เพียงเธอ (บทที่ ๙)

กระทู้สนทนา
บทนี้ช้าไป 2  อาทิตย์เลยค่ะเพราะติดงาน ระยะนี้เดินทางเยอะค่ะ บทหน้าจะไม่ช้าอย่างนี้แล้วค่ะ
ติดค้างนิยายอยู่หลายเรื่องเลยค่ะ พรุ่งนี้จะตามอ่านให้หมดเลยค่ะ ตอนนี้ขอนอนก่อนเพราะดึกมากแล้วค่ะ

ขอบคุณทุกๆ คนที่มาอ่านนะคะ

ขอบคุณ:

คุณ วราภรณ์ pink,
จารย์จี GTW,
คุณ Mr.พล,
น้องปุ้ย อรุสา,
คุณ ถวิลหาถนนสายฝัน,
น้องนุ้ย ณวลี,
คุณ Susisiri,
คุณนัน turtle_cheesecake,
น้องแพรว thezircon,
คุณนุ่น lovereason
คุณ CAN LIVE
คุณเสี่ย  kasareev
คุณ คาโบนาร่าลาซาญญ่ามักกะโรนี,
คุณ Su_jeong,
คุณ เขมปัณณ์
คุณ รัตนา นิรันดร์
คุณ nasa nasa
คุณป้าทุยบ้านทุ่ง
คุณหมูครับ

ชื่อหายไป 8 คน ตกหล่นชื่อใครไปต้องขอโทษด้วยนะคะ

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ

บทก่อนๆ ค่ะ
บทนำ http://ppantip.com/topic/32705425
บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/32747704
บทที่ ๒ http://ppantip.com/topic/32775622
บทที่ ๓ http://ppantip.com/topic/32798708
บทที่ ๔ http://ppantip.com/topic/32839123
บทที่ ๕ http://ppantip.com/topic/32895410
บทที่ ๖ http://ppantip.com/topic/32962172
บทที่ ๗ http://ppantip.com/topic/33348347
บทที่ ๘ http://ppantip.com/topic/33386316


บทที่ ๙



    ถนนทั้งสายมีแต่ซากปรักหักพังและซากตัวอาคารไหม้ไฟของบริเวณซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นย่านการค้า น้ำที่ท่วมสูงเกือบครึ่งหน้าแข้งดูเหมือนจะลดระดับลงบ้างแล้ว หากก็มีเศษอิฐเศษปูนจมอยู่จนแทบไม่มีรถโดยสารคันใดกล้าผ่านเข้ามา มีก็เพียงรถโกดังของหน่วยบรรเทาทุกข์ที่จอดอยู่ตรงหัวมุมถนนกับยุวชนทหารและชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งกำลังค้นหาคนเจ็บ…และอาจคนตายด้วยก็ได้  

เห็นห้องแถวซึ่งเป็นทั้งบ้านและร้านค้าอาศัยทำกินมานับสิบปีแก้วตาใจหาย ตัวอาคารแทบทั้งหลังมีร่องรอยว่าถูกไฟไหม้ บางส่วนของชั้นบนพังลงมาจนเหลือแต่โครง ชั้นล่างคงอยู่ได้ก็เพราะน้ำเป็นตัวช่วยดับไฟ ข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้าที่ตั้งใจจะมาค้นหาคงเสียหายไม่น้อย แม้ดูในระยะห่างจากภายนอกก็พอบอกได้ บอกได้ด้วยว่าถ้าเมื่อคืนยังคงติดค้างอยู่ในนั้นก็คงไม่รอด หรือแม้แต่ไปถึงหลุมหลบภัยได้ก็อาจไม่รอดเช่นกัน

เมื่อครู่รถเครื่องซึ่งพลรบเป็นคนขับผ่านหลุมหลบภัยใกล้บ้าน เวลานี้หลุมแห่งนั้นเหลือแต่ซาก ประตูทางเข้าถูกระเบิดพังพินาศ หลังคาฉาบปูนยุบลง ทั้งยังมีร่องรอยว่าถูกไฟไหม้อีกด้วย แก้วตาได้แต่หวังว่าคนที่เข้าไปหลบอยู่ในนั้นคงรอดกันออกมาได้ หลายคนเธอรู้จักดีเสียด้วยเพราะเห็นหน้ากันอยู่แทบจะทุกวัน

รถกระแทกลงในหล่มซึ่งมองไม่เห็นเพราะอยู่ใต้น้ำ และเธอก็เสียหลักในเมื่อมัวแต่เหลียวมองสองข้างทาง ดีที่แขนแข็งแรงของคนขับรวบตัวเธอไว้ได้ทัน หากถึงกระนั้นน้ำก็ยังกระเซ็นขึ้นมาจนเปียกไปหมด

