ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ แอนนี่ annie <harmonica>, คุณลิ ลายลิขิต, คุณ เด็กดื้อหัวกลม, น้องดาว Lady Star 919, คุณออม ออมอำพัน, คุณ jazzzero, จารย์จี GTW, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ เป่าชาง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ - บทที่ 1
http://ppantip.com/topic/35939682
บทที่ 2
http://ppantip.com/topic/35949094
บทที่ 3
http://ppantip.com/topic/35952735
บทที่ 4
http://ppantip.com/topic/35959348
บทที่ 5
http://ppantip.com/topic/35965068
บทที่ 6
https://ppantip.com/topic/35967281
บทที่ 7
https://ppantip.com/topic/35972274
บทที่ 8
https://ppantip.com/topic/35978915
บทที่ 9
https://ppantip.com/topic/35985669
บทที่ 10
https://ppantip.com/topic/35992032
บทที่ 11
https://ppantip.com/topic/35999142
บทที่ 12
https://ppantip.com/topic/36005614
บทที่ 13
https://ppantip.com/topic/36008955
บทที่ 14
https://ppantip.com/topic/36015042
บทที่ 15
https://ppantip.com/topic/36022170
บทที่ 16
เสียงพระสวดสร้างบรรยากาศทั้งขลัง ทั้งสงบและร่มเย็นได้ตลอดทั่วบริเวณบ้านอย่างน่าประหลาด ราวกับบ้านหลังนี้ไม่เคยมีความสงบอย่างแท้จริงเช่นนี้มาก่อน หากแต่มิช้ามินานปณิตาก็รู้สึกถึงคลื่นอะไรบางอย่างผ่านวูบเข้ามาแผ่วๆ แผ่วจางและบางเบาเสียจนถ้าไม่นั่งนิ่งๆ อยู่เช่นนี้ก็คงไม่รู้สึก
ครูสาวเหลียวมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง ด้วยสงสัยว่ามีใครรู้สึกอย่างเธอบ้าง แต่ก็ไม่เห็นใครแสดงทีท่าว่ารับรู้ถึงความผิดปกตินั้นแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นนายจ้างหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ทางตอนหน้าของห้อง เมื่อเธอนั่งอยู่ติดประตูกระจกตรงทางออก จึงเห็นก็เพียงแผ่นหลังกว้างๆ ของเขา ซ้ายมือของเขาเป็นหลานสาวซึ่งติดผู้เป็นลุงแจ อีกด้านเป็นหญิงสาวซึ่งติดเขาแจพอๆ กัน แต่ในลักษณะที่ต่างออกไป
คุณการุณนั่งอยู่กับลูกชาย ไม่ไกลจากเจ้าของบ้านหนุ่มเท่าไรนัก เห็นว่าทั้งคู่ก็ยังนั่งกันเป็นปกติเช่นเดิม ในขณะที่คนเป็นพ่อมือพนมอยู่หว่างอก หน้าก้มดูพื้น คนเป็นลูกหน้าก้มต่ำกว่า มือซึ่งประนมอยู่ตกลงต่ำเรื่อยๆ เมื่อเธอปรายตาดูก็พอดีได้เห็นศีรษะของเขาผงกกึกแล้วรีบขยับตัวให้ตรงใหม่อีกครั้ง
