..........เสือ สิงห์ กระทิง อินทรี ........ตอนที่ ๕..........@@ โดย ลุงแผน

กระทู้สนทนา






                                                                            .......... ( เสือ สิงห์ กระทิง อินทรี )..........
  

     ตอนเดิมครับ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

  ตอนที่  ๕
  
....เสียง แม่นุ่ม ดังมาจากข้างหลังเอก ทำให้เขาลดมือลงทันที เพราะน้ำเสียงแบบนี้ เอก เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรก ส่วน น็อต เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำเช่นนั้น เขาก็ลดปืนลงช้า ๆ
  
        แม่นุ่ม ก้าวเข้ามาหาทั้งสองคน ตามอง น็อต ซึ่งยังคงระวังตัวอยู่ตลอดเวลา บรรยากาศรอบตัว ยังไม่น่าวางใจ เอก เดินเข้าไปยืนข้าง ๆ แม่ ท่าทางเตรียมพร้อมจะขย้ำผู้บุกรุกได้ทุกวินาที 
  
        “เธอเข้ามาทำไม พ่อหนุ่ม” แม่นุ่ม ถามเสียงเครียด น็อต คิดในใจว่า พร้อมแล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป ตาจ้อง เอก พลางพูดออกมา
   
        “คนนี้ เค้าพาพวกไปลักพาตัวคนที่ผมรู้จัก มานี่” สายตาน็อต ยังคงมองเขม็ง
  
         “เฮ้ย แรงไปหน่อยมั้ง ลักพาตัว” เอก เสียงแข็ง ทำท่าจะยกปืนขึ้น แม่นุ่มแตะแขนไว้เบา ๆ เขาจึงหยุดแบบไม่เต็มใจ
  
        “ก็จริง แกเข้าไปแป๊บเดียว ทำท่าชวนลุงชิตคุย แล้วให้พวกเข้ามาจับเจมส์ไป” 
  
        “ใคร ผู้หญิงคนนั้นนะ ชื่อเจมส์” เอก นึกถึงใบหน้าหวานของหญิงสาว พลางมองหน้าน็อต แล้วสงสัยว่าหมอนี่เป็นใครกัน
  
        “ใช่ แล้วข้าจะมารับกลับเดี๋ยวนี้”
  
        “รับบ้าอะไร เธอไม่ได้อยู่นี่”
  
        “ไอ้โกหก” น็อตยกปืนขึ้น ด้วยความโมโหสุดขีด เอก ยกปืนเล็งกลับไปเช่นกัน ตาจ้องมองไม่กะพริบ
  
        “พอ พอ พอแล้ว ทั้งคู่นั่นแหละ เอก พาเค้าไปที่ห้องแม่” แม่นุ่ม แทรกขึ้นมาแล้วหันไปทางเอก ที่อ้าปากค้าง หันมองแม่นุ่มด้วยความแปลกใจ ขณะที่ น็อต มีอาการไม่แพ้กัน
  
        “เรื่องอะไรครับ แม่นุ่ม ไอ้นี่มันเป็นขโมยนะ” เอก ทำท่าจะไม่ยอม ส่วน น็อต เริ่มลังเล เพราะคนที่เอก เรียกว่าแม่นุ่มนั้น ดูท่าทางอ่อนโยน และมองจากการกระทำแล้ว เธอไม่คิดว่าเขาเป็นผู้บุกรุก แม้แต่นิดเดียว
        
        “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันน่ะ ไปเร็ว ก่อนใครจะมาเห็นเข้า” แม่นุ่มพูดจบ หันหลังก้าวลงบันได สองหนุ่มเห็นดังนั้นก็เดินตามลงมา ในใจคิดตรงกัน คือ ต้องการรู้เรื่องราวที่แท้จริง
       
        เสียงปืนดังแน่น ๆ สามนัดซ้อน เจ้าคนหนึ่งหน้าคะมำขณะวิ่งขึ้นบันไดมา ทำเอาไถลไปถึงกลางโถง ก่อนจะนอนนิ่งจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น กลางหลังมีรูขนาดนิ้วโป้งยัดได้อยู่หนึ่งรู แม่นุ่มชำเลืองตามองแวบนึง ก่อนเดินเร็ว ๆ เลี้ยวไปยังห้องนอนที่อยู่ทางเดียวกับครัว
  
