๏ ล่าสะท้านเมือง ๏ บทที่ 14

กระทู้สนทนา
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

14

** เป็นไปตามแผน **


                 เสียงกัมปนาทสนั่นขึ้นในยามวิกาล

                 สะเก็ดปูนผสมประกายไฟจากผนังชั้นล่างด้านหนึ่งแตกกระจายราวกับคลังแสงใต้ดินระเบิด  เสี้ยววินาทีที่สารพัดเศษปูนกำลังดีดตัวกระโดดโลดเต้น ฝุ่นละเอียดก็เสนอหน้าโผล่ตลบว่อนไปด้วย  แรงอัดอากาศเสมือนยักษ์หลับถอนหายใจตื่น ส่งผลให้หน้าต่างกระจกตัวบ้านแตกกราวทุกบาน  ทั้งสองชั้น

                 เมฆามองเห็นสองผู้บุกรุกผงะหงายก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้นอย่างหมดท่า  พวกมันไม่ได้โดนแรงระเบิดหรือโดนแรงวัตถุใดอัดเข้าปะทะ  แต่เป็นเพราะโดนแรงตกใจถีบเข้าเต็มๆเสียมากกว่า

                 ชายหนุ่มผู้กดสวิทช์ระเบิดสะบัดหัวไล่อาการหูอื้อ  กระซิบบอกแต้มและยามอีกคนไม่ให้ลุก  เขาเห็นผู้บุกรุกสองคนเบื้องหน้าลุกลี้ลุกลนขึ้นยืนปัดเนื้อตัวเรียกสติกลับคืน  พวกมันลดปืนลงแนบลำตัว  ยืนงงกับภาพข้างหน้า  ก่อนที่คนเป็นหัวหน้าจะเอ่ยขึ้น

                 “บ้านหลังนี้มันระเบิดเองได้ไงวะ?”

                 อีกคนแปลกใจไม่แพ้กัน  มันไม่ได้ตอบคำถามลูกพี่ แต่กลับถามไปอีกเรื่องเมื่อมองลงกับพื้นตรงหน้า “เอาไงกับไอ้สามคนนี้ครับ?  พี่เบิ้ม” มันขยับกระบอกปืน

                 คนชื่อเบิ้มมองคนสามคนบนพื้นหญ้า “ปล่อยมันไว้ยังงี้ล่ะ เจ้านายห้ามสังหารใครอยู่แล้ว รีบถอยกันดีกว่า”

                 คนทั้งสองล่าถอยออกไปจากประตูรั้วช่องเล็กอย่างรวดเร็ว ชั่วอึดใจเดียว  เมฆาก็ได้ยินเสียงประตูรถตู้ถูกกระชากเลื่อนปิด  ตามด้วยเสียงล้อรถบดพื้นถนนดังเอี๊ยด  แล้วเสียงเครื่องยนต์ก็ดังห่างออกไป  เมฆาพลิกตัวไปติดกับร่างแต้ม ควานมือแกะเชือกให้หนุ่มหน้าตี๋ด้วยความทุลักทุเล

                 “เรามีเวลาห้านาที  ก่อนหายหัวไปจากบ้านหลังนี้ให้ได้  จัดการเลยไอ้น้อง”

                 แต้มเป็นอิสระ  และหันมาแก้เชือกให้เมฆา



                 บนระเบียงโรงแรมชั้นสาม และระเบียงชั้นสี่ตรงข้ามบ้านสองชั้น  นายวิทยาลดกล้องส่องอินฟาเรตลง ในขณะที่จามรผงกหัวขึ้นจากพานท้ายปืนซึ่งประกบแนบแก้มมาเกือบครึ่งชั่วโมง

                 ผู้สั่งการฝ่ายบุกรุกกดโทรศัพท์พูดกับลูกน้อง “รอที่จุดนัดพบ  ฉันกำลังจะตามไป”
                 คนชื่อเบิ้มตอบรับ “ครับเจ้านาย”

                 ผู้สั่งการทีมตั้งรับพูดกับสปีคเกอร์ “เคลียร์ทุกสิ่งให้เรียบร้อย  แล้วไปเจอกันที่ห้วยใหญ่”
                 เมฆาตอบกลับ “ครับผู้พัน”



                 ในห้องพักชั้นสาม นายวิทยาเก็บกล้องส่องใส่ในกระเป๋าเจมส์บอนด์  แล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องก้าวสู่ลิฟต์สุดทางเดินฝั่งขวา  ส่วนในห้องพักชั้นสี่  จามรเก็บ‘ไรเฟิล Barrett M82A1’ลงกระเป๋าไม้กอล์ฟสั่งทำพิเศษ ก่อนจะเดินออกจากห้องมุ่งสู่บันไดสุดทางเดินฟากซ้ายมือ



