คุ้มสีทอง (บทที่ 20)

ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ jazzzero, คุณลิ ลายลิขิต, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ เปรียว sixtyone, น้องดาว Lady Star 919, คุณนัน turtle_cheesecake, จารย์จี GTW, คุณ เด็กดื้อหัวกลม, คุณ เป่าชาง, คุณ อุรุเวลา, คุณป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ nasa nasa, คุณ สมาชิกหมายเลข 1065771 ถูกใจ
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ

บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ - บทที่ 1  http://ppantip.com/topic/35939682
บทที่ 2   http://ppantip.com/topic/35949094
บทที่ 3   http://ppantip.com/topic/35952735
บทที่ 4   http://ppantip.com/topic/35959348
บทที่ 5   http://ppantip.com/topic/35965068
บทที่ 6   https://ppantip.com/topic/35967281
บทที่ 7   https://ppantip.com/topic/35972274
บทที่ 8   https://ppantip.com/topic/35978915
บทที่ 9   https://ppantip.com/topic/35985669
บทที่ 10 https://ppantip.com/topic/35992032
บทที่ 11 https://ppantip.com/topic/35999142
บทที่ 12 https://ppantip.com/topic/36005614
บทที่ 13 https://ppantip.com/topic/36008955
บทที่ 14 https://ppantip.com/topic/36015042
บทที่ 15 https://ppantip.com/topic/36022170
บทที่ 16 https://ppantip.com/topic/36025947
บทที่ 17 https://ppantip.com/topic/36032009
บทที่ 18 https://ppantip.com/topic/36038614
บทที่ 19 https://ppantip.com/topic/36045647


บทที่ 20



มีเสียงรถยนต์มาจากภายนอก ปณิตาได้ยินชัดเจน จึงรีบผละออกห่างจากบานประตูราวเป็นของร้อนจัด เลื่อนตัวเชื่องช้าเลียบผนังห้องไปทางฝั่งขวา ย่องแต่ละก้าวอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยเกรงว่าความเคลื่อนไหวแม้เพียงน้อยนิดก็อาจเรียกความสนใจจากชายหนุ่มหญิงสาวที่ยังคงยื้อยุดกันอยู่กลางห้อง แม้เวลานี้จะแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครเห็นเธอก็ตาม แต่ในเมื่อเห็นทั้งคู่ชัดเจนออกอย่างนี้ จึงยังทำใจให้เชื่อได้ยากว่าอีกฝ่ายจะไม่เห็นตัวเองด้วยเช่นกัน

เงี่ยหูฟังสรรพสำเนียงภายนอกไปด้วย สงสัยว่าใครขับรถมาถึงบ้านทรงชาเลต์หลังนี้ นับแต่มาอาศัยอยู่ที่นี่ ยังไม่เคยเห็นใครขับรถเข้ามาจนถึงที่นี่เลยสักครั้ง แม้แต่นายจ้างซึ่งเป็นเจ้าของแท้ๆ ก็ยังเดินมา ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเสียงที่ได้ยินเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ที่กำลังเห็นหรือไม่ รู้แต่ว่าได้ยินชัดเจน และรถคันนั้นก็มาจอดที่หน้าประตูบ้านนี่เอง

คำอุทานของหญิงสาวซึ่งยังเกาะเหนี่ยวชายหนุ่มกลางห้องโถงช่วยให้รู้ว่าหล่อนก็ได้ยินเช่นกัน

"คมแน่ๆ ค่ะพี่เขต"

น้ำเสียงที่ใช้ไม่ส่อเค้าว่ามีกังวลแม้แต่น้อย ประโยคต่อมาบ่งชัดว่าทำไม

"ดีเหมือนกันนะคะ จะได้บอกให้คมรู้เสียเลย ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว"

เขตกลับเป็นฝ่ายลังเล สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไรนัก

"อย่าเพิ่งตอนนี้เลย"

เขาดันให้หญิงสาวออกห่างตัว แล้วหมุนร่างบอบบางไปทางบันไดขึ้นชั้นบน

"ณัฐขึ้นไปใส่เสื้อผ้าให้ดีกว่านี้หน่อยเถอะ อย่าให้คมมาเห็นว่าแต่งตัวแบบนี้เลย ไม่ดีหรอก"

แต่อีกฝ่ายก็ยังอิดเอื้อน ยังคงขืนตัวไว้

"แหม! พี่เขตคะ อย่างกับว่าคมไม่เคย..." หล่อนละไว้เพียงเท่านั้นแล้วหัวเราะเสียงใสชอบอกชอบใจ

ทั้งคู่ยื้อยุดกันอยู่อีกพัก จนมีเสียงกุกกักก่อนบานประตูจะเปิดออกกว้าง เรือนร่างค่อนไปทางสูงของชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบปลายๆ หรือไม่ก็ต้นสามสิบหยุดชะงักอยู่เพียงแค่นั้นเมื่อเห็นว่ามีใครอยู่ในห้องก่อนแล้ว

