คุ้มสีทอง (บทที่ 9)

ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ เปรียว sixtyone, น้องดาว Lady Star 919, คุณ เจ้าหญิงงัวเงีย, คุณลิ ลายลิขิต, จารย์จี GTW, คุณ nasa nasa, คุณ เป่าชาง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ อุรุเวลา
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ

บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ - บทที่ 1  http://ppantip.com/topic/35939682
บทที่ 2   http://ppantip.com/topic/35949094
บทที่ 3   http://ppantip.com/topic/35952735
บทที่ 4   http://ppantip.com/topic/35959348
บทที่ 5   http://ppantip.com/topic/35965068
บทที่ 6   https://ppantip.com/topic/35967281
บทที่ 7   https://ppantip.com/topic/35972274
บทที่ 8   https://ppantip.com/topic/35978915


บทที่ 9



    ปณิตาพิจารณารอยเจาะเล็กๆ สองรูที่นิ้วกลางอย่างงุนงง รอยงูกัดก็ยังอยู่นี่นา แสดงว่าถูกกัดจริงๆ ถ้าเป็นแบบนี้ น่าจะแสดงว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นเท่าที่จำได้คงเป็นความจริงเหมือนกัน ถ้ายืนอยู่ในน้ำริมฝั่งตลอดเวลาสามชั่วโมงนั้น แล้วรอยนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้าถูกงูกัดในน้ำ ก็น่าจะเป็นที่ขา แต่พอก้มลงพิจารณาดูขาทั้งสองข้างหลังขึ้นจากน้ำแล้ว ทั้งสองขาขาวซีด นิ้วเท้าเหี่ยวย่น แสดงว่ายืนแช่อยู่ในน้ำนานมาก เป็นไปได้อย่างไรกัน ทำไมจึงขัดกันได้อย่างจังแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว

    ก้องเกียรติหันมองหญิงสาวซึ่งเดินเคียงมาที่รถ

    "เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณต้า"

    ศีรษะเล็กๆ มีผมซอยสั้นส่ายไปมา

    "คุณก้องจะรีบกลับหรือเปล่าคะ"

    ถามแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เห็นว่าเริ่มมืดแล้ว ชายหนุ่มอยู่รับประทานอาหารเย็นด้วย หลังจากนั้นก็อยู่เล่นกับนิพาดาอีกพักใหญ่ๆ เห็นได้ไม่ยากว่าเขาสนิทกับครอบครัวนี้ดีพอใช้ น่าจะดีพอที่รู้อะไรต่ออะไรไม่น้อย แถมดูก้องเกียรติเป็นคนช่างพูดช่างคุยและตรงไปตรงมาดี อาจบอกอะไรที่อยากรู้ได้มาก แต่เมื่อครู่ที่อยู่ในบ้านกันเด็กๆ และป้าคำแปง เธอไม่กล้าถาม

    "มีอะไรหรือครับ ผมกลับเมื่อไหร่ก็ได้ บ้านอยู่แค่นี้เอง"

    ทั้งคู่เดินมาหยุดข้างรถสีขาวของชายหนุ่ม

    "คุณณัฐเป็นแม่ของนนท์กับนิพใช่ไหมคะ" โดยไม่พูดพล่ามทำเพลง ปณิตาตั้งคำถามที่คาใจนั้นขึ้นก่อนเลย

    ก้องเกียรติเอนตัวพิงประตูรถ สองมือกอดอก

    "ครับ คุณต้ายังไม่รู้หรอกหรือ"

    "ก็พอรู้ค่ะ คุณณัฐกับคุณคมตายเพราะอะไรคะ" คำถามต่อมาตามมาติดๆ

    "เรื่องมันยาวครับ แล้วผมก็รู้เพียงบางส่วน รู้ว่าตายยังไง แต่ไม่รู้อะไรมากกว่านั้น พี่ณัฐจมน้ำตายครับ ตำรวจสรุปว่าฆ่าตัวตาย พี่คมก็จมน้ำตายเหมือนกัน แต่หมอว่าไม่ใช่แต่จมน้ำอย่างเดียว ยังตายเพราะตกจากที่สูงลงมาด้วย พี่คมตกจากโขดหินที่น้ำตกเลยไปทางภูเขาที่หลังบ้านโน่นแน่ะครับ พี่ณัฐตายเมื่อสักสองปีกว่ามาแล้ว พี่คมตายก่อน สี่ปีแล้วมั้งครับ"

    "ถ้าอย่างนั้นคุณคมก็ตายหลังนิพเกิดไม่นานนะสิคะ" คำนวณอายุของเด็กหญิงแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น

    "ครับ หลังจากที่นิพเกิดได้ครึ่งปีมั้ง"

    "คุณคมตายเพราะอุบัติเหตุเหมือนกันหรือคะ"

    ชายหนุ่มถอนใจ มองกลับไปภายในบ้าน เห็นใครคนหนึ่งเปิดไฟกลางห้องโถงและที่เสาทรงโรมันสองต้นหน้าบ้าน

    "เรื่องนั้นก็พูดกันไปต่างๆ นานาครับ สรุปแล้วไม่มีใครรู้นอกจากคนที่นี่ ว่าไอ้วันนั้นเกิดอะไรขึ้น" ผู้พูดเหลียวมองรอบตัวราวกลัวใครจะได้ยิน ขณะลดเสียงที่พูดลง

