..........เสือ สิงห์ กระทิง อินทรี ........ตอนที่ ๑๐........@@ โดย ลุงแผน

กระทู้สนทนา
..............( เสือ สิงห์ กระทิง อินทรี )...............
 
 
        ตอนเดิมครับ
 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
      
 
 
        ตอนที่  ๑๐
 
 
       ........ “ลำดวน” 

       เสียงทุกคนดังออกมาด้วยความแปลกใจ  ทำให้แม่แก้ว กับลูกชาย เปลี่ยนใจหันกลับ เดินเข้ามาใต้ถุนบ้าน และภาพของ ลำดวน ที่เห็นอยู่ตรงหน้า ทำน็อต อึ้งไปอีกคน ส่วนแม่แก้ว ก้าวไปนั่งที่เก้าอี้ ท่าทางเหมือนจะเป็นลม เพราะหวังไว้ว่า มาที่นี่ จะมีเพื่อนผู้หญิงหัวอกเดียวกัน นั่งปรับทุกข์สักคน กลายเป็นว่าเหลือเธอเท่านั้น ที่ยังอมทุกข์อยู่เพียงคนเดียว

        ลำดวน เดินช้า ๆ เข้ามาหาแม่แก้ว โอบไหล่เธอไว้ แล้วพูดขึ้นมา

        “เรื่องนี้ชั้นก็มีส่วนที่ทำให้หลายคนลำบาก วันนี้ชั้นต้องไปสะสางให้จบ ๆ ลง แม่แก้ว ไม่ต้องห่วง ยังไงชั้นไม่ทิ้งแม่แก้วแน่นอน”

       เธอให้เหตุผล มองหน้าแม่แก้ว แล้วหันไปทางน็อต

       “น็อต อยู่กับแม่นะ เดี๋ยวลองคุยกับลุงชิตดูว่าจะเอายังไง ป้าจะรีบกลับมา” น็อตพยักหน้ารับคำ นั่งลงโอบแม่อย่างเอาใจ แม่แก้วมองตามลำดวน อย่างเนือย ๆ ความรู้สึกคล้ายกับว่า มีตัวเองแค่คนเดียวอยู่ผิดที่ผิดทางกว่าคนอื่น 

        ลำดวนเดินไปที่รถ ขณะที่ ชัย ทำท่าทางลังเล 

       “ไปกันเถอะ ช้ามากแล้ว ป่านนี้ทางนู้นเตรียมต้อนรับเราเรียบร้อยแล้ว” ลำดวนเดินถึงรถเปิดประตู วางปืนลงหลังเบาะ แล้วถอยออกมาก้าวหนึ่ง พลางมองหน้าเจ้าเบิ้ม ก่อนพูดออกมา

        “เสร็จเรื่องนี้แล้ว พี่กับชั้นมีเรื่องต้องคุยกัน” เจ้าเบิ้มสบตาน้องสาวที่จ้องมา พร้อมกับยิ้มแล้วยักไหล่ หัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนกระโดด ขึ้นกระบะท้าย ไล่ ๆ กับเดช ที่ขึ้นตามมาแล้วนั่งลงคนละด้านกัน

        ชัย เปิดประตูขึ้นด้านคนขับ เมื่อปิดประตูแล้ว บิดกุญแจสตาร์ทเครื่อง ขณะ ลำดวน ก้าวขึ้นนั่งอีกด้าน ดึงประตูปิด ก่อนมองหน้า ชัย แล้วเอ่ยขึ้นมา 

        “ชัย รู้เรื่อง เอก มาตลอดใช่มั้ย” ชัย หันมองหน้าลำดวน ก่อนพยักหน้าช้า ๆ 

        “แล้วตอนนี้ลูกเป็นยังไงมั่ง” เธอถามต่อ ขณะ ชัย ยิ้มกว้างเพื่อปลอบใจ

        “ไม่เป็นไรแล้ว วันสองวันน่าจะกลับได้”

        “แล้วเราจะทำยังไงต่อ”

        “ใคร เรื่องเอกน่ะเหรอ” ชัยถามกลับ ลำดวนพยักหน้าช้า ๆ 

        “ยังไม่รู้เลย ตอนแรกว่าจะบอกความจริงไป แต่มาคิดดูอีกที เค้าอยู่อย่างนั้นก็มีความสุขดี”

        “จริงเหรอ ชัยคิดว่า เอกมีความสุขจริง ๆ เหรอ” ลำดวนเอ่ยออกมา ขณะชัยขยับเกียร์ แล้วเคลื่อนรถออกช้า ๆ ตามองข้างหน้านิ่ง ไม่ตอบคำถามของลำดวน เพราะในใจ มีคำถามมากมาย วนเวียนอยู่ จนไม่รู้จะเลือกคำพูดแบบใดออกมา

       รถของชัย ออกไปจนลับสายตา ลุงชิต จึงเดินเข้ามาหาทั้งสองคน พลางเอ่ยขึ้นว่า

        “เราไปดู เอก พร้อม ๆ กันดีกว่า อยู่นี่แค่สองคนยังไงก็ไม่ปลอดภัย” ลุงชิตพูดพลางพยักหน้าชวน น็อต เจ้าหนุ่มหันมองแม่แก้ว ดึงมือเบา ๆ พลางยิ้มให้เธอ แม่แก้วลุกขึ้นช้า ๆ เดินตามลูกชายไปที่รถลุงชิต น็อตเปิดประตูให้แม่ขึ้นไป แล้วตัวเองขึ้นตาม นั่งลงข้าง ๆ ก่อนดึงประตูปิดเข้ามา เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว ลุงชิต จึงค่อย ๆ เคลื่อนรถออกไป..
 

