ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, คุณ เจ้าหญิงงัวเงีย, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ ทบทวน จินตนา, คุณ jazzzero, คุณ อุรุเวลา, คุณ สมาชิกหมายเลข 1065771, คุณ เด็กดื้อหัวกลม, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณลิ ลายลิขิต, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, จารย์จี GTW, คุณออม ออมอำพัน, คุณ เป่าซาง, คุณ nasa nasa
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ - บทที่ 1
http://ppantip.com/topic/35939682
บทที่ 2
http://ppantip.com/topic/35949094
บทที่ 3
http://ppantip.com/topic/35952735
บทที่ 4
http://ppantip.com/topic/35959348
บทที่ 5
http://ppantip.com/topic/35965068
บทที่ 6
https://ppantip.com/topic/35967281
บทที่ 7
https://ppantip.com/topic/35972274
บทที่ 8
https://ppantip.com/topic/35978915
บทที่ 9
https://ppantip.com/topic/35985669
บทที่ 10
https://ppantip.com/topic/35992032
บทที่ 11
https://ppantip.com/topic/35999142
บทที่ 12
https://ppantip.com/topic/36005614
บทที่ 13
https://ppantip.com/topic/36008955
บทที่ 14
https://ppantip.com/topic/36015042
บทที่ 15
https://ppantip.com/topic/36022170
บทที่ 16
https://ppantip.com/topic/36025947
บทที่ 17
https://ppantip.com/topic/36032009
บทที่ 18
ครูสาวแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อมองออกมาจากหน้าต่างห้องเรียนของเด็กๆ แล้วเห็นนายจ้างของตัวเองกำลังขุดดิน บริเวณนั้นอยู่ไกลตัวบ้านออกไปค่อนข้างมาก หากก็พอเห็นร่างสูงๆ ในชุดกางเกงยีนเก่าๆ เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว กับจอบด้ามยาวที่เงื้อขึ้นสูงเหนือศีรษะแล้วเหวี่ยงลงบนพื้นดินอย่างได้จังหวะจะโคน ดูเพลินเลยทีเดียวเมื่อยืนมองนานๆ ลุงคำผาอยู่ที่นั่นด้วย แกได้แต่ยืนดูเฉยๆ เพราะแก่เกินกว่าจะออกแรงขนาดนั้นแล้ว
เมื่อหันกลับมาทางเด็กๆ ก็เห็นนิพาดายังคงก้มหน้าก้มตาคัดตัวพยัญชนะตามรอยเส้นประในสมุดคัดลายมือ ส่วนนนท์กำลังทำโจทย์เลขคูณและหาร นั่นเป็นความสามารถพิเศษอีกอย่างของเด็กชายซึ่งปณิตาเพิ่งค้นพบ นนท์คิดเลขได้รวดเร็วเกินเด็กวัยเดียวกัน เพียงเธอสอนวิธีคิดคร่าวๆ ให้เท่านั้น แกก็ลงมือทำได้เองในทันที และจะคิดเลขได้เป็นชั่วโมงๆ ขนาดตั้งโจทย์ให้ไม่ทันเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นยังไม่เคยเห็นคำตอบที่แกคิดออกมาจะผิดเลยแม้แต่ครั้งเดียว คิดว่าเหตุหนึ่งซึ่งช่วยให้แกทำสิ่งที่สนใจได้ดีกว่าคนทั่วไปก็เพราะแกมีสมาธิเป็นเลิศ ถ้าลงมือทำอะไรสักอย่างแล้วไม่มีอะไรทำให้หลานชายคนโตของคุณเขตวอกแวกได้เลย
