ความเดิมจากตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/36695065 ** บทนำ ** https://ppantip.com/topic/36873802 11 ** หยั่งเชิง **
https://ppantip.com/topic/36707713 1 ** หน่วยเหยี่ยวพิฆาต ** https://ppantip.com/topic/36889820 12 ** ผู้ทรงอิทธิพล **
https://ppantip.com/topic/36722529 2 ** ลางร้าย ** https://ppantip.com/topic/36905595 13 ** ลวงให้ชิงตัว **
https://ppantip.com/topic/36739946 3 ** ตัวเชื่อมโยง ** https://ppantip.com/topic/36924993 14 ** เป็นไปตามแผน **
https://ppantip.com/topic/36754111 4 ** เรียกตัว ** https://ppantip.com/topic/36945317 15 ** องค์กรอสรพิษเขี้ยวเงิน **
https://ppantip.com/topic/36768151 5 ** พร้อมหน้า ** https://ppantip.com/topic/36974434 16 ** หายใจรดต้นคอ **
https://ppantip.com/topic/36781641 6 ** ชายชราผมดอกเลา** https://ppantip.com/topic/36992032 17 ** เจ็บปวด **
https://ppantip.com/topic/36798608 7 ** เตรียมแผนการ ** https://ppantip.com/topic/37011852 18 ** เริ่มชัดเจน **
https://ppantip.com/topic/36823217 8 ** เป็นไปตามแผน **
https://ppantip.com/topic/36846614 9 ** พร้อมรับมือ **
https://ppantip.com/topic/36856028 10 ** ร่องรอยเรื่องราว **
19
** ระห่ำเมือง **
“น่าจะเป็นอย่างที่พวกเราคาดหมายแล้วล่ะ ดูท่าพวกมันคงกินอะไรกันที่นี่แน่ นพดล” เสียงส่งมาในสายทำให้นพดลเปลี่ยนใจกับเครื่องดื่มริมทางซึ่งกำลังจะสั่ง
ก่อนที่เขาจะแยกตัวออกมาหาอะไรแก้ง่วง นายตำรวจนพดลประเมินในใจแล้วว่า คนบนสำนักงานบริษัทเอ็มซีซีโปรดักซ์คงไม่มีใครออกมากินข้าวเที่ยงข้างนอกแน่นอน เพราะเขากับเพื่อนนายตำรวจธงรบเห็นพนักงานแมคโดนัลด์หิ้วถุงพะรุงพะรังขึ้นไปส่งบนอาคารสำนักงานของนายพายัพมาหมาดๆ
นายตำรวจไอทีหน่วยเหยี่ยวพิฆาตผละจากรถเข็นกาแฟโบราณ รู้สึกผ่อนคลายลงกับการเฝ้าจับตาเป้าหมายตามคำสั่งหัวหน้า อย่างน้อย ณ เวลานี้ก็พอมีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง วันนี้เขาเป็นคนขอออกมายืดเส้นยืดสายเอง เนื่องจากงานหน้าจอไม่มีความจำเป็นต้องอยู่เฝ้าเรื่องราวใด นายตำรวจหนุ่มเดินมุ่งสู่ตึกตระหง่านเบื้องหน้าพลางพูดกับโทรศัพท์ไปด้วย
“งั้นผมจะขึ้นไปหากาแฟสดบนตึกคอมดีกว่า เอาอะไรเพิ่มไหมนอกจากกาแฟร้อน”
“กาแฟอย่างเดียวพอแล้ว” ธงรบย้ำความต้องการเดิม
“โอเค งั้นรอแป๊บ หากมีอะไรฉุกเฉินก็อย่างที่บอก โทรหาผมทันทีว่าจะออกมาทางซอยไหน จะได้ออกไปดักโดยเร็วที่สุด”
“ได้เลย”
ปลายสายวางหูไป นายตำรวจหนุ่มไอทีเก็บโทรศัพท์เช่นกัน เขาเข้าตึกคอมทางประตูด้านหลัง สอบถามผู้คนชั่วครู่ก็รู้แล้วว่าร้านกาแฟดีๆอยู่ตรงไหน พอถึงร้านกาแฟดัง เขาสั่งม็อคค่าร้อนสองแก้วปิดฝา เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นกำลังรายงานข่าวเรื่องการระเบิดในบ้านหลังหนึ่งพอดี นพดลนั่งลงกับเก้าอี้ว่างด้วยความสนใจ เขาจำได้ว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านที่จ่าเอกพลและเดชชาติเคยติดตามไปหาข่าวในคืนเกิดเหตุนั่นเอง
ในข่าวแจ้งความคืบหน้าเรื่องตรวจพบระเบิดพลาสติกอีกหลายลูก ระเบิดเหล่านั้นมีขนาดทั้งอานุภาพเล็กน้อยไปจนถึงอีกสองลูกที่สามารถยุบบ้านทั้งหลังได้ ใครเป็นคนซ่อนวัตถุอันตรายอย่างนั้นไว้ ตำรวจท้องที่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ และเมื่อเจอคำถามตรงเป้าจากนักข่าวท้องถิ่นและจากสื่อใหญ่เข้าไป ตำรวจท้องที่ยิ่งตอบคำถามไม่ได้ กับคำถามที่ว่า มือวางระเบิดต้องการอะไร?