                 บนชั้นสอง  บ้านซึ่งถูกบุกรุก

                 เมฆาจัดเก็บเครื่องคอมพิวเตอร์สองตัว จอมอนิเตอร์ยี่สิบสามนิ้วสองจอ คีย์บอร์ดสองแป้น เม้าส์สองตัว พร้อมทั้งสายไฟสารพัดเส้น
โดยมีชายสองคนซึ่งเปลี่ยนจากบทเฝ้ายามมาเป็นลูกมือช่วยเก็บ  ใช้เวลาเพียงสองนาที ลูกมือทั้งสองก็หอบสัมภาระล่วงหน้าลงไปยังชั้นล่าง เมฆาตามลงไป เขาใช้รีโมตกดเซ็ตตัดวงจรกล้องและวัตถุลึกลับของตัวเองทั้งในและนอกบริเวณบ้านตามจุดต่างๆทีละจุด    

                 ที่ริมรั้วหลังบ้าน ชายผู้ทิ้งคราบยามอีกคนกำลังเคลียร์เศษอิฐบล็อคแนวรั้วออก ชั่วครู่เดียว เสียงรถยนต์ค่อนข้างชราก็ดังมาก่อนจะเห็นท้ายรถถอยแหย่เข้ามาตามช่องรั้วที่ขาดตอน

                 ช่องรั้วฉีกขาดราวกับโดนซัดด้วยสะเก็ดน้ำมูกยักษ์หลับนั้น ความจริงเมฆาพ่วงชนวนอิเล็คโทรนิคไว้ในกำแพงปูนหนึ่งช่วงเสา  เพื่อต้องการเปิดเป็นช่องหลบหนีออกทางด้านหลัง ใครก็ตามหากมองจากมุมมองด้านหน้า จะไม่มีโอกาสรับรู้รับเห็นว่า ระเบิดซึ่งดังครั้งเดียวนั้น แท้ที่จริงมันเป็นการระเบิดพร้อมกันสองจุดต่างหาก

                 รถเก๋งรุ่นโบราณหยุดลง  แต้มโผล่ออกมาจากตำแหน่งคนขับ ปรี่เข้าช่วยชายผู้อยู่กับช่องรั้วพังขนเป้สนามสี่ห้าใบใส่กระโปรงท้ายรถ อีกสองคนอุ้มเครื่องคอมพิวเตอร์ผลุบเข้าเบาะหลัง เมฆาตามมาอีกคน เขาเปิดประตูขึ้นนั่งเบาะข้างคนขับ แต้มมุดเข้าตำแหน่งคนขับ แล้วรถก็ขยับออกนอกแนวรั้ว  ชะลอแนบข้างกำแพงทึบรอชายอีกคนตามมาขึ้นรถเป็นคนสุดท้าย

                 “โชว์ฝีมือเลยไอ้น้อง”

                 คนกุมพวงมาลัยรถหันไปมองหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่ “ให้ผมโชว์กับเจ้าซันนี่รุ่นคุณปู่เนี่ยนะ”

                 “เอาน่า.. อาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้มันแล้วล่ะ”

                 “โอเค งั้นก็มาทดสอบกัน” แต้มขยับตัวเตรียมพร้อม

                 “เดี๋ยว... ขอถอดไอ้น้ำหนักส่วนเกินนี่ออกก่อน ไอ้นี่แหละฉุดให้เคลื่อนไหวเงอะงะไปหมด” เมฆาถอดเสื้อเชิ้ตออก แต้มมองเห็นชายหนุ่มรุ่นพี่ถอดเสื้อเกราะอ่อนตามหลังอีกตัว “สามกิโลก็จริง แต่รู้สึกเทอะทะยังไงก็ไม่รู้ว่ะ” คนถอดเสื้อคล้ายบ่นกับตัวเองขณะสวมเสื้อเชิ้ตตัวเก่ากลับคืน เขาล้วงโทรศัพท์เจ้าโบราณออกมาถือในมือ “ลาก่อนนะ  บ้านทรายทอง” พูดเสร็จก็กดปุ่มหน้าตัวเครื่องห้าหกปิ๊บ ง้างนิ้วหัวแม่มือ พูดลอยๆไม่ได้เจาะจงกับใคร   ....เบิกฟ้า ‼....

                 บึ้ม ‼

                 ทุกคนในรถฟุบหัวลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ราวกับเหล่าซามูไรโค้งคำนับโชกุนในหอคอยคับแคบ เสียงสนั่นหวั่นไหวในบริเวณตัวบ้าน ไม่มีใครในรถอยากรู้อยากเห็นผลสำเร็จด้วย นอกจากมือระเบิดคนเดียวที่นึกเห็นสภาพห้องครัวชั้นล่างเละเทะเรียบร้อยเป็นอย่างดี  เคลียร์!

                 “โอเค เรียบร้อย” เมฆาหันไปบอกแต้มหน้าตาเฉย “คราวนี้หน้าที่นายแล้วล่ะ ไอ้มดซิ่ง‼”

                 ซามูไรแต้มหุบปากอ้าตาค้างลง

                 แล้วนิสสันซันนี่ชราภาพก็ทะยานออกจากมุมมืดข้างรั้วอย่างดุดัน

                 เอี๊ยด ด ‼


(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่