ตอนที่ผ่านมาอยู่ คห สุดท้ายค่ะ
หนึ่งใจในแผ่นดิน
ตอนที่ 53 (2/3)
เมื่อถึงหมู่บ้านแรกหลังจากย่ำเท้ามาหลายกิโล ชายหนุ่มแบกพาหญิงสาวที่ยังหลับสบายบนหลังเดินเข้าไปถามหาความช่วยเหลือ เสียงของการสนทนาทำให้ไหมแก้วลืมตาตื่นมองเห็นชาวบ้านสองสามคนกำลังยืนคุยกับชายหนุ่ม เธอจึงเริ่มขยับตัวยุกยิกแล้วบอกเขาเสียงเบาว่าเธอขอลงเพราะเขินอายกับสายตาที่มองมา ชายหนุ่มคลายแขนแล้วปล่อยให้หญิงสาวเท้าแตะพื้นอย่างนุ่มนวล
“คุณหมอไหมแก้วใช่ไหม” เสียงชายชาวบ้านคนหนึ่งถามเมื่อจำใบหน้าของคุณหมอสาวคนดังแห่งท้องถิ่นได้
เธอพยักหน้ายิ้มรับแล้วหันไปทางชายหนุ่ม
“ผมกำลังคุยขอเช่ารถของเขาอยู่ แต่เขาบอกว่าที่นี่มีรถคันเดียว ต้องมีติดหมู่บ้านไว้เผื่อฉุกเฉิน” ก้องปฐพีเอ่ยบอกหญิงสาว
“จะมีอีกก็รถเครื่องนั่นแหละคุณหมอ” หนึ่งในชาวบ้านที่ชายอาวุโสพูดอย่างนอบน้อมกับคุณหมอไหมแก้ว หญิงสาวที่พวกเขาให้ความเคารพนับถือ “พวก
เราให้ยืมไปใช้ได้ เพียงแต่เกรงว่าจะลำบากลำบนเพราะกลางป่ากลางเขาตอนกลางคืนอาจมีสัตว์ป่ากระโจนเข้าทำร้ายได้”
ชายหนุ่มใช้ความคิดราวกับว่ามันเป็นเรื่องระดับชาติ ลำพังตัวเขาคนเดียวคงไม่คิดอะไรมาก แต่นี่มีไหมแก้วด้วยยิ่งทำให้ต้องเพิ่มความรอบคอบในการเดิน
ทาง
“ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ จะไปด้วยอะไรก็ได้ ขอให้ถึงหมู่บ้านช้างก็พอ” หญิงสาวเอ่ยบอก “สัตว์ป่าที่ไม่ชอบเสียงดังคงมีแต่ช้างป่า ส่วนสัตว์ตัวอื่นก็คงจะ
หลบเลี่ยงมนุษย์เสียมากกว่าจะพุ่งทำร้าย”
ชายหนุ่มสบตาหญิงสาวที่ฉายแววมั่นใจ เขาจึงเอ่ยกับชาวบ้านผู้อารี “ถ้าอย่างนั้นผมขอยืมรถเครื่องก็แล้วกันครับ”
ทั้งคู่ขอบคุณน้ำใจของคนแถบนี้ที่ไว้ใจและเชื่อใจถึงขนาดให้ความช่วยเหลือ และคงเป็นเพราวบ้านให้ความเคารพนับถือในตัวคุณหมอสาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงทำให้ยื่นความช่วยกับชายแปลกหน้าโดยไม่หวั่นกลัวการถูกหลอก
ชายหนุ่มสตาร์ทรถเกิดเสียงเครื่องยนต์คล้ายเสียงคนไอ เมื่อหญิงสาวขึ้นนั่งเรียบร้อยเขาจึงเอ่ยลากับชาวบ้านแล้วหันทิศทางไปยังถนนเพื่อมุ่งตรงสู่หมู่บ้าน แต่เมื่อได้ยินเสียงข้อความเข้า ก็องปฐพีจึงล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วก็ย่นคิ้ว เขาเร่งเครื่องยนต์ให้เร็วที่สุดเท่าที่แรงม้าของมอเตอร์ไซค์คันนี้จะนำพวกเขากลับหมู่บ้านช้าง
เสียงสัญญาณสายเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มรีบหยุดรถแล้วล้วงโทรศัพท์รับสายนั้นแล้วกรอกเสียงลงไปทันที
“ว่าไง เจอตัวธิดาหรือยัง”
“ยังเลยครับ...แล้วทางเจ้าหน้าที่ยังส่งคนออกตามไม่ได้ด้วย เพราะพวกเขาต้องการมันเข้าจับกุมคุณนายดาราและนายทรงชัยแบบเป็น”
ปลายสายพูดอย่างร้อนรนไม่แพ้เขา
ก้องปฐพีสบถจนหญิงสาวที่นั่งมาด้วยมองเขาอย่างประหลาดใจที่ไม่เคยเห็นชายหนุ่มในสภาพวิตกกังวลขนาดนี้
“แล้วตอนนี้เอ็งอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มถามปลายสาย
“ผมยังอยู่หมู่บ้านช้าง...ส่วนพี่ปราณแอบสายตาเจ้าหน้าที่ออกไปตามหายายตัวยุ่ง”
“อีกไม่กี่กิโลน่าจะถึงหมู่บ้านช้าง ถ้ามีอะไรจะติดต่อไป” เขาพูดแล้วตัดสายทันที จากนั้นทำสมาธิจดจ่อกับถนนสายนี้
“ระวังตัวด้วยพี่ก้อง มันยังมีลูกสมุนของนายทรงชัยหลบหนีอยู่ โดยเฉพาะไอ้ทวีรัตน์ ยังตามหามันไม่เจอ”
ก้องปฐพีรับคำเตือนแล้ววางสาย ถ้าจะให้พูดว่าซื้อหวยไม่ถูก ก็ไม่ผิดนัก เพราะเขาเดาใจน้องสาวถูกตลอด อุตส่าห์วางใจที่ปราณมาที่นี่และหวังพึ่งให้พาแม่หัวดื้อกลับกรุงเทพฯ เสียที แต่ก็จนได้สิน่า จะโทษเพื่อนก็ไม่ถูก ปราณเองก็คงเป็นห่วงธิดาไม่แพ้เขา
เมื่อชายหนุ่มบิดคันเร่งอีกครั้งและหญิงสาวก็เริ่มเกิดความกลัวอีกหน ก็เขาไม่คิดจะผ่อนความเร็วเมื่อเข้าโค้งเลย ไม่ใช่แค่โค้งหน้าที่เธอนั่งเกร็งสุดตัว แต่
ทุกโค้งที่ผ่านมาทำให้หัวใจของไหมแก้วหล่นไปหลบที่ปลายเท้าหลายต่อหลายครั้ง
เชื่อแล้วว่าทำไมเขาถึงมีรถเครื่องคันใหญ่ เพราะนายนี่ชอบความเร็วแบบนี้นี่เอง เมื่อยานพาหนะเนื้อหุ้มเหล็กวิ่งฉิวจนผมของหญิงสาวสบายตามลม เธอจึงต้องรีบกอดเอวชายหนุ่มแน่นด้วยเกรงว่าตัวเธอจะปลิวหล่น เธอหัวใจจะวายทุกที เมื่อชายหนุ่มเข้าโค้งได้หวาดเสียวที่สุดในชีวิต หมิ่นเหม่ขอบถนนจนเห็นผาด้านล่าง
“คุณไหม คุณอยากทำดีเพื่อลดหย่อนโทษบ้างไหม” เขาตะโกนพูดให้ลมพาเสียงเข้าหูของคนที่กอดเอวเสียแน่น
“อะไรนะคะ...” เธอไม่ทันฟังเพราะมัวแต่พะวงกับการขับขี่ของตีนผีราตรีกาล
“ผมถามว่า คุณอยากทำดีเพื่อลดหย่อนโทษบ้างไหม”
“กรี๊ดดด !!!” ไหมแก้วกรีดร้องเสียงหลงเมื่อมีรถสวนทางมาในทางโค้งที่เขาเพิ่งขับแฉลบข้ามเลน
ชายหนุ่มบิดแฮนด์หลบกลับเลนตัวเองได้ทันท่วงทีแล้วรอฟังเสียงคำตอบ
“แล้วนี่คุณกำลังทำโทษฉันอยู่หรือเปล่า !” เธอร้องลั่นพลางยกนิ้วเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความตกใจ “ถ้าใช่...กรี๊ดดด!!!”