ภาพข่าวในจอเปลี่ยนไปเป็นเข่าวอื่น นพดลเปิดฝาจิบกาแฟแก้วตัวเอง ตั้งใจจะเช็กความเคลื่อนไหวจากข่าวเคเบิ้ลอีกสักพักแต่ก็ไม่มีข่าวใหม่ให้ชวนติดตาม นายตำรวจหน่วยเหยี่ยวพิฆาตยืดตัวลุกขึ้น สายตาพลันสะดุดเข้ากับร่างบอบบางร่างหนึ่งอย่างไม่คาดฝัน
แม้จะเห็นเพียงด้านข้าง แต่นพดลจำได้แม่นยำว่า ไอ้เด็กหนุ่มหน้าเคาน์เตอร์เบื้องหน้ามันคือใคร?
ไอ้มดซิ่ง‼
มือสั่นเทาของนพดลล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาต่อหาธงรบทันที “ธงรบ! ผมจ๊ะเอ๋ไอ้เด็กที่เราตามหาเข้าแล้ว มันกำลังจ่ายค่ากาแฟอยู่ตรงหน้านี่เอง เอาไงดีเว้ยย...เอาไงดี.. เอาไงดี...” เขาพูดซ้ำๆในตอนท้ายเพราะทำอะไรต่อไม่ถูก
ธงรบก็เหมือนกับสะดุ้งตื่นจากหลับใน “ตายห่ะ! เอาไงดีล่ะทีนี้ หน้าบริษัทนี่ก็สำคัญ ไอ้เด็กเวรนี่ก็สำคัญ”
“ผมว่าไอ้เด็กนี่สำคัญกว่าแล้วล่ะ” นพดลสรุป “งั้นทิ้งที่นั่นก่อน เอารถมาชะลอหลังตึกคอมเลย มีอะไรคืบหน้าเดี๋ยวผมจะติดต่อไปใหม่”
นายตำรวจฝ่ายข้อมูลวางสาย ไอ้หนุ่มร่างเล็กเบื้องหน้าเขากำลังเดินออกจากเคาน์เตอร์ ในมือถือกาแฟร้อนสองแก้วพลาสติก นพดลรู้แล้วว่าไอ้เด็กนี่มีคนรอกาแฟอีกแก้วเหมือนเขากับธงรบแน่นอน ดี! ความโชคดีวันนี้กำลังยกกำลังสองให้แล้ว แต่ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกก็คือ สะกดรอยตามไอ้เด็กนี่ไปก่อน
ความโชคดีตามมาเป็นยกกำลังสาม เมื่อลิฟต์คับแคบราวกับป้อมเก็บเงินทางด่วนนั้นเต็ม ไอ้มดซิ่งจึงไม่ได้ชวนเขาเข้าไปเบียดเสียดผู้คนในนั้นด้วย บันไดเลื่อนโล่งสบายๆ จึงเป็นตัวเลือกแทน
แต้มจำคำสั่งผู้พันจามรและพี่เมฆาได้ดีว่า หากขึ้นมาถึงชั้นสี่ ให้แวะรายทางตามร้านอื่นเป็นระยะ แวะไปด้วยคุยไปด้วย ถ่วงเวลาเสร็จแล้วแวะร้านต่อไป และก่อนถึงร้านเมฆาเซอร์วิสให้หยุดก่อนหน้านั้นสองร้าน เพื่อให้เมฆาเช็กคนสะกดรอยตามจากกล้องวงจรปิดในซอกทางเดินเสียก่อน