เสียงฟ้าคำรามมาแต่ไกล เมฆฝนตั้งเค้ารวดเร็วทั้งๆ ที่เมื่อครู่ไม่มีวี่แววเลยแม้แต่น้อย แหงนขึ้นดูผ่านชายคาบ้านก็เห็นเมฆก้อนใหญ่สีคล้ำเคลื่อนเข้าปกคลุมทั้งผืนฟ้า บางก้อนลอยต่ำจนดูน่ากลัว แน่ใจว่าฝนคงลงเม็ดในไม่ช้านี้ รู้สึกถึงลมฝนเย็นๆ พัดแผ่วเบาผ่านผิวหน้า และดูเหมือนจะแรงขึ้นทุกขณะ จนในที่สุดก็แรงขนาดกวาดเอาฝุ่นคลุ้งไปทั่วสนามหญ้าหน้าบ้าน
ไม่นานเห็นน้อยเดินเกือบเหมือนวิ่งฝ่ากระแสลมและละอองฝุ่นตรงไปหาผู้เป็นเจ้าของบ้าน เห็นทั้งคู่ยืนเจรจากันครู่หนึ่ง จากระยะที่เธอยืนนี้ไกลเกินกว่าจะได้ยินว่าพูดอะไรกันบ้าง แต่ก็เห็นเขาทิ้งจอบแล้วก้าวยาวๆ นำลิ่วมาทางตัวบ้าน คิดว่าคงใกล้เวลาอาหารกลางวันแล้วกระมัง เธอรับเอาหน้าที่ดูแลเรื่องจัดอาหารกลางวันให้เด็กๆ มาเป็นของตัวเองตั้งแต่วันแรกๆ ที่มาอยู่ที่นี่แล้ว
เหลียวกลับมาดูหลานชายเจ้าของบ้านอีกครั้ง เห็นกำลังขีดอะไรบางอย่างลงบนสมุด จึงออกปากสั่งเด็กหญิงผู้เป็นน้องสาว
"นิพดูพี่นนท์ด้วยนะคะ พี่ต้าจะไปดูป้าแกหน่อย แกคงเตรียมข้าวกลางวันไว้ให้แล้ว"
จากห้องเรียนของเด็กไปห้องเตรียมอาหารต้องผ่านห้องรับแขก พอเปิดประตูออกมาได้ไม่กี่ก้าวก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มๆ เอ่ยชื่อเธอ เสียงนั้นฟังดูเคร่งเครียด
"…ไม่ใช่คุณต้าหรอกนิด คุณต้าไม่ใช่คนแบบนั้น พี่รับรอง"
เมื่อเขาเงียบไปครู่หนึ่ง คงกำลังฟังอีกด้านของสาย ครูสาวจึงตัดสินใจจรดฝีเท้าย่องเงียบกริบผ่านไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปดู ได้ยินเสียงของ ‘เขา’ ไล่ตามหลังมาด้วย
"…พี่ก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าไม่ใช่คุณต้าแน่นอน…เอาเถอะ อย่าให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีกเลย นิดกลับกรุงเทพไปก่อน พี่จะโทรไปจองตั๋วเครื่องบินให้...พี่ยังไปไหนไม่ได้” ประโยคหลังฟังดูเหนื่อยหน่าย
“…มะรืนนี้ก็จะตั้งศาลพระภูมิแล้ว นี่ก็กำลังคอยคนงานขนศาลพระภูมิที่เมื่อวานไปจองไว้มาส่ง"
เขตมองตามคนที่กำลังเดินตัวลีบผ่านไปทางหลังบ้านจนลับตา รำคาญทั้งเสียงแหลมๆ ที่กำลังปรักปรำใครต่อใครให้ทั่วไปหมด รวมทั้งเสียงครืดคราดที่มาตามสายโทรศัพท์เป็นระยะ เริ่มจากสั้นๆ ขาดหายไปเป็นช่วงๆ แล้วชักจะยาวขึ้นทุกที จึงฉวยโอกาสยกเอาเรื่องนั้นขึ้นมาเป็นข้ออ้าง
"โทรศัพท์เป็นอะไรก็ไม่รู้ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พี่วางหูก่อน จะโทรไปจองตั๋วเครื่องบินให้นิดเดี๋ยวนี้เลยครับ"
เสียงแหวตอบกลับมาอย่างไม่ชอบอกชอบใจ
"นิดยังไม่กลับค่ะพี่เขต” หล่อนยืนยันหนักแน่น “เมื่อกี้นิดโทรไปคุยกับแม่ แม่บอกว่ามีหมอที่แม่รู้จัก แกเก่งเรื่องนี้ นิดจะโทรกลับไปบอกแม่ว่าให้ติดต่อหมอคนที่ว่านั่น ถ้าพี่เขตยืนยันว่าไม่ใช่..."
เสียงครืดคราดดังแทรกเข้ามาจนคำพูดของหญิงสาวขาดเป็นช่วงๆ
"…ครูของเด็กๆ...นิดก็จะ...แม่...พามา..."
