ขอบคุณ ปกสวย ๆ จาก คุณออม รัชต์สารินท์ ครับผม
..............( รักซ้อน ซ่อนพิษ ).............
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ ๑ https://ppantip.com/topic/38986500
ตอนที่ ๒ https://ppantip.com/topic/39004238
ตอนที่ ๓ https://ppantip.com/topic/39015740
ตอนที่ ๔ https://ppantip.com/topic/39016967
ตอนที่ ๕ https://ppantip.com/topic/39024305
ตอนที่ ๖ https://ppantip.com/topic/39034299
ตอนที่ ๗ https://ppantip.com/topic/39053215
ตอนที่ ๘ https://ppantip.com/topic/39068575
ตอนที่ ๙ https://ppantip.com/topic/39083490
ตอนที่ ๑๐ https://ppantip.com/topic/39093068
ตอนที่ ๑๑ https://ppantip.com/topic/39112509
ตอนที่ ๑๒ https://ppantip.com/topic/39125526
ตอนที่ ๑๓ https://ppantip.com/topic/39142340
ตอนที่ ๑๔ https://ppantip.com/topic/39158336
ตอนที่ ๑๕ https://ppantip.com/topic/39176136
ตอนที่ ๑๖ https://ppantip.com/topic/39196051
ตอนที่ ๑๗ https://ppantip.com/topic/39217114
ตอนที่ ๑๘
........เจ๊แตง ยืนนิ่ง มองตามรถคันนั้นไปจนสุดสายตา กัดริมฝีปาก ที่ไม่รู้สึกเจ็บ เช่นเดียวกับร่างกายที่ชาไปทั่วร่าง ความคิดสับสนกับภาพที่เธอเห็น เชิด มีเหตุผลอะไร ที่ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว หรือว่า เขา มีอะไรในใจ ที่ไม่ต้องการบอกใคร แม้แต่กับเธอ
จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง เธอจึงก้าวเดินอย่างใจลอยมาที่รถ เปิดประตูเข้านั่งข้างใน ตายังคงมองไปยังถนนตรงหน้า ขณะที่เลิศ เอ่ยถามขึ้นมา
“เรียบร้อยมั้ย แตง” แตง ยังคงไม่ได้ยิน จน เลิศ ต้องเรียกชื่อเธอซ้ำอีกครั้ง
“แตง เค้าว่าไง” เธอสะดุ้งนิดหนึ่ง หันไปมองหน้าเขา พูดขึ้นเบา ๆ
“คนเยอะพี่ ไว้วันอื่นค่อยมาก็ได้” แตง พูดเสียงเนือย ๆ เลิศ มองเข้าไปในธนาคารที่คนเริ่มบางตาอย่างแปลกใจ แต่ไม่พูดอะไร ขยับรถออกจากหน้าธนาคารไปตามทางช้า ๆ
“เข้าในตลาดหน่อย พี่เลิศ ดูอะไรไปไว้ทำกินกัน” เธอพูดขึ้นมา เลิศได้ยินดังนั้นจึงเลี้ยวรถเข้าไปในตัวตลาด ตามที่แตงต้องการ
“แตง อยากได้อะไรมั่ง” เขาถามเธอ สายตา มองร้านค้าที่เรียงรายสองข้างทาง
“หลาย ๆ อย่างเลยพี่เลิศ จะได้ไม่ต้องออกมาบ่อย” แตง พูดพลางนึกถึงรายการของกิน ของใช้ ที่จะนำไปเก็บไว้ได้สักสี่ห้าวัน