ส่วนคุณประนอมหายกลับไปทางหลังบ้านหลังพระเริ่มสวดได้ไม่นาน ปณิตาเดาว่าหล่อนคงกลับไปคุยกับป้าคำแปงต่อเพราะดูท่าทางทั้งคู่สนิทสนมกัน คงมีเรื่องคุยกันมาก และคงไม่ได้เจอกันบ่อยนักแม้บ้านอยู่ใกล้แค่นี้เอง
คนซึ่งเพิ่งสังเกตเห็นความผิดปกติกลับนั่งอยู่ข้างๆ เธอนี่เอง เมื่อหันมองก็เห็นว่านนท์กำลังแหงนหน้าจนคอตั้งบ่าเพื่อดูอะไรบางอย่างบนเพดานห้อง จึงได้แหงนมองตาม แต่ก็ไม่เห็นอะไรบนนั้นนอกจากโคมไฟ
แต่แล้วก็คิดขึ้นได้ว่า 'คลื่น' ประหลาดเมื่อครู่ผ่านเธอแล้วเหมือนจะลอยขึ้นสูง
แหงนดูเพดานอีกครั้ง จะเป็นได้ไหมที่เด็กน้อยกำลังมองขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้าน มีอะไรบนนั้นอย่างนั้นหรือ หรือว่าแกเห็นอะไร
พอดีกับพระสวดจบ ทุกคนขยับตัวเกือบพร้อมกัน ครูสาวรู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อในเมื่อมอบหมายหน้าที่กันไว้เรียบร้อยแล้ว ได้เวลาเพลพอดี ความสนใจจึงละจากชั้นบนของบ้านซึ่งเวลานี้แน่ใจแล้วว่านนท์กำลังพยายามบอกอะไรบางอย่าง ขยับลุกแล้วเดินค้อมตัวเลี่ยงไปทางหลังบ้าน ตวัดสายตาไปทางตอนหน้าของห้องแวบหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ สบตาคมลึกซึ่งหันหลังมาดูพอดี เธอเลิกคิ้วเหมือนจะถามว่าเขาจะสั่งอะไรหรือเปล่า แต่ก็เห็นเขาส่ายหน้า มุมปากเหยียดออกนิดหนึ่งคล้ายยิ้ม แต่ก็ไม่แน่ใจ จึงเลี่ยงเดินต่อไปทางครัว
คุณประนอมกำลังช่วยป้าคำแปงขนอาหารถวายพระมาไว้ในห้องเตรียมอาหารของบ้านหลังใหญ่ ปากก็พูดไม่หยุดในขณะที่แม่ครัวของบ้านดูจะเป็นผู้ฟังที่ดี แต่พอเห็นครูสาวเข้าประตูมา หล่อนก็เบนความสนใจมาที่เธอแทน
"พระสวดจบแล้วหรือหนู"
"ค่ะ ขนไปได้แล้วใช่ไหมคะ" เธอชี้ที่ตั้งจานชามซึ่งวางอยู่ซ้อนกัน
"เอาไปเถอะ เอาจานออกไปก่อน"
คุณประนอมเจ้ากี้เจ้าการเหมือนเป็นแม่งานเสียเอง
ความรู้สึกผิดปกติกลับมาอีกครั้งเมื่อเดินตามหลังนายจ้างและพระซึ่งเขาเรียกหลวงตาเปี่ยมประพรมน้ำมนต์ทั่วบ้าน เมื่อขึ้นชั้นบน แรกๆ เธอว่าจะไม่ตามขึ้นไปเพราะเห็นว่าตัวเป็นเพียงผู้อาศัย ไม่ใช่เจ้าของบ้าน ปล่อยให้เจ้าของบ้านกับคนรักของเขาตามกันขึ้นไปจะดีกว่า จึงหยุดอยู่เพียงเชิงบันได ตั้งใจจะไปดูเด็กๆ ซึ่งใกล้เวลานอนกลางวันเต็มที วันนี้เธอหยุดสอนเด็กหนึ่งวันเพราะเห็นว่าเป็นวันทำบุญบ้าน