“วะ! ไอ้กวางพวกนี้ มันจะหากินที่ปลอดภัยกว่านี้ไม่ได้หรือไง” ชายหนุ่มว่ากล่าวสัตว์ป่าแล้วหมุนพวงมาลัยหลบกวางน้อยที่เดินไม่ดูรถ แต่เมื่อพบป้ายเตือน
เขียนไว้ชัดเจนว่า ระวังกวาง ระวังช้าง ระวังหมูป่า นั่น ระวังเต่าก็มี
“ก็ที่นี่เป็นบ้านของพวกมัน คุณต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายระวังพวกมัน !”
เขายอมชะลอความเร็วลงอย่างเสียไม่ได้เมื่อหญิงสาวดูท่าทางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ที่เขาด่ากวางน้อยกลอยใจนั่นไม่ใช่เพราะเป็นมนุษย์เลยจะด่าจะว่าสัตว์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่โดยไม่มีเหตุผล แต่เป็นเพราะหากชนมันเข้า ทั้งเขาและเธออาจเสียหลักล้มบาดเจ็บ หนักหน่อย รถก็พุ่งชนขอบกั้นถนนทะยานตกหน้าผาตายทั้งคู่ ชายหนุ่มจึงเอ่ยเถียงคนพื้นที่อย่างขัดใจว่า
“ถ้ากลัวพวกมันตาย ทำไมมาสร้างถนนตัดผ่านบ้านของพวกทันทำไมล่ะครับ ไม่เดินเท้า ขี่ช้าง หรือนั่งเกวียนกันล่ะ”
“แล้วถ้าเกิดมีคนในหมู่บ้านที่นี่เขาป่วยหรือบาดเจ็บหนัก คุณว่าเดินเท้า ขี่ช้าง หรือนั่งเกวียนจะช่วยชีวิตเขาได้ทันไหมล่ะคะ” ไหมแก้วให้เหตุผลโต้กลับ
“นั่นก็หมายความว่าพวกคุณห่วงชีวิตมนุษย์กว่าสัตว์พวกนี้อยู่แล้ว”
“ฉันไม่พูดกับคุณแล้ว !” หญิงสาวตะโกนแข่งกับลมตอบด้วยความฉุนเฉียว
“คุณยังไม่บอกผมเลย ที่ผมถามไปน่ะ ตกลงว่าไง”
“แล้วจะให้ฉันทำอะไร”
ก้องปฐพีหยุดชะลอรถมอเตอร์ไซค์จนจอดสนิทข้างทางแล้วเอี้ยวตัวหันมาทางหญิงสาวเพื่อพูดให้ชัดถ้อยชัดคำว่า
“ผ่าศพ”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างสบประสานกับชายหนุ่มเมื่อเขาพูดจบ ไม่แน่ใจว่าหูตัวเองฟังผิดหรือไม่ เธอจึงเปรยด้วยใบหน้าฉงนปนตกใจ “ผ่า...ศพ”
“คุณได้ยินไม่ผิดหรอก เราจะทำการผ่าศพพิสูจน์คนที่เราคิดว่าเป็นคุณดวงแข ทางนายอำเภอติดต่อไปทางผู้ใหญ่บ้านแล้ว ทางนั้นเขารับทราบและยินยอมทุกอย่างเพื่อให้คดีมันกระจ่างมากขึ้น” ชายหนุ่มไขข้อสงสัยที่คิดว่าหญิงสาวคงกำลังจะอ้าปากถาม
“แล้ว...ถ้าศพนั้นไม่ใช่ดวงแข จะทำยังไงกันต่อหรือคะ” เธอถามกลับด้วยใบหน้าวิตก
“ก็ต้องตามหาดวงแข คนที่ใครๆ ก็คิดว่าเธอตายไปแล้ว” ก้องปฐพีตอบพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ยังมีผู้หญิงอีกคนที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่กำลังตามจับตัวเพราะเธอเป็นผู้จ้างวานฆ่าครอบครับนายอำพัน และอาจเป็นคนๆ เดียวกับที่จ้างนายทรงชัยฆ่าเพลงพิณด้วย”
