ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณ อุรุเวลา, คุณ PURINWASA, คุณนัน turtle_cheesecake, น้องดาว Lady Star 919, คุณ สมาชิกหมายเลข 1520032, จารย์จี GTW, น้องมัด ฮิปโปโปตัวโตพุงโลชะมัด, คุณลิลายลิขิต, คุณซูซี่ Susisiri, คุณนะ เป่าชาง, คุณออม ออมอำพัน, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ Once and Forever
บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ
https://ppantip.com/topic/36127426
บทที่ 1
https://ppantip.com/topic/36134360
บทที่ 2
https://ppantip.com/topic/36141907
บทที่ 3
https://ppantip.com/topic/36149284
บทที่ 4
https://ppantip.com/topic/36156203
บทที่ 5
https://ppantip.com/topic/36164577
บทที่ 6
https://ppantip.com/topic/36170552
บทที่ 7
https://ppantip.com/topic/36179183
บทที่ 8
https://ppantip.com/topic/36187082
บทที่ 9
https://ppantip.com/topic/36193770
บทที่ 10
https://ppantip.com/topic/36202931
บทที่ 11
https://ppantip.com/topic/36210169
บทที่ 12
https://ppantip.com/topic/36218800
บทที่ 13
https://ppantip.com/topic/36223202
บทที่ 14
น้าสาวโทรศัพท์มาโวยวายเสียยกใหญ่
“…ผู้หญิงชาวไทยที่ว่าเกือบถูกข่มขืนนั่นวาดจริงๆ หรือเปล่า น้าเห็นชื่อว่าใช่ แต่พอเห็นนามสกุลก็ไม่แน่ใจ ไม่รู้เขาสะกดผิดหรือเปล่า”
แม้จะรู้ว่าน้องสาวคนเดียวของแม่เห็นข่าวเรื่องนั้นเข้าแล้วจริงๆ และคงรู้แล้วว่าคนที่พูดถึงในข่าวเป็นใคร วาดตะวันก็ยังหวังว่าน้าจะคิดว่าเป็นคนอื่น ข่าวจากสำนักข่าวระดับประเทศสะกดนามสกุลยาวๆ ของเธอผิดไปนิดหนึ่ง และเธอก็ไม่คิดจะทักท้วงไป ดีแล้วที่เป็นอย่างนั้น คนรู้จักจะได้คิดไปไม่ถึงว่าเป็นตัวเธอจริงๆ
“คงใช่มั้งคะน้ามิ้นต์” จึงตอบกำกวมไปตามเรื่องตามราว ชายตามาทางคนซึ่งนั่งขับรถเงียบเชียบอยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง
“อะไรกัน ใช่มั้ง ตกลงว่าใช่หรือไม่ใช่ล่ะ”
ก็เลยต้องสารภาพตามตรง…แบบไม่ค่อยจะเต็มใจสักเท่าไนัก
“ใช่ค่ะน้ามิ้นต์”
“โอยตาย ตาย…ตาย…ตาย”
น้าตายอีกสองสามรอบก่อนจะกลับเข้าเรื่องได้
“เล่าให้น้าฟังหน่อยซิว่าเรื่องมันเป็นยังไง แล้วตอนนี้เป็นไงมั่ง”
“ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะน้ามิ้นต์ คนโรคจิตน่ะ ชอบทำร้ายผู้หญิง ตอนนี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
“ดีนะที่มีคนไปช่วยไว้ทัน”
เธอเหลือบมองคนซึ่ง ‘ไปช่วยไว้ทัน’ อีกแวบ เขาก็ยังไม่แสดงท่าทีว่าสนใจจะแอบฟังเหมือนเดิม ตายังคงมองตรงไปที่ถนนว่างๆ ข้างหน้า
“ค่ะ เขาไปช่วยได้ทันพอดี ก็เลยไม่เป็นไรมาก”
“ไม่เป็นไรมากน่ะเป็นไรแค่ไหน”
“ก็แค่ถูกซ้อมนิดหน่อยค่ะ”