"แต่ผมว่านะ มันเกี่ยวกับพี่ณัฐด้วยแหละ แล้วก็อาจเกี่ยวกับพี่เขตด้วย ตอนนี้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ที่รู้ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นก็มีเหลือแต่พี่เขตกับลุงผา แต่ผมรับรอง ไม่มีใครยอมบอกหรอก ใครๆ ที่นี่พยายามฝังเรื่องนั้นให้จมหายไปกับเวลาอยู่แล้ว"

    "ทำไมถึงต้องปิดบังกันละคะ แล้วตำรวจเขาสรุปว่ายังไง"

ปณิตาขยับใกล้ชายหนุ่มเข้าไปอีกนิด ชักไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าคุณเขตอาจมีส่วนร่วมด้วย

    "คงมีผลกระทบในทางเสียหายต่อคนที่ยังมีชีวิตอยู่มั้งครับ ถึงต้องปิดเป็นความลับกัน อีกอย่างนะ ครอบครัวนี้มีอิทธิพล"

คราวนี้ผู้พูดทำเสียงกระซิบกระซาบ

"คุณต้าอย่าไปบอกใครล่ะ ว่าผมพูดอย่างนี้ เราเป็นญาติกันก็จริงนะ แต่ครอบครัวผมเป็นญาติฝ่ายยากจน ที่นี่เขาเป็นญาติฝ่ายร่ำรวย รวยกันไม่ยอมเลิก" เอ่ยออกไปแล้วนายวิศวกรหนุ่มหัวเราะหึๆ ในลำคอ

แม้จะสำเหนียกถึงความอิจฉานิดๆ ในคำพูดเหล่านั้น แต่ครูสาวก็พยายามมองข้ามไปเสีย เหตุก็เพราะสนใจกับเรื่องที่เขาเล่ามากกว่า

“ไม่บอกค่ะ ไม่บอกใครแน่นอน สัญญาด้วยเกียรติอันน้อยนิดของต้า”

    ผู้เล่ายิ้มอย่างพออกพอใจ ยิ่งเห็นว่าผู้ฟังตั้งอกตั้งใจฟังก็ยิ่งอยากเล่า

    "ตอนนั้นผู้กำกับฯสนิทกับพี่เขต เรื่องก็เลยเงียบเร็ว แถมไม่ใช่พี่คมตายคนเดียว มีคนตายอีกคน เรื่องนั้นก็เลยสรุปว่าฆ่ากันเอง"

    "มีคนตายอีกคน? ใครคะ"

    คราวนี้ก้องเกียรติกวาดตามองบรรยากาศที่มืดลงอย่างรวดเร็ว เริ่มไม่สบายใจที่จะตอบคำถามนั้น ไม่แน่ใจว่าควรบอกตรงๆ ดีหรือไม่
แต่แล้วความช่างพูดช่างคุยยังคงมาก่อนอีกเหมือนเดิม

    "เป็นคนที่นี่แหละครับ เกิดที่นี่ โตที่นี่ อยู่บ้านหลังนี้มาตลอด เขาชื่อน่าน เป็นหลานของลุงผา"

    คนหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่นี่ ที่ปณิตาเห็นว่าเป็นคนลึกลับคือลุงคำผา เธออยู่ที่บ้านหลังนี้มาสองอาทิตย์แล้ว เคยเจอชายสูงอายุผู้นั้นเพียงสองครั้ง ครั้งแรกก็ในคืนแรกที่มาถึง และอีกครั้งเมื่อแกมาหาป้าคำแปงแล้วเดินสวนกัน ลุงคำผามีกระท่อมหลังเล็กๆ อยู่เลยไปทางหลังบ้าน ไม่ไกลจากบ้านทรงชาเลต์ของคุณคมมากนัก ชีวิตของชายผู้นั้นจึงเหมือนแยกจากผู้อยู่อาศัยที่นี่คนอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง รู้จากน้อยว่าแกชอบแบบนั้น รู้ต่อไปอีกว่าแกเป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ อยู่ที่นี่มาก่อนทุกคน

    ‘ลุงผามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่บ้านหลังนี้ยังสร้างไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำค่ะ ตอนที่บ้านกำลังสร้าง คุณขจรปลูกกระท่อมนั้นให้แกก่อน แล้วแกก็มานอนเฝ้าที่นี่ แถมคุณขจรยังซื้อที่ตรงนี้จากพี่ของลุงผาด้วยค่ะคุณครู ส่วนป้าคำแปงกับลุงผันนั่น มาอยู่หลังจากนั้นนานค่ะ’

    เท่าที่รู้จากน้อย ลุงคำผาเป็นพี่ชายของป้าคำแปง แกมีหน้าที่ดูแลสวนและทุกสิ่งทุกอย่างภายนอกตัวบ้าน เท่าที่เห็น ลุงคำผาไม่ใช่คนช่างพูด เธอจึงไม่เคยกล้าชวนแกคุย

    “คนที่ชื่อน่านก็ตายที่น้ำตกเหมือนกันหรือคะ”

    “ครับ ตายแบบเดียวกับพี่คมเลย ตำรวจถึงได้คิดว่าคงทะเลาะกัน แล้วสู้กันจนตกลงมาตายทั้งคู่”

    คำบอกเล่านั้นเป็นบทสรุปความอยากรู้อยากเห็นของปณิตาในเรื่องที่เกี่ยวกับการตายของพ่อและแม่ของนนท์กับนิพ ไม่ได้ติดใจจะถามอะไรเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อน่านซึ่งเสียชีวิตพร้อมลูกชายคนรองของเจ้าของบ้านอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่