ตำนานมีดโบวี่

เจสซี่ คลิฟต์ บูอี้ Jesse Cifft Bowie ตำนานแห่งมหาตำนานอีกที

มีดบูอี้ หรือมีดโบวี่ตามความคุ้นเคยแบบไทยๆ จริงๆแล้วแม้แต่อเมริกันเองก็ออกเสียงคำนี้ไปหลายแบบแล้วแต่ลักษณะการพูดและสำเนียงท้องถิ่นอีกที เช่น บู่อิ๊ , บูอี้ , โบอี่ , บุ๋ย

ในช่วงเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1827 ก่อนหน้าเหตุการณ์รบที่ป้อมอลาโม่ 8-9 ปี เจมส์หรือจิม บูอี้ อัศวินมีดยาวซึ่งในขณะนั้นเค้ายังไม่ได้รับสมณานามอันเลิศหรูนี้ ได้เข้าร่วมสังเกตุการณ์หรือเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ระหว่างบุคคล 2 คน ซึ่งเป็นการดวลอย่างเปิดเผยและมีเกียรติตามสมัยนิยม ผลปรากฎว่าคู่กรณีทั้งสองคนไม่เป็นอะไร แต่ผู้ชมทั้งสองฝ่ายทำอีท่าไหนไม่รู้ สู้กันจนบาดเจ็บล้มตายไปเป็นโขยง บูอี้บาดเจ็บขนาดหนักเรียกว่าสาหัสแต่ก็รอดมาได้ หลังจากวันนั้นเค้าก็กลายเป็นตำนานมีดอันดับหนึ่งของอเมริกันชน

วันนี้คล้ายๆจะฉายภาพยนต์เรื่องยาว The Legend of the Bowie Knife

ก็คล้ายๆกันตำนานอื่นๆหรือทุกๆตำนานคือเป็นส่วนผสมระหว่างข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น มีเรื่องเล่าผสมผสานกับเหตุการณ์จริงทางประวัติศาสตร์ เมื่อยังไม่มีหลักฐานที่สมบูรณ์มาบอกล้าง เราก็อาจจะอนุมานได้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นมันเคยเกิดขึ้นจริงๆ และขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อตรงจุดไหน
บางครั้งเรื่องจริงที่โอ่อ่าเปิดเผยตรงไปตรงมากลับมีความน่าเชื่อถือหรือมีผู้ยอมรับน้อยกว่าเรื่องเสริมเติมแต่ง อาหารจืดชืดดีงามต่อสุขภาพล้วนได้รับความนิยมน้อยกว่าของฉูดฉาดปรุงแต่งรสจัดจ้านที่แฝงหรือสื่อให้เห็นพิษภัย

มีดเล่มแรกของตำนานมีด มีดเล่มที่บูอี้พกติดตัวไปในการดวลที่แซนด์บาร์ ซึ่งได้รับการเรียกขานกันต่อมาจนถึงปัจจุบันว่าแซนด์บาร์ไฟต์หรือการต่อสู้ที่สันทรายวิดาเลีย

วันนี้มีมีดมาให้ชมกันหนึ่งเล่มครับ หลายท่านที่รู้จักมีดบูอี้อยู่บ้างแต่ไม่มากพอที่จะทราบถึงประวัติความเป็นมาของมีด ดูรูปแล้วอาจจะตะขิดตะขวงใจหรือสงสัยเป็นกำลัง ว่าน้าแมวงงหรือเพี้ยนถึงเอามีดครัวนี้มาเรียกว่ามีดบูอี้ ใช่แล้วครับ มันคือมีดบูอี้หรือมีดที่ถูกใช้งานโดยจิม บูอี้ และแน่นอนที่สุดว่ามันเป็นมีดที่ดัดแปลงมาหรือถูกสร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากมีดแล่เนื้อ

ในเหตุการณ์นั้น บูอี้ซึ่งชีวิตจริงก็คงเป็นเสือร้ายหรือนักเลงเต็มขั้น ไปพบกับโจทย์เก่าคือนอริส ไรท์และเพื่อนพ้องฝ่ายตรงข้าม ในวงล้อมของการตะลุมบอนสรุปได้คร่าวๆตามเรื่องราวที่เล่าขานกันมา บูอี้ถูกยิงสองนัดว่ากันว่านัดนึงยิงเข้าไปในปอดและเป็นสาเหตุหลักให้บูอี้มีอาการอักเสบหรือเจ็บป่วยภายในหลังจากนี้เรื่อยไปจนถึงจุดสิ้นสุดที่ป้อมอลาโม และได้รับบาดแผลจากมีดหลายแห่ง