        สองหนุ่ม เดินจ้ำตามอย่างไว  แต่ทันได้ยินเสียงปืนอีกนัด พร้อมร่างสมุนของเดช หงายท้องเข้ามานอนยาวขวางประตู  ปืนร่วงอยู่ข้างตัว เอก เดินตามแม่นุ่มไปติด ๆ ส่วนน็อตก้าวเท้าพร้อมกวาดสายตาไปรอบ ๆ เพื่อดูทางหนีทีไล่ไว้ในใจ
       
        แม่นุ่มยืนรอจนสองหนุ่มเดินเข้าในห้องเรียบร้อย เธอชะโงกหน้าออกนอกประตู มองออกไปทางที่เดินมา เมื่อไม่เห็นใครจึงดึงประตูปิด ล็อกเสร็จแล้ว เอ่ยชวนทั้งสองคนนั่งลง
        “นั่งลงก่อน เอก เจ้าหนูด้วย ชื่ออะไรเราน่ะ” เอกนั่งลงบนเก้าอี้ เหน็บปืนไว้ข้างหลัง ตามองเจ้าน็อต ที่นั่งลงตรงข้ามส่วนมือยังถือปืนวางไว้บนหน้าขาตัวเอง
  
        “ชื่อน็อตครับ” เจ้าน็อตตอบอย่างสุภาพ 
  
        “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนะน็อต” ทั้งสองมองหน้าแม่นุ่ม แล้วหันกลับมามองกัน ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
  
        “เจมส์น่ะ เค้าไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่อยู่ไหน แม่นุ่มก็ไม่รู้เหมือนกัน” เธอพูดเรียบ ๆ ตามอง เจ้าน็อต ก่อนเล่าเรื่องราวที่เจ้าเบิ้ม ถือโอกาสในความชุลมุนครั้งนี้ เข้าสวมรอย หวังทวงของมีค่า จากคนที่ปล้นไป โดยไม่คิดคืนเจ้าของที่แท้จริง คือ เดช แม้แต่นิดเดียว
  
        ส่วนเหตุผลที่ความเดือดร้อนมาลงที่ เจมส์ เพราะ คนที่เข้ามาในบ้านของ เดช ในคืนนั้น คือ ชัย และชัยเป็นพ่อของ เจมส์
  
        เมื่อแม่นุ่มเล่าถึงตอนนี้ น็อต มีสีหน้าเปลี่ยนไป นึกลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่วันแรกที่รับฝากกุญแจ มาจนถึงเมื่อเช้าที่เกิดเรื่องขึ้น ส่วน เอก ท่าทางเริ่มไม่สบายใจ เพราะถ้าเรื่องเป็นอย่างนั้นจริง หญิงสาวต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน
  
        “ไม่จริงหรอก แม่นุ่ม ครอบครัวเจมส์ ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่จะจริงหรือไม่จริง อาเบิ้มก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับพ่อ” เอก พูดถึง พ่อ ขณะที่ใจกังวลถึง เจมส์ และคิดว่าจะ ทำอย่างไรต่อไป
  
        “ไปตามหาเจมส์ดีกว่า เพราะยังไง ถ้าช่วยเธอออกมาได้ อาเบิ้มก็ไม่มีอะไรต่อรองเรื่องทองของพ่อ ส่วนเรื่องอื่น เราค่อยคิดกันทีหลัง”
  เอก พูดขึ้นมา พร้อมลุกยืน มองหน้าน็อต ก่อนเอ่ยถามว่า
  
        “เราไปด้วยได้มั้ย”
  
        น็อต มอง เอก อย่างชั่งใจ หลังจากได้ยินแม่นุ่ม เล่าเรื่องราวให้ฟัง จริง ๆ แล้ว เขาสองคนกับลุงชิต น่าจะคล่องตัวกว่า แต่ลองคิดดูอีกที คนชื่อเบิ้ม เอก รู้จักดีเพราะเป็นคนของพ่อเขา ถ้าไปด้วยกันคงทำให้อะไรง่ายขึ้นกว่าเดิม คิดดังนั้นจึงพยักหน้ารับ แล้วลุกขึ้น ยกมือไหว้แม่นุ่มพร้อมกล่าวลา
  