“เป็นผู้หญิงหรือคะ” ไหมแก้วย่นคิ้วถาม
“ครับเป็นผู้หญิงที่ชื่อ...ดารา พราวรัตติกาล และธิดาส่งข้อความมาบอกว่าพบเห็นเธอที่หลุมศพของดวงแข”
“ดารา พราวรัตติกาล” ไหมแก้วเปรยชื่อตามชายหนุ่ม หญิงสาวยกมือทาบหน้าอกตัวเองเมื่อนึกถึงใบหน้าของคนงามผู้อารี เจ้าของยามากมายที่ทยอยส่งมาบริจาคให้กับเธอ
“ดารา...พราวรัตติกาล” ไหมแก้วพูดชื่อนั้นอีกครั้ง ใบหน้าเศร้าสร้อยกับดวงตากวางของหญิงงามเลอเลิศคนนั้นลอยเด่นขึ้นมาในหัว
เสียงเบรกรถคันใหญ่ดังสนั่น ทำให้ไหมแก้วตกใจเผลอเกาะเอวชายหนุ่มแน่น
เธอย่นคิ้วด้วยความวิตกเมื่อมีร่างของกลุ่มผู้ชายวิ่งลงจากรถปริศนาคันนั้น ก้องปฐพีลงจากรถมอเตอร์ไซค์แล้วยืนบังหญิงสาวให้อยู่ด้านหลัง
ชายฉกรรจ์แปลกหน้าทั้งหมดเดินอาดเข้ามาพร้อมกับมีท่อนโลหะมันวาวแท่งยาวในมือ เมื่อแสงสว่างจากไฟหน้ารถตกกระทบใบหน้าของพวกเขา หนึ่งในนั้นที่ยิ้มเหี้ยมเกรียมเดินกะเผลกเข้ามาคือ ทวีรัตน์ ลูกชายของนายทรงชัย !
“ตามหาตั้งนาน ดอดพาผู้หญิงของพี่ชายข้าหนีเที่ยวนี่เอง”
หนึ่งใจในแผ่นดิน ตอนที่ 53 (2/3)
หนึ่งใจในแผ่นดิน
ตอนที่ 53 (2/3)
เมื่อถึงหมู่บ้านแรกหลังจากย่ำเท้ามาหลายกิโล ชายหนุ่มแบกพาหญิงสาวที่ยังหลับสบายบนหลังเดินเข้าไปถามหาความช่วยเหลือ เสียงของการสนทนาทำให้ไหมแก้วลืมตาตื่นมองเห็นชาวบ้านสองสามคนกำลังยืนคุยกับชายหนุ่ม เธอจึงเริ่มขยับตัวยุกยิกแล้วบอกเขาเสียงเบาว่าเธอขอลงเพราะเขินอายกับสายตาที่มองมา ชายหนุ่มคลายแขนแล้วปล่อยให้หญิงสาวเท้าแตะพื้นอย่างนุ่มนวล
“คุณหมอไหมแก้วใช่ไหม” เสียงชายชาวบ้านคนหนึ่งถามเมื่อจำใบหน้าของคุณหมอสาวคนดังแห่งท้องถิ่นได้
เธอพยักหน้ายิ้มรับแล้วหันไปทางชายหนุ่ม
“ผมกำลังคุยขอเช่ารถของเขาอยู่ แต่เขาบอกว่าที่นี่มีรถคันเดียว ต้องมีติดหมู่บ้านไว้เผื่อฉุกเฉิน” ก้องปฐพีเอ่ยบอกหญิงสาว
“จะมีอีกก็รถเครื่องนั่นแหละคุณหมอ” หนึ่งในชาวบ้านที่ชายอาวุโสพูดอย่างนอบน้อมกับคุณหมอไหมแก้ว หญิงสาวที่พวกเขาให้ความเคารพนับถือ “พวก
เราให้ยืมไปใช้ได้ เพียงแต่เกรงว่าจะลำบากลำบนเพราะกลางป่ากลางเขาตอนกลางคืนอาจมีสัตว์ป่ากระโจนเข้าทำร้ายได้”
ชายหนุ่มใช้ความคิดราวกับว่ามันเป็นเรื่องระดับชาติ ลำพังตัวเขาคนเดียวคงไม่คิดอะไรมาก แต่นี่มีไหมแก้วด้วยยิ่งทำให้ต้องเพิ่มความรอบคอบในการเดิน
