คุ้มสีทอง (บทที่ 22)

ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ jazzzero, คุณ อุรุเวลา, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณดาว Lady Star 919, คุณ สมาชิกหมายเลข 1065771, คุณ เด็กดื้อหัวกลม ถูกใจ, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, จารย์จี GTW, คุณลิ ลายลิขิต, คุณ เป่าชาง, คุณออม ออมอำพัน, คุณ nasa nasa
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ


บทก่อนๆ ค่ะ
บทที่ 10 https://ppantip.com/topic/35992032
บทที่ 11 https://ppantip.com/topic/35999142
บทที่ 12 https://ppantip.com/topic/36005614
บทที่ 13 https://ppantip.com/topic/36008955
บทที่ 14 https://ppantip.com/topic/36015042
บทที่ 15 https://ppantip.com/topic/36022170
บทที่ 16 https://ppantip.com/topic/36025947
บทที่ 17 https://ppantip.com/topic/36032009
บทที่ 18 https://ppantip.com/topic/36038614
บทที่ 19 https://ppantip.com/topic/36045647
บทที่ 20 https://ppantip.com/topic/36052025
บทที่ 21 https://ppantip.com/topic/36057918


บทที่ 22



     "ผมคงต้องขอความช่วยเหลือคุณอีกแล้วล่ะต้า มีหมออเมริกันมาร่วมประชุมแพทย์ที่กรุงเทพ ผมพยายามขอให้เขาขึ้นมาที่นี่เพื่อจะได้ตรวจนนท์ คนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับที่เคยเล่าให้คุณฟังหรอกนะ แต่ก็เอาเถอะ คนที่โน่นที่ผมติดต่อไปเขาว่าคนนี้ก็ใช้ได้เหมือนกัน"

    คิ้วเรียวบนใบหน้าใสๆ ของครูสาวขมวดมุ่นเข้าหากัน ทำให้นายจ้างหนุ่มใหญ่เข้าใจไปอีกทาง

    "จำได้ไหมเรื่องหมอที่เคยเล่าให้ฟังน่ะ"

    "จะ…จำได้ค่ะ" เธอรีบตอบรับเพื่อปัดเรื่องให้พ้นตัวไปชั่วครั้งชั่วคราว ที่จริงไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกที่กำลังอัดแน่นอยู่ในสมองเวลานี้

    "นั่นล่ะ…ผมคงต้องไปเจรจากับเขาแล้วพาเขามาจากกรุงเทพด้วยตัวเอง ตามกำหนดการของเขา เขามาเสนองานวิจัยแล้วก็จะกลับสหรัฐเลย ให้คุณวารีเจรจาขอให้เขาขึ้นมาดูนนท์สักวัน แต่ดูท่าว่าจะไม่ได้เรื่อง ผมก็เลยคิดว่าจะลงไปกรุงเทพเพื่อเจอเขาด้วยตัวเอง จะได้อธิบายสภาพของนนท์ให้เขาเข้าใจด้วย"

    ปณิตาสบตาป้าคำแปงที่ลอบมองมาเป็นระยะ คงสงสัยว่าทำไมนายจ้างหนุ่มกับครูของหลานเขาจึงมายืนคาประตูครัวคุยกันอย่างนี้ ที่อื่นไม่มีอีกแล้วหรือ หรือว่าเป็นเพราะแขกเต็มบ้าน เจ้าของบ้านจึงต้องมาสั่งงานลูกจ้างกันในครัว

ร่างสูงๆ ยืนพิงกรอบประตูครัว สองมือประสานกันที่แผ่นอก มีครูสาวยืนอยู่ตรงหน้า

    “แค่นั้นแหละที่อยากบอก ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเสียเปล่าๆ”

    เขาเตือนอย่างเป็นห่วงเป็นใยอีกครั้ง เห็นครูของหลานๆ เต็มตาเมื่อครู่ก็พอบอกได้ว่าคงลงไปเล่นน้ำมาทั้งชุดเสื้อผ้าที่สวม เสื้อนั้นแห้งสนิทแล้ว เพียงแต่ยังมีรอยยับย่นให้เห็นเป็นหลักฐาน กางเกงยังคงชื้นที่กระเป๋าหลัง ผมตัดสั้นแนบศีรษะนั้นยุ่งเหยิงทีเดียวแม้เจ้าตัวจะพยายามเสยไปข้างหลังหลายครั้งแล้วก็ตาม แล้วยังรองเท้าผ้าใบเปียกๆ ที่เธอใช้สองนิ้วคีบเข้ามาในบ้านอีก

    เขาออกปากเตือนว่าควรเปลี่ยนเสื้อไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่เธอบอกว่ากำลังพาเด็กๆ เข้านอนกลางวัน ให้หลับกันเสียก่อนแล้วจะขึ้นไปเปลี่ยน

    คราวนี้ปณิตารับคำอย่างว่าง่าย

    “ค่ะ คุณเขต”

    แต่เขาเองที่ยังไม่หมดเรื่องสั่งเสียทีเดียว

    "อ้อ! อีกอย่าง บอกต้าไว้เสียเลย คืนนี้คุณธนากับคุณสายสมรจะไปนอนที่โรงแรมพ่อเลี้ยงรังสรรค์"  

เขาหมายถึงโรงแรมชั้นหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ เจ้าของเป็นนายทุนรายใหญ่ซึ่งใครๆ ก็รู้จัก

