รอยบรรพ์ (บทที่ 17)

ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณลิ ลายลิขิต, จารย์จี GTW, น้องมัด ฮิปโปโปตัวโตพุงโลชะมัด, คุณซูซี่ Susisiri, คุณ PURINWASA, คุณนะ เป่าชาง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ  sharyne & i, คุณ Wara-Vivi
ขอบคุณทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ

บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ   https://ppantip.com/topic/36127426
บทที่ 1  https://ppantip.com/topic/36134360
บทที่ 2  https://ppantip.com/topic/36141907
บทที่ 3  https://ppantip.com/topic/36149284
บทที่ 4  https://ppantip.com/topic/36156203
บทที่ 5  https://ppantip.com/topic/36164577
บทที่ 6  https://ppantip.com/topic/36170552
บทที่ 7  https://ppantip.com/topic/36179183
บทที่ 8  https://ppantip.com/topic/36187082
บทที่ 9  https://ppantip.com/topic/36193770
บทที่ 10 https://ppantip.com/topic/36202931
บทที่ 11 https://ppantip.com/topic/36210169
บทที่ 12 https://ppantip.com/topic/36218800
บทที่ 13 https://ppantip.com/topic/36223202
บทที่ 14 https://ppantip.com/topic/36230571
บทที่ 15 https://ppantip.com/topic/36237603
บทที่ 16 https://ppantip.com/topic/36246230


บทที่ 17



สำหรับวาดตะวัน อาหารเย็นมื้อนั้นฝาดเฝื่อนเต็มที ที่ว่ามีเรื่องต้องเจรจากันกลับกลายเป็นเรื่องของบริษัทผลิตสารเคมีของอเมริกันที่ไปเปิดสำนักงานในประเทศโบลิเวียไปเสีย

จัดการกับอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย 'ผู้ช่วย' ของเขาก็ยังทำหน้าที่ผู้ช่วยได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง หล่อนจัดแจง 'ช่วย' เก็บจานชามลงใส่ในเครื่องล้าง ทำความสะอาดโต๊ะอาหารเสียใหม่ วาดตะวันจึงเลี่ยงไปดูเสื้อเปื้อนเลือดของตัวเองที่เอริคแช่ผงซักฟอกไว้ให้นานแล้ว เอาเสื้อทั้งของตัวเองและของเขาเข้าเครื่องซักพร้อมกัน จากนั้นก็หลบเข้าไปเก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอนของแขก เข้าใจว่าคืนนี้คงต้องนอนห้องนี้ ส่วนเขาและผู้หญิงคนนั้นจะนอนกันที่ไหนหรือจะนอนกันอย่างไรก็พยายามไม่สนใจ

เขาเองก็คงรู้ว่าเธอไม่พอใจ พอหลบอยู่ในห้องคนเดียวได้ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูเบาๆ อย่างเกรงอกเกรงใจ เมื่อลุกไปเปิดก็เห็นว่าเขายังคงอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิม สีหน้าบอกชัดว่ากำลังยุ่งยากใจ

“จะนอนแล้วหรือ”

“เปล่าค่ะ เพียงไม่อยากรบกวน คุณคง...ทำงาน”

และแล้วก็นึกได้ เขามีเสื้อผ้าและของใช้อยู่ในห้องนี้บ้างเหมือนกัน จึงขยับหลีกทางให้

“เสื้อของคุณอยู่ในนี้”

“ไม่เป็นไรหรอกวาด ผมนอนทั้งอย่างนี้แหละ เพียงแต่มาดูว่าคุณเป็นยังไงบ้าง จะเอาอะไรไหม ผมให้เจสซี่นอนห้องนั้น” เขาพยักพเยิดไปทางห้องนอนห้องใหญ่

“ผมจะไปเอามาให้”

ได้ยินประโยคหลังซึ่งแสดงถึงความใกล้ชิดกัน วาดตะวันขุ่นมัวขึ้นมาอีก เสียงตอบจึงห้วนขึ้นด้วย

“ไม่เป็นไรค่ะ วาดไม่ต้องการอะไร”

“ถ้ามีอะไร ผมอยู่ในห้องรับแขกนี่นะ” เหมือนเขาจะบอกเป็นนัยๆ ว่าไม่ได้นอนห้องเดียวกับผู้ช่วยของตัว แต่เธอก็ไม่สนใจจะรับรู้

“ค่ะ”

ไหววูบขึ้นมาอีกเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ร้องเรียกเขา

“เอริค...”

