ไม่ใช่สงครามราคารถยนต์นะ

...เขียนโดย ChatGPT...
สงครามโตโยต้า (The Toyota War)
สงครามโตโยต้า (The Toyota War) เป็นชื่อเรียกของความขัดแย้งทางทหารที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศลิเบียและชาดในปี พ.ศ. 2529–2530 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามชาด-ลิเบียที่ดำเนินต่อเนื่องมานานหลายทศวรรษ สงครามในช่วงนี้มีลักษณะเด่นที่ทำให้ได้รับชื่อว่า "สงครามโตโยต้า" เนื่องจากกองกำลังของชาดใช้รถกระบะโตโยต้ารุ่น Hilux และ Land Cruiser อย่างแพร่หลายในการทำสงคราม โดยดัดแปลงรถกระบะเหล่านี้ให้ติดตั้งอาวุธต่าง ๆ เช่น ปืนกลหนักและจรวดต่อต้านรถถัง ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและมีความคล่องตัวสูงในภูมิประเทศทะเลทราย
การต่อสู้ในสงครามนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบริเวณแถบทะเลทรายที่เรียกว่าแถบอูซู (Aouzou Strip) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีข้อพิพาทระหว่างสองประเทศ ชาดได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ลิเบียภายใต้การนำของมูอัมมาร์ กัดดาฟี มีเป้าหมายที่จะขยายอิทธิพลของตนในภูมิภาคแอฟริกาเหนือและกลาง
มูอัมมาร์ กัดดาฟี
พื้นที่ขัดแย้ง
กองกำลังของชาดซึ่งมีทรัพยากรจำกัดแต่มีความเชี่ยวชาญในเชิงกลยุทธ์ สามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อกองทัพลิเบียที่มีขนาดใหญ่กว่าและใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า ด้วยการใช้ยุทธวิธีโจมตีและถอนตัวอย่างรวดเร็ว (hit-and-run tactics) โดยใช้รถโตโยต้าเป็นฐานปฏิบัติการเคลื่อนที่ ส่งผลให้ลิเบียสูญเสียกองกำลังจำนวนมาก และในที่สุดต้องถอนตัวออกจากแถบอูซูในปี พ.ศ. 2530
บทนำสู่สงคราม
สงครามโตโยต้า (The Toyota War) เป็นผลพวงของความขัดแย้งที่ยาวนานระหว่างลิเบียและชาด ซึ่งมีรากฐานมาจากข้อพิพาทเกี่ยวกับแถบอูซู (Aouzou Strip) ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนที่อุดมไปด้วยทรัพยากร เช่น ยูเรเนียม ลิเบียอ้างสิทธิ์ในพื้นที่นี้โดยอ้างสนธิสัญญาชายแดนฝรั่งเศส-อิตาลีในปี ค.ศ. 1935 แต่ชาด ซึ่งได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2503 ปฏิเสธการอ้างสิทธิ์ดังกล่าว ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นในปี พ.ศ. 2522–2525 เมื่อกองกำลังลิเบียเข้าไปสนับสนุนกลุ่มกบฏในชาด และสามารถยึดครองพื้นที่ตอนเหนือของประเทศได้สำเร็จ
การเผชิญหน้าทางทหารระหว่างทั้งสองประเทศทวีความเข้มข้นในปี พ.ศ. 2526–2527 โดยลิเบียสนับสนุนรัฐบาลของโกกูนี อูไวดเด (Goukouni Oueddei) ในขณะที่ฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาสนับสนุนฝ่ายต่อต้านนำโดยฮิสเซน ฮาเบร (Hissène Habré) ในที่สุด กองกำลังของฮาเบรได้รับชัยชนะในปี พ.ศ. 2526 และเริ่มต่อต้านการยึดครองของลิเบียในแถบอูซู
ฮิสเซน ฮาเบร (Hissène Habré)
โกกูนี อูไวดเด (Goukouni Oueddei)
รายละเอียดของการสู้รบ
