ตอนที่ผ่านมาอยู่ คห สุดท้ายค่ะ
หนึ่งใจในแผ่นดิน
ตอนที่ 54 (2/3)
ในเมื่อบุคคลทั้งสองเป็นคนสำคัญของเขาทั้งคู่ เอกรัตน์หันไปมองปลายกระบอกปืนแล้วจับมันลดระดับต่ำลงตรงตำเหน่งหัวใจ มองหญิงสาวด้วยดวงตาแน่วแน่
“ดวงแขไม่เคยตายไปจากใจผม เธอยังอยู่ที่ตรงนี้เสมอ ถ้าเธอตาย นั่นหมายความว่าผมก็ตายไปด้วย”
ดาราเหลือกตาโตมองชายหนุ่มที่กำลังถอดแว่นสายตาออกช้าๆ มือไม้สั่นเมื่อเขาจับมือของเธอให้กดปลายปืนลึกเข้าไปในหน้าอก ดวงตาเรียวไร้สิ่งบดบังอีกต่อไป เขาจ้องมองเธอด้วยหัวใจรักที่ซ่อนเร้น แม้ภาพจากปัญหาทางสายตาที่เห็นจะไม่ชัดเจน แต่เขาไม่ได้มองเธอด้วยดวงตา หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้มีใบหน้าของดวงแข แต่เธอมีดวงตาและมีหัวใจของดวงแขซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีเย็นชาที่สร้างขึ้น
“มีใครคนหนึ่งเคยบอกไว้... ‘สิ่งสำคัญไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา’ และวันนี้... ผมเพิ่งรู้ว่ามันหมายถึงอะไร”
“คุณเอก...” เธอเปรยเสียงสั่น
“ยิงผมให้ตายไปซะ ให้ผมแน่ใจว่าดวงแขตายจากผมไปแล้วจริง”
ทรงชัยเข่นเขี้ยวเมื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนท้าทายความตาย “แกพูดอะไรของแก อีดวงแขมันตายไปแล้ว ! ”
“บอกผมมาสิว่าดวงแขยังไม่ตาย” ชายหนุ่มร่ำร้องเว้าวอนขอคำตอบจากปากหญิงสาว
ดาราเม้มปากจนเรียวปากสีแดงสดของเธอแดงช้ำกว่าสีลิปสติกที่ฉาบปกปิดสีปากสวยตามธรรมชาติ เธอมองชายหนุ่มผู้เลือกจะอยู่กับเธอที่นี่ แต่ความห่วงกังวลในตัวคุณหมอสาวมันจุกล้นจนดาราหักห้ามความต้องการของหัวใจไว้ เธอทำผิดกับคุณหมอมาแล้วครั้งหนึ่ง และไม่ขอทำผิดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง
“ดวงแขตายไปแล้ว” เสียงหนักแน่นกว่าเดิมหลายร้อยเท่าเปล่งออกจากช้าๆ ชัด ๆ “คุณต้องไปช่วยคุณหมอ”
คลิก !
เสียงเหนี่ยวไกปืนแสนเบากับการยกเล็งเป้าที่ไม่มีใครมาขวาง สายตาเหี้ยมไร้ความปราณีแม้ลูกชายของตนจะยืนตรงนั้นกับหญิงสาวที่กลายเป็นงูพิษร้าย หากพยานคนเดียวคนนี้ตายไป อย่างน้อยเขาก็รอดจากการคดีฆ่านักการเมืองท้องถิ่นคนเก่า ส่วนลูกชายไร้สติก็ยังถืออำนาจตามตำเหน่งต่อไป
“อย่านะพ่อ ! ”
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง !!!
ลูกกระสุนสามนัดถูกปลดปล่อยพุ่งตรงไปยังเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว !
เสียงเนื้อถูกเจาะทะลุทะลวงพร้อมกันกับเสียงร้องแห่งความเจ็บปวด ปืนร่วงหล่นจากมือตายด้วยร่างบางล้มลงพับคาหน้าอกของชายหนุ่ม เลือดแดงสดหลั่งรินเปรอะเปื้อนทั่วกาย
ชายหนุ่มตะโกนลั่นพยุงหญิงสาวไว้แนบกาย หงายใบหน้าของเธอเรียกชื่อที่เชื่อว่าเป็นตัวเธอ
“ดวงแข ดวงแข ดวงแข !!!”
ร่างบางสะท้านซ่านไปกับความเจ็บปวดที่ไหลเวียนไปทั่วร่าง ปรือตามองเงาสามเงาที่เคลื่อนกายออกจากป่ามืด กระสุนสามนัดที่ถูกส่งมายังตัวเธออย่างจังคือสิ่งที่เธอรู้ว่าสัจจะไม่มีในหมู่โจรเมื่อแสงวิบวับจากหินล้ำค่าส่องประกายจากนิ้วหนา สำหรับคนบางคนคงไม่หวังโอกาสที่มองไม่เห็น หรือไม่สามารถจับต้องได้ อะไรที่อยู่ในมือก็ต้องคว้าไว้ก่อน
“ดวงแข...”
เธอเอื้อมมืออ่อนแรงไขว่คว้าหาโอกาสสุดท้ายเช่นกัน มืออุ่นหนาจับมือของหญิงสาวไว้แน่น หยาดน้ำตาหลั่งรดหยดบนผิวหน้าซีด แววตางามยังคงมองเขาอย่างชื่นชม
“ดวงแข...ของคุณกำลังจะตายแล้วจริงๆใช่ไหมคะ”
เขาร่ำไห้ราวกับถูกมีดกรีดทั่วร่าง เอกรัตน์อุ้มเธอขึ้นแนบอก เขาต้องช่วยเธอ ช่วยชีวิตเธอให้ได้
“วางมันลง !” นายทรงชัยสาวเท้าเข้ามาขวาง
“หลีกทางให้ฉันนะพ่อ !”
ในเมื่อมีลูกชายดื้อด้าน พูดดีๆ ไม่ฟังกัน นายทรงชัยพยักพเยิดเป็นสัญญาณให้ลูกน้องทั้งสามทำตามคำสั่ง “พวกแกไปจับเอกรัตน์ไว้”
“ข้าไม่ให้พวกแกเอาดวงแขไป !” เอกรัตน์ขู่คำรามกร้าว
ชายฉกรรจ์ทำตามคำสั่งทันที พวกมันเดินปรี่ตรงเข้าไปหาลูกชายของเจ้านายที่ก้าวเท้าดินถอยหลัง ปากลั่นสั่งห้ามเข้าใกล้ผู้หญิงที่เขาต้องปกป้องด้วยชีวิต แต่หนึ่งหรือจะสู้สามเมื่อแขนและตัวของเขาถูกจับล็อคด้วยชายถึงสองคน อีกหนึ่งคนก็พยายามแยกหญิงสาวออกไปจากอก
“ดวงแข !”
เอกรัตน์ร้องลั่นเมื่อร่างโชกเลือดของเธอหลุดจากวงแขน แล้วถูกโยนกระแทกพื้นราวกับเธอไม่ใช่มนุษย์ ซ้ำร้ายบิดาของตัวเองย่างก้าวเฉียดกรายแล้วใช้เท้าดุนดันหญิงสาวผู้อ่อนแรงให้หงายหน้ารับมัจจุราชลูกสุดท้าย
ผู้เฝ้ามองเหตุการณ์ทนดูไม่ได้อีกแล้ว เธอขยับตัวเพื่อออกจากที่ซ่อน แม้จะทำอะไรไม่ก็ตามแต่ทนดูความเหี้ยมเกรียมที่กำลังเกิดกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ เมื่อเห็นร่างของเธอถูกฉุดกระชากจากชายหนุ่มแล้วโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี
หมับ !!!