ไอ้หนุ่มหน้าตี๋ทำตามกฎทุกขั้นตอน เขาแวะคุยกับร้านโน้นร้านนี้ทั้งๆที่ไม่รู้จักมักคุ้น แต้มทักไล่มาตั้งแต่ร้านที่หนึ่ง ร้านที่สอง ร้านที่สาม ร้านที่สี่ จนกระทั่งมาหยุดลงกับร้านที่ห้าก่อนจะถึงร้านเมฆาเซอร์วิสอีกสองล็อก
“มีอะไรตามหลังผมมั๊ย พี่เมฆา” แต้มกรอกเสียงกับสมอลล์ทอล์ค
เสียงตอบกลับมาเล่นเอาสองขาสั้นแทบหยุดก้าว “มีสิ! งานเข้าแล้วว่ะไอ้น้อง นายคุยกับร้านนั้นซักพักนะแล้วค่อยเดินมา แล้วผ่านร้านพี่ไปเลยไม่ต้องแวะ” เมฆาขยายมุมมองซอกทางเดิน เขาหยิบผ้ากันฝุ่นขึ้นปิดปาก คล้องสายยางยืดกับสองหู คว้ากระป๋องสเปย์นํ้ามันติดมือขึ้นมา
แต้มถ่วงเวลากับร้านที่ห้าชั่วครู่ ก่อนจะผละออกมาและผ่านหน้าร้านชายหนุ่มรุ่นพี่ไป พอผ่านได้สองร้าน เด็กหนุ่มหน้าจีนหยุดแวะร้านที่หกอีกร้าน และนั่นเอง ร้านเมฆาเซอร์วิสก็ได้ต้อนรับชายแปลกหน้ารูปร่างสันทัดผู้หนึ่ง
ไอ้นี่มาพร้อมกับกาแฟสองแก้ว แบบนี้มันต้องมีคู่หูมาด้วยแล้วสิ.... เมฆาคิดในใจ
กล้องวงจรปิดของเมฆาซูมเข้าหารองเท้าแขกผู้มาเยือนทันที รองเท้าหนังแก้วสีดำมันวับ มองตาเดียวก็รู้แล้วว่าคนสวมเป็นพวกใด? กางเกงสแล็คอัดจีบคม เสื้อตัวนอกที่สวมราวกับเมืองพัทยามีหิมะตกทำให้เมฆารู้แล้วว่า ระหว่างเสื้อแจ็คเก็ตตัวโคร่งกับเสื้อเชิ้ตตัวใน แน่ใจได้เลยว่ามันต้องหนีบปืนในซองใต้รักแร้มาด้วย
เจ้าของร้านเมฆาเซอร์วิสเงยหน้าขึ้น ผ้าปิดจมูกผืนใหญ่ซ่อนใบหน้าครึ่งใบเอาไว้มิดชิด แขกร่างสันทัดแกล้งสนใจสินค้าหน้าร้าน ก่อนหน้านี้เพียงนาทีเดียว เมฆาฉีดน้ำมันโซเน็กซ์ฟุ้งรอต้อนรับอยู่แล้ว พอร่างสันทัดยืนสูดหายใจหน้าร้านชั่วครู่ กลิ่นน้ำมันเหม็นหืนราวกับอยู่ในอู่ถ่ายน้ำมันเครื่องก็ออกฤทธิ์ แขกผู้มากับรองเท้าหนังแก้วหมุนตัวขวับก่อนจะเดินออกจากหน้าร้านไปด้วยอาการหายใจฟืดฟาด
“เอาไงครับพี่เมฆา” แต้มส่งเสียงเข้าเอียร์โฟนมาใหม่
“เบี่ยงเบนความสนใจ แล้วลงไปเจอกันข้างล่างทางฝั่งซ้าย เดี๋ยวพี่จะตามลงไป”
“ครับ”
“จำกฎสำหรับนายได้ใช่มั๊ย หากจวนตัวต้องทำไง”
“วิ่งอย่างเดียวครับ”