"นิด...ว่าไงนะ...พูดใหม่ซิ"
"นิดว่า...แม่จะพา...มาเอง…"
อยู่ดีๆ สายก็ตัดไปเสียเฉยๆ พร้อมกับฝนที่เริ่มเทลงมาอย่างรุนแรง
เขตวางหูโทรศัพท์กลับลงเครื่องอย่างขัดอกขัดใจกับความวุ่นวายไม่รู้จบของครอบครัวคุณธนา ทั้งพ่อทั้งแม่ของธนิดาทำทุกวิถีทางให้เขาลงเอยกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนจนบางครั้งก็น่ารำคาญ ตัวเขาเองมองไม่เห็นว่าจะแต่งงานอยู่กินกับผู้หญิงคนนั้นได้อย่างไร ไม่ใช่เพราะหล่อนเคยแต่งงานแล้วหย่ามาก่อน แต่เป็นเพราะไม่มีอะไรแม้แต่อย่างเดียวในตัวหล่อนที่เขารับได้นั่นต่างหาก
คุ้มสีทอง (บทที่ 18)
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, คุณ เจ้าหญิงงัวเงีย, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ ทบทวน จินตนา, คุณ jazzzero, คุณ อุรุเวลา, คุณ สมาชิกหมายเลข 1065771, คุณ เด็กดื้อหัวกลม, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณลิ ลายลิขิต, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, จารย์จี GTW, คุณออม ออมอำพัน, คุณ เป่าซาง, คุณ nasa nasa
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ - บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/35939682
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/35949094
บทที่ 3 http://ppantip.com/topic/35952735
บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/35959348
บทที่ 5 http://ppantip.com/topic/35965068
บทที่ 6 https://ppantip.com/topic/35967281
บทที่ 7 https://ppantip.com/topic/35972274
บทที่ 8 https://ppantip.com/topic/35978915
บทที่ 9 https://ppantip.com/topic/35985669
บทที่ 10 https://ppantip.com/topic/35992032
บทที่ 11 https://ppantip.com/topic/35999142
บทที่ 12 https://ppantip.com/topic/36005614
บทที่ 13 https://ppantip.com/topic/36008955
บทที่ 14 https://ppantip.com/topic/36015042
บทที่ 15 https://ppantip.com/topic/36022170
บทที่ 16 https://ppantip.com/topic/36025947
บทที่ 17 https://ppantip.com/topic/36032009
ครูสาวแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อมองออกมาจากหน้าต่างห้องเรียนของเด็กๆ แล้วเห็นนายจ้างของตัวเองกำลังขุดดิน บริเวณนั้นอยู่ไกลตัวบ้านออกไปค่อนข้างมาก หากก็พอเห็นร่างสูงๆ ในชุดกางเกงยีนเก่าๆ เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว กับจอบด้ามยาวที่เงื้อขึ้นสูงเหนือศีรษะแล้วเหวี่ยงลงบนพื้นดินอย่างได้จังหวะจะโคน ดูเพลินเลยทีเดียวเมื่อยืนมองนานๆ ลุงคำผาอยู่ที่นั่นด้วย แกได้แต่ยืนดูเฉยๆ เพราะแก่เกินกว่าจะออกแรงขนาดนั้นแล้ว
เมื่อหันกลับมาทางเด็กๆ ก็เห็นนิพาดายังคงก้มหน้าก้มตาคัดตัวพยัญชนะตามรอยเส้นประในสมุดคัดลายมือ ส่วนนนท์กำลังทำโจทย์เลขคูณและหาร นั่นเป็นความสามารถพิเศษอีกอย่างของเด็กชายซึ่งปณิตาเพิ่งค้นพบ นนท์คิดเลขได้รวดเร็วเกินเด็กวัยเดียวกัน เพียงเธอสอนวิธีคิดคร่าวๆ ให้เท่านั้น แกก็ลงมือทำได้เองในทันที และจะคิดเลขได้เป็นชั่วโมงๆ ขนาดตั้งโจทย์ให้ไม่ทันเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นยังไม่เคยเห็นคำตอบที่แกคิดออกมาจะผิดเลยแม้แต่ครั้งเดียว คิดว่าเหตุหนึ่งซึ่งช่วยให้แกทำสิ่งที่สนใจได้ดีกว่าคนทั่วไปก็เพราะแกมีสมาธิเป็นเลิศ ถ้าลงมือทำอะไรสักอย่างแล้วไม่มีอะไรทำให้หลานชายคนโตของคุณเขตวอกแวกได้เลย
เสียงฟ้าคำรามมาแต่ไกล เมฆฝนตั้งเค้ารวดเร็วทั้งๆ ที่เมื่อครู่ไม่มีวี่แววเลยแม้แต่น้อย แหงนขึ้นดูผ่านชายคาบ้านก็เห็นเมฆก้อนใหญ่สีคล้ำเคลื่อนเข้าปกคลุมทั้งผืนฟ้า บางก้อนลอยต่ำจนดูน่ากลัว แน่ใจว่าฝนคงลงเม็ดในไม่ช้านี้ รู้สึกถึงลมฝนเย็นๆ พัดแผ่วเบาผ่านผิวหน้า และดูเหมือนจะแรงขึ้นทุกขณะ จนในที่สุดก็แรงขนาดกวาดเอาฝุ่นคลุ้งไปทั่วสนามหญ้าหน้าบ้าน
ไม่นานเห็นน้อยเดินเกือบเหมือนวิ่งฝ่ากระแสลมและละอองฝุ่นตรงไปหาผู้เป็นเจ้าของบ้าน เห็นทั้งคู่ยืนเจรจากันครู่หนึ่ง จากระยะที่เธอยืนนี้ไกลเกินกว่าจะได้ยินว่าพูดอะไรกันบ้าง แต่ก็เห็นเขาทิ้งจอบแล้วก้าวยาวๆ นำลิ่วมาทางตัวบ้าน คิดว่าคงใกล้เวลาอาหารกลางวันแล้วกระมัง เธอรับเอาหน้าที่ดูแลเรื่องจัดอาหารกลางวันให้เด็กๆ มาเป็นของตัวเองตั้งแต่วันแรกๆ ที่มาอยู่ที่นี่แล้ว
เหลียวกลับมาดูหลานชายเจ้าของบ้านอีกครั้ง เห็นกำลังขีดอะไรบางอย่างลงบนสมุด จึงออกปากสั่งเด็กหญิงผู้เป็นน้องสาว
"นิพดูพี่นนท์ด้วยนะคะ พี่ต้าจะไปดูป้าแกหน่อย แกคงเตรียมข้าวกลางวันไว้ให้แล้ว"
จากห้องเรียนของเด็กไปห้องเตรียมอาหารต้องผ่านห้องรับแขก พอเปิดประตูออกมาได้ไม่กี่ก้าวก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มๆ เอ่ยชื่อเธอ เสียงนั้นฟังดูเคร่งเครียด
"…ไม่ใช่คุณต้าหรอกนิด คุณต้าไม่ใช่คนแบบนั้น พี่รับรอง"
เมื่อเขาเงียบไปครู่หนึ่ง คงกำลังฟังอีกด้านของสาย ครูสาวจึงตัดสินใจจรดฝีเท้าย่องเงียบกริบผ่านไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปดู ได้ยินเสียงของ ‘เขา’ ไล่ตามหลังมาด้วย
"…พี่ก็ไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าไม่ใช่คุณต้าแน่นอน…เอาเถอะ อย่าให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีกเลย นิดกลับกรุงเทพไปก่อน พี่จะโทรไปจองตั๋วเครื่องบินให้...พี่ยังไปไหนไม่ได้” ประโยคหลังฟังดูเหนื่อยหน่าย
“…มะรืนนี้ก็จะตั้งศาลพระภูมิแล้ว นี่ก็กำลังคอยคนงานขนศาลพระภูมิที่เมื่อวานไปจองไว้มาส่ง"
เขตมองตามคนที่กำลังเดินตัวลีบผ่านไปทางหลังบ้านจนลับตา รำคาญทั้งเสียงแหลมๆ ที่กำลังปรักปรำใครต่อใครให้ทั่วไปหมด รวมทั้งเสียงครืดคราดที่มาตามสายโทรศัพท์เป็นระยะ เริ่มจากสั้นๆ ขาดหายไปเป็นช่วงๆ แล้วชักจะยาวขึ้นทุกที จึงฉวยโอกาสยกเอาเรื่องนั้นขึ้นมาเป็นข้ออ้าง
"โทรศัพท์เป็นอะไรก็ไม่รู้ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พี่วางหูก่อน จะโทรไปจองตั๋วเครื่องบินให้นิดเดี๋ยวนี้เลยครับ"
เสียงแหวตอบกลับมาอย่างไม่ชอบอกชอบใจ
"นิดยังไม่กลับค่ะพี่เขต” หล่อนยืนยันหนักแน่น “เมื่อกี้นิดโทรไปคุยกับแม่ แม่บอกว่ามีหมอที่แม่รู้จัก แกเก่งเรื่องนี้ นิดจะโทรกลับไปบอกแม่ว่าให้ติดต่อหมอคนที่ว่านั่น ถ้าพี่เขตยืนยันว่าไม่ใช่..."
เสียงครืดคราดดังแทรกเข้ามาจนคำพูดของหญิงสาวขาดเป็นช่วงๆ
"…ครูของเด็กๆ...นิดก็จะ...แม่...พามา..."
"นิด...ว่าไงนะ...พูดใหม่ซิ"
"นิดว่า...แม่จะพา...มาเอง…"
อยู่ดีๆ สายก็ตัดไปเสียเฉยๆ พร้อมกับฝนที่เริ่มเทลงมาอย่างรุนแรง
เขตวางหูโทรศัพท์กลับลงเครื่องอย่างขัดอกขัดใจกับความวุ่นวายไม่รู้จบของครอบครัวคุณธนา ทั้งพ่อทั้งแม่ของธนิดาทำทุกวิถีทางให้เขาลงเอยกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนจนบางครั้งก็น่ารำคาญ ตัวเขาเองมองไม่เห็นว่าจะแต่งงานอยู่กินกับผู้หญิงคนนั้นได้อย่างไร ไม่ใช่เพราะหล่อนเคยแต่งงานแล้วหย่ามาก่อน แต่เป็นเพราะไม่มีอะไรแม้แต่อย่างเดียวในตัวหล่อนที่เขารับได้นั่นต่างหาก