เธอเกือบหวีดร้องถ้าไม่มีมือหนามาปิดปากไว้แน่น
“ทำไมถึงชอบทำให้พี่เป็นห่วงนัก” เสียงชายหนุ่มที่คุ้นเคยกระซิบข้างหู “แล้วคิดอะไรถึงจะวิ่งไปหาเรื่องเสี่ยงตาย”
ธิดาจับมือของเขาลงแล้วหันหน้ามองชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลทอง เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอทำมันโง่มากที่จะวิ่งออกไปช่วยผู้หญิงคนนั้น แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เอกรัตน์ตะโกนลั่นว่าดวงแข
“แล้วจะให้ธิดามองคนถูกฆ่าตายไปต่อหน้าอย่างนั้นหรือคะ” หญิงสาวตอบด้วยใบหน้ากล้ำกลืน
“พี่ก็ทนเห็นธิดาโดนฆ่าตายไปต่อหน้าไม่ได้เหมือนกัน”
ชายหนุ่มพูดเสียงเบาแต่ส่งความหนักแน่นผ่านดวงตา หญิงสาวหัวดื้อยังคงขัดเคืองในใจ ดวงตามองภาพตรงหน้าอย่างเวทนาเหลือคณานับ เธอกำหมัดแน่นข่มตาหลับไม่มองความโหดร้ายของชายโฉดที่กำลังก่อทารุณกรรมกับร่างกายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ แต่มันโหดร้ายเกินไปจนหัวใจของเธอไม่อาจต้านทานได้ หลับตาไม่มองแต่ยังได้ยินเสียง น้ำตาของความปวดร้าวแทนเธอคนนั้นร่วงเผาะ
“ส่งข้อความหาตฤณ บอกตำเหน่งที่อยู่” เขากระซิบบอกหญิงสาวที่พยายามนั่งนิ่งไม่ให้สั่นไหว “และอดทนรอที่นี่ให้เงียบที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ก็อย่าส่งเสียง เข้าใจพี่ไหม”
หนึ่งใจในแผ่นดิน ตอนที่ 54 (2/3)
หนึ่งใจในแผ่นดิน
ตอนที่ 54 (2/3)
ในเมื่อบุคคลทั้งสองเป็นคนสำคัญของเขาทั้งคู่ เอกรัตน์หันไปมองปลายกระบอกปืนแล้วจับมันลดระดับต่ำลงตรงตำเหน่งหัวใจ มองหญิงสาวด้วยดวงตาแน่วแน่
“ดวงแขไม่เคยตายไปจากใจผม เธอยังอยู่ที่ตรงนี้เสมอ ถ้าเธอตาย นั่นหมายความว่าผมก็ตายไปด้วย”
ดาราเหลือกตาโตมองชายหนุ่มที่กำลังถอดแว่นสายตาออกช้าๆ มือไม้สั่นเมื่อเขาจับมือของเธอให้กดปลายปืนลึกเข้าไปในหน้าอก ดวงตาเรียวไร้สิ่งบดบังอีกต่อไป เขาจ้องมองเธอด้วยหัวใจรักที่ซ่อนเร้น แม้ภาพจากปัญหาทางสายตาที่เห็นจะไม่ชัดเจน แต่เขาไม่ได้มองเธอด้วยดวงตา หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้มีใบหน้าของดวงแข แต่เธอมีดวงตาและมีหัวใจของดวงแขซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีเย็นชาที่สร้างขึ้น
“มีใครคนหนึ่งเคยบอกไว้... ‘สิ่งสำคัญไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา’ และวันนี้... ผมเพิ่งรู้ว่ามันหมายถึงอะไร”
“คุณเอก...” เธอเปรยเสียงสั่น
“ยิงผมให้ตายไปซะ ให้ผมแน่ใจว่าดวงแขตายจากผมไปแล้วจริง”
ทรงชัยเข่นเขี้ยวเมื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนท้าทายความตาย “แกพูดอะไรของแก อีดวงแขมันตายไปแล้ว ! ”
“บอกผมมาสิว่าดวงแขยังไม่ตาย” ชายหนุ่มร่ำร้องเว้าวอนขอคำตอบจากปากหญิงสาว
ดาราเม้มปากจนเรียวปากสีแดงสดของเธอแดงช้ำกว่าสีลิปสติกที่ฉาบปกปิดสีปากสวยตามธรรมชาติ เธอมองชายหนุ่มผู้เลือกจะอยู่กับเธอที่นี่ แต่ความห่วงกังวลในตัวคุณหมอสาวมันจุกล้นจนดาราหักห้ามความต้องการของหัวใจไว้ เธอทำผิดกับคุณหมอมาแล้วครั้งหนึ่ง และไม่ขอทำผิดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง
“ดวงแขตายไปแล้ว” เสียงหนักแน่นกว่าเดิมหลายร้อยเท่าเปล่งออกจากช้าๆ ชัด ๆ “คุณต้องไปช่วยคุณหมอ”
คลิก !