"ผมต้องไปส่งแก พรุ่งนี้แกจะได้ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพแต่เช้า" รอยยิ้มจางๆ ปรากฏที่มุมปากเมื่อโพล่งประโยคต่อมา

"โล่งไป" คำพูดนั้นเบาลง มีเสียงหัวเราะปนอยู่ด้วย

    ปณิตาพลอยยิ้มตาม ถ้าไม่มีอะไรค้างคาอยู่ในใจอย่างเวลานี้ คุณเขตก็น่ารักดีอยู่หรอก

    "กำลังคิดอยู่ว่าส่งแกแล้วจะกลับคืนนี้เลยหรือเปล่า ถ้าไม่กลับก็คงค้างที่โรงแรมนั้นเหมือนกัน ถ้าได้ตั๋วก็ว่าจะไปเครื่องลำเดียวกับคุณธนาเสียเลย เพราะถ้ามัวแต่คอย กลัวว่าหมอคนนั้นเขาจะกลับอเมริกาไปเสียก่อน ถ้าคืนนี้ผมไม่กลับ ฝากต้าช่วยเตรียมตัวนนท์ด้วย แกไม่ค่อยได้เจอคนแปลกหน้าบ่อยนัก ผมไม่รู้ว่าแกจะมีปฏิกิริยายังไงถ้าเจอหมอคนนั้น ไม่รู้ด้วยว่าหมอจะตรวจแกยังไง จะทำให้แกกลัวหรือเปล่า เรื่องเกี่ยวกับเด็ก คุณคงรู้ดีกว่าผม"

    "ค่ะคุณเขต"

ครูสาวรับคำมั่นเหมาะ ก็ต้องรู้ดีกว่าสิ รู้ไม่รู้ก็ต้องบอกว่ารู้ไว้ก่อน ในเมื่อตอนสัมภาษณ์งานได้สร้างราคาคุยเอาไว้เยอะแยะแล้วอย่างนั้น

“ตกลงคุณธนาจะซื้อที่นี่หรือเปล่าคะ”

    ปล่อยให้เขาพูดคนเดียวอยู่นานก็กระไรอยู่ คิดว่าต้องถามอะไรบ้าง ไม่อย่างนั้นเขาอาจสงสัยว่าใจเธอลอยไปไหน ที่จริงก็ลอยไปไกลจริงนั่นแหละ ภาพแผ่นหลังของผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เห็นอยู่ชั้นเกือบบนสุดของน้ำตกยังตามหลอกหลอนไม่เลิก ไม่ใช่เรื่องที่ว่าคนๆ นั้นเป็นใครหรอก เธอแน่ใจทีเดียวแหละว่าเป็นคุณเขต แต่เขาขึ้นไปทำอะไรที่นั่นในเวลานั้น และเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของคุณคมและผู้ชายที่ชื่อน่านอย่างไร นี่สิที่เธอยังสงสัยไม่หาย    

    "คงจะซื้อนะผมว่า ดูท่าทางแกสนใจจริงๆ แต่ก็นั่นแหละ อะไรๆ เปลี่ยนแปลงได้ กลับถึงกรุงเทพแล้วแกอาจเปลี่ยนใจก็ได้ นี่เห็นว่าจะไปชักชวนพ่อเลี้ยงรังสรรค์ให้มาร่วมลงทุนด้วย แกคิดจะทำเป็นรีสอร์ต ผมก็เลยต้องรีบหาทางพานนท์ออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด คอยหมออีกคนที่ว่าเก่งกว่าคนนี้คงไม่ไหว ไม่รู้ว่าเขาจะมาเมืองไทยเมื่อไหร่"

    ใบหน้าคมคายมองผ่านหน้าต่างครัวออกไปภายนอก แม้จากด้านนี้จะมองไม่เห็นหลุมซึ่งเขาขุดไว้สำหรับลงฐานศาลพระภูมิก็ตาม

    “เรื่องตั้งศาลพระภูมิก็คงต้องพับไว้ก่อน ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอายังไง ว่าแต่ตอนนี้คุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อนเถอะ” สุดท้ายก็มาลงที่ครูของเด็กๆ อีกครั้ง

    เมื่อขึ้นบันไดไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อกางเกงตามที่นายจ้างบอก ก็สวนกับเด็กหนุ่มร่างผอมเกร็งกำลังหิ้วสัมภาระของ ‘หมอผี’ พะรุงพะรัง เธอยิ้มให้ด้วยความเห็นอกเห็นใจมากกว่าอะไรอื่น

ขึ้นถึงชั้นบนของบ้านก็เห็นความโกลาหลอลหม่านผิดกับชั้นล่าง เมื่อตกลงว่าจะไม่กินอาหารเย็นกันที่นี่เพราะคุณเขตต้องขับรถไปหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเชียงใหม่ ‘คณะพรรค’ จึงจะรีบออกเดินทางกันทันทีที่ทุกคนพร้อม พร้อมในที่นี้หมายถึงเก็บของลงกระเป๋าและขนขึ้นรถเรียบร้อย

คุณธนานั้นพร้อมนานแล้วเพราะคนซึ่งทำหน้าที่เก็บของลงกระเป๋าให้ทั้งแกและภรรยาคือน้อยและหญิงสาวซึ่งทำหน้าที่เลขาส่วนตัวของคุณสายสมร ลุงผันเป็นคนช่วยขนไปขึ้นรถ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่