เมฆาลุกจากโต๊ะทำงาน เขาปิดร้านด้วยเวลาเพียงนาทีเดียวก่อนจะก้าวแกมวิ่งออกจากหน้าร้านไป ความรีบร้อนทำให้ได้ยินเสียงจากเพื่อนบ้านร้านเคียงดังหวิวโหวง
“เฮ๊ย... ปิดร้านอีกแล้วเร๊อะ เมฆา”
แต้มลงมาถึงชั้นล่างด้วยบันไดเลื่อนเหมือนเดิม เขาคอยมองกระจกสะท้อนตามตู้สินค้าที่ผ่านมาเพื่อเช็กความเคลื่อนไหวเป็นระยะ ชายคนหนึ่งเกาะติดมาราวกับเขากำลังจะพาไปหาขุมสมบัติอะไรสักอย่าง แต้มทิ้งกาแฟหนึ่งแก้วตั้งแต่แวะร้านขายแท็บเล็ตชั้นสี่แล้ว ตอนนี้จึงต้องเปิดฝาแก้วที่เหลือดื่มเพื่อทำตัวให้เห็นว่ามาคนเดียว เขาเดินผ่านร้านโซนี่ชั้นล่างแล้วทะลุออกประตูทางฝั่งซ้ายของตึกคอม
พอหลุดบานประตูกระจกออกมาเท่านั้นเอง คนซึ่งแต้มไม่คิดอยากจะเจอะเจอก็ปรากฎเข้ามาในสายตา‼
แต้มมองเห็น
‘สิงห์ดำ’ยืนมองมาจากบาทวิถีอีกฟากพร้อมกับลูกน้องคนหนึ่ง ไอ้มดซิ่งมองกลับมาทางข้างหลังตัวเอง ชายผู้ตามติดเขามาโดยตลอดยังคงตามติดอยู่เช่นเดิม คนทั้งสองฝั่งพวกนี้มันต้องเป็นคนของอาเจ็กหลิวเกาแน่... คิดได้แค่นั้น เสียงผู้พันในภวังค์ก็กระหึ่มขึ้น
‘ กฎที่นายต้องจำติดหัวไว้เสมอ ....หากเจอสิ่งไม่ชอบมาพากลตรงหน้า วิ่งอย่างเดียวเท่านั้นที่นายต้องทำ....’
เร็วเท่าความคิด แก้วกาแฟถูกขว้างทิ้ง สองขาสั้นของคนตัวเล็กพุ่งออกจากจุดสตาร์ทในทันที‼
(มีต่อ)
๏ ล่าสะท้านเมือง ๏ บทที่ 19
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
** ระห่ำเมือง **
“น่าจะเป็นอย่างที่พวกเราคาดหมายแล้วล่ะ ดูท่าพวกมันคงกินอะไรกันที่นี่แน่ นพดล” เสียงส่งมาในสายทำให้นพดลเปลี่ยนใจกับเครื่องดื่มริมทางซึ่งกำลังจะสั่ง
ก่อนที่เขาจะแยกตัวออกมาหาอะไรแก้ง่วง นายตำรวจนพดลประเมินในใจแล้วว่า คนบนสำนักงานบริษัทเอ็มซีซีโปรดักซ์คงไม่มีใครออกมากินข้าวเที่ยงข้างนอกแน่นอน เพราะเขากับเพื่อนนายตำรวจธงรบเห็นพนักงานแมคโดนัลด์หิ้วถุงพะรุงพะรังขึ้นไปส่งบนอาคารสำนักงานของนายพายัพมาหมาดๆ