สงครามในช่วงปี พ.ศ. 2529–2530 ได้รับการขนานนามว่า “สงครามโตโยต้า” เนื่องจากกองกำลังของชาดใช้รถกระบะโตโยต้าดัดแปลงติดอาวุธอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะรุ่น Hilux และ Land Cruiser ซึ่งถูกดัดแปลงเพื่อติดตั้งอาวุธ เช่น ปืนกลหนัก จรวดต่อต้านรถถัง และเครื่องยิงจรวดแบบหลายลำกล้อง
การสู้รบสำคัญเกิดขึ้นในหลายจุด ได้แก่
ยุทธการที่ฟาดา (Battle of Fada) ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2529 กองกำลังของชาดซึ่งใช้รถกระบะโตโยต้าเป็นฐานการโจมตี สามารถทำลายยานเกราะของลิเบียได้หลายสิบคัน พร้อมกับสังหารทหารลิเบียจำนวนมาก
สถานที่: เมืองฟาดา ทางตอนเหนือของชาด
รายละเอียด:
ยุทธการที่ฟาดาเป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญที่แสดงถึงความเหนือกว่าของยุทธวิธีเคลื่อนที่รวดเร็วของกองกำลังชาด กองกำลังชาดภายใต้การนำของประธานาธิบดีฮิสเซน ฮาเบร ใช้รถกระบะโตโยต้าดัดแปลงติดอาวุธในการโจมตีกองทัพลิเบียซึ่งมีรถถังและยานเกราะหนักจำนวนมาก
การสู้รบดำเนินไปอย่างดุเดือด โดยกองกำลังชาดใช้ยุทธวิธีโจมตีแบบสายฟ้าแลบ (blitzkrieg tactics) เจาะจุดอ่อนของแนวป้องกันลิเบีย ทหารลิเบียสูญเสียยานเกราะประมาณ 78 คัน รวมถึงรถถัง T-55 และยานลำเลียงพลหุ้มเกราะอีกหลายคัน นอกจากนี้ยังมีทหารลิเบียเสียชีวิตกว่า 1,000 นาย
ผลลัพธ์:
ชัยชนะของชาดที่ฟาดาทำให้ลิเบียต้องล่าถอยและสูญเสียอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความพ่ายแพ้ต่อเนื่องของลิเบียในสงครามนี้
ยุทธการที่อูซู (Battle of Aouzou) ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2530 ชาดเปิดฉากโจมตีแถบอูซูที่ถูกลิเบียยึดครอง กองกำลังชาดที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วสามารถต้านทานกองกำลังลิเบียได้ แม้ลิเบียจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า
สถานที่: แถบอูซู (Aouzou Strip) ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างชาดและลิเบีย
รายละเอียด:
แถบอูซูเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ลิเบียเข้ายึดครองมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 กองกำลังชาดเปิดฉากโจมตีอย่างหนักเพื่อยึดพื้นที่คืน การรบในยุทธการนี้ใช้ยุทธวิธีเคลื่อนที่รวดเร็วเช่นเดิม กองกำลังชาดสามารถบุกเข้าแนวป้องกันของลิเบียซึ่งใช้กำลังพลและยุทโธปกรณ์หนักสร้างแนวป้องกัน
การสู้รบครั้งนี้ทำให้ลิเบียสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก รวมถึงยานเกราะและอาวุธหนักหลายรายการ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ในแถบอูซูยืดเยื้อ และลิเบียพยายามใช้เครื่องบินรบโจมตีกองกำลังชาด แต่การป้องกันที่มีประสิทธิภาพของชาดทำให้ลิเบียไม่สามารถยึดพื้นที่คืนได้
ผลลัพธ์:
กองกำลังชาดประสบความสำเร็จในการยึดแถบอูซูคืนและสร้างขวัญกำลังใจให้กองทัพอย่างมาก
Aouzou Strip
ยุทธการที่มาทาน อาซัล (Battle of Maaten al-Sarra) ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2530 ชาดเปิดการโจมตีทางใต้ของลิเบีย โดยกองกำลังรถกระบะโจมตีฐานที่มั่นลิเบียและทำลายยานเกราะจำนวนมาก
