..........( รักซ้อน ซ่อนพิษ )............
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ ๑
https://ppantip.com/topic/38986500
ตอนที่ ๒
https://ppantip.com/topic/39004238
ตอนที่ ๓
https://ppantip.com/topic/39015740
ตอนที่ ๔
https://ppantip.com/topic/39016967
ตอนที่ ๕
https://ppantip.com/topic/39024305
ตอนที่ ๖
https://ppantip.com/topic/39034299
ตอนที่ ๗
https://ppantip.com/topic/39053215
ตอนที่ ๘
https://ppantip.com/topic/39068575
ตอนที่ ๙
https://ppantip.com/topic/39083490
ตอนที่ ๑๐
.......... ที่บ้านอุ้ม แม่เลี้ยง วัยใกล้ห้าสิบปี แต่หน้าตา ผิวพรรณผ่องใส จอดรถเก๋งสีขาวคันหรู เลยหน้าบ้านไปนิด เปิดประตูก้าวลงรถอย่างกระฉับกระเฉง ด้วยยีนซีดรัดรูปทะมัดทะแมง เสื้อแขนยาวสีสด ยัดเข้าในกางเกง บวกกับรองเท้าหนังสีดำ ทำให้เธอดูสง่าน่ามอง กระชากวัยให้เข้ามาอยู่สามสิบต้น ๆ ได้อย่างสบาย เธอเดินมาถึงประตูบ้านที่ปิดอยู่ ยกมือเคาะเบา ๆ ส่งเสียงเรียก
“ดำ เปิดประตูหน่อย” เสียงคุ้นหูทำเจ้าดำแง้มประตูออกมาดู เห็นเป็นแม่เลี้ยงก็เปิดกว้าง แล้วออกมายืนข้างนอก
“ไปได้แล้ว ทางนี้ชั้นจัดการเอง” ตอนแรกทำท่าอึกอัก แม่เลี้ยงยัดเงินใส่กระเป๋าเสื้อปึกหนึ่ง เจ้าดำเอามือกุมกระเป๋าไว้ เดินออกไปที่ถนนมองหาทางกลับบ้านทันที
แม่เลี้ยง เดินเข้าในบ้าน ปิดประตูตามหลังแล้วใส่กลอน อุ้มนั่งก้มหน้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก คิดว่าวันนี้คงไม่รอดแน่ ภาวนาในใจ ขออย่าให้ลูกน้อย หรือใครผ่านมารับกรรมไปด้วยเลย ได้ยินเสียงเคาะประตู เจ้าคนที่เฝ้าเธออยู่ลุกไปเปิด คุยกันคำสองคำ มีเสียงปิดประตู และเสียงเรียกเธอเบา ๆ
“อุ้ม” เธอเงยหน้าซีดเซียวขึ้นมามอง แล้วต้องตาโต อุทานออกมาด้วยความแปลกใจ
“แม่”
แม่เลี้ยงยิ้มตาเป็นประกาย เดินเข้าไปยื่นมือให้อุ้ม ซึ่งจับไว้แล้วดึงตัวเองลุกขึ้นอย่าง งง งง เธอดึงหญิงสาวเข้ามากอดตบไหล่เบา ๆ จากนั้นดันออกห่าง มองหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยพลางพูดขึ้น เบา ๆ
“แม่เองลูก เป็นไงมั่งล่ะ” มือเรียวงามเชยคางอุ้มขึ้นมา รอยยิ้มยังคงระบายอยู่เต็มหน้าตลอดเวลา
“หนูงงไปหมดแล้วแม่ เรื่องมันเป็นยังไง แม่ไปอยู่ไหนมา” อุ้ม พูดรัว สิ่งที่อยู่ในหัว มากมายกว่านี้หลายเท่านัก
“แล้วแม่จะเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้ต้องช่วยแฟนลูกก่อน” เธอมองหน้าอุ้ม รอยยิ้มเต็มไปด้วยความเมตตา อุ้มยังไม่เข้าใจอะไรสักเรื่องหนึ่ง แม่ หายไปหลายปี ไม่เคยติดต่อ ไม่เคยมาหา จนกระทั่งวันนี้ แม่ยืนอยู่ในบ้านที่แม่เดินจากไป และเจ้าคนที่เฝ้าอยู่ ดูเหมือนจะเกรงใจผู้หญิงคนนี้มาก ๆ เจ้านั่นเป็นลูกน้องพี่เลิศ อุ้มพยายามเรียบเรียงเรื่องราวอยู่ในใจ