        “แล้วจะเริ่มกันที่ไหนล่ะ” แม่นุ่มลุกขึ้นยืน ถามด้วยความเป็นห่วง
  
        “ไม่น่ายากครับแม่ บ้านอาเบิ้มมีไม่กี่ที่หรอก” เอก พูดอย่างมั่นใจ พลางพยักหน้าให้น็อต แล้วพากันเดินออกจากห้อง
  
        “เดี๋ยวเราไปหาลุงชิตกัน เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง แล้วให้ลุงตัดสินใจ” น็อต พูดขึ้นมา แล้วเดินนำหน้าเอก ออกประตูหลังบ้าน ตรงไปยังบันไดไม้ไผ่ข้างโรงเรือน ยังไม่มีใครในบริเวณนี้ เสียงปืนที่ก้องมาอีกสามนัด เป็นเครื่องยืนยัน ว่าทุกคนยังรวมกันอยู่หน้าประตูรั้ว
  
        เอก ปีนบันไดตามน็อตขึ้นบนกำแพง นึกชมชายผู้นี้ในใจ คนแบบไหนนะ ที่กล้าบุกเดี่ยวเข้ามาช่วยใครคนหนึ่งได้ ถ้าสติยังดีอยู่ละก็ ไม่รู้จะหาคำนิยามแบบไหนเหมือนกัน 
  
        นึกถึงหญิงสาวที่ชื่อ เจมส์ เธอมีความสำคัญกับน็อตแค่ไหน และ น็อต คิดอย่างไรกับ เจมส์ เป็นเรื่องน่าหนักใจพอสมควร  แต่ยังไงต้องวางไว้ก่อน ตอนนี้ เรื่องของพ่อ และความปลอดภัยของเธอ มาก่อนเรื่องอื่น เสร็จแล้วจะเอายังไงค่อยว่ากัน คิดถึงตรงนี้เขาก็ปีนถึงด้านบนของกำแพงพอดี น็อต ยืนรออยู่ พอ เอก ขึ้นมายืนหลบออกข้าง น็อตก็ดึงบันไดขึ้นมา แล้วยกข้ามกำแพงหย่อนลงไปด้านนอก พยักหน้าให้ เอก ปีนลงไป
  
        น็อต มองตามเอก ขณะเสียงปืนยังกึกก้อง คิดในใจ ว่า ไม่น่าเชื่อ คนที่เกือบจะฆ่ากันก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที กลับเป็นมิตรกันได้ เพียงเพราะมีศัตรูคนเดียวกัน และ.. ความคิดสะดุดลงเมื่อคิดถึง เจมส์  เอก คิดยังไงกับเธอนะ น็อต ถอนใจออกมา ขณะมอง เอก วางเท้าลงบนพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา ยิ้มพร้อมพยักหน้าให้น็อตปีนลงไป น็อต ยิ้มรับ หมุนตัวหันหลังหย่อนเท้าลงบนบันไดไม้ไผ่ ขณะความคิดหนึ่งแวบเข้ามา รอเรื่องนี้จบลงก่อน แล้วให้ เจมส์ เป็นคนตัดสินใจ ตัวเขาเอง พร้อม และยอมรับ ผลที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ขอเพียงแค่ครั้งนี้ เธอ ปลอดภัย ก็พอ
  
        เมื่อลงถึงพื้นแล้ว ทั้งสองต่างมองหน้ากัน เอก ยิ้มออกมาพลางแหงนหน้ามองบนกำแพง ขณะ น็อต เอนบันไดออกจากกำแพง ยกเข้าข้างทาง วางทิ้งไว้ในกอหญ้าตรงนั้น แล้วทั้งสองพากันเดินไปข้างหน้าอย่างเร็ว
  