ปณิตาจำเขาได้ คุณคมมีเค้าหน้าของคุณเขต แต่ไม่เข้มเท่า คงเป็นเพราะผิวที่ขาวจัด แม้ดูสะอาดสะอ้าน หากก็จืดชืดไปนิด องค์ประกอบของใบหน้าก็ไม่โดดเด่นเท่า ผมยาวปรกหน้าตาตามสมัยนิยม รูปหน้าคล้ายพี่ แต่ดูบอบบางและดูอ่อนเยาว์กว่ามาก

เขายืนตะลึงจ้องมองชายหนุ่มหญิงสาวตรงหน้าเหมือนพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เห็น  

ปณิตาถอยกรูดไปจนชนผนังห้อง จึงได้สังเกตเห็นว่ามีแสงสว่างส่องผ่านเข้ามาจากภายนอก หน้าต่างด้านนี้เปิดตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ พอเห็นว่ามันเปิดอยู่ก็มองออกไปตามสัญชาตญาณ ใจหายเมื่อเห็นหลังของลุงคำผากำลังเดิมดุ่มๆ ห่างออกไป คิดจะร้องเรียกเอาไว้แต่ก็ไม่กล้า ตอนนี้ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่หายใจก็ยังเกรงว่าจะก่อให้เกิดเสียงดังเกินไปเสียด้วยซ้ำ

ระทึกขวัญยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อตระหนักว่ากำลังอยู่ตามลำพังท่ามกลางผู้คนซึ่งรู้อยู่เต็มอกว่าตายกันไปหมดแล้ว มีก็เพียงนายจ้างหนุ่มใหญ่ของตัวคนเดียวเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่เขาที่เห็นก็คงเป็นเขาในอดีต ที่เป็นคนจริงๆ คือลุงคำผาก็กำลังจะไปจากเรือนหลังนี้เสียแล้ว

พอคิดได้อย่างนั้นก็หันขวับกลับมาที่ประตูซึ่งคนเพิ่งมาถึงยืนคาอยู่ นั่นเป็นทางออกใกล้ที่สุดเท่าที่มองเห็น

แต่ก็เอาอีกแล้ว ภายในห้องกลับมืดสลัวลงอีก ประตูบานนั้นปิดสนิทตามเดิม รอบตัวไม่เหลือใครให้เห็นแม้แต่คนเดียว เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นก็หายไป เหลือเพียงความว่างเปล่าและรกร้าง เหมือนที่เข้ามาเห็น

ครูสาวไม่คิดอะไรอีกแล้ว จ้ำพรวดๆ ขึ้นบันไดไปชั้นบน

ชั้นบนของบ้านทรงชาเลต์มืดทึม แม้จะมีแสงแดดส่องผ่านกระจกทรงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่เข้ามาบ้าง หากก็มัวซัวเต็มที โล่งอกไปนิดเมื่อขึ้นบันไดมาได้โดยไม่มีอะไรชวนผวามาขัดจังหวะเสียก่อน ครูสาวตรงรี่ไปที่ห้องอาหาร ใจหายใจคว่ำไปตลอดทางว่าประตูออกไปที่ระเบียงภายนอกของชั้นนี้อาจถูกปิดล็อกไปด้วย

ผ่อนลมหายใจพรืดอย่างโล่งอกเมื่อเปิดประตูออกมาได้

ระเบียงด้านข้างของชั้นบนพังไปแถบหนึ่งเพราะกิ่งรังยังคงพาดอยู่กับราวเช่นเดิม เธอเบียดตัวลีบเลียบฝาเรือนผ่านไป พออ้อมมุมมาทางด้านหน้าก็อดเหลียวมองผ่านกระจกสูงเข้าไปภายในไม่ได้ เย็นเยือกตลอดสันหลังเมื่อเห็นร่างดำมืดทะมึนยืนตะคุ่มๆ ลึกเข้าไป เขากำลังมองตอบกลับมา แม้รอบด้าน…รวมทั้งตัวเขาเองด้วย…จะดูเลือนๆ เพราะความมืด หากเธอกลับเห็นใบหน้างดงามเหลือเชื่อนั้นชัดเจน

สบนัยน์ตาคู่คมกริบเข้าอย่างจัง ตาคู่นั้นจ้องมองออกมาราวกำลังส่งผ่านความคิดที่ว่าเห็นแล้วใช่ไหมว่าคุณเขตผู้น่านับถือของเธอเป็นคนเช่นไร

น่าแปลกที่คราวนี้ปณิตาไม่รู้สึกกลัวเขาเหมือนที่ผ่านๆ มา พอเดาได้ว่าต้องเป็นเขานี่เองที่เป็นคนนำเธอมาที่นี่...โดยผ่านลุงคำผาอย่างนั้นหรือ และเขานำเธอมาเพื่อให้ได้เห็นอะไรต่ออะไรซึ่งเขาคงคิดว่าเธอควรรู้เอาไว้ก่อนจะสายเกินไป

...แต่จะรู้เพื่ออะไรกัน และเธอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตอย่างชัดเจนขนาดนั้นได้อย่างไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่