบ หมุนคว้าง แต่ดูเหมือนทรงตัวได้ในฉับพลัน ร่างสมส่วนบิดและพลิกตัวตามแรงส่ง สองมือสองเท้าแตะลงพื้นราวกับนางเสือดาวกระโจนลงจากเงื้อมผา พี่เจนเหยียดตัวขึ้นยืน ต้นขากางเกงยีนส์ข้างซ้ายฉีกขาด เศษกระจกต้องแสงประกาย นับเป็นความโชคดีอย่างไม่คาดคิด ที่ปลายคมมีดกระแทกโดนเครื่องโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงเข้าอย่างพอเหมาะพอดี
พี่เจนกระชากโทรศัพท์ขว้างทิ้ง หากขืนปล่อยไว้ นั่นคืออุปสรรคสำหรับการเคลื่อนไหวแน่นอน แต้มยงโย่ยงหยกมองร่างนางเสือดาวพุ่งเข้าหาไอ้มือมีด สองก้าวครึ่งส่งร่างเพรียวทะยานขึ้น เท้าข้างหนึ่งขยับวูบ!
ไอ้มือมีดตวัดอาวุธในมือเข้าหา
จังหวะนั้น พี่เจนบิดตัวตลบร่าง วงมีดเฉือนอากาศผิดเป้าหมายไปอีกทาง หลังเท้าสลับหลอกของพี่เจนซัดเข้าหัวไหล่คนมีมีดเต็มแรง ร่างผู้เป็นเป้าถลำออกไปจากรัศมีลานต่อสู้ ร่างผมยาวชุดหนังแทรกตัวเข้ามาเหมือนรู้จังหวะจะโคน
หมัดซ้ายขวาในถุงมือหนังระดมชกใส่พี่เจนจนคนถูกชกต้องก้าวถอยก่อนยืนตรึงรับมือต้าน สองมือของผู้หญิงสองคนสะบัดเข้าใส่กันจนไม่รู้มือใครเป็นมือใคร แล้วสันหมัดข้างหนึ่งของพี่เจนก็ชิงจังหวะได้ มันซัดเข้าหน้าอกเปิดโล่งอย่างรุนแรง ร่างในชุดหนังดําเซออกไปหาไอ้มือมีดผู้กำลังสืบเท้าเข้ามาพอดี ไอ้มือมีดใช้แผ่นหลังรับการทรงตัวคู่หู ร่างพวกมันทั้งสองหันข้างมาเมื่อยืนประกบหลังกัน
สายตากร้าวของมันทั้งคู่ สาดประกายจ้า!
‘จ่าเอกพล’ยันกายขึ้นพิงรถมองเบื้องหน้า ผู้กองปรางค์กับชายร่างสูงใหญ่กําลังยืนพิงหลังกัน โดยมีชายลึกลับยืนประจัญหน้าคนละข้าง เขาแน่ใจว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นคนจีน เพราะไอ้คนล้มเขาลงครั้งแล้วครั้งเล่าสบถภาษาจีนทุกคําที่มันออกอาวุธ รวมแม้กระทั่งตอนมันฟันเขาด้วยสันมือจนทรุดลงกับพื้นในครั้งสุดท้าย แล้วมันจึงผละไป
อาการเจ็บร้าวทั่วตัวเสมือนซ้อมมวยกับหลวงจีน ส่งผลให้เขาเซถลาเมื่อขยับเดิน เอกพลโผเข้าหารถซึ่งขวางลานต่อสู้ของคนสี่คนอยู่ เขาปาดรอยเลือดออกจากมุมปากบวมชํ้า มือข้างหนึ่งคํ้ากับฝากระโปรงรถ แขนอีกข้างวางคร่อมหลังคา การต่อสู้เบื้องหน้า เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว!
ราวกับพวกมันสื่อสารกันทางจิต สองร่างสันทัดก้าวและหมุนตัวเตะแบ็คคิกแทบจะพร้อมกัน เป้าเตะต่างก้มหลบพ้น หนึ่งในสองขยิกเข้าซ้ำผู้กองปรางค์ด้วยหมัดชกตรง ขณะคู่หูมันเตะสูงสามครั้งด้วยเท้าข้างเดียว คนร่างใหญ่ตรึงการ์ดต้านด้วยความรัดกุม สองเท้าสลับถอยมาพิงหลังกับผู้กองปรางค์ราวกับคนเคยซ้อมต่อสู้มาด้วยกัน
‘เจ้ายักษ์’ที่ผู้กองเรียกในโต๊ะประชุมปักหลักรับการรุกด้วยความนิ่ง อาวุธซ้ายขวาหน้าหลังซึ่งตะบันเข้าใส่คนร่างใหญ่ แตะต้องได้แค่เพียงท่อนแขน สันมือ และกระดูกสันหน้าแข้งของเขาเท่านั้น บางจังหวะเขายังจงใจเอี้ยวตัวใช้แผ่นหลังรับปลายเท้าคู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ เมื่อเห็นอาวุธประเคนมาเป็นแค่ปลายเท้าไร้น้ำหนัก สายตาไอ้คนออกอาวุธได้แต่ฉายแววเคียดแค้นกับท่าทีดูแคลนนั้น
ร่างสูงระหงหมุนออกซ้าย ร่างยักษ์หมุนออกขวาเมื่อคู่ต่อสู้โถมเข้าแทรกกลางและกระหน่ำสันมือใส่ วงหมุนครบรอบกลับมาพิงหลังกันเหมือนเดิม พอหลังแตะกัน ผู้กองปรางค์ก็ได้จังหวะเตะสูงขณะคนร่างยักษ์เตะตัดกลางลำตัว เหยื่อลูกเตะทั้งคู่โดนสันกระดูกหน้าแข้งเข้าชายโครงแทบจะพร้อมๆกัน ถึงพวกมันจะขืนตัวไม่ยอมล้ม แต่ก็เซแซดออกไปเพราะเสียหลัก
สองชายหญิงร่างสูงสูสีกันต่างฉวยโอกาสโจมตี
ผู้กองปรางค์กระโจนขึ้น คนร่างยักษ์ตวัดร่างครึ่งรอบ ทั้งคู่ออกอาวุธใส่เป้าหมายเบื้องหน้าอย่างหนักหน่วง!