“แตงจะซื้อรวม ๆ ไปก่อน แล้วครั้งหน้า ขาดอะไร พี่เลิศออกมาคนเดียวก็แล้วกัน” รถจอดริมฟุตบาทเรียบร้อย แตงลงรถเสร็จหันมารับน้องปิ่น ยืนจูงมือ รอ พี่เลิศ ที่เดินมารับ น้องต้น แล้วพากันเข้าในตัวตลาด เพื่อหาของที่ต้องการ
เลิศ ยิ้มกว้าง เดินจูงลูกน้อย ท่ามกลางสายตาแม่ค้าที่มองมาด้วยความเอ็นดู ความแปลกใจในอารมณ์ของ แตง ค่อย ๆ จางลงไป เมื่อเห็นความร่าเริงของเด็กทั้งสองตรงหน้า
ตลาดตอนบ่าย ของสด ส่วนมากเก็บไปแล้ว แต่เครื่องครัวอื่น ๆ ที่แตงต้องการ มีอยู่ครบ เธอจึงเดินเลือกซื้อช้า ๆ ไปจนเกือบทั่ว เมื่อเห็นว่า น่าจะพอแล้ว จึงชวนพี่เลิศกลับ แล้วพาเด็ก ๆ ขึ้นรถ
เลิศ ทยอยนำของที่ซื้อมาขึ้นหลังรถ เมื่อเรียบร้อย จึงขึ้นนั่งสตาร์ทเครื่อง ขยับรถออกช้า ๆ จนกระทั่งก่อนถึงทางแยกหน้าตลาด มีร้านค้าอยู่ก่อนถึงหัวมุมสามห้อง เป็นร้านขายของเล่น ตุ๊กตาหมีสีขาวตัวโตตั้งเด่น สะดุดตาน้องปิ่น ทำหนูน้อยมองตาค้าง ส่วนไดโนเสาร์ตัวเขื่อง ที่ยืนแยกเขี้ยวโชว์อยู่หน้าร้าน ทำน้องต้นตื่นเต้นไปด้วยอีกคน ทั้งสองเห็นท่าทางหนูน้อยแล้วหันมองหน้ากัน อมยิ้มให้กับความน่าเอ็นดู หนุ่มใหญ่เลี้ยวซ้ายขึ้นบนถนนข้างหน้า ขับเลยไปสองห้องแล้วจอดชิดขอบทาง หันมาพูดกับแตง
“พี่ซื้อของเล่นให้ลูกก่อนนะ แตงกับเด็กรออยู่นี่แหละ” แตง พยักหน้ารับรู้ ส่วนหนูน้อยพอได้ยินคำว่าของเล่น พากันดีใจนั่งไม่เป็นสุข เพราะนานแล้ว ที่ทั้งคู่ไม่ได้ของเล่นใหม่ ๆ กันเลย
เลิศ ลงรถแล้วเดินย้อนกลับไปนิดก่อนเลี้ยวเข้าในตลาด ตรงไปยังร้านของเล่นที่หมายตาไว้ เจ้าของร้านเป็นคุณป้าใจดี พูดคุยเป็นกันเอง หนุ่มใหญ่ถามราคา ตุ๊กตาหมี และไนโดเสาร์ เมื่อคุณป้ารู้ว่าเขาซื้อให้ลูกน้อย ก็ลดราคาให้โดยไม่ต้องต่อ บอกว่าไม่บ่อยนัก ที่เห็นคนเป็นพ่อซื้อของเล่นให้ลูก ส่วนใหญ่จะเป็นแม่มากกว่า
หนุ่มใหญ่ ยิ้มกว้าง เอ่ยขอบคุณ คุณป้าใจดี และดูเพิ่มให้ลูกอีกคนละอย่าง เป็นการตอบแทนความมีน้ำใจของคุณป้าด้วย เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย จึงเดินหอบข้าวของพะรุงพะรังกลับไปที่รถ พร้อมรอยยิ้มที่ไม่จาง บนใบหน้าของเขา
รถยนต์จอดอยู่ข้างหน้าไม่ไกล เลิศ รีบก้าวเดินด้วยใจพองโต ครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้ดูแลเอาใจใส่ลูกน้อย อารมณ์ตอนนี้ อธิบายมาเป็นคำพูดได้ยากยิ่งนัก มันพอง มันฟู ไม่เหมือนกับความรู้สึกที่เคยผ่านมาในชีวิต ไม่ว่าจะได้อะไร มีราคาแค่ไหนก็ตาม ความสุขแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาแม้แต่ครั้งเดียว
ขณะที่ เลิศ เดินเข้ามาใกล้ถึงรถ ความรู้สึกแปลก ๆ อย่างหนึ่งเกิดขึ้นกับเขา เมื่อข้างในรถเงียบผิดปกติ ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งสิ้น เขาขมวดคิ้ว เดินช้า ๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ข้างรถ มองไปยังเบาะที่ไม่มีคนนั่ง โทรศัพท์ ของแตง วางอยู่บนนั้น
ไม่มี แตง และเด็กสองคน หนุ่มใหญ่เปิดประตูรถก้มนำของที่ถือมาวางเข้าไปบนเบาะรถ แล้วหยิบโทรศัพท์มาถือไว้ ยืดตัวขึ้นปิดประตูรถ มองไปรอบ ๆ ตัว ทั้งถนนด้านหน้า และด้านหลังที่ทอดยาวไป ดูตามร้านของกินกระจุกกระจิกใกล้ ๆ ไม่เห็นวี่แวว ของลูกน้อย และ แตง
หนุ่มใหญ่ คิดช้า ๆ ว่า น่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง เพราะ เขาเพิ่งมาที่นี่ และ ไม่น่าจะมีใครรู้ถึงการมาของเขา เลิศ หายใจเข้าลึกยาว ถ้ามีสถานการณ์บางอย่าง บีบให้เขา ต้องกลับไปจับปืนอีกครั้ง เขาจะทำอย่างไร เขาปล่อยลมหายใจออกอย่างแรง ภาวนาอย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย ขณะที่เสียงโทรศัพท์ในมือดังขึ้นมา เลิศ ยกขึ้นดู มีแต่เบอร์โชว์ ไม่มีชื่อ เป็นหมายเลขที่ไม่ได้บันทึกไว้ เขาสูดลมหายใจเข้าอีกครั้ง ก่อนเลื่อนหน้าจอรับสาย
“ฮัลโหล” เขาพูดเรียบ ๆ รอฟังอย่างตั้งใจ เบอร์ที่ไม่รู้จัก สร้างความรู้สึกบางอย่าง ให้เกิดขึ้นกับหนุ่มใหญ่
“เลิศ” เสียงผู้ชาย ไร้ความรู้สึกพอกัน ตอบกลับมา
“ใช่ ผมพูดอยู่” เลิศ หรี่ตาลง ยิ้มมุมปากนิดนึง เมื่อเห็นเมฆหมอกแห่งความวุ่นวาย เริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมรอบตัว......
( มีต่อครับ )
..........รักซ้อน ซ่อนพิษ........ตอนที่ ๑๘..........@@ โดย ลุงแผน
..............( รักซ้อน ซ่อนพิษ ).............
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ ๑๘
........เจ๊แตง ยืนนิ่ง มองตามรถคันนั้นไปจนสุดสายตา กัดริมฝีปาก ที่ไม่รู้สึกเจ็บ เช่นเดียวกับร่างกายที่ชาไปทั่วร่าง ความคิดสับสนกับภาพที่เธอเห็น เชิด มีเหตุผลอะไร ที่ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว หรือว่า เขา มีอะไรในใจ ที่ไม่ต้องการบอกใคร แม้แต่กับเธอ
จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง เธอจึงก้าวเดินอย่างใจลอยมาที่รถ เปิดประตูเข้านั่งข้างใน ตายังคงมองไปยังถนนตรงหน้า ขณะที่เลิศ เอ่ยถามขึ้นมา