นายตำรวจไอทีหน่วยเหยี่ยวพิฆาตผละจากรถเข็นกาแฟโบราณ รู้สึกผ่อนคลายลงกับการเฝ้าจับตาเป้าหมายตามคำสั่งหัวหน้า อย่างน้อย ณ เวลานี้ก็พอมีเวลาเป็นของตัวเองบ้าง วันนี้เขาเป็นคนขอออกมายืดเส้นยืดสายเอง เนื่องจากงานหน้าจอไม่มีความจำเป็นต้องอยู่เฝ้าเรื่องราวใด นายตำรวจหนุ่มเดินมุ่งสู่ตึกตระหง่านเบื้องหน้าพลางพูดกับโทรศัพท์ไปด้วย
“งั้นผมจะขึ้นไปหากาแฟสดบนตึกคอมดีกว่า เอาอะไรเพิ่มไหมนอกจากกาแฟร้อน”
“กาแฟอย่างเดียวพอแล้ว” ธงรบย้ำความต้องการเดิม
“โอเค งั้นรอแป๊บ หากมีอะไรฉุกเฉินก็อย่างที่บอก โทรหาผมทันทีว่าจะออกมาทางซอยไหน จะได้ออกไปดักโดยเร็วที่สุด”
“ได้เลย”
ปลายสายวางหูไป นายตำรวจหนุ่มไอทีเก็บโทรศัพท์เช่นกัน เขาเข้าตึกคอมทางประตูด้านหลัง สอบถามผู้คนชั่วครู่ก็รู้แล้วว่าร้านกาแฟดีๆอยู่ตรงไหน พอถึงร้านกาแฟดัง เขาสั่งม็อคค่าร้อนสองแก้วปิดฝา เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นกำลังรายงานข่าวเรื่องการระเบิดในบ้านหลังหนึ่งพอดี นพดลนั่งลงกับเก้าอี้ว่างด้วยความสนใจ เขาจำได้ว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านที่จ่าเอกพลและเดชชาติเคยติดตามไปหาข่าวในคืนเกิดเหตุนั่นเอง
ในข่าวแจ้งความคืบหน้าเรื่องตรวจพบระเบิดพลาสติกอีกหลายลูก ระเบิดเหล่านั้นมีขนาดทั้งอานุภาพเล็กน้อยไปจนถึงอีกสองลูกที่สามารถยุบบ้านทั้งหลังได้ ใครเป็นคนซ่อนวัตถุอันตรายอย่างนั้นไว้ ตำรวจท้องที่ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ และเมื่อเจอคำถามตรงเป้าจากนักข่าวท้องถิ่นและจากสื่อใหญ่เข้าไป ตำรวจท้องที่ยิ่งตอบคำถามไม่ได้ กับคำถามที่ว่า มือวางระเบิดต้องการอะไร?
ภาพข่าวในจอเปลี่ยนไปเป็นเข่าวอื่น นพดลเปิดฝาจิบกาแฟแก้วตัวเอง ตั้งใจจะเช็กความเคลื่อนไหวจากข่าวเคเบิ้ลอีกสักพักแต่ก็ไม่มีข่าวใหม่ให้ชวนติดตาม นายตำรวจหน่วยเหยี่ยวพิฆาตยืดตัวลุกขึ้น สายตาพลันสะดุดเข้ากับร่างบอบบางร่างหนึ่งอย่างไม่คาดฝัน
แม้จะเห็นเพียงด้านข้าง แต่นพดลจำได้แม่นยำว่า ไอ้เด็กหนุ่มหน้าเคาน์เตอร์เบื้องหน้ามันคือใคร?