ผลั๊วะ ‼
ฉาด ‼
แต้มไม่เคยเห็นความรวดเร็วของพี่เจนมาก่อน อารามอกสั่นขวัญแขวนหายไปหมดสิ้นเมื่อได้เห็นฝีมือคนคุ้มครองตัวเอง พี่เจนดูเหมือนเป็นฝ่ายจู่โจมคนพวกนั้นด้วยซ้ำ การเข้าต่อสู้ของคนทั้งสอง คล้ายกับการรุมเอาเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ทว่า คนซึ่งถูกเอาเปรียบกลับเป็นฝ่ายต้านและรุกเข้าใส่เสียมากกว่า เห็นได้ชัดเมื่อพวกมันหลังแตะกันเมื่อไหร่ ต้องเด้งดีดตัวแยกจากกันทุกครั้ง เมื่อพี่เจนแหวกเข้ากลางด้วยท่อนขาเรียวแต่แข็งทึบราวกับดุ้นเหล็ก
ทว่าครั้งนี้ พอออกอาวุธคร่อมเป้า พี่เจนก็ถูกรุมเข้าหาทั้งซ้ายขวา ปลายเท้าผู้หญิงคร่อมหัวไป หน้าแข้งไอ้คนมีมีดสะบัดตามมาอีก พี่เจนโยกตัวหลบพ้น ก่อนจะกระโดดถีบใส่ผู้หญิงชุดหนังและสลับเท้าเตะใส่อีกคน!
คลิ๊ก ‼
ใบมีดสปริงโผล่ขึ้นในมือคู่ต่อสู้ผู้กองปรางค์ จ่าเอกพลใจหายวาบ! เมื่อเห็นมันทิ่มมีดปลายแหลมเข้าใส่หัวหน้าของเขา ร่างสูงตลบตัวออกด้านข้างราวกับนักเต้นรําบนฟลอร์ลีลาศ สันหน้าแข้งซ้ายตวัดตามวงหมุน มันฟาดเป็นแนวขวางเข้าแผ่นหลังที่กำลังซวนเซอย่างถนัดถนี่ แรงส่งตามน้ำทำให้มันหน้าทิ่มมีดหลุดมือในทันที เอกพลเห็นอีกคู่อาการเดียวกัน นั่นคือ ไอ้หลวงจีนคู่มวยกับเขามาก่อนหน้านั้นกำลังหัวคะมำลงไปกับพื้น เพราะถูกหลังเท้าชายร่างใหญ่ตบเปรี้ยงเข้าเต็มกราม สมนํ้าหน้าmึงเสียจริง...
ที่ผู้กองเรียก‘บอดี้การ์ดขี้เก๊ก ’ในโต๊ะประชุม สงสัยผู้กองไม่เคยเห็นฝีมือเจ้ายักษ์มาก่อนแน่... เอกพลคิดในใจ
แล้วที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น ก็พลอยได้เห็นกับตา ผู้กองปรางค์กับชายร่างสูงยิ้มส่งให้กันขณะเอี้ยวตัวไปสบตากันและกัน และนั่นเองที่ทำให้ทั้งคู่มองไม่เห็นชายคนใหม่ผู้ผ่านเข้ามาในจอสายตาของเอกพล ลางบอกเหตุบางอย่างกระชากสติให้เขาตะโกนขึ้นในทันที
“ผู้กองระวัง!!” เอกพลส่งเสียงลั่น อารามรีบร้อนทำให้หลุดปากเรียกตำแหน่งหัวหน้าไปด้วยความไม่ตั้งใจ
ฟุ่บ ! ฟุ่บ ! ฟุ่บ !
กระจกหน้าต่างรถคันใกล้ตัวผู้กองระเบิดกราว พร้อมๆกับร่างสูงสองร่างม้วนตัวหลบฉากออกทันท่วงที คนสาดกระสุนเดินเข้ามาหาอย่างไม่สะทกสะท้าน สองมือกุมด้ามปืนสวมท่อเก็บเสียง เอกพลควานหาปืนคู่กาย บ้าจริง! ปืนเขาหล่นหายไปเสียแล้วตั้งแต่ถูกไอ้หลวงจีนถลุงเอา จ่าตํารวจก้าวโซเซกลับไปยังจุดต่อสู้เมื่อครู่ ก้มหาปืนพกตัวเอง แต่ไม่เจอ
(มีต่อ)