     ....งามตา เดินขึ้นด้านหน้า ตึกอำนวยการของโรงพยาบาล หลังจอดรถไว้ในที่จอดเรียบร้อย  กลิ่นแอลกอฮอล์ ผสมกลิ่นยาชนิดต่าง ๆ ลอยอยู่รอบตัวอย่างคุ้นเคย สิ่งแรกที่เธอต้องทำ คือ หาคนถูกยิงเมื่อคืนก่อน และนอนพักรักษาตัวอยู่ ซึ่งไม่ยากเย็นแม้แต่น้อย เพราะกิริยาท่าทาง การแต่งตัว ที่สุภาพ บวกกับรูปร่างหน้าตาของเธอ เธอจึงได้รับการต้อนรับอย่างเต็มใจ พยาบาลสาว บอกทางไปห้องสุดทางเดิน งามตา ยิ้มอ่อนหวาน เอ่ยขอบคุณออกมา ก่อนเดินไปตามทาง จนกระทั่งถึงหน้าห้องที่ เอก นอนอยู่

       เธอมองเข้าไปทางช่องกระจกเล็ก ๆ บนบานประตู เมื่อเห็นมีร่างหนึ่งใต้ผ้าห่ม บนเตียงคนไข้ จึงยิ้มออกมา มือขวาเอื้อมลงในกระเป๋าสะพาย กำด้ามปืนไว้มั่น พลางกวาดตามองในห้องไปมา เมื่อไม่มีใครอื่น เธอดึงเปิดประตูออกช้า ๆ พร้อมก้าวเท้าเข้าไปข้างใน

       เมื่องามตา ดึงประตูปิดเรียบร้อย เธอจึงสืบเท้าไปทางเตียงคนไข้ นำปืนออกมาจากกระเป๋า เล็งไปที่ผ้าห่มสีขาวสะอาดตาผืนนั้น พร้อมขยับเข้าหาด้วยความมั่นใจ กระทั่งเมื่อเข้ายืนชิดเตียงเธอดันปืนเข้าไปติด พร้อมมือซ้ายดึงผ้าห่มที่คลุมด้านศีรษะออก จึงเห็นร่างที่นอนอยู่ถนัดตา 

        เอก หลับสนิทด้วยฤทธิ์ยาบรรเทาปวด และยาชาหลังการผ่าตัด  สายสวนปัสสาวะ และสายระบายเลือดออก ยังคงห้อยอยู่ เนื่องจากยังไม่ครบสามวันตามปกติของการผ่าตัดทั่วไป ถุงน้ำเกลือ และถุงเลือด ห้อยอยู่ปลายเสาเล็ก ๆ ข้างเตียง ต่อสายเข้าไปยังเข็มที่เสียบอยู่ข้อพับของชายตรงหน้าซึ่งหลับใหลไม่รู้เรื่องราว

        งามตา หย่อนปืนเก็บลงในกระเป๋าอย่างเดิม จ้องมองชายหนุ่มด้วยความแปลกใจ ครั้งแรก คิดว่าเป็นรุ่นเดียวกับพ่อ หรือรุ่นน้องพ่อของเธอไม่เท่าไร แต่ชายใบหน้าคมคายเกลี้ยงเกลาตรงหน้านี้ อายุไม่น่าเกินยี่สิบปี รูปร่างสมส่วนของเขา ดึงดูดสายตาเธออย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน ผิวที่ขาวสะอาด ขับคิ้วเข้มให้เด่นขึ้นมา จมูกโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากแดงเรื่อ ๆ อย่างลงตัว ดูแล้วไม่น่าจะเป็นโจร หรือขโมย อย่างใดอย่างหนึ่งไปได้เลย  งามตา มองหน้าท้องใต้ผ้าห่ม ที่สะท้อนขึ้นลงช้า ๆ ของเขา แล้วเกิดความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา มันเป็นความเห็นใจ ผสมกับอะไรอีกอย่าง ที่เธอยังไม่มีคำอธิบาย