สถานที่: ฐานทัพลิเบียที่มาทาน อาซัล ใกล้ชายแดนลิเบีย-ชาด
รายละเอียด:
ยุทธการนี้ถือเป็นการโจมตีที่ทะเยอทะยานที่สุดของกองกำลังชาด ซึ่งรุกล้ำเข้าไปในดินแดนลิเบียเพื่อโจมตีฐานที่มั่นสำคัญ กองกำลังชาดใช้รถกระบะโตโยต้าติดอาวุธโจมตีฐานทัพอย่างรวดเร็วและจัดการทำลายแนวป้องกันของลิเบีย ฐานที่มั่นของลิเบียถูกยึดครองและกำลังพลลิเบียถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก
ลิเบียพยายามตอบโต้ด้วยการส่งกำลังเสริมและใช้เครื่องบินรบ แต่การโจมตีทางอากาศไม่สามารถหยุดยั้งการรุกของชาดได้
ผลลัพธ์:
กองกำลังชาดประสบความสำเร็จในการทำลายฐานทัพสำคัญของลิเบีย ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อขวัญกำลังใจของลิเบียและนำไปสู่การเจรจาหยุดยิงในที่สุด
Maaten al-Sarra
กำลังรบก่อนสงคราม
ก่อนเริ่มต้นสงครามโตโยต้า (ช่วงปี พ.ศ. 2529–2530) กำลังรบของลิเบียและชาดมีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านขนาดและทรัพยากร
ลิเบีย
กำลังพล: ประมาณ 25,000 นายที่ถูกส่งมายังพื้นที่สงคราม
ยุทโธปกรณ์:
- รถถังและยานเกราะหนักกว่า 1,500 คัน รวมถึงรถถัง T-55 และ T-62
- ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ BMP-1
- เครื่องบินรบ เช่น MiG-21, MiG-23, และ Su-22
- ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัย
- การสนับสนุนโลจิสติกส์ขนาดใหญ่และฐานทัพในพื้นที่พิพาท
ชาด
กำลังพล: ประมาณ 10,000 นาย แต่ส่วนใหญ่เป็นกองกำลังท้องถิ่นและอาสาสมัคร
ยุทโธปกรณ์:
- รถกระบะโตโยต้า (Toyota Hilux และ Land Cruiser) จำนวนประมาณ 400 คัน ซึ่งดัดแปลงติดตั้งปืนกลหนัก จรวดต่อต้านรถถัง และปืนครก
- ไม่มีรถถังหรือยานเกราะหนัก
- ไม่มีเครื่องบินรบ แต่ได้รับการสนับสนุนด้านการลาดตระเวนทางอากาศจากฝรั่งเศส
- ยุทธวิธีที่เน้นความคล่องตัวและการโจมตีแบบฉับพลัน
ความสูญเสียในสงครามโตโยต้า
ลิเบีย
กำลังพล: ทหารเสียชีวิตประมาณ 7,500 นาย
ยุทโธปกรณ์ที่สูญเสีย:
- รถถังและยานเกราะหนักกว่า 1,500 คัน
- เครื่องบินรบ 30 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิด
- ฐานทัพและคลังอาวุธสำคัญถูกทำลายหลายแห่ง
ชาด
กำลังพล: ทหารเสียชีวิตประมาณ 1,000 นาย
ยุทโธปกรณ์ที่สูญเสีย:
- รถกระบะโตโยต้าบางส่วน แต่ไม่มีข้อมูลแน่ชัดถึงจำนวนที่เสียหาย
บทบาทของประเทศมหาอำนาจในสงครามโตโยต้า
สงครามโตโยต้า (พ.ศ. 2529–2530) ไม่ได้เป็นเพียงความขัดแย้งระหว่างชาดและลิเบียเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของประเทศมหาอำนาจในช่วงสงครามเย็นที่ใช้ความขัดแย้งในภูมิภาคเป็นสนามแข่งขันทางอิทธิพลระหว่างกัน
ฝรั่งเศส สนับสนุนชาด
ฝรั่งเศสซึ่งเคยเป็นเจ้าอาณานิคมของชาด ถือว่าชาดเป็นส่วนสำคัญของผลประโยชน์ในแอฟริกา ดังนั้น ฝรั่งเศสจึงให้การสนับสนุนทางการเมือง การทหาร และข่าวกรองแก่ชาดในสงคราม
- ส่งกำลังทหารภายใต้ปฏิบัติการ Épervier เพื่อสนับสนุนรัฐบาลของฮิสเซน ฮาเบร (Hissène Habré)