“แก้วเป็นอะไรหรือเปล่า” เขาถามเป็นห่วงเป็นใย

“ไม่หรอก พี่ไม่เป็นไรแล้ว” แก้วตาปฏิเสธไว้ก่อนด้วยไม่อยากให้เขาหรือใครๆ ต้องวุ่นวายไปมากกว่านี้

คำตอบนั้นไม่ตรงความจริงเลยสักนิด แม้อาการปวดศีรษะจะทุเลาลงแล้วด้วยฤทธิ์ยา หากแต่ที่ยังคงค้างคาดูจะร้ายแรงเสียยิ่งกว่า เมื่อครู่ตอนวิ่งลงบันไดเรือนเพื่อให้ทันเขาออกจากบ้านอยู่ดีๆ มึนงงจนต้องคว้าราวไว้ แม้เวลานี้บางขณะก็ยังเห็นอะไรๆ เป็นภาพซ้อนวูบไปมา

    พลรบห้ามไม่ให้เธอติดรถมาด้วย บอกว่าเธอหมดสติไปทั้งคืน ไม่คิดหรอกว่าจะฟื้นตัวรวดเร็วขนาดออกไปไหนมาไหนได้ในทันที แต่เธอไม่ฟังเสียง ห่วงจักรและเสื้อผ้าที่รับงานมาและยังเย็บค้างๆ คาๆ อยู่ มากกว่าห่วงข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองเสียด้วยซ้ำ เธอไม่ไว้ใจพลรบว่าจะให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านั้น จึงคิดว่าควรต้องมาค้นหาด้วยตัวเอง

    รถเข็นของไพลินอีกอย่าง เธออยากมาดูให้แน่ใจด้วยว่าเขาจะไม่ลืม แม้น้องสาวของเขาจะพอเดินได้บ้าง แต่ในสภาพร่างกายที่อ่อนแอเพราะเพิ่งฟื้นจากป่วยไข้อย่างนั้นเธอคิดว่าไพลินไม่ควรยืนหรือเดินนานๆ

    รถเฟียตคุ้นตาจอดจมน้ำอยู่หลังรถโกดังของหน่วยบรรเทาทุกข์ และแก้วตาก็เพิ่งสังเกตเห็น หมอเรวัตคงเพิ่งออกเวร…ถ้าเมื่อคืนเขาอยู่เวรอีกเหมือนเช่นเคย แต่เขามาทำอะไรที่นี่แต่เช้าอย่างนี้ หรือมาช่วยค้นหาคนเจ็บ แต่ก็น่าแปลกเพราะไม่เคยเห็นเขาทำแบบนี้มาก่อน

พลรบหยุดรถเครื่องริมทางเดินเท้าหน้าร้าน ปล่อยแขนจากเอวเธอแล้วสั่ง

“แก้วอยู่นี่แหละ ไม่ต้องลงมา”

หากเธอไม่ฟังเสียง ขยับเลื่อนตัวจากเบาะนั่งตามติดลงจากรถ

“พี่ไม่ได้มาเที่ยวนะพล ที่มาด้วยก็ตั้งใจจะมาช่วยเธอขนของ”

เขาส่ายหน้าระอาใจกับความรั้นของเธอ ก็เห็นๆ อยู่ว่าแม้แต่ยืนยังแทบจะไม่ไหว เมื่อคืนที่ตัดสินใจฝ่าระเบิดระลอกแล้วระลอกเล่าเพื่อพาเธอไปโรงพยาบาลก็เพราะเห็นว่าไม่รู้สึกตัวและบาดแผลที่ศีรษะก็ดูร้ายแรงอยู่ไม่น้อย

ห้องทำแผลในโรงศิริราชพยาบาลกำลังวุ่นวายทีเดียวเมื่อไปถึง คนเจ็บมีมากจนไม่มีเตียงว่าง หมอเวรคงเป็นคนใหม่เพราะเขาไม่เคยเห็น หมอทำแผลให้ และเขาก็จำต้องพาเธอกลับเพราะเห็นว่าปล่อยให้นอนไม่ได้สติอยู่บนม้านั่งทั้งคืนคงไม่ไหวแน่ แต่นั่นก็หลังจากได้รับคำยืนยันจากหมอแล้วว่าไม่นานเธอควรรู้สึกตัว

อีกสาเหตุที่รีบพาเธอกลับก็เมื่อพยาบาลคนหนึ่งที่อยู่เวรเมื่อคืนมาเห็นเข้า

‘นี่คุณแก้วตาน้องสาวหมอเรวัตนี่’

หล่อนเหลียวมองซ้ายขวาราวหาเตียงให้ แต่ก็ไม่เห็นมี

‘หมออยู่ในห้องผ่าตัด พี่จะไปบอก’

นั่นล่ะที่ทำให้เขารีบอุ้มเธอกลับออกมาที่รถ จะเป็นเพราะอะไรเขารู้ดี ความหวงแหนนั่นแหละมากกว่าอะไรอื่น อย่างไรเสียเขาต้องเป็นคนดูแลเธอ ไม่ใช่หมอคนนั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่