ทาง
“ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ จะไปด้วยอะไรก็ได้ ขอให้ถึงหมู่บ้านช้างก็พอ” หญิงสาวเอ่ยบอก “สัตว์ป่าที่ไม่ชอบเสียงดังคงมีแต่ช้างป่า ส่วนสัตว์ตัวอื่นก็คงจะ
หลบเลี่ยงมนุษย์เสียมากกว่าจะพุ่งทำร้าย”
ชายหนุ่มสบตาหญิงสาวที่ฉายแววมั่นใจ เขาจึงเอ่ยกับชาวบ้านผู้อารี “ถ้าอย่างนั้นผมขอยืมรถเครื่องก็แล้วกันครับ”
ทั้งคู่ขอบคุณน้ำใจของคนแถบนี้ที่ไว้ใจและเชื่อใจถึงขนาดให้ความช่วยเหลือ และคงเป็นเพราวบ้านให้ความเคารพนับถือในตัวคุณหมอสาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงทำให้ยื่นความช่วยกับชายแปลกหน้าโดยไม่หวั่นกลัวการถูกหลอก
ชายหนุ่มสตาร์ทรถเกิดเสียงเครื่องยนต์คล้ายเสียงคนไอ เมื่อหญิงสาวขึ้นนั่งเรียบร้อยเขาจึงเอ่ยลากับชาวบ้านแล้วหันทิศทางไปยังถนนเพื่อมุ่งตรงสู่หมู่บ้าน แต่เมื่อได้ยินเสียงข้อความเข้า ก็องปฐพีจึงล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วก็ย่นคิ้ว เขาเร่งเครื่องยนต์ให้เร็วที่สุดเท่าที่แรงม้าของมอเตอร์ไซค์คันนี้จะนำพวกเขากลับหมู่บ้านช้าง
เสียงสัญญาณสายเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มรีบหยุดรถแล้วล้วงโทรศัพท์รับสายนั้นแล้วกรอกเสียงลงไปทันที
“ว่าไง เจอตัวธิดาหรือยัง”
“ยังเลยครับ...แล้วทางเจ้าหน้าที่ยังส่งคนออกตามไม่ได้ด้วย เพราะพวกเขาต้องการมันเข้าจับกุมคุณนายดาราและนายทรงชัยแบบเป็น”
ปลายสายพูดอย่างร้อนรนไม่แพ้เขา
ก้องปฐพีสบถจนหญิงสาวที่นั่งมาด้วยมองเขาอย่างประหลาดใจที่ไม่เคยเห็นชายหนุ่มในสภาพวิตกกังวลขนาดนี้
“แล้วตอนนี้เอ็งอยู่ที่ไหน” ชายหนุ่มถามปลายสาย
“ผมยังอยู่หมู่บ้านช้าง...ส่วนพี่ปราณแอบสายตาเจ้าหน้าที่ออกไปตามหายายตัวยุ่ง”
“อีกไม่กี่กิโลน่าจะถึงหมู่บ้านช้าง ถ้ามีอะไรจะติดต่อไป” เขาพูดแล้วตัดสายทันที จากนั้นทำสมาธิจดจ่อกับถนนสายนี้
“ระวังตัวด้วยพี่ก้อง มันยังมีลูกสมุนของนายทรงชัยหลบหนีอยู่ โดยเฉพาะไอ้ทวีรัตน์ ยังตามหามันไม่เจอ”
ก้องปฐพีรับคำเตือนแล้ววางสาย ถ้าจะให้พูดว่าซื้อหวยไม่ถูก ก็ไม่ผิดนัก เพราะเขาเดาใจน้องสาวถูกตลอด อุตส่าห์วางใจที่ปราณมาที่นี่และหวังพึ่งให้พาแม่หัวดื้อกลับกรุงเทพฯ เสียที แต่ก็จนได้สิน่า จะโทษเพื่อนก็ไม่ถูก ปราณเองก็คงเป็นห่วงธิดาไม่แพ้เขา