- ให้ความช่วยเหลือด้านข่าวกรอง เช่น การเฝ้าระวังทางอากาศและการประเมินการเคลื่อนไหวของกองทัพลิเบีย
- สนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ เช่น อาวุธต่อต้านรถถัง Milan ซึ่งถูกใช้ในการทำลายรถถัง T-55 ของลิเบีย
สหรัฐอเมริกา สนับสนุนชาดผ่านทางอ้อม
ในบริบทสงครามเย็น สหรัฐอเมริกามองว่าโมอัมมาร์ กัดดาฟี (Muammar Gaddafi) ผู้นำลิเบีย เป็นภัยคุกคามที่ต้องควบคุม
- สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนชาดผ่านการช่วยเหลือทางการเงินและการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์
- การจัดส่งอาวุธให้กับชาด เช่น จรวดต่อต้านรถถัง FIM-92 Stinger และปืนกลขนาดเล็ก
สหภาพโซเวียต สนับสนุนลิเบีย
สหภาพโซเวียตซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของลิเบียในช่วงสงครามเย็น ให้การสนับสนุนด้านการทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ลิเบีย
- ส่งมอบรถถัง T-55, T-62 และยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ BMP-1 ให้กับลิเบีย
- ให้เครื่องบินรบ MiG-21, MiG-23 และ Su-22 รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศ
- มีที่ปรึกษาทางการทหารเพื่อช่วยฝึกอบรมกองทัพลิเบีย
มหาอำนาจอื่น ๆ ในภูมิภาค
อียิปต์และซูดาน:
- อียิปต์มีความกังวลต่อการขยายอิทธิพลของลิเบีย จึงให้การสนับสนุนชาดในบางโอกาส
- ซูดานซึ่งมีพรมแดนติดกับชาด ให้การสนับสนุนทางลอจิสติกส์แก่ฝ่ายชาดเพื่อสร้างสมดุลในภูมิภาค
สงครามโตโยต้า (The Toyota War)
...เขียนโดย ChatGPT...
สงครามโตโยต้า (The Toyota War)
สงครามโตโยต้า (The Toyota War) เป็นชื่อเรียกของความขัดแย้งทางทหารที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศลิเบียและชาดในปี พ.ศ. 2529–2530 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามชาด-ลิเบียที่ดำเนินต่อเนื่องมานานหลายทศวรรษ สงครามในช่วงนี้มีลักษณะเด่นที่ทำให้ได้รับชื่อว่า "สงครามโตโยต้า" เนื่องจากกองกำลังของชาดใช้รถกระบะโตโยต้ารุ่น Hilux และ Land Cruiser อย่างแพร่หลายในการทำสงคราม โดยดัดแปลงรถกระบะเหล่านี้ให้ติดตั้งอาวุธต่าง ๆ เช่น ปืนกลหนักและจรวดต่อต้านรถถัง ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและมีความคล่องตัวสูงในภูมิประเทศทะเลทราย
การต่อสู้ในสงครามนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบริเวณแถบทะเลทรายที่เรียกว่าแถบอูซู (Aouzou Strip) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีข้อพิพาทระหว่างสองประเทศ ชาดได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ลิเบียภายใต้การนำของมูอัมมาร์ กัดดาฟี มีเป้าหมายที่จะขยายอิทธิพลของตนในภูมิภาคแอฟริกาเหนือและกลาง
มูอัมมาร์ กัดดาฟี
พื้นที่ขัดแย้ง
กองกำลังของชาดซึ่งมีทรัพยากรจำกัดแต่มีความเชี่ยวชาญในเชิงกลยุทธ์ สามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อกองทัพลิเบียที่มีขนาดใหญ่กว่าและใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า ด้วยการใช้ยุทธวิธีโจมตีและถอนตัวอย่างรวดเร็ว (hit-and-run tactics) โดยใช้รถโตโยต้าเป็นฐานปฏิบัติการเคลื่อนที่ ส่งผลให้ลิเบียสูญเสียกองกำลังจำนวนมาก และในที่สุดต้องถอนตัวออกจากแถบอูซูในปี พ.ศ. 2530