เสียงเหนี่ยวไกปืนแสนเบากับการยกเล็งเป้าที่ไม่มีใครมาขวาง สายตาเหี้ยมไร้ความปราณีแม้ลูกชายของตนจะยืนตรงนั้นกับหญิงสาวที่กลายเป็นงูพิษร้าย หากพยานคนเดียวคนนี้ตายไป อย่างน้อยเขาก็รอดจากการคดีฆ่านักการเมืองท้องถิ่นคนเก่า ส่วนลูกชายไร้สติก็ยังถืออำนาจตามตำเหน่งต่อไป
“อย่านะพ่อ ! ”
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง !!!
ลูกกระสุนสามนัดถูกปลดปล่อยพุ่งตรงไปยังเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว !
เสียงเนื้อถูกเจาะทะลุทะลวงพร้อมกันกับเสียงร้องแห่งความเจ็บปวด ปืนร่วงหล่นจากมือตายด้วยร่างบางล้มลงพับคาหน้าอกของชายหนุ่ม เลือดแดงสดหลั่งรินเปรอะเปื้อนทั่วกาย
ชายหนุ่มตะโกนลั่นพยุงหญิงสาวไว้แนบกาย หงายใบหน้าของเธอเรียกชื่อที่เชื่อว่าเป็นตัวเธอ
“ดวงแข ดวงแข ดวงแข !!!”
ร่างบางสะท้านซ่านไปกับความเจ็บปวดที่ไหลเวียนไปทั่วร่าง ปรือตามองเงาสามเงาที่เคลื่อนกายออกจากป่ามืด กระสุนสามนัดที่ถูกส่งมายังตัวเธออย่างจังคือสิ่งที่เธอรู้ว่าสัจจะไม่มีในหมู่โจรเมื่อแสงวิบวับจากหินล้ำค่าส่องประกายจากนิ้วหนา สำหรับคนบางคนคงไม่หวังโอกาสที่มองไม่เห็น หรือไม่สามารถจับต้องได้ อะไรที่อยู่ในมือก็ต้องคว้าไว้ก่อน
“ดวงแข...”
เธอเอื้อมมืออ่อนแรงไขว่คว้าหาโอกาสสุดท้ายเช่นกัน มืออุ่นหนาจับมือของหญิงสาวไว้แน่น หยาดน้ำตาหลั่งรดหยดบนผิวหน้าซีด แววตางามยังคงมองเขาอย่างชื่นชม
“ดวงแข...ของคุณกำลังจะตายแล้วจริงๆใช่ไหมคะ”
เขาร่ำไห้ราวกับถูกมีดกรีดทั่วร่าง เอกรัตน์อุ้มเธอขึ้นแนบอก เขาต้องช่วยเธอ ช่วยชีวิตเธอให้ได้
“วางมันลง !” นายทรงชัยสาวเท้าเข้ามาขวาง
“หลีกทางให้ฉันนะพ่อ !”