เมื่อชายหนุ่มบิดคันเร่งอีกครั้งและหญิงสาวก็เริ่มเกิดความกลัวอีกหน ก็เขาไม่คิดจะผ่อนความเร็วเมื่อเข้าโค้งเลย ไม่ใช่แค่โค้งหน้าที่เธอนั่งเกร็งสุดตัว แต่
ทุกโค้งที่ผ่านมาทำให้หัวใจของไหมแก้วหล่นไปหลบที่ปลายเท้าหลายต่อหลายครั้ง
เชื่อแล้วว่าทำไมเขาถึงมีรถเครื่องคันใหญ่ เพราะนายนี่ชอบความเร็วแบบนี้นี่เอง เมื่อยานพาหนะเนื้อหุ้มเหล็กวิ่งฉิวจนผมของหญิงสาวสบายตามลม เธอจึงต้องรีบกอดเอวชายหนุ่มแน่นด้วยเกรงว่าตัวเธอจะปลิวหล่น เธอหัวใจจะวายทุกที เมื่อชายหนุ่มเข้าโค้งได้หวาดเสียวที่สุดในชีวิต หมิ่นเหม่ขอบถนนจนเห็นผาด้านล่าง
“คุณไหม คุณอยากทำดีเพื่อลดหย่อนโทษบ้างไหม” เขาตะโกนพูดให้ลมพาเสียงเข้าหูของคนที่กอดเอวเสียแน่น
“อะไรนะคะ...” เธอไม่ทันฟังเพราะมัวแต่พะวงกับการขับขี่ของตีนผีราตรีกาล
“ผมถามว่า คุณอยากทำดีเพื่อลดหย่อนโทษบ้างไหม”
“กรี๊ดดด !!!” ไหมแก้วกรีดร้องเสียงหลงเมื่อมีรถสวนทางมาในทางโค้งที่เขาเพิ่งขับแฉลบข้ามเลน
ชายหนุ่มบิดแฮนด์หลบกลับเลนตัวเองได้ทันท่วงทีแล้วรอฟังเสียงคำตอบ
“แล้วนี่คุณกำลังทำโทษฉันอยู่หรือเปล่า !” เธอร้องลั่นพลางยกนิ้วเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความตกใจ “ถ้าใช่...กรี๊ดดด!!!”
“วะ! ไอ้กวางพวกนี้ มันจะหากินที่ปลอดภัยกว่านี้ไม่ได้หรือไง” ชายหนุ่มว่ากล่าวสัตว์ป่าแล้วหมุนพวงมาลัยหลบกวางน้อยที่เดินไม่ดูรถ แต่เมื่อพบป้ายเตือน
เขียนไว้ชัดเจนว่า ระวังกวาง ระวังช้าง ระวังหมูป่า นั่น ระวังเต่าก็มี
“ก็ที่นี่เป็นบ้านของพวกมัน คุณต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายระวังพวกมัน !”
เขายอมชะลอความเร็วลงอย่างเสียไม่ได้เมื่อหญิงสาวดูท่าทางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ที่เขาด่ากวางน้อยกลอยใจนั่นไม่ใช่เพราะเป็นมนุษย์เลยจะด่าจะว่าสัตว์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่โดยไม่มีเหตุผล แต่เป็นเพราะหากชนมันเข้า ทั้งเขาและเธออาจเสียหลักล้มบาดเจ็บ หนักหน่อย รถก็พุ่งชนขอบกั้นถนนทะยานตกหน้าผาตายทั้งคู่ ชายหนุ่มจึงเอ่ยเถียงคนพื้นที่อย่างขัดใจว่า
“ถ้ากลัวพวกมันตาย ทำไมมาสร้างถนนตัดผ่านบ้านของพวกทันทำไมล่ะครับ ไม่เดินเท้า ขี่ช้าง หรือนั่งเกวียนกันล่ะ”
“แล้วถ้าเกิดมีคนในหมู่บ้านที่นี่เขาป่วยหรือบาดเจ็บหนัก คุณว่าเดินเท้า ขี่ช้าง หรือนั่งเกวียนจะช่วยชีวิตเขาได้ทันไหมล่ะคะ” ไหมแก้วให้เหตุผลโต้กลับ