บทนำสู่สงคราม
สงครามโตโยต้า (The Toyota War) เป็นผลพวงของความขัดแย้งที่ยาวนานระหว่างลิเบียและชาด ซึ่งมีรากฐานมาจากข้อพิพาทเกี่ยวกับแถบอูซู (Aouzou Strip) ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนที่อุดมไปด้วยทรัพยากร เช่น ยูเรเนียม ลิเบียอ้างสิทธิ์ในพื้นที่นี้โดยอ้างสนธิสัญญาชายแดนฝรั่งเศส-อิตาลีในปี ค.ศ. 1935 แต่ชาด ซึ่งได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2503 ปฏิเสธการอ้างสิทธิ์ดังกล่าว ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นในปี พ.ศ. 2522–2525 เมื่อกองกำลังลิเบียเข้าไปสนับสนุนกลุ่มกบฏในชาด และสามารถยึดครองพื้นที่ตอนเหนือของประเทศได้สำเร็จ
การเผชิญหน้าทางทหารระหว่างทั้งสองประเทศทวีความเข้มข้นในปี พ.ศ. 2526–2527 โดยลิเบียสนับสนุนรัฐบาลของโกกูนี อูไวดเด (Goukouni Oueddei) ในขณะที่ฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาสนับสนุนฝ่ายต่อต้านนำโดยฮิสเซน ฮาเบร (Hissène Habré) ในที่สุด กองกำลังของฮาเบรได้รับชัยชนะในปี พ.ศ. 2526 และเริ่มต่อต้านการยึดครองของลิเบียในแถบอูซู
ฮิสเซน ฮาเบร (Hissène Habré)
โกกูนี อูไวดเด (Goukouni Oueddei)
รายละเอียดของการสู้รบ
สงครามในช่วงปี พ.ศ. 2529–2530 ได้รับการขนานนามว่า “สงครามโตโยต้า” เนื่องจากกองกำลังของชาดใช้รถกระบะโตโยต้าดัดแปลงติดอาวุธอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะรุ่น Hilux และ Land Cruiser ซึ่งถูกดัดแปลงเพื่อติดตั้งอาวุธ เช่น ปืนกลหนัก จรวดต่อต้านรถถัง และเครื่องยิงจรวดแบบหลายลำกล้อง
การสู้รบสำคัญเกิดขึ้นในหลายจุด ได้แก่
ยุทธการที่ฟาดา (Battle of Fada) ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2529 กองกำลังของชาดซึ่งใช้รถกระบะโตโยต้าเป็นฐานการโจมตี สามารถทำลายยานเกราะของลิเบียได้หลายสิบคัน พร้อมกับสังหารทหารลิเบียจำนวนมาก
สถานที่: เมืองฟาดา ทางตอนเหนือของชาด
รายละเอียด:
ยุทธการที่ฟาดาเป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญที่แสดงถึงความเหนือกว่าของยุทธวิธีเคลื่อนที่รวดเร็วของกองกำลังชาด กองกำลังชาดภายใต้การนำของประธานาธิบดีฮิสเซน ฮาเบร ใช้รถกระบะโตโยต้าดัดแปลงติดอาวุธในการโจมตีกองทัพลิเบียซึ่งมีรถถังและยานเกราะหนักจำนวนมาก
การสู้รบดำเนินไปอย่างดุเดือด โดยกองกำลังชาดใช้ยุทธวิธีโจมตีแบบสายฟ้าแลบ (blitzkrieg tactics) เจาะจุดอ่อนของแนวป้องกันลิเบีย ทหารลิเบียสูญเสียยานเกราะประมาณ 78 คัน รวมถึงรถถัง T-55 และยานลำเลียงพลหุ้มเกราะอีกหลายคัน นอกจากนี้ยังมีทหารลิเบียเสียชีวิตกว่า 1,000 นาย
ผลลัพธ์:
ชัยชนะของชาดที่ฟาดาทำให้ลิเบียต้องล่าถอยและสูญเสียอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความพ่ายแพ้ต่อเนื่องของลิเบียในสงครามนี้