ในเมื่อมีลูกชายดื้อด้าน พูดดีๆ ไม่ฟังกัน นายทรงชัยพยักพเยิดเป็นสัญญาณให้ลูกน้องทั้งสามทำตามคำสั่ง “พวกแกไปจับเอกรัตน์ไว้”
“ข้าไม่ให้พวกแกเอาดวงแขไป !” เอกรัตน์ขู่คำรามกร้าว
ชายฉกรรจ์ทำตามคำสั่งทันที พวกมันเดินปรี่ตรงเข้าไปหาลูกชายของเจ้านายที่ก้าวเท้าดินถอยหลัง ปากลั่นสั่งห้ามเข้าใกล้ผู้หญิงที่เขาต้องปกป้องด้วยชีวิต แต่หนึ่งหรือจะสู้สามเมื่อแขนและตัวของเขาถูกจับล็อคด้วยชายถึงสองคน อีกหนึ่งคนก็พยายามแยกหญิงสาวออกไปจากอก
“ดวงแข !”
เอกรัตน์ร้องลั่นเมื่อร่างโชกเลือดของเธอหลุดจากวงแขน แล้วถูกโยนกระแทกพื้นราวกับเธอไม่ใช่มนุษย์ ซ้ำร้ายบิดาของตัวเองย่างก้าวเฉียดกรายแล้วใช้เท้าดุนดันหญิงสาวผู้อ่อนแรงให้หงายหน้ารับมัจจุราชลูกสุดท้าย
ผู้เฝ้ามองเหตุการณ์ทนดูไม่ได้อีกแล้ว เธอขยับตัวเพื่อออกจากที่ซ่อน แม้จะทำอะไรไม่ก็ตามแต่ทนดูความเหี้ยมเกรียมที่กำลังเกิดกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ เมื่อเห็นร่างของเธอถูกฉุดกระชากจากชายหนุ่มแล้วโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี
หมับ !!!
เธอเกือบหวีดร้องถ้าไม่มีมือหนามาปิดปากไว้แน่น
“ทำไมถึงชอบทำให้พี่เป็นห่วงนัก” เสียงชายหนุ่มที่คุ้นเคยกระซิบข้างหู “แล้วคิดอะไรถึงจะวิ่งไปหาเรื่องเสี่ยงตาย”
ธิดาจับมือของเขาลงแล้วหันหน้ามองชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลทอง เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอทำมันโง่มากที่จะวิ่งออกไปช่วยผู้หญิงคนนั้น แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เอกรัตน์ตะโกนลั่นว่าดวงแข
“แล้วจะให้ธิดามองคนถูกฆ่าตายไปต่อหน้าอย่างนั้นหรือคะ” หญิงสาวตอบด้วยใบหน้ากล้ำกลืน
“พี่ก็ทนเห็นธิดาโดนฆ่าตายไปต่อหน้าไม่ได้เหมือนกัน”
ชายหนุ่มพูดเสียงเบาแต่ส่งความหนักแน่นผ่านดวงตา หญิงสาวหัวดื้อยังคงขัดเคืองในใจ ดวงตามองภาพตรงหน้าอย่างเวทนาเหลือคณานับ เธอกำหมัดแน่นข่มตาหลับไม่มองความโหดร้ายของชายโฉดที่กำลังก่อทารุณกรรมกับร่างกายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ แต่มันโหดร้ายเกินไปจนหัวใจของเธอไม่อาจต้านทานได้ หลับตาไม่มองแต่ยังได้ยินเสียง น้ำตาของความปวดร้าวแทนเธอคนนั้นร่วงเผาะ
“ส่งข้อความหาตฤณ บอกตำเหน่งที่อยู่” เขากระซิบบอกหญิงสาวที่พยายามนั่งนิ่งไม่ให้สั่นไหว “และอดทนรอที่นี่ให้เงียบที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ก็อย่าส่งเสียง เข้าใจพี่ไหม”