นอริส ไรท์ แทงบูอี้ด้วยดาบไม้เท้าหรือซอร์ดเครน เจ้ากรรมเหลือเกินไอ้ดาบนั่นติดอยู่กับหน้าอกของบูอี้จนดึงกลับไม่ได้
ยักแย่ยักยันกันแบบนั้น บูอี้ซึ่งเจ็บปางตายกองอยู่กับพื้นโดยมีนอริส ไรท์ยืนคร่อมอยู่ด้านบน ไอ้ดาบไม้เท้านั้นซึ่งมีลักษณะเป็นเหล็กแหลมๆคล้ายไปทางกระบี่ซะมากกว่า คงติดกับกระดูกซี่โครงไม่งั้นก็แผ่นอกหรือสเตอนัมของจิม บูอี้ ก่อนที่ดาบนั่นจะถูกถอนออกมา ช่องอกของนอริส ไรท์ ก็ถูกแทรกเข้าไปด้วยมีดที่บูอี้กำไว้ในมือ เล่มนี้แหละ มีดเล่มนี้ เล่มที่เป็นตำนาน

ตามรูปที่เขียนสืบต่อกันมาหรือมีรูปปั้นประติมากรรมจะเห็นได้ว่านอริส ไรท์ยืนอยู่และแทงเฉียงลง และบูอี้นั่งหรือกึ่งๆนอนหงายแล้วแทงสวนขึ้นไปในมุมเฉียงขึ้น ผลปรากฎว่านอริส ไรท์ตาย บูอี้รอด เอาตัวรอดจากการตะลุมบอนในครั้งนั้นมาได้พร้อมกับบาดแผลแทบนับไม่ถ้วน หรือจริงๆนับถ้วนแต่เรื่องราวขยายออกไปแผลก็มากขึ้นทุกที

จริงๆแล้วปืนในยุคนั้นก็คือปืนแบบคาบศิลาลำกล้องสั้น โดนเข้าไปสองนัดยังอาละวาดอยู่ได้ ถ้าคราวนั้นนอริส ไรท์ถือ โคลท์ 1911A1 ตำนานของจิมบูอี้คงไม่ได้เกิด

มีเรื่องเล่าเสริมตรงนี้นิดหน่อยว่าจริงๆแล้วนอริส ไรท์ กับจิม บูอี้ เคยฟาดกันมาหนนึงแล้วตอนนั้นนอริส ไรท์ยิงใส่บูอี้เฉี่ยวๆ แต่ปืนของบูอี้ยิงไม่ออก ไม่ใช่ว่านอริส ไรท์มีมหาอุดแต่ปืนในยุคนั้นมันไม่ได้ลั่นทุกนัดที่ยิงนะครับ และว่ากันว่ามีคนมาห้ามไว้ก่อนที่บูอี้จะดึงมีดเล็กๆที่พกติดตัวมาไปเจี๋ยนคู่กรณี มันก็เป็นโจทย์เก่ากันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็ได้ชำระกันอย่างถึงเลือดถึงเนื้อ ถ้าปล่อยไปวันหน้าก็ไม่แคล้วต้องมาตีกันอีกก็จบมันซะวันนี้เลย

เรื่องราวการต่อสู้นี้มีการตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ในตอนนั้นด้วยนะครับ เรื่องราวของจิม บูอี้และมีดที่ใช้ก็กลายเป็นความโด่งดังในชั่วข้ามวันข้ามคืน สุดยอดมีด สุดยอดนักสู้ด้วยมีด มีดเล่มที่เขียนชื่อตัวเองลงในประวัติศาสตร์อย่างมั่นคง ถึงจะเลือนลางอยู่บ้างแต่มันก็ตกทอดมาจนถึงยุคของเราแม้เวลาจะผ่านไปร่วมสองร้อยปี

เอาล่ะ ขึ้นอินโทรกันมายืดยาว ได้เวลามาเล่าเรื่องมีดกัน มีดบูอี้เล่มที่หนึ่ง ที่เรียกว่ามีดบูอี้เล่มที่หนึ่งเพราะว่าตลอดชีวิตของบูอี้ หรือในช่วงชีวิตระหว่างปี 1827 - 1836 บูอี้ มีมีดหลายเล่ม เปลี่ยนมีดหลายเล่ม จากหลายช่างฝีมือ โดยรวมๆแล้วบูอี้ไม่ใช่คนทำมีดทั้งหมด จริงๆแล้วคนออกแบบหรือคนสร้างมีดบูอี้คือเรซิน บูอี้ พี่ชายของจิม และถ้าเรียกว่ามีดบูอี้เล่มที่หนึ่ง จะมีคนสับสนไปกับมีดของช่างที่ชื่อเจม แบล็ก ที่เป็นช่างคนหนึ่งที่ได้สร้างมีดบูอี้ เล่มที่จารึกบนใบมีดว่า BOWIE no.1

มีดเล่มนี้ที่เห็นในกระทู้นี้แหละ ตามประวัติแล้วคือมีดที่เรซิน บูอี้ ออกแบบและให้ช่างที่ชื่อว่าเจสซี่ คลิฟต์เป็นคนทำ ข้อมูลที่คร่าวๆของมีดเล่มนี้คือเหมือนมีดแล่เนื้อขนาดเขื่องๆ สันหนา หลังตรง ทำจากตะไบ ใบยาวเก้านิ้วกว่าๆ มีด้ามเรียบๆและมีหมุดยึดที่ด้ามคือเป็นมีดแบบประกับฟูลแต็ง
ฉีกไปจากการรับรู้ที่เราเคยชินมาตลอดว่ามีดบูอี้คือมีดขนาดใหญ่ ใบกว้าง ปลายใบเว้าเป็นจันทร์เสี้ยว และมีกะบังหรือการ์ดกันมือ มีดลักษณะนี้อาจจะมีอยู่จริงในสมัยนั้นหรือเป็นมีดที่มีคนเห็นบูอี้พกหรือใช้จริงๆในตอนนั้น แต่ก็ไม่มีหลักฐานหรือพยานวัตถุแน่ชัดว่ามันหน้าตายังไงแน่ ที่แน่ๆก็คือมีดบูอี้มีหลายเล่มตามแต่ช่วงเวลา

มีดบูอี้ที่ทำจากช่างต่างๆหรือมีแนวโน้มว่าจะทันยุคบูอี้ก็อย่างเช่นมีดที่เรียกกันว่า Perkins bowie , Moore bowie , Searles bowie , Musso bowie , Black bowie , snowden bowie ซึ่งว่ากันว่ามีส่วนที่จะเป็นคนทำมีดให้บูอี้หรือทำมีดตามแบบบูอี้ในสมัยนั้น

แต่ในยุคตื่นมีด คือช่วงเวลาหลังเฟตุการณ์แซนด์บาร์ไฟต์นั่นแหละ มีการทำมีดบูอี้ขึ้นมาเป็นจำนวนมหาศาลและมีการนำเข้ามีดบูอี้จากเกาะอังกฤษซึ่งมีมากกว่ามีดที่ทำขึ้นบนแผ่นดินอเมริกา ซึ่งมีจำนวนมากและร่วมสมัยแต่ก็ห่างไกลรูปลักษณะดั้งเดิมของมีดบูอี้ เป็นส่วนหนึ่งซึ่งอาจจะใหญ่โตที่สุดที่สร้างความคลุมเคลือให้ตำนาน คือมีดเยอะไปแล้วก็เรียกว่าบูอี้ทั้งนั้นทั้งๆที่จริงแล้ว 10 รุ่นที่เค้าวางขายจะหน้าตาไม่เหมือนกันซักกะเล่ม

ทุกวันนี้นักสะสมมีดชาวอเมริกันบ้านเกิดของมีดบูอี้ ยังมีความเห็นไม่ตรงกันหรือมิอาจจำเพาะเจาะจงลงไปว่ามีดแบบไหนหรือใบมีดทรงไหนใกล้เคียงมีดเล่มดั้งเดิมที่สุด คือเป็นมีดที่บูอี้ใช้งานจริงๆในยุครุ่งเรือง

ที่ค่อนข้างจะพร้อมใจกันที่สุดก็คือมีดเล่มแรกของบูอี้ เล่มที่ใช้ในการต่อสู้ที่สันทรายวิดาเลีย เป็นพิมพ์มีดแล่เนื้อหลังตรง แต่ก็ยังถกเถียงกันเรื่องผู้สร้าง ว่ากันว่ามีเล่มที่เรซินทำเองก็มี , เล่มที่เจสซี่ คลิฟต์เป็นคนทำ หรือช่างทำมีดที่ชื่อสโนเด็นก็มีรายชื่อของการเป็นผู้สร้างมีดบูอี้เล่มแรก จริงๆแล้วสโนเดนหรือเจสซี่คลิฟต์ก็ทำมีดให้เรซินนั่นแหละ ทำขายกันเป็นล่ำเป็นสันด้วย