ยุทธการที่อูซู (Battle of Aouzou) ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2530 ชาดเปิดฉากโจมตีแถบอูซูที่ถูกลิเบียยึดครอง กองกำลังชาดที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วสามารถต้านทานกองกำลังลิเบียได้ แม้ลิเบียจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า
สถานที่: แถบอูซู (Aouzou Strip) ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างชาดและลิเบีย
รายละเอียด:
แถบอูซูเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ลิเบียเข้ายึดครองมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 กองกำลังชาดเปิดฉากโจมตีอย่างหนักเพื่อยึดพื้นที่คืน การรบในยุทธการนี้ใช้ยุทธวิธีเคลื่อนที่รวดเร็วเช่นเดิม กองกำลังชาดสามารถบุกเข้าแนวป้องกันของลิเบียซึ่งใช้กำลังพลและยุทโธปกรณ์หนักสร้างแนวป้องกัน
การสู้รบครั้งนี้ทำให้ลิเบียสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก รวมถึงยานเกราะและอาวุธหนักหลายรายการ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ในแถบอูซูยืดเยื้อ และลิเบียพยายามใช้เครื่องบินรบโจมตีกองกำลังชาด แต่การป้องกันที่มีประสิทธิภาพของชาดทำให้ลิเบียไม่สามารถยึดพื้นที่คืนได้
ผลลัพธ์:
กองกำลังชาดประสบความสำเร็จในการยึดแถบอูซูคืนและสร้างขวัญกำลังใจให้กองทัพอย่างมาก
Aouzou Strip
ยุทธการที่มาทาน อาซัล (Battle of Maaten al-Sarra) ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2530 ชาดเปิดการโจมตีทางใต้ของลิเบีย โดยกองกำลังรถกระบะโจมตีฐานที่มั่นลิเบียและทำลายยานเกราะจำนวนมาก
สถานที่: ฐานทัพลิเบียที่มาทาน อาซัล ใกล้ชายแดนลิเบีย-ชาด
รายละเอียด:
ยุทธการนี้ถือเป็นการโจมตีที่ทะเยอทะยานที่สุดของกองกำลังชาด ซึ่งรุกล้ำเข้าไปในดินแดนลิเบียเพื่อโจมตีฐานที่มั่นสำคัญ กองกำลังชาดใช้รถกระบะโตโยต้าติดอาวุธโจมตีฐานทัพอย่างรวดเร็วและจัดการทำลายแนวป้องกันของลิเบีย ฐานที่มั่นของลิเบียถูกยึดครองและกำลังพลลิเบียถูกสังหารหรือถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก
ลิเบียพยายามตอบโต้ด้วยการส่งกำลังเสริมและใช้เครื่องบินรบ แต่การโจมตีทางอากาศไม่สามารถหยุดยั้งการรุกของชาดได้
ผลลัพธ์:
กองกำลังชาดประสบความสำเร็จในการทำลายฐานทัพสำคัญของลิเบีย ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อขวัญกำลังใจของลิเบียและนำไปสู่การเจรจาหยุดยิงในที่สุด
Maaten al-Sarra
กำลังรบก่อนสงคราม
ก่อนเริ่มต้นสงครามโตโยต้า (ช่วงปี พ.ศ. 2529–2530) กำลังรบของลิเบียและชาดมีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านขนาดและทรัพยากร
ลิเบีย
กำลังพล: ประมาณ 25,000 นายที่ถูกส่งมายังพื้นที่สงคราม
ยุทโธปกรณ์:
- รถถังและยานเกราะหนักกว่า 1,500 คัน รวมถึงรถถัง T-55 และ T-62
- ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ BMP-1
- เครื่องบินรบ เช่น MiG-21, MiG-23, และ Su-22
- ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัย
- การสนับสนุนโลจิสติกส์ขนาดใหญ่และฐานทัพในพื้นที่พิพาท
ชาด