        น็อต พาเอก ก้าวยาว ๆ เลาะรั้ว เพื่ออ้อมเข้าไปในป่าตรงข้ามบ้านเดช ซึ่งลุงชิต อยู่บริเวณนั้น และกำชับน็อตไว้ว่า เมื่อเห็นตัวลุงให้ส่งสัญญาณกู่ร้อง ที่นัดแนะกันไว้ ก่อนจะเข้าไป เพื่อให้รู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน เขาเดินเร็ว ๆ ด้วยความเป็นห่วงลุง และเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ไม่มีใครระวังหลังให้ ลุงชิต แม้แต่คนเดียว
  
        เมื่อพ้นแนวรั้วด้านข้าง ก็ถึงถนนดินเส้นเล็ก ๆ น็อต ข้ามถนนไปอีกฟาก และเดินลึกเข้าไป ก่อนจะวกกลับไปทางทิศที่บ้านหลังใหญ่ตั้งอยู่ เสียงปืนดังขึ้นสองนัด เหมือนอยู่ไม่ไกลนัก ควันดินปืนลอยตามลมได้กลิ่นชัด น็อต เร่งฝีเท้าฝ่าพุ่มไม้น้อยใหญ่ เข้าไป จนเห็นร่างลุงชิต กำลังเล็งปืนเข้าไปในตัวบ้าน พร้อมเหนี่ยวไกออกไป
  
        “เปรี้ยง เปรี้ยง” 
  
        น็อต เพิ่งเห็นปืนลุงชิตชัดก็ตอนนี้เอง ขณะลุง ถอดแมกกาซีนเดิมออก แล้วใส่แมกใหม่ยาวเกือบฟุตเข้าไป มันคือ derya mk12 ลูกซองออโต้นั่นเอง แมกที่ใส่เข้าไปบรรจุสิบนัด ถึงว่า เสียงจึงดังแน่น ๆ ต่อเนื่องไม่มีสะดุด และเมื่อลุงชิตดึงลูกเลื่อนด้านข้าง เพื่อป้อนกระสุนเข้ารังเพลิงเสร็จเรียบร้อย ก็ยกเล็งไปทางบ้าน เดช ทันที 
  
        “เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง”
  
        น็อต มองไม่เห็นบริเวณที่ลุงยิงไป เพราะพุ่มไม้ขึ้นสลับไปมาบังอยู่ และลุง ยังอยู่ไกลประมาณ สามสิบเมตร เจ้าน็อตจึงกู่ร้องขึ้นมาเป็นสัญญาณ แล้วมองลุงชิต เมื่อลุงหันมา แล้วชูมือขึ้น เป็นอันรู้กัน น็อต จึงชวน เอก รุดหน้าเข้าไปทันที
  
        เจ้าน็อต ขยับเท้าได้แค่สามก้าว ก็ต้องหยุด ยืนนิ่งตัวเย็นเฉียบ เมื่อเลยจากลุงชิตไปไม่ไกล ชายหน้าเหี้ยมสองคน ย่องเข้ามาช้า ๆ ตั้งใจเข้าทางด้านหลังลุง น็อต ยกปืนในมือขึ้น แล้วต้องลดมือลง  คิดในใจ ระยะนี้โอกาสพลาดมีมากมาย เขาหันมอง เอก แวบนึง ก่อนวิ่งไปข้างหน้าอย่างรีบเร่ง พร้อมเสียงกู่ยาว ๆ สองครั้ง
  
        ลุงชิต ไม่ได้หันมามอง เพราะสายตาจ้องไปด้านหน้าอย่างเดียว เจ้าน็อต จึงเร่งฝีเท้าขึ้นแต่ไม่เร็วได้มากนัก เพราะพื้นที่ไม่เสมอกัน เขาไม่สนใจกิ่งไม้แหลม ที่ข่วนใบหน้าและลำตัวอยู่ ได้แต่คอยหลับตา และยกมือป้อง เป็นครั้งคราวเท่านั้น จนกระทั่งมาถึงครึ่งทาง เจ้าน็อต มองเห็นทั้งสองคน เล็งปืนมาทาง ลุงชิต อย่างมั่นใจ
  
        “เปรี้ยง เปรี้ยง”...
         

            derya mk12

                                            
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ  
        ขอบคุณ คลิป จาก You Tube  คุณ สุรัตน์ หวังเจริญกุลชัย ครับ

        ( มีต่อครับ )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่