“เรียบร้อยมั้ย แตง” แตง ยังคงไม่ได้ยิน จน เลิศ ต้องเรียกชื่อเธอซ้ำอีกครั้ง
“แตง เค้าว่าไง” เธอสะดุ้งนิดหนึ่ง หันไปมองหน้าเขา พูดขึ้นเบา ๆ
“คนเยอะพี่ ไว้วันอื่นค่อยมาก็ได้” แตง พูดเสียงเนือย ๆ เลิศ มองเข้าไปในธนาคารที่คนเริ่มบางตาอย่างแปลกใจ แต่ไม่พูดอะไร ขยับรถออกจากหน้าธนาคารไปตามทางช้า ๆ
“เข้าในตลาดหน่อย พี่เลิศ ดูอะไรไปไว้ทำกินกัน” เธอพูดขึ้นมา เลิศได้ยินดังนั้นจึงเลี้ยวรถเข้าไปในตัวตลาด ตามที่แตงต้องการ
“แตง อยากได้อะไรมั่ง” เขาถามเธอ สายตา มองร้านค้าที่เรียงรายสองข้างทาง
“หลาย ๆ อย่างเลยพี่เลิศ จะได้ไม่ต้องออกมาบ่อย” แตง พูดพลางนึกถึงรายการของกิน ของใช้ ที่จะนำไปเก็บไว้ได้สักสี่ห้าวัน
“แตงจะซื้อรวม ๆ ไปก่อน แล้วครั้งหน้า ขาดอะไร พี่เลิศออกมาคนเดียวก็แล้วกัน” รถจอดริมฟุตบาทเรียบร้อย แตงลงรถเสร็จหันมารับน้องปิ่น ยืนจูงมือ รอ พี่เลิศ ที่เดินมารับ น้องต้น แล้วพากันเข้าในตัวตลาด เพื่อหาของที่ต้องการ
เลิศ ยิ้มกว้าง เดินจูงลูกน้อย ท่ามกลางสายตาแม่ค้าที่มองมาด้วยความเอ็นดู ความแปลกใจในอารมณ์ของ แตง ค่อย ๆ จางลงไป เมื่อเห็นความร่าเริงของเด็กทั้งสองตรงหน้า
ตลาดตอนบ่าย ของสด ส่วนมากเก็บไปแล้ว แต่เครื่องครัวอื่น ๆ ที่แตงต้องการ มีอยู่ครบ เธอจึงเดินเลือกซื้อช้า ๆ ไปจนเกือบทั่ว เมื่อเห็นว่า น่าจะพอแล้ว จึงชวนพี่เลิศกลับ แล้วพาเด็ก ๆ ขึ้นรถ
เลิศ ทยอยนำของที่ซื้อมาขึ้นหลังรถ เมื่อเรียบร้อย จึงขึ้นนั่งสตาร์ทเครื่อง ขยับรถออกช้า ๆ จนกระทั่งก่อนถึงทางแยกหน้าตลาด มีร้านค้าอยู่ก่อนถึงหัวมุมสามห้อง เป็นร้านขายของเล่น ตุ๊กตาหมีสีขาวตัวโตตั้งเด่น สะดุดตาน้องปิ่น ทำหนูน้อยมองตาค้าง ส่วนไดโนเสาร์ตัวเขื่อง ที่ยืนแยกเขี้ยวโชว์อยู่หน้าร้าน ทำน้องต้นตื่นเต้นไปด้วยอีกคน ทั้งสองเห็นท่าทางหนูน้อยแล้วหันมองหน้ากัน อมยิ้มให้กับความน่าเอ็นดู หนุ่มใหญ่เลี้ยวซ้ายขึ้นบนถนนข้างหน้า ขับเลยไปสองห้องแล้วจอดชิดขอบทาง หันมาพูดกับแตง
“พี่ซื้อของเล่นให้ลูกก่อนนะ แตงกับเด็กรออยู่นี่แหละ” แตง พยักหน้ารับรู้ ส่วนหนูน้อยพอได้ยินคำว่าของเล่น พากันดีใจนั่งไม่เป็นสุข เพราะนานแล้ว ที่ทั้งคู่ไม่ได้ของเล่นใหม่ ๆ กันเลย
เลิศ ลงรถแล้วเดินย้อนกลับไปนิดก่อนเลี้ยวเข้าในตลาด ตรงไปยังร้านของเล่นที่หมายตาไว้ เจ้าของร้านเป็นคุณป้าใจดี พูดคุยเป็นกันเอง หนุ่มใหญ่ถามราคา ตุ๊กตาหมี และไนโดเสาร์ เมื่อคุณป้ารู้ว่าเขาซื้อให้ลูกน้อย ก็ลดราคาให้โดยไม่ต้องต่อ บอกว่าไม่บ่อยนัก ที่เห็นคนเป็นพ่อซื้อของเล่นให้ลูก ส่วนใหญ่จะเป็นแม่มากกว่า
หนุ่มใหญ่ ยิ้มกว้าง เอ่ยขอบคุณ คุณป้าใจดี และดูเพิ่มให้ลูกอีกคนละอย่าง เป็นการตอบแทนความมีน้ำใจของคุณป้าด้วย เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อย จึงเดินหอบข้าวของพะรุงพะรังกลับไปที่รถ พร้อมรอยยิ้มที่ไม่จาง บนใบหน้าของเขา
รถยนต์จอดอยู่ข้างหน้าไม่ไกล เลิศ รีบก้าวเดินด้วยใจพองโต ครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้ดูแลเอาใจใส่ลูกน้อย อารมณ์ตอนนี้ อธิบายมาเป็นคำพูดได้ยากยิ่งนัก มันพอง มันฟู ไม่เหมือนกับความรู้สึกที่เคยผ่านมาในชีวิต ไม่ว่าจะได้อะไร มีราคาแค่ไหนก็ตาม ความสุขแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาแม้แต่ครั้งเดียว
ขณะที่ เลิศ เดินเข้ามาใกล้ถึงรถ ความรู้สึกแปลก ๆ อย่างหนึ่งเกิดขึ้นกับเขา เมื่อข้างในรถเงียบผิดปกติ ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งสิ้น เขาขมวดคิ้ว เดินช้า ๆ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ข้างรถ มองไปยังเบาะที่ไม่มีคนนั่ง โทรศัพท์ ของแตง วางอยู่บนนั้น
ไม่มี แตง และเด็กสองคน หนุ่มใหญ่เปิดประตูรถก้มนำของที่ถือมาวางเข้าไปบนเบาะรถ แล้วหยิบโทรศัพท์มาถือไว้ ยืดตัวขึ้นปิดประตูรถ มองไปรอบ ๆ ตัว ทั้งถนนด้านหน้า และด้านหลังที่ทอดยาวไป ดูตามร้านของกินกระจุกกระจิกใกล้ ๆ ไม่เห็นวี่แวว ของลูกน้อย และ แตง
หนุ่มใหญ่ คิดช้า ๆ ว่า น่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง เพราะ เขาเพิ่งมาที่นี่ และ ไม่น่าจะมีใครรู้ถึงการมาของเขา เลิศ หายใจเข้าลึกยาว ถ้ามีสถานการณ์บางอย่าง บีบให้เขา ต้องกลับไปจับปืนอีกครั้ง เขาจะทำอย่างไร เขาปล่อยลมหายใจออกอย่างแรง ภาวนาอย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย ขณะที่เสียงโทรศัพท์ในมือดังขึ้นมา เลิศ ยกขึ้นดู มีแต่เบอร์โชว์ ไม่มีชื่อ เป็นหมายเลขที่ไม่ได้บันทึกไว้ เขาสูดลมหายใจเข้าอีกครั้ง ก่อนเลื่อนหน้าจอรับสาย
“ฮัลโหล” เขาพูดเรียบ ๆ รอฟังอย่างตั้งใจ เบอร์ที่ไม่รู้จัก สร้างความรู้สึกบางอย่าง ให้เกิดขึ้นกับหนุ่มใหญ่
“เลิศ” เสียงผู้ชาย ไร้ความรู้สึกพอกัน ตอบกลับมา
“ใช่ ผมพูดอยู่” เลิศ หรี่ตาลง ยิ้มมุมปากนิดนึง เมื่อเห็นเมฆหมอกแห่งความวุ่นวาย เริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมรอบตัว......
( มีต่อครับ )