กำลังพล: ประมาณ 10,000 นาย แต่ส่วนใหญ่เป็นกองกำลังท้องถิ่นและอาสาสมัคร
ยุทโธปกรณ์:
- รถกระบะโตโยต้า (Toyota Hilux และ Land Cruiser) จำนวนประมาณ 400 คัน ซึ่งดัดแปลงติดตั้งปืนกลหนัก จรวดต่อต้านรถถัง และปืนครก
- ไม่มีรถถังหรือยานเกราะหนัก
- ไม่มีเครื่องบินรบ แต่ได้รับการสนับสนุนด้านการลาดตระเวนทางอากาศจากฝรั่งเศส
- ยุทธวิธีที่เน้นความคล่องตัวและการโจมตีแบบฉับพลัน
ความสูญเสียในสงครามโตโยต้า
ลิเบีย
กำลังพล: ทหารเสียชีวิตประมาณ 7,500 นาย
ยุทโธปกรณ์ที่สูญเสีย:
- รถถังและยานเกราะหนักกว่า 1,500 คัน
- เครื่องบินรบ 30 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิด
- ฐานทัพและคลังอาวุธสำคัญถูกทำลายหลายแห่ง
ชาด
กำลังพล: ทหารเสียชีวิตประมาณ 1,000 นาย
ยุทโธปกรณ์ที่สูญเสีย:
- รถกระบะโตโยต้าบางส่วน แต่ไม่มีข้อมูลแน่ชัดถึงจำนวนที่เสียหาย
บทบาทของประเทศมหาอำนาจในสงครามโตโยต้า
สงครามโตโยต้า (พ.ศ. 2529–2530) ไม่ได้เป็นเพียงความขัดแย้งระหว่างชาดและลิเบียเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของประเทศมหาอำนาจในช่วงสงครามเย็นที่ใช้ความขัดแย้งในภูมิภาคเป็นสนามแข่งขันทางอิทธิพลระหว่างกัน
ฝรั่งเศส สนับสนุนชาด
ฝรั่งเศสซึ่งเคยเป็นเจ้าอาณานิคมของชาด ถือว่าชาดเป็นส่วนสำคัญของผลประโยชน์ในแอฟริกา ดังนั้น ฝรั่งเศสจึงให้การสนับสนุนทางการเมือง การทหาร และข่าวกรองแก่ชาดในสงคราม
- ส่งกำลังทหารภายใต้ปฏิบัติการ Épervier เพื่อสนับสนุนรัฐบาลของฮิสเซน ฮาเบร (Hissène Habré)
- ให้ความช่วยเหลือด้านข่าวกรอง เช่น การเฝ้าระวังทางอากาศและการประเมินการเคลื่อนไหวของกองทัพลิเบีย
- สนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ เช่น อาวุธต่อต้านรถถัง Milan ซึ่งถูกใช้ในการทำลายรถถัง T-55 ของลิเบีย
สหรัฐอเมริกา สนับสนุนชาดผ่านทางอ้อม
ในบริบทสงครามเย็น สหรัฐอเมริกามองว่าโมอัมมาร์ กัดดาฟี (Muammar Gaddafi) ผู้นำลิเบีย เป็นภัยคุกคามที่ต้องควบคุม
- สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนชาดผ่านการช่วยเหลือทางการเงินและการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์
- การจัดส่งอาวุธให้กับชาด เช่น จรวดต่อต้านรถถัง FIM-92 Stinger และปืนกลขนาดเล็ก
สหภาพโซเวียต สนับสนุนลิเบีย
สหภาพโซเวียตซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของลิเบียในช่วงสงครามเย็น ให้การสนับสนุนด้านการทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ลิเบีย
- ส่งมอบรถถัง T-55, T-62 และยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ BMP-1 ให้กับลิเบีย
- ให้เครื่องบินรบ MiG-21, MiG-23 และ Su-22 รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศ
- มีที่ปรึกษาทางการทหารเพื่อช่วยฝึกอบรมกองทัพลิเบีย
มหาอำนาจอื่น ๆ ในภูมิภาค
อียิปต์และซูดาน:
- อียิปต์มีความกังวลต่อการขยายอิทธิพลของลิเบีย จึงให้การสนับสนุนชาดในบางโอกาส
- ซูดานซึ่งมีพรมแดนติดกับชาด ให้การสนับสนุนทางลอจิสติกส์แก่ฝ่ายชาดเพื่อสร้างสมดุลในภูมิภาค