น้าก็เลยตายอีกรอบ
“ตายแล้ว นี่ถ้าพ่อเขารู้เข้า…”
ไม่ต้องบอกหรอกว่าถ้าพ่อรู้เข้าแล้วจะเกิดอะไรขึ้น นี่ยังดีที่เรื่องผู้หญิงอีกสองคนถูกฆ่าตายหลังจากนั้นยังไม่แพร่ออกไปในลักษณะที่ว่ามันโยงมาถึงเธอด้วย ตำรวจยังเก็บเรื่องสารซึ่งคนร้ายส่งมาโดยอาศัยเหยื่อสองรายหลังสุดไว้เป็นความลับเพื่อผลทางรูปคดี
“เอางี้ มาหลบอยู่กับน้าสักพักดีไหม ให้ตำรวจจับผู้ร้ายนั่นได้เสียก่อนแล้วค่อยกลับไป”
แพทย์สาวตอบได้ทันควัน
“ไม่ดีกว่าค่ะน้ามิ้นต์ วาดต้องทำงาน”
“อะไร…ทำงาน นี่ยังจะต้องทำงานอีกเรอะ”
“ค่ะ น้า”
“แล้วนี่พ่อเขารู้เรื่องหรือยัง”
“ยังค่ะน้า” เธออ้ำๆ อึ้งๆ อยากขอร้องไม่ให้บอกพ่อ แต่ก็รู้ว่าถึงขอร้องไปก็เท่านั้น อะไรเกี่ยวกับเธอที่น้ารู้ ไม่ช้าพ่อก็ต้องรู้เหมือนกัน ก็น้าเล่นถือคติว่าพ่อออกปากฝากเธอไว้ ถึงอย่างไรก็ต้องดูแลให้ดีที่สุดแม้ทุกวันนี้จะอยู่กันคนละทิศแล้วก็ตาม
น้ารายงานให้พ่อรู้รวดเร็วกว่าที่คาดไว้เสียอีก เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากเมืองไทย ไม่ใช่จากพ่อ พ่อไม่โทรศัพท์มาถึงลูกสาวให้เสียศักดิ์ศรีหรอก ดีไม่ดีทะเลาะกันอีก คนที่โทรศัพท์มานั้นแสดงความห่วงใยเธอยิ่งกว่าพ่อเสียด้วยซ้ำ
“มีเรื่องอะไรหรือวาด ใครจะข่มขืนวาด”
เสียงของอาร้อนรนจนวาดตะวันเองก็เหนื่อยหน่ายใจ เรื่องชักจะไปกันใหญ่เสียแล้ว
ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้เหล็กดัดตัวที่อยู่ชิดผนังกระจกขนาดใหญ่ของอาคารที่ทำการหนึ่งในสองหลัง บริษัทของเอริคตั้งอยู่ชั้นบนสุดของอาคารหลังนี้ วางถุงเสื้อนอนที่เพิ่งซื้อมาลงข้างตัว
บริเวณนี้เป็นย่านการค้าและธุรกิจหลักของเมือง มีอาคารสูงสามหลังล้อมเป็นครึ่งวงกลม ตรงกลางเป็นลานโล่งกว้างขวาง ปูหินแผ่นใหญ่ๆ เรียงสลับลวดลายสีน้ำตาลในระดับสีต่างๆ กัน กึ่งกลางลานหินก่อขึ้นเป็นเนินเตี้ยๆ ปลูกดอกไม้หลากสีสันไว้เต็มพรืดจนไม่เห็นส่วนที่เป็นดิน มีม้านั่งยาววางเรียงรายไว้โดยรอบ
ใต้ชายคาอาคารขนาดใหญ่ที่สุดของบริเวณนั้นมีโต๊ะพร้อมเก้าอี้รูปทรงต่างๆ กันจัดไว้เป็นชุดหลายชุด มีผู้คนเดินกันให้ขวักไขว่เพราะเป็นเวลาเที่ยงวัน หลายคนหิ้วถุงพะรุงพะรังออกมาจากอาคารศูนย์การค้า คนซึ่งทำงานในอาคารเหล่านั้นบางคนออกมานั่งรับประทานอาหารกลางวันตามลำพังหรือไม่ก็เป็นกลุ่ม
เธอเดินเล่นในศูนย์การค้าจนเมื่อย จึงออกมาหาที่นั่งข้างนอก อากาศกำลังสบาย จะอยู่แต่ในตัวอาคารใดสักแห่งก็น่าเสียดายบรรยากาศดีๆ แบบนี้
เฝ้าดูผู้คนผ่านไปมาเพียงไม่นานสิ่งที่กลัวมาหลายวันก็เป็นความจริงขึ้นมาจนได้เมื่อได้รับโทรศัพท์จากอา
“โอย…ไม่ถึงกับจะข่มขืนหรอกค่ะอา คนโรคจิตน่ะค่ะ ก็แค่ทำร้ายผู้หญิง” เธอว่าไปเสียอย่างนั้น อาคงยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนักหรอก
รอยบรรพ์ (บทที่ 14)
ขอบคุณ คุณ อุรุเวลา, คุณ PURINWASA, คุณนัน turtle_cheesecake, น้องดาว Lady Star 919, คุณ สมาชิกหมายเลข 1520032, จารย์จี GTW, น้องมัด ฮิปโปโปตัวโตพุงโลชะมัด, คุณลิลายลิขิต, คุณซูซี่ Susisiri, คุณนะ เป่าชาง, คุณออม ออมอำพัน, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ Once and Forever
บทก่อนหน้าค่ะ
บทนำ https://ppantip.com/topic/36127426
บทที่ 1 https://ppantip.com/topic/36134360
บทที่ 2 https://ppantip.com/topic/36141907
บทที่ 3 https://ppantip.com/topic/36149284
บทที่ 4 https://ppantip.com/topic/36156203
บทที่ 5 https://ppantip.com/topic/36164577
บทที่ 6 https://ppantip.com/topic/36170552
บทที่ 7 https://ppantip.com/topic/36179183
บทที่ 8 https://ppantip.com/topic/36187082
บทที่ 9 https://ppantip.com/topic/36193770
บทที่ 10 https://ppantip.com/topic/36202931
บทที่ 11 https://ppantip.com/topic/36210169
บทที่ 12 https://ppantip.com/topic/36218800
บทที่ 13 https://ppantip.com/topic/36223202
น้าสาวโทรศัพท์มาโวยวายเสียยกใหญ่
“…ผู้หญิงชาวไทยที่ว่าเกือบถูกข่มขืนนั่นวาดจริงๆ หรือเปล่า น้าเห็นชื่อว่าใช่ แต่พอเห็นนามสกุลก็ไม่แน่ใจ ไม่รู้เขาสะกดผิดหรือเปล่า”
แม้จะรู้ว่าน้องสาวคนเดียวของแม่เห็นข่าวเรื่องนั้นเข้าแล้วจริงๆ และคงรู้แล้วว่าคนที่พูดถึงในข่าวเป็นใคร วาดตะวันก็ยังหวังว่าน้าจะคิดว่าเป็นคนอื่น ข่าวจากสำนักข่าวระดับประเทศสะกดนามสกุลยาวๆ ของเธอผิดไปนิดหนึ่ง และเธอก็ไม่คิดจะทักท้วงไป ดีแล้วที่เป็นอย่างนั้น คนรู้จักจะได้คิดไปไม่ถึงว่าเป็นตัวเธอจริงๆ
“คงใช่มั้งคะน้ามิ้นต์” จึงตอบกำกวมไปตามเรื่องตามราว ชายตามาทางคนซึ่งนั่งขับรถเงียบเชียบอยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง
“อะไรกัน ใช่มั้ง ตกลงว่าใช่หรือไม่ใช่ล่ะ”
ก็เลยต้องสารภาพตามตรง…แบบไม่ค่อยจะเต็มใจสักเท่าไนัก
“ใช่ค่ะน้ามิ้นต์”
“โอยตาย ตาย…ตาย…ตาย”
น้าตายอีกสองสามรอบก่อนจะกลับเข้าเรื่องได้
“เล่าให้น้าฟังหน่อยซิว่าเรื่องมันเป็นยังไง แล้วตอนนี้เป็นไงมั่ง”
“ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะน้ามิ้นต์ คนโรคจิตน่ะ ชอบทำร้ายผู้หญิง ตอนนี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
“ดีนะที่มีคนไปช่วยไว้ทัน”
เธอเหลือบมองคนซึ่ง ‘ไปช่วยไว้ทัน’ อีกแวบ เขาก็ยังไม่แสดงท่าทีว่าสนใจจะแอบฟังเหมือนเดิม ตายังคงมองตรงไปที่ถนนว่างๆ ข้างหน้า
“ค่ะ เขาไปช่วยได้ทันพอดี ก็เลยไม่เป็นไรมาก”
“ไม่เป็นไรมากน่ะเป็นไรแค่ไหน”
“ก็แค่ถูกซ้อมนิดหน่อยค่ะ”
น้าก็เลยตายอีกรอบ