ตั้งท่าจะผละจาก 'ขบวน' พรมน้ำมนต์อยู่แล้ว แต่พอมองกลับไปทางตอนหน้าของผู้คนซึ่งเดินเหมือนเข้าแถวตามพระสูงวัยขึ้นบันได ก็ประสานเข้ากับนัยน์ตาคู่คมพอดิบพอดีเข้าอีก นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้คู่นั้นเหมือนจะส่งผ่านคำสั่งมาว่าไม่ให้ไปไหน ให้ตามขึ้นไปด้วย เธอจึงจำต้องตามหลังคนอื่นๆ ขึ้นบันไดไปแต่โดยดี ออกจะหนักใจอยู่บ้างเพราะจริงๆ แล้วอยากเลี่ยงไปทำอย่างอื่นมากกว่า
แต่แล้วก็มีอันต้องชะงักอีกเมื่อผ่านไปทางฝั่งซ้ายของชั้นบน หน้าห้องนอนสำรองสำหรับแขกซึ่งคุณธนิดาพักอยู่ในเวลานี้ คลื่นชนิดเดียวกันผ่านวูบจากข้างหน้าเรื่อยมาถึงตัวอีกครั้ง คราวนี้ชัดเจนเลยทีเดียว ชัดจนหลวงตาเปี่ยมซึ่งกำลังประพรมน้ำมนต์อยู่หน้าสุดเองก็คงรู้สึก ปณิตาเห็นท่านเงื้อมัดใบหญ้าแฝกค้าง หันขวับตามคลื่นนั้นมาหลังแถว พอสบตาเธอก็มองอย่างสงสัยอยู่อึดใจหนึ่ง แล้วหันกลับไปข้างหน้าดังเดิม
ลักษณะที่หลวงตาสูงวัยมองเธอเมื่อครู่ ปณิตามีความรู้สึกว่าท่านพยายามสื่ออะไรบางอย่างมาถึงเธอ ท่านรู้และเข้าใจ เธอแน่ใจเช่นนั้น
ครูสาวไม่รู้ว่าหลังจากนั้นท่านพูดอะไรกับคุณเขตบ้าง แต่คิดว่าคงมีการพูดคุยกันแน่นอน เพราะหลังจากที่เขาไปส่งท่านและพระอีกแปดรูปกลับวัดแล้ว เขาตามหาเธอเสียทั่วบ้าน มาพบในห้องเตรียมอาหารหลังบ้าน
คุ้มสีทอง (บทที่ 16)
ขอบคุณ คุณ แอนนี่ annie <harmonica>, คุณลิ ลายลิขิต, คุณ เด็กดื้อหัวกลม, น้องดาว Lady Star 919, คุณออม ออมอำพัน, คุณ jazzzero, จารย์จี GTW, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ เป่าชาง
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ
บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ - บทที่ 1 http://ppantip.com/topic/35939682
บทที่ 2 http://ppantip.com/topic/35949094
บทที่ 3 http://ppantip.com/topic/35952735
บทที่ 4 http://ppantip.com/topic/35959348
บทที่ 5 http://ppantip.com/topic/35965068
บทที่ 6 https://ppantip.com/topic/35967281
บทที่ 7 https://ppantip.com/topic/35972274
บทที่ 8 https://ppantip.com/topic/35978915
บทที่ 9 https://ppantip.com/topic/35985669
บทที่ 10 https://ppantip.com/topic/35992032
บทที่ 11 https://ppantip.com/topic/35999142
บทที่ 12 https://ppantip.com/topic/36005614
บทที่ 13 https://ppantip.com/topic/36008955
บทที่ 14 https://ppantip.com/topic/36015042
บทที่ 15 https://ppantip.com/topic/36022170