“นั่นก็หมายความว่าพวกคุณห่วงชีวิตมนุษย์กว่าสัตว์พวกนี้อยู่แล้ว”
“ฉันไม่พูดกับคุณแล้ว !” หญิงสาวตะโกนแข่งกับลมตอบด้วยความฉุนเฉียว
“คุณยังไม่บอกผมเลย ที่ผมถามไปน่ะ ตกลงว่าไง”
“แล้วจะให้ฉันทำอะไร”
ก้องปฐพีหยุดชะลอรถมอเตอร์ไซค์จนจอดสนิทข้างทางแล้วเอี้ยวตัวหันมาทางหญิงสาวเพื่อพูดให้ชัดถ้อยชัดคำว่า
“ผ่าศพ”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างสบประสานกับชายหนุ่มเมื่อเขาพูดจบ ไม่แน่ใจว่าหูตัวเองฟังผิดหรือไม่ เธอจึงเปรยด้วยใบหน้าฉงนปนตกใจ “ผ่า...ศพ”
“คุณได้ยินไม่ผิดหรอก เราจะทำการผ่าศพพิสูจน์คนที่เราคิดว่าเป็นคุณดวงแข ทางนายอำเภอติดต่อไปทางผู้ใหญ่บ้านแล้ว ทางนั้นเขารับทราบและยินยอมทุกอย่างเพื่อให้คดีมันกระจ่างมากขึ้น” ชายหนุ่มไขข้อสงสัยที่คิดว่าหญิงสาวคงกำลังจะอ้าปากถาม
“แล้ว...ถ้าศพนั้นไม่ใช่ดวงแข จะทำยังไงกันต่อหรือคะ” เธอถามกลับด้วยใบหน้าวิตก
“ก็ต้องตามหาดวงแข คนที่ใครๆ ก็คิดว่าเธอตายไปแล้ว” ก้องปฐพีตอบพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ยังมีผู้หญิงอีกคนที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่กำลังตามจับตัวเพราะเธอเป็นผู้จ้างวานฆ่าครอบครับนายอำพัน และอาจเป็นคนๆ เดียวกับที่จ้างนายทรงชัยฆ่าเพลงพิณด้วย”
“เป็นผู้หญิงหรือคะ” ไหมแก้วย่นคิ้วถาม
“ครับเป็นผู้หญิงที่ชื่อ...ดารา พราวรัตติกาล และธิดาส่งข้อความมาบอกว่าพบเห็นเธอที่หลุมศพของดวงแข”
“ดารา พราวรัตติกาล” ไหมแก้วเปรยชื่อตามชายหนุ่ม หญิงสาวยกมือทาบหน้าอกตัวเองเมื่อนึกถึงใบหน้าของคนงามผู้อารี เจ้าของยามากมายที่ทยอยส่งมาบริจาคให้กับเธอ
“ดารา...พราวรัตติกาล” ไหมแก้วพูดชื่อนั้นอีกครั้ง ใบหน้าเศร้าสร้อยกับดวงตากวางของหญิงงามเลอเลิศคนนั้นลอยเด่นขึ้นมาในหัว
เสียงเบรกรถคันใหญ่ดังสนั่น ทำให้ไหมแก้วตกใจเผลอเกาะเอวชายหนุ่มแน่น
เธอย่นคิ้วด้วยความวิตกเมื่อมีร่างของกลุ่มผู้ชายวิ่งลงจากรถปริศนาคันนั้น ก้องปฐพีลงจากรถมอเตอร์ไซค์แล้วยืนบังหญิงสาวให้อยู่ด้านหลัง
ชายฉกรรจ์แปลกหน้าทั้งหมดเดินอาดเข้ามาพร้อมกับมีท่อนโลหะมันวาวแท่งยาวในมือ เมื่อแสงสว่างจากไฟหน้ารถตกกระทบใบหน้าของพวกเขา หนึ่งในนั้นที่ยิ้มเหี้ยมเกรียมเดินกะเผลกเข้ามาคือ ทวีรัตน์ ลูกชายของนายทรงชัย !
“ตามหาตั้งนาน ดอดพาผู้หญิงของพี่ชายข้าหนีเที่ยวนี่เอง”