“ตายแล้ว นี่ถ้าพ่อเขารู้เข้า…”
ไม่ต้องบอกหรอกว่าถ้าพ่อรู้เข้าแล้วจะเกิดอะไรขึ้น นี่ยังดีที่เรื่องผู้หญิงอีกสองคนถูกฆ่าตายหลังจากนั้นยังไม่แพร่ออกไปในลักษณะที่ว่ามันโยงมาถึงเธอด้วย ตำรวจยังเก็บเรื่องสารซึ่งคนร้ายส่งมาโดยอาศัยเหยื่อสองรายหลังสุดไว้เป็นความลับเพื่อผลทางรูปคดี
“เอางี้ มาหลบอยู่กับน้าสักพักดีไหม ให้ตำรวจจับผู้ร้ายนั่นได้เสียก่อนแล้วค่อยกลับไป”
แพทย์สาวตอบได้ทันควัน
“ไม่ดีกว่าค่ะน้ามิ้นต์ วาดต้องทำงาน”
“อะไร…ทำงาน นี่ยังจะต้องทำงานอีกเรอะ”
“ค่ะ น้า”
“แล้วนี่พ่อเขารู้เรื่องหรือยัง”
“ยังค่ะน้า” เธออ้ำๆ อึ้งๆ อยากขอร้องไม่ให้บอกพ่อ แต่ก็รู้ว่าถึงขอร้องไปก็เท่านั้น อะไรเกี่ยวกับเธอที่น้ารู้ ไม่ช้าพ่อก็ต้องรู้เหมือนกัน ก็น้าเล่นถือคติว่าพ่อออกปากฝากเธอไว้ ถึงอย่างไรก็ต้องดูแลให้ดีที่สุดแม้ทุกวันนี้จะอยู่กันคนละทิศแล้วก็ตาม
น้ารายงานให้พ่อรู้รวดเร็วกว่าที่คาดไว้เสียอีก เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากเมืองไทย ไม่ใช่จากพ่อ พ่อไม่โทรศัพท์มาถึงลูกสาวให้เสียศักดิ์ศรีหรอก ดีไม่ดีทะเลาะกันอีก คนที่โทรศัพท์มานั้นแสดงความห่วงใยเธอยิ่งกว่าพ่อเสียด้วยซ้ำ
“มีเรื่องอะไรหรือวาด ใครจะข่มขืนวาด”
เสียงของอาร้อนรนจนวาดตะวันเองก็เหนื่อยหน่ายใจ เรื่องชักจะไปกันใหญ่เสียแล้ว
ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้เหล็กดัดตัวที่อยู่ชิดผนังกระจกขนาดใหญ่ของอาคารที่ทำการหนึ่งในสองหลัง บริษัทของเอริคตั้งอยู่ชั้นบนสุดของอาคารหลังนี้ วางถุงเสื้อนอนที่เพิ่งซื้อมาลงข้างตัว
บริเวณนี้เป็นย่านการค้าและธุรกิจหลักของเมือง มีอาคารสูงสามหลังล้อมเป็นครึ่งวงกลม ตรงกลางเป็นลานโล่งกว้างขวาง ปูหินแผ่นใหญ่ๆ เรียงสลับลวดลายสีน้ำตาลในระดับสีต่างๆ กัน กึ่งกลางลานหินก่อขึ้นเป็นเนินเตี้ยๆ ปลูกดอกไม้หลากสีสันไว้เต็มพรืดจนไม่เห็นส่วนที่เป็นดิน มีม้านั่งยาววางเรียงรายไว้โดยรอบ
ใต้ชายคาอาคารขนาดใหญ่ที่สุดของบริเวณนั้นมีโต๊ะพร้อมเก้าอี้รูปทรงต่างๆ กันจัดไว้เป็นชุดหลายชุด มีผู้คนเดินกันให้ขวักไขว่เพราะเป็นเวลาเที่ยงวัน หลายคนหิ้วถุงพะรุงพะรังออกมาจากอาคารศูนย์การค้า คนซึ่งทำงานในอาคารเหล่านั้นบางคนออกมานั่งรับประทานอาหารกลางวันตามลำพังหรือไม่ก็เป็นกลุ่ม
เธอเดินเล่นในศูนย์การค้าจนเมื่อย จึงออกมาหาที่นั่งข้างนอก อากาศกำลังสบาย จะอยู่แต่ในตัวอาคารใดสักแห่งก็น่าเสียดายบรรยากาศดีๆ แบบนี้
เฝ้าดูผู้คนผ่านไปมาเพียงไม่นานสิ่งที่กลัวมาหลายวันก็เป็นความจริงขึ้นมาจนได้เมื่อได้รับโทรศัพท์จากอา
“โอย…ไม่ถึงกับจะข่มขืนหรอกค่ะอา คนโรคจิตน่ะค่ะ ก็แค่ทำร้ายผู้หญิง” เธอว่าไปเสียอย่างนั้น อาคงยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนักหรอก