..........เสือ สิงห์ กระทิง อินทรี ........ตอนที่ ๑๔........@@ โดย ลุงแผน

กระทู้สนทนา



..........( เสือ สิงห์ กระทิง อินทรี )........... 




         ภาคต่อ


        ตอนเดิมครับ


       
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



        ตอนที่  ๑๔
 
 
         ......ที่บ้านไร่ในตอนเย็นวันเดียวกัน แม่แก้วส่งเสียงเรียกจากในครัว ให้น็อตเข้าไปยกต้มยำหัวปลาซึ่งเป็นกับข้าวอย่างที่สามของเย็นนี้ กลิ่นน้ำมะนาวโชยนำมาก่อนเรียกความหิวให้เกิดกับเจมส์ทันที  หญิงสาวมองผัดผักรวมและปลาตะเพียนทอดบนโต๊ะก่อนมองไปยังจานเปล่าสี่ใบ แล้วเอ่ยถามแม่แก้วที่กำลังยกหม้อข้าวเดินตามน็อตออกมาจากครัว
       
               “กับข้าวมากจังแม่แก้ว แล้วเตรียมจานไว้ให้ใครอีกใบจ๊ะ” 
 
              เจมส์มองแม่แก้วที่วางหม้อข้าวลงบนโต๊ะพร้อมกับยิ้มให้เธอ แม่แก้วยิ้มตอบขณะชำเลืองมองน็อตที่ก้าวขึ้นบันไดไปข้างบนก่อนหันมองหญิงสาวแล้วตอบกลับมา
 
               “ให้เอกจ้ะ แม่ให้น็อตไปพาลงมาแล้ว เอกกินข้าวต้มหลายมื้อคงเบื่อ”
 
 
                หญิงสาวทำตาโตก่อนถามกลับด้วยความสงสัย
 
                “อ้าว พี่เอกกินข้าวสวยได้แล้วเหรอแม่แก้ว”
 
              “ได้แล้วจ้ะ เอกไม่เป็นอะไรข้างใน แค่ระวังของหมักดองบางอย่างก็พอ แผลไม่อักเสบ ไข้ไม่มีต้องกินเยอะ ๆ จะได้หายเร็ว ๆ”
 
              แม่แก้วพูดพลางจัดจานจัดช้อนวางตรงหน้าเก้าอี้แต่ละตัว หญิงสาวมองตามพลางขยับเข้าไปหยิบทัพพีเตรียมตักข้าวใส่จานขณะน็อตเดินนำเอกลงบันไดช้า ๆ โดยน็อตคะแคงข้างก้าวเท้าลงทีละขั้น ตามองเอกที่ตามลงมาพร้อมกับหยุดเป็นระยะเมื่อการทรงตัวทำให้กล้ามเนื้อซีกซ้ายเกร็งเล็กน้อยจนถึงแผลที่ใต้ไหล่ แต่เขาประคองตัวลงถึงพื้นได้อย่างปลอดภัยท่ามกลางสายตาสองคู่ที่จ้องมอง
 
              น็อตพาเอกนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง เจ้าตัวซู้ดปากเบา ๆ ตอนขยับให้เข้าที่แต่เพียงแวบเดียวสีหน้าก็กลับมาปกติอย่างเดิม เจมส์มองหน้าชายหนุ่มพลางคิดถึงตอนที่น็อตโทรมาจากโรงพยาบาลว่าเอกมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับเธอ หญิงสาวจึงลำดับเรื่องราวของพ่อกับแม่ในใจ
 
              “น่ากินจังครับเห็นกับข้าวแม่แก้วแล้วคิดถึงแม่นุ่มเลย”
 
             เอกพูดออกมาแบบซื่อ ๆ คำบอกเล่าคร่าว ๆ จากน็อตทำให้เอกรู้ว่าแม่แก้วเป็นใครและรู้สึกผูกพันเหมือนเป็นคนในครอบครัวตัวเอง แม่แก้วยิ้มตอบมองเจมส์ที่ตักข้าวใส่จานแล้ววางตรงหน้าทีละคนจนถึงน็อตที่ยื่นมือออกไปรับแบบใจลอยพร้อมกับมองแม่ตัวเองก่อนตักกับข้าวใส่จาน
 
             เจมส์มองวงข้าวแล้วนึกถึงครอบครัว ภาพแบบนี้ เธอชินตามาหลายปีเพียงแต่วันนี้ขาดพ่อกับแม่ไป หญิงสาวถอนใจเบา ๆ ก่อนมองไปทางเอกอีกครั้ง ถ้าพี่เอกเป็นพี่เธอจริง ๆ เขาต้องมีเลือดนักสู้อยู่ในตัวมากพอควร ฟังจากลุงชิตเคยเล่าถึงตอนพ่อถูกยิงทั้งตัวแล้วหายเป็นปกติภายในเวลาไม่นาน เทียบกับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าแทบไม่ต่างกัน 
 
            พี่เอกถึงจะมีหน้าตาผิวพรรณแบบผู้ดี แต่ความแข็งแกร่งของร่างกายไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อเลยสักนิดเดียว เขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและตักข้าวกินคำแล้วคำเล่าเหมือนกับคนธรรมดาที่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร เจมส์หันไปทางแม่แก้วและพบกับสายตาที่มองอย่างเอ็นดูอยู่พอดีจึงยิ้มตอบก่อนเอื้อมมือตักกับข้าวใส่จานตัวเอง 
 
           “ทานเยอะ ๆ นะหนูเจมส์ ชอบอะไรก็บอกแม่แก้วจะทำให้”
 
           แม่แก้วรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวและใช้คำว่าแม่อย่างสนิทใจเพราะมองดูแล้วลำดวนกับเธอน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน

          “ไม่เป็นไรจ้ะ แม่แก้วทำอะไรก็อร่อย หนูรอกินอย่างเดียวดีกว่า” 
 
         หญิงสาวตอบพลางใช้ซ่อมกดตัวปลาตะเพียนทอดก่อนใช้ช้อนค่อย ๆ ตัดเนื้อปลาเพื่อจะตักออกมาใส่จานข้าว แม่แก้วมองยิ้ม ๆ ก่อนพูดออกมาเบา ๆ 
    
        “ใช้มือหยิบเลยหนูง่ายกว่า”
 
           แม่แก้วเห็นปลาลื่นไปมาในจานจึงบอกกับเจมส์  น็อตได้ยินจึงใช้มือหยิบนำไปตัวหนึ่ง ก่อนฉีกส่วนท้องที่เหลืองกรอบวางใส่จานให้เอกที่เหลือในมือวางในจานตัวเองแล้วส่งยิ้มให้เจมส์ 
     
           เอกเอ่ยขอบใจก่อนตักข้าวกินกับปลาทอดเป็นคำต่อไป แม่แก้วมองทั้งสาม อมยิ้มขณะนึกถึงพ่อของน็อตแล้วถอนใจออกมา รินเป็นคนรักครอบครัวถ้าเขายังอยู่ลูกเมียคงไม่ต้องดิ้นรนมากมาย แต่เมื่อนึกถึงงานที่ทำให้สามีต้องพบกับความตายแบบนั้นความรู้สึกขัดแย้งก็เกิดขึ้นในใจ ทั้งที่รินจากไปหลายปีแล้วเรื่องยุ่ง ๆ ยังคงติดตามมาอย่างไม่น่าจะเป็น แต่ถ้าเขายังอยู่ ทุกข์แค่ไหนเขาคงพาครอบครัวผ่านไปได้อย่างสบาย เธอคิดวนไปมาถึงความน่าจะเป็นขณะเสียงเอกพูดออกมา
 
          “แม่แก้วทานมั่งสิครับ เป็นคนทำกลับนั่งมองเฉยเลย”
 
          เอกเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ หลังเห็นหญิงกลางคนนั่งเงียบไม่แตะต้องจานข้าวตรงหน้าตัวเอง เจมส์เห็นอย่างนั้นจึงขยับจานกับข้าวให้ใกล้แม่แก้วเข้าไป แล้วตักผัดผักใส่ให้ในจานข้าวก่อนมองเป็นทีให้เธอตักทาน แม่แก้วจึงจับช้อนตักข้าวพร้อมกับยิ้มตอบมา
 
         “ไร่นี้ของใครเหรอเจมส์”
 
         เอกถามหญิงสาวพร้อมกับมองหน้าเธอ 

         “ของลุงชิต ทำไมเหรอ” 
 
         เจมส์มองหน้าตอบพลางถามกลับไป
 
        “บรรยากาศดี ถ้าที่ข้าง ๆ ว่างเอกว่าจะให้พ่อซื้อสักแปลง เอาไว้มาอยู่ตอนปิดเทอม”
 
        เอกมองหน้าเจมส์ยิ้ม ๆ หญิงสาวไม่พูดอะไร ชำเลืองมองข้าวในจานเขาเห็นหมดแล้วจึงทำท่าจะตักให้อีกแต่เอกยกมือเป็นทีว่าพอก่อนหันไปทางแม่แก้วแล้วเอ่ยออกมา
 
        “ผมอิ่มแล้วแม่แก้ว ขอตัวขึ้นไปพักก่อนนะครับ” แม่แก้วพยักหน้ารับคำ น็อตซึ่งนั่งมองอยู่รีบลุกขึ้น แล้วเข้ามาประคองเอกก่อนพาเดินไปทางบันได
 
        เอกเดินขึ้นบันไดเหมือนคนปกติจนน็อตอดแปลกใจไม่ได้ เพราะเขาเองแค่คอยระวังข้างหลังไม่ให้เอกเสียหลักถอยลงมา เนื่องจากเอกเกาะราวบันไดแค่มือเดียว นอกนั้นน็อตก็ไม่ได้ทำอะไรขณะเอกเดินลิ่วขึ้นไปอย่างเร็ว
 
       เมื่อเข้าในห้อง เอกเดินไปที่เตียง นั่งลงมองไปรอบ ๆ  ก่อนเอ่ยขึ้นมาเมื่อเห็นปืนสองกระบอกที่แยกชิ้นส่วนวางอยู่บนโต๊ะติดข้างฝา
 
      “ปืนของน็อตสองกระบอกเลยเหรอ”
 
      “เปล่า ของลุงชิตเราเอาออกมาล้างยังไม่ได้เก็บเลย”
 
       น็อตตอบพลางเดินเข้าไปจับชิ้นส่วนแต่ละชิ้นประกอบเข้าด้วยกันขณะเอกนั่งมองอยู่ จนเสร็จเรียบร้อยจึงวางไว้ข้างแมกกาซีนคู่กัน หันกลับมายิ้มให้เอกก่อนก้าวมานั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง
 
         “พ่อเป็นไงมั่งไม่รู้ เราโทรหาก็ปิดเครื่อง”
 
         เอกพูดด้วยน้ำเสียงปนกังวลแต่สีหน้ากับแววตาไม่แสดงอาการอะไร
 
        “น่าจะยุ่งอยู่แต่ไม่เป็นไรหรอกเอก ลุงสองคนไปด้วยเดี๋ยวสักพักคงกลับ”
 
        เอกพยักหน้าช้า ๆ ก่อนมองหน้าน็อตยิ้ม ๆ แล้วเอ่ยออกมา
 
        “น็อตว่าเจมส์เป็นไง”
  
        น็อตมองหน้าเอกนิ่ง ถอนใจเบา ๆ ก่อนก้มหน้าพูดพึมพำขณะเอกเอนตัวลงนอน
  
        “ไม่รู้สิ เราเพิ่งเจอเจมส์ไม่นาน”
 
       “แล้วน็อตคิดยังไงกับเจมส์”
 
       เอกถามโดยไม่มองมา น็อตไม่ตอบ นั่งนิ่งถอนใจอีกครั้ง นึกถึงตอนที่พบหญิงสาวในวันนั้น มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นขณะยืนจ้องหน้าเธอ มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบายและไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะคิดถึงอนาคตข้างหน้าต่อไป ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ถึงอาการที่เกิดขึ้นในใจอย่างชัดเจน ทั้งหมดคือ ความอ่อนแอ
 
       ความเข้มแข็ง ความมุทะลุ เมื่อตอนเริ่มเข้าวัยหนุ่มหายไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อได้เจอกับเจมส์ ซึ่งน็อตยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เพราะเขาจะคิดจะทำอะไรไม่เป็น เวลาอยู่ต่อหน้าเธอตามลำพัง ไม่กล้าเอ่ยความในใจหรือแม้แต่สบตา ยิ่งตอนนี้มีเอกมาอยู่ด้วยอีกคน ความผูกพันดังพี่น้องที่เขากับเอกรู้สึกต่อกัน ทำให้น็อตลังเลในเรื่องความรู้สึกที่มีกับเจมส์ นึกถึงตรงนี้น็อตหันไปทางชายหนุ่มซึ่งหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เสียงหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอของเอกทำน็อตถอนใจออกมาเบา ๆ พลางมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่นอนอยู่บนที่นอน เหตุการณ์ที่พลิกผันในคราวนี้ทำให้เขาสองคนซึ่งต่างฐานะกัน ได้มาอยู่ร่วมชะตาเดียวกันอย่างไม่น่าจะเป็น แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงต่อไป เขามั่นใจว่าความรู้สึกเหมือนพี่น้องกันจะไม่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน  
 
       เสียงเก็บถ้วยจานกับเสียงคุยกันข้างล่างแว่วมาเบา ๆ น็อตขยับตัวลุกขึ้นเตรียมลงไปเพื่อช่วยแม่ล้างของในครัวขณะเสียงแผ่ว ๆ ของรถคันหนึ่งจากหน้าไร่กำลังแล่นตรงเข้ามา ชายหนุ่มก้าวไปยังโต๊ะคว้าปืนมากระบอกหนึ่งหยิบแมกกาซีนข้าง ๆ ใส่ตรงใต้ด้ามตบเบา ๆ ดังกริกจนแน่ใจว่าสนิทดีจึงดึงลูกเลื่อนขึ้นสุดและปล่อยดังแกร๊กแล้วเหน็บไว้ตรงเอวด้านหลังก่อนหมุนตัวก้าวเท้าไปหยุดอยู่ตรงบันได....
 
 
        ( มีต่อครับ )
        
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่