        เสียงเปิดน้ำลงอ่างล้างหน้าในห้องน้ำดังขึ้นมา งามตาเพิ่งเข้าใจ ที่ตอนแรกคิดว่า ทำไมที่นี่ปล่อยคนไข้อยู่ตามลำพัง จริง ๆ แล้วมีคนเป็นเพื่อนอีกคน เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนปล่อยออกมาช้า ๆ พลางก้าวเท้าถอยไปที่ประตู  ดันเปิดแล้วก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนดันปิดเข้ามาเบา ๆ แล้วยืนพิงประตูอยู่หน้าห้อง พร้อมเอี้ยวคอชำเลืองมองเข้าไปตามช่องกระจก ภาพที่ปรากฏต่อสายตาของเธอ คือ หญิงสาว คนหนึ่ง ร่างอรชร แขนกลมกลึง นิ้วมือเรียวสวย ผิวขาวนวล ก้าวเข้าไปที่ข้างเตียง 

        งามตา กัดริมฝีปากล่างเบา ๆ มือหนึ่งล้วงเข้าในกระเป๋ากำด้ามปืนไว้ ขณะมือหนึ่งแตะมือจับประตูเตรียมดึงออกมา สายตามองเธอผู้นั้น ที่นั่งลงข้าง ๆ เตียง พร้อมทั้งใช้มือแตะหน้าผากชายหนุ่มเบา ๆ ก่อนจะดึงมือ ออกมา แล้วก้มมองเขาใกล้ ๆ จนแทบชิดใบหน้า งามตา สูดลมหายใจเข้ายาวอีกครั้งหนึ่ง ก่อนปล่อยออกมาช้า ๆ แล้วหย่อนปืนกลับลงไปอย่างเดิม ชักมือเปล่าขึ้นจากกระเป๋า  หมุนตัวก้าวเท้า เดินออกจากตรงนั้น ทันที...    

     ...เจมส์ ซักผ้าขนหนูผืนเล็กในอ่างล้างหน้า ตั้งใจจะเช็ดตามตัวให้ เอก เมื่อบิดผ้าพอหมาด ๆ แล้วเดินจากห้องน้ำ ออกมานั่งที่ข้างเตียง มองหน้าชายหนุ่มที่นอนนิ่งด้วยความกังวล เธอเอื้อมมือไปแตะหน้าผากเขา รู้สึกอุ่น ๆ แต่ไม่ถึงกับร้อน จึงยืดตัวขึ้นแล้วก้มหน้าลงใกล้ ๆ จมูก รู้สึกถึงลมหายใจที่ผ่อนออกมาแผ่ว ๆ ก็เบาใจ นั่งลงบนเก้าอี้อย่างเดิม ก่อนอมยิ้มแล้วพินิจดูใบหน้าของพี่ชาย

         เธอเปลี่ยนใจเรื่องเช็ดตัว ด้วยกลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาขณะกำลังนอนสบาย จึงลุกขึ้นนำผ้าไปผึ่งไว้บนขอบตะกร้าสำหรับผ้าใช้แล้วที่ข้างตู้เย็น พอดีกับ ลุงชิต เปิดประตูเดินเข้ามา    

        “เอกเป็นไงมั่ง เจมส์”

        ลุงชิตถามยิ้ม ๆ  มองหน้าเจมส์ แล้วมองไปทางเอก ที่กำลังหลับอยู่บนเตียง 

        “ดีขึ้นเร็วมาก ลุง เย็นนี้คุณหมอจะมาดู ถ้าเลือดไม่ไหลจากแผลแล้ว ก็จะดึงสายระบายเลือด กับถุงฉี่ออก พี่เอก คงสบายตัวขึ้น ถ้าไม่มีสายอะไรรุงรัง”

       ลุงชิต ยิ้ม ๆ มองหน้าหลานสาวนิ่ง พลางเอ่ยออกมา

        “เอ็งรู้เรื่องแล้วเหรอ” หญิงสาว ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง จ้องตาลุงชิต ก่อนเม้มปากแล้วพยักหน้าช้า ๆ ก่อนพูดขึ้นมา

        “เรื่องพี่เอกเป็นพี่หนูน่ะเหรอ หนูรู้แล้วลุง” เธอมองหน้าลุง ยิ้มออกมา แล้วหันกลับไปทางพี่ชาย

        “สงสารแต่ลุงเดชนั่นแหละ เค้าเลี้ยงของเค้ามาตั้งนาน”

        ลุงชิตเดินเข้าไปหยุดข้างเตียง มองหน้าหลานชาย แล้วหันกลับมาทาง เจมส์ ยิ้มให้เธอแล้วพูดขึ้นว่า

       “เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง ยังไงก็หลีกไม่พ้นอยู่แล้ว เรามาคิดเรื่องอาคมกันดีกว่า เอก อยู่ที่นี่ น่าจะเป็นอันตราย”

        “แล้วเราจะทำยังไงกันล่ะลุง ย้ายไปไหนตอนนี้ก็ไม่ได้” หญิงสาวถามขึ้นมา พลางมองพี่ชายที่นอนอยู่ ด้วยความกังวล ลุงชิตทำหน้ายิ้ม ๆ ก่อนเอ่ยออกมาเบา ๆ 

        “ไม่เป็นไร รอหมอมาก่อนค่อยว่ากัน มันพอมีวิธี”...

        ( มีต่อครับ )
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่