ร่างเพรียวภายใต้เสื้อยืดคอกลม แขนสั้น ตัวใหญ่โคร่งโผล่มาจากไหนเธอไม่ทันสังเกตเห็น อยู่ดีๆ หล่อนมาหยุดยืนหน้าห้องเช่นกัน ในมือมีแก้วใสใบสูง มีไวน์บรรจุอยู่กว่าครึ่ง ไวน์ขวดนั้นหล่อนเป็นคนซื้อมา บอกด้วยว่าซื้อติดมาให้เขา

หล่อนส่งให้ แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ มัวแต่ห่วงคนตรงหน้ามากกว่า

เห็นเสื้อยืดสีเทาตัวนั้น วาดตะวันเดาได้ว่าเป็นของใครในเมื่อมีขนาดใหญ่กว่าคนสวมเกือบเท่าตัว รู้หรอกว่ากำลังทำอะไรกันอยู่

“เชิญตามสบายเถอะค่ะ แน่ใจนะว่าคุณไม่เอาอะไรจากห้องนี้” สุ้มเสียงคราวนี้แข็งทีเดียว และไม่เหลือบมองไปทางนั้นอีก ไม่สนใจคำตอบด้วย ดึงบานประตูจะปิด

แต่เขาก็ใช้มือดันเอาไว้

“วาด...”

ฝ่ายหนึ่งพยายามดัน อีกฝ่ายใช้กำลังแขนยันเอาไว้ และฝ่ายแรกก็เป็นฝ่ายต้องยอมในที่สุดเพราะสู้แรงไม่ได้ ปล่อยมือจากประตูแล้วหันหลังให้เสีย ทำทีเป็นเดินไปหยิบหนังสือซึ่งนอนอ่านอยู่บนเตียงเมื่อครู่มาคั่นหน้าที่อ่านค้างไว้ แล้ววางลงบนโต๊ะข้างเตียง

“วาดจะนอนแล้วค่ะ” บอกโดยไม่หันมามอง ปิดโคมไฟข้างเตียงเสียด้วย เป็นเชิงไล่กลายๆ

พอหันกลับมาก็ปะทะกับแผงอกกว้างเข้าอย่างจัง ไม่รู้เลยว่าเขาตามเข้ามา อีกทั้งยังมายืนเสียจนชิด

“โกรธหรือ”

“เปล่าค่ะ” อุบๆ อิบๆ คำตอบ มองผ่านเขาไปทางหน้าห้องเพราะอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังทำอะไร เห็นว่าประตูปิดสนิท “จะโกรธเรื่องอะไรล่ะคะ”

วูบวาบไปหมดเมื่อสองแขนล่ำสันรวบเอาไว้ทั้งตัว คางแข็งๆ กดเบาๆ บนศีรษะ

“อย่าเริ่มอย่างนี้เลยนะวาด” เขาเงียบไปครู่หนึ่ง

“ผมมีเรื่องจะสารภาพ...”

เงียบไปอีก คราวนี้เธอตั้งอกตั้งใจฟังทั้งๆ ที่ใจกำลังเต้นตึงตังจนคิดว่าตัวเองก็ได้ยิน

“ตลอดชีวิตของผม ผมไม่เคยมีใครเลย ไม่เคยสนใจจะมีใครด้วย ผมรู้มาตลอดว่ามีใครคนหนึ่งที่ผมรอคอย ผมคอยเพราะรู้ว่าวันหนึ่งผมจะเจอคนๆ นั้น คุณเชื่อเรื่องแบบนี้ไหม”

วาดตะวันเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงทุ้มนุ่มนวลนั้นเสียจนไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร จนเขาต้องถามซ้ำ

“เชื่อไหม”

นั่นแหละจึงสะดุ้งตื่นจากอาการฝันกลางวัน

“คะ? เชื่ออะไร?”

มีเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างเอ็นดู

“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าถ้าผมไม่มีใคร ไม่มีใครในเวลานี้ และไม่เคยมี คุณจะเชื่อผมไหม”

“จริงหรือคะ” ก็ใครจะเชื่อ รูปร่างหน้าตาและบุคลิกอย่างเขาน่ะหรือจะไม่เคยมีใครเลย

“จริงสิครับ ว่าไปแล้วผมก็ไม่คิดว่าจะต้องมาบอกอะไรคุณตรงๆ แบบนี้ แต่ก็อยากจะบอกเพราะไม่อยากเห็นคุณโกรธ”

“วาดไม่ได้โกรธนี่คะ”

เพิ่งจะคิดได้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์โกรธเขา ก็ในเมื่อยังไม่ได้เป็นอะไรกัน แม้ในตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างความเป็นคนรู้จักมาเป็นเพื่อน และมาสู่ความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่างก็ยอมรับพร้อมกันว่าลึกซึ้งกว่านั้นแล้วก็ตาม แต่นั่นก็เกิดขึ้นเมื่อเธอแสดงอาการหึงหวงให้เขาเห็น ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสมกว่านี้

หึงหวง...วาดตะวันขนลุกซู่เมื่อมองเห็นคำจำกัดความของอากัปกิริยาทั้งหมดที่ได้แสดงออกไป ก็จะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไรนอกจากหึง ที่สำคัญ มีสิทธิ์หึงเขาเสียที่ไหน แม้เขาอาจไม่มีใครและไม่เคยมีอย่างที่บอกจริงๆ

...แต่เธอมี และในเวลานี้เขาคนนั้นของเธอเป็นอิสระแล้ว หย่าแล้วด้วย เธอมีใครคนหนึ่งแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่