เสียงพระสวดสร้างบรรยากาศทั้งขลัง ทั้งสงบและร่มเย็นได้ตลอดทั่วบริเวณบ้านอย่างน่าประหลาด ราวกับบ้านหลังนี้ไม่เคยมีความสงบอย่างแท้จริงเช่นนี้มาก่อน หากแต่มิช้ามินานปณิตาก็รู้สึกถึงคลื่นอะไรบางอย่างผ่านวูบเข้ามาแผ่วๆ แผ่วจางและบางเบาเสียจนถ้าไม่นั่งนิ่งๆ อยู่เช่นนี้ก็คงไม่รู้สึก
ครูสาวเหลียวมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง ด้วยสงสัยว่ามีใครรู้สึกอย่างเธอบ้าง แต่ก็ไม่เห็นใครแสดงทีท่าว่ารับรู้ถึงความผิดปกตินั้นแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นนายจ้างหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ทางตอนหน้าของห้อง เมื่อเธอนั่งอยู่ติดประตูกระจกตรงทางออก จึงเห็นก็เพียงแผ่นหลังกว้างๆ ของเขา ซ้ายมือของเขาเป็นหลานสาวซึ่งติดผู้เป็นลุงแจ อีกด้านเป็นหญิงสาวซึ่งติดเขาแจพอๆ กัน แต่ในลักษณะที่ต่างออกไป
คุณการุณนั่งอยู่กับลูกชาย ไม่ไกลจากเจ้าของบ้านหนุ่มเท่าไรนัก เห็นว่าทั้งคู่ก็ยังนั่งกันเป็นปกติเช่นเดิม ในขณะที่คนเป็นพ่อมือพนมอยู่หว่างอก หน้าก้มดูพื้น คนเป็นลูกหน้าก้มต่ำกว่า มือซึ่งประนมอยู่ตกลงต่ำเรื่อยๆ เมื่อเธอปรายตาดูก็พอดีได้เห็นศีรษะของเขาผงกกึกแล้วรีบขยับตัวให้ตรงใหม่อีกครั้ง
ส่วนคุณประนอมหายกลับไปทางหลังบ้านหลังพระเริ่มสวดได้ไม่นาน ปณิตาเดาว่าหล่อนคงกลับไปคุยกับป้าคำแปงต่อเพราะดูท่าทางทั้งคู่สนิทสนมกัน คงมีเรื่องคุยกันมาก และคงไม่ได้เจอกันบ่อยนักแม้บ้านอยู่ใกล้แค่นี้เอง
คนซึ่งเพิ่งสังเกตเห็นความผิดปกติกลับนั่งอยู่ข้างๆ เธอนี่เอง เมื่อหันมองก็เห็นว่านนท์กำลังแหงนหน้าจนคอตั้งบ่าเพื่อดูอะไรบางอย่างบนเพดานห้อง จึงได้แหงนมองตาม แต่ก็ไม่เห็นอะไรบนนั้นนอกจากโคมไฟ
แต่แล้วก็คิดขึ้นได้ว่า 'คลื่น' ประหลาดเมื่อครู่ผ่านเธอแล้วเหมือนจะลอยขึ้นสูง
แหงนดูเพดานอีกครั้ง จะเป็นได้ไหมที่เด็กน้อยกำลังมองขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้าน มีอะไรบนนั้นอย่างนั้นหรือ หรือว่าแกเห็นอะไร
พอดีกับพระสวดจบ ทุกคนขยับตัวเกือบพร้อมกัน ครูสาวรู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อในเมื่อมอบหมายหน้าที่กันไว้เรียบร้อยแล้ว ได้เวลาเพลพอดี ความสนใจจึงละจากชั้นบนของบ้านซึ่งเวลานี้แน่ใจแล้วว่านนท์กำลังพยายามบอกอะไรบางอย่าง ขยับลุกแล้วเดินค้อมตัวเลี่ยงไปทางหลังบ้าน ตวัดสายตาไปทางตอนหน้าของห้องแวบหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ สบตาคมลึกซึ่งหันหลังมาดูพอดี เธอเลิกคิ้วเหมือนจะถามว่าเขาจะสั่งอะไรหรือเปล่า แต่ก็เห็นเขาส่ายหน้า มุมปากเหยียดออกนิดหนึ่งคล้ายยิ้ม แต่ก็ไม่แน่ใจ จึงเลี่ยงเดินต่อไปทางครัว
คุณประนอมกำลังช่วยป้าคำแปงขนอาหารถวายพระมาไว้ในห้องเตรียมอาหารของบ้านหลังใหญ่ ปากก็พูดไม่หยุดในขณะที่แม่ครัวของบ้านดูจะเป็นผู้ฟังที่ดี แต่พอเห็นครูสาวเข้าประตูมา หล่อนก็เบนความสนใจมาที่เธอแทน
"พระสวดจบแล้วหรือหนู"
"ค่ะ ขนไปได้แล้วใช่ไหมคะ" เธอชี้ที่ตั้งจานชามซึ่งวางอยู่ซ้อนกัน
"เอาไปเถอะ เอาจานออกไปก่อน"
คุณประนอมเจ้ากี้เจ้าการเหมือนเป็นแม่งานเสียเอง
ความรู้สึกผิดปกติกลับมาอีกครั้งเมื่อเดินตามหลังนายจ้างและพระซึ่งเขาเรียกหลวงตาเปี่ยมประพรมน้ำมนต์ทั่วบ้าน เมื่อขึ้นชั้นบน แรกๆ เธอว่าจะไม่ตามขึ้นไปเพราะเห็นว่าตัวเป็นเพียงผู้อาศัย ไม่ใช่เจ้าของบ้าน ปล่อยให้เจ้าของบ้านกับคนรักของเขาตามกันขึ้นไปจะดีกว่า จึงหยุดอยู่เพียงเชิงบันได ตั้งใจจะไปดูเด็กๆ ซึ่งใกล้เวลานอนกลางวันเต็มที วันนี้เธอหยุดสอนเด็กหนึ่งวันเพราะเห็นว่าเป็นวันทำบุญบ้าน
ตั้งท่าจะผละจาก 'ขบวน' พรมน้ำมนต์อยู่แล้ว แต่พอมองกลับไปทางตอนหน้าของผู้คนซึ่งเดินเหมือนเข้าแถวตามพระสูงวัยขึ้นบันได ก็ประสานเข้ากับนัยน์ตาคู่คมพอดิบพอดีเข้าอีก นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้คู่นั้นเหมือนจะส่งผ่านคำสั่งมาว่าไม่ให้ไปไหน ให้ตามขึ้นไปด้วย เธอจึงจำต้องตามหลังคนอื่นๆ ขึ้นบันไดไปแต่โดยดี ออกจะหนักใจอยู่บ้างเพราะจริงๆ แล้วอยากเลี่ยงไปทำอย่างอื่นมากกว่า
แต่แล้วก็มีอันต้องชะงักอีกเมื่อผ่านไปทางฝั่งซ้ายของชั้นบน หน้าห้องนอนสำรองสำหรับแขกซึ่งคุณธนิดาพักอยู่ในเวลานี้ คลื่นชนิดเดียวกันผ่านวูบจากข้างหน้าเรื่อยมาถึงตัวอีกครั้ง คราวนี้ชัดเจนเลยทีเดียว ชัดจนหลวงตาเปี่ยมซึ่งกำลังประพรมน้ำมนต์อยู่หน้าสุดเองก็คงรู้สึก ปณิตาเห็นท่านเงื้อมัดใบหญ้าแฝกค้าง หันขวับตามคลื่นนั้นมาหลังแถว พอสบตาเธอก็มองอย่างสงสัยอยู่อึดใจหนึ่ง แล้วหันกลับไปข้างหน้าดังเดิม
ลักษณะที่หลวงตาสูงวัยมองเธอเมื่อครู่ ปณิตามีความรู้สึกว่าท่านพยายามสื่ออะไรบางอย่างมาถึงเธอ ท่านรู้และเข้าใจ เธอแน่ใจเช่นนั้น
ครูสาวไม่รู้ว่าหลังจากนั้นท่านพูดอะไรกับคุณเขตบ้าง แต่คิดว่าคงมีการพูดคุยกันแน่นอน เพราะหลังจากที่เขาไปส่งท่านและพระอีกแปดรูปกลับวัดแล้ว เขาตามหาเธอเสียทั่วบ้าน มาพบในห้องเตรียมอาหารหลังบ้าน