มีเรื่องน่าสนใจอีกเรืองคือมีดที่ชื่อว่า Edwin Forrest bowie ซึ่งเอ็ดวินนี่เป็นเหมือนคนดังหรือดาราหนังอะไรทำนองนั้น บอกว่าเค้าได้มีดเล่มนี้มาจากจิม บูอี้ ซึ่งเล่มนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะยอมรับกันโดยทั่วไปว่าถึงยุคแน่

ไหนๆก็มากันถึงนี่แล้วส่วนหนึ่งของตำนานบอกว่าครั้งหนึ่งเรซิน บูอี้ใช้มีดที่เค้าจัดสร้างเองฆ่าวัวตัวนึง ทำอีท่าไหนไม่รู้ มือลื่นเข้าไปถูกคมมีด คือลักษณะว่ามือลื่นๆแล้วดันมีดเข้าไปในเนื้อวัวแล้วอาจจะถูกกระดูกวัวแทงเข้าไปไม่ได้จนมือของเรซินเลื่อนเข้าไปหาคมมีด หลังเหตุการณ์นั้นเรซินจึงออกแบบแผ่นกันมือแบบครอสหรือแผ่นกันมือแบบยื่นออกมาทั้งด้านบนและด้านล่าง ป้องกันไม่ให้มือเลื่อนไปหาคมมีดและมีดของคู่ต่อสู้เลื่อนมาไม่ถึงมือเวลาต่อสู้หรือประใบมีดกัน ทำให้มีดบูอี้ในยุคหลังจากนั้นเริ่มมีแผ่นกันมือแบบครอส

คนที่เล่านี้คือหลานสาวของเรซิน ที่เห็นเหตุการณ์นี้กะตาตัวเอง และบทบทสัมภาษณ์นี้ก็ได้ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เป็นเรื่องที่มีพยานบุคคลและพยานวัตถุที่พอจะเชื่อถือได้

เอาละครับ เหนื่อยแล้ววันนี้ สรุปอีกเล็กน้อยว่าหลังจากนั้นบูอี้ก็ใช้มีดอีกหลายเล่ม พ่อพลายแก้วผู้แววไวมีดาบฟ้าฟื้นเพียงเล่มเดียว แต่จิม บูอี้มีมีดหลายเล่ม มีเรื่องราวมากมายถึงการต่อสู้ด้วยมีดอีกนับสิบๆครั้งมีการเล่าขานแต่ไม่แน่ใจในข้อเท็จจริง และที่แน่นอนที่สุดคือบูอี้อยู่ในป้อมอลาโมจริง และต่อสู้จริงๆ ตายเยี่ยงวีรบุรุษจริงๆ

บูอี้สิ้นชีวิตลงเมื่อปีค.ศ.1836 ในฐานะวีรบุรุษของอลาโม เท็กซัส และอเมริกา อาจจะมีวีรบุรุษหรือรัฐบุรุษที่ยิ่งใหญ่สร้างคุณูปการมากมายให้อเมริกาอีกหลายท่านแทบนับไม่ถ้วน แต่สำหรับวงการมีดแล้วบูอี้นับเป็นเอกบุรุษคือหนึ่งเดียวคนนี้ไม่มีคนที่สอง ไม่มีใครมาเทียบเคียงได้ในความรู้สึกของอเมริกันชน
แบบของมีดบูอี้ทุกวันนี้ยังคงมีการถกเถียงหาความจริงกันอยู่เสมอๆแต่ก็รู้ๆกันดีว่ามันจะไม่มีข้อสรุปไม่มีจุดสิ้นสุดที่ลงตัวกันได้ แต่ก็เป็นความสุขที่นักนิยมมีดเหล่านั้นได้ทำ ได้ระลึกถึงคนและมีดผู้เป็นตำนาน มีดที่อาจจะเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่และเป็นที่น่าสนอกสนใจที่สุดในประวัติศาสตร์

ถึงแม้จะลางเลือนแต่ก็ขับเคลื่อนกระแสของสิ่งมีคมมาร่วมสองศตวรรษ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่