ไอ้มดซิ่ง‼
มือสั่นเทาของนพดลล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาต่อหาธงรบทันที “ธงรบ! ผมจ๊ะเอ๋ไอ้เด็กที่เราตามหาเข้าแล้ว มันกำลังจ่ายค่ากาแฟอยู่ตรงหน้านี่เอง เอาไงดีเว้ยย...เอาไงดี.. เอาไงดี...” เขาพูดซ้ำๆในตอนท้ายเพราะทำอะไรต่อไม่ถูก
ธงรบก็เหมือนกับสะดุ้งตื่นจากหลับใน “ตายห่ะ! เอาไงดีล่ะทีนี้ หน้าบริษัทนี่ก็สำคัญ ไอ้เด็กเวรนี่ก็สำคัญ”
“ผมว่าไอ้เด็กนี่สำคัญกว่าแล้วล่ะ” นพดลสรุป “งั้นทิ้งที่นั่นก่อน เอารถมาชะลอหลังตึกคอมเลย มีอะไรคืบหน้าเดี๋ยวผมจะติดต่อไปใหม่”
นายตำรวจฝ่ายข้อมูลวางสาย ไอ้หนุ่มร่างเล็กเบื้องหน้าเขากำลังเดินออกจากเคาน์เตอร์ ในมือถือกาแฟร้อนสองแก้วพลาสติก นพดลรู้แล้วว่าไอ้เด็กนี่มีคนรอกาแฟอีกแก้วเหมือนเขากับธงรบแน่นอน ดี! ความโชคดีวันนี้กำลังยกกำลังสองให้แล้ว แต่ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกก็คือ สะกดรอยตามไอ้เด็กนี่ไปก่อน
ความโชคดีตามมาเป็นยกกำลังสาม เมื่อลิฟต์คับแคบราวกับป้อมเก็บเงินทางด่วนนั้นเต็ม ไอ้มดซิ่งจึงไม่ได้ชวนเขาเข้าไปเบียดเสียดผู้คนในนั้นด้วย บันไดเลื่อนโล่งสบายๆ จึงเป็นตัวเลือกแทน
แต้มจำคำสั่งผู้พันจามรและพี่เมฆาได้ดีว่า หากขึ้นมาถึงชั้นสี่ ให้แวะรายทางตามร้านอื่นเป็นระยะ แวะไปด้วยคุยไปด้วย ถ่วงเวลาเสร็จแล้วแวะร้านต่อไป และก่อนถึงร้านเมฆาเซอร์วิสให้หยุดก่อนหน้านั้นสองร้าน เพื่อให้เมฆาเช็กคนสะกดรอยตามจากกล้องวงจรปิดในซอกทางเดินเสียก่อน
ไอ้หนุ่มหน้าตี๋ทำตามกฎทุกขั้นตอน เขาแวะคุยกับร้านโน้นร้านนี้ทั้งๆที่ไม่รู้จักมักคุ้น แต้มทักไล่มาตั้งแต่ร้านที่หนึ่ง ร้านที่สอง ร้านที่สาม ร้านที่สี่ จนกระทั่งมาหยุดลงกับร้านที่ห้าก่อนจะถึงร้านเมฆาเซอร์วิสอีกสองล็อก
“มีอะไรตามหลังผมมั๊ย พี่เมฆา” แต้มกรอกเสียงกับสมอลล์ทอล์ค
เสียงตอบกลับมาเล่นเอาสองขาสั้นแทบหยุดก้าว “มีสิ! งานเข้าแล้วว่ะไอ้น้อง นายคุยกับร้านนั้นซักพักนะแล้วค่อยเดินมา แล้วผ่านร้านพี่ไปเลยไม่ต้องแวะ” เมฆาขยายมุมมองซอกทางเดิน เขาหยิบผ้ากันฝุ่นขึ้นปิดปาก คล้องสายยางยืดกับสองหู คว้ากระป๋องสเปย์นํ้ามันติดมือขึ้นมา
แต้มถ่วงเวลากับร้านที่ห้าชั่วครู่ ก่อนจะผละออกมาและผ่านหน้าร้านชายหนุ่มรุ่นพี่ไป พอผ่านได้สองร้าน เด็กหนุ่มหน้าจีนหยุดแวะร้านที่หกอีกร้าน และนั่นเอง ร้านเมฆาเซอร์วิสก็ได้ต้อนรับชายแปลกหน้ารูปร่างสันทัดผู้หนึ่ง
ไอ้นี่มาพร้อมกับกาแฟสองแก้ว แบบนี้มันต้องมีคู่หูมาด้วยแล้วสิ.... เมฆาคิดในใจ
กล้องวงจรปิดของเมฆาซูมเข้าหารองเท้าแขกผู้มาเยือนทันที รองเท้าหนังแก้วสีดำมันวับ มองตาเดียวก็รู้แล้วว่าคนสวมเป็นพวกใด? กางเกงสแล็คอัดจีบคม เสื้อตัวนอกที่สวมราวกับเมืองพัทยามีหิมะตกทำให้เมฆารู้แล้วว่า ระหว่างเสื้อแจ็คเก็ตตัวโคร่งกับเสื้อเชิ้ตตัวใน แน่ใจได้เลยว่ามันต้องหนีบปืนในซองใต้รักแร้มาด้วย
เจ้าของร้านเมฆาเซอร์วิสเงยหน้าขึ้น ผ้าปิดจมูกผืนใหญ่ซ่อนใบหน้าครึ่งใบเอาไว้มิดชิด แขกร่างสันทัดแกล้งสนใจสินค้าหน้าร้าน ก่อนหน้านี้เพียงนาทีเดียว เมฆาฉีดน้ำมันโซเน็กซ์ฟุ้งรอต้อนรับอยู่แล้ว พอร่างสันทัดยืนสูดหายใจหน้าร้านชั่วครู่ กลิ่นน้ำมันเหม็นหืนราวกับอยู่ในอู่ถ่ายน้ำมันเครื่องก็ออกฤทธิ์ แขกผู้มากับรองเท้าหนังแก้วหมุนตัวขวับก่อนจะเดินออกจากหน้าร้านไปด้วยอาการหายใจฟืดฟาด
“เอาไงครับพี่เมฆา” แต้มส่งเสียงเข้าเอียร์โฟนมาใหม่
“เบี่ยงเบนความสนใจ แล้วลงไปเจอกันข้างล่างทางฝั่งซ้าย เดี๋ยวพี่จะตามลงไป”
“ครับ”
“จำกฎสำหรับนายได้ใช่มั๊ย หากจวนตัวต้องทำไง”
“วิ่งอย่างเดียวครับ”
เมฆาลุกจากโต๊ะทำงาน เขาปิดร้านด้วยเวลาเพียงนาทีเดียวก่อนจะก้าวแกมวิ่งออกจากหน้าร้านไป ความรีบร้อนทำให้ได้ยินเสียงจากเพื่อนบ้านร้านเคียงดังหวิวโหวง
“เฮ๊ย... ปิดร้านอีกแล้วเร๊อะ เมฆา”
แต้มลงมาถึงชั้นล่างด้วยบันไดเลื่อนเหมือนเดิม เขาคอยมองกระจกสะท้อนตามตู้สินค้าที่ผ่านมาเพื่อเช็กความเคลื่อนไหวเป็นระยะ ชายคนหนึ่งเกาะติดมาราวกับเขากำลังจะพาไปหาขุมสมบัติอะไรสักอย่าง แต้มทิ้งกาแฟหนึ่งแก้วตั้งแต่แวะร้านขายแท็บเล็ตชั้นสี่แล้ว ตอนนี้จึงต้องเปิดฝาแก้วที่เหลือดื่มเพื่อทำตัวให้เห็นว่ามาคนเดียว เขาเดินผ่านร้านโซนี่ชั้นล่างแล้วทะลุออกประตูทางฝั่งซ้ายของตึกคอม
พอหลุดบานประตูกระจกออกมาเท่านั้นเอง คนซึ่งแต้มไม่คิดอยากจะเจอะเจอก็ปรากฎเข้ามาในสายตา‼
แต้มมองเห็น‘สิงห์ดำ’ยืนมองมาจากบาทวิถีอีกฟากพร้อมกับลูกน้องคนหนึ่ง ไอ้มดซิ่งมองกลับมาทางข้างหลังตัวเอง ชายผู้ตามติดเขามาโดยตลอดยังคงตามติดอยู่เช่นเดิม คนทั้งสองฝั่งพวกนี้มันต้องเป็นคนของอาเจ็กหลิวเกาแน่... คิดได้แค่นั้น เสียงผู้พันในภวังค์ก็กระหึ่มขึ้น
‘ กฎที่นายต้องจำติดหัวไว้เสมอ ....หากเจอสิ่งไม่ชอบมาพากลตรงหน้า วิ่งอย่างเดียวเท่านั้นที่นายต้องทำ....’
เร็วเท่าความคิด แก้วกาแฟถูกขว้างทิ้ง สองขาสั้นของคนตัวเล็กพุ่งออกจากจุดสตาร์ทในทันที‼
(มีต่อ)