“แม่รู้เหรอ วสันต์ อยู่ไหน” ใจห่วงเขามากกว่าเรื่องอื่น เรื่องที่สงสัยยังคาใจอยู่ แต่ตอนนี้อยากรู้ก่อนว่า เขาปลอดภัยอยู่หรือเปล่า แม่เลี้ยงพยักหน้า ยิ้มพลางพูดช้า ๆ
“เค้ามีของเลิศอยู่ แค่เอาไปให้เลิศก็จบแล้ว” อุ้มนึกถึงเม็มการ์ดที่เขาพกไป ทำไมพี่เลิศยังไม่เจอ วสันต์ไม่ได้อยู่ที่นั่น หรือว่า พี่เลิศปกปิดความจริง เธอเริ่มสับสน มีอะไรซ่อนอยู่ในเรื่องนี้
“หนูไม่รู้ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และเขาเก็บไว้ที่ไหน” อุ้มเริ่มไม่มั่นใจในสถานการณ์
“เพียะ” ใบหน้าหญิงสาวสะบัดตามแรงหลังมือที่ฟาดมาอย่างไม่ทันตั้งตัว อุ้ม ตกใจ แต่ไม่แปลกใจที่ลงเอยแบบนี้ แม่ ใจดีเกินไปสำหรับคนที่ทิ้งกันไปนาน
“ฉันจะบอกอะไรให้อย่างนึงนะ นังอุ้ม แกน่ะ ไม่ใช่ลูกชั้น” เสียงคำรามมาแทนที่เสียงหวานอย่างฉับพลัน นี่สิ ทำให้แปลกใจ แต่ใบหน้าบึ้งตึงของหญิงที่อยู่ตรงหน้า และรอยแดงบนแก้มเธอ ทำให้รู้ว่ากำลังเจอกับของจริง อุ้มมองแม่เลี้ยงด้วยความตะลึง ฟังเธอเล่าเรื่องสั้น ๆ ของพ่อ น้ำตาไหลเป็นทาง
อุ้มยังเด็ก ตอนที่พ่อเจอกับผู้หญิงคนนี้ และพ่อมีลูกติดมาหนึ่งคน คือ อุ้ม แม่ของอุ้ม ทิ้งไปเพราะพ่อจน งานลูกจ้างร้านประดับยนต์เงินเดือนแค่พอกิน แต่เธอผู้นี้ เห็นแววอย่างหนึ่งของพ่ออุ้ม คือชำนาญเรื่องสัญญาณกันขโมย นั่นทำให้เธอเข้ามาคลุกคลีอยู่ในระยะเวลาหนึ่ง เมื่อมองดูแล้วเห็นแววรุ่งยาก ก็ตีตัวออกห่างไป เลือกคบกับระดับหัวแถวแทน แต่ยังโยนงานมาให้ทำเรื่อย ๆ
คำถามผุดขึ้นมาว่า ทำไมพ่อต้องถูกยิง ยังคาใจ ถ้าพ่อเป็นโจรปลายแถว ก็ไม่น่าจะต้องชดใช้อะไรขนาดนั้น อุ้มสะอื้นแล้วมองหญิงตรงหน้าด้วยความผิดหวัง นี่เธอจำคนคนนี้ว่าเป็นแม่เธอมาตลอดได้อย่างไร คิดแล้วเจ็บใจตัวเอง แต่ตอนนี้ทำอย่างไรให้รอดไปจากตรงนี้ได้
“แล้วทำไมคุณต้องทำพ่อหนู” ความหวาดหวั่นหมดสิ้นลง คงเหลือแต่ความแค้น ลืมว่าตัวเป็นคนบอบบาง ร่างเล็ก
“แกรู้มั้ย พ่อแกทำไมออกจากคุกเร็ว” แม่เลี้ยงจ้องหน้า อุ้มมองกลับไม่เกรงกลัว
“พ่อแกขายทุกคนไง เพื่อแลกกับการเป็นอิสระ ตอนนี้ก็สมใจแล้วนี่” หญิงสาวก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว กำมือซัดเข้าเต็มหน้าแม่เลี้ยงที่ไม่ทันระวังตัว แต่มือน้อย ๆ จะมีกำลังสักแค่ไหน อุ้มยืนตะลึงที่แม่เลี้ยงทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไร แถมยังจับมืออุ้มบิดจนต้องเอนตัวตามลงไปคุกเข่ากับพื้น
“บอกมา แฟนแกเอาเม็มไว้ไหน” น้ำเสียงนางเสือคำรามด้วยความโมโหสุดขีด
“เค้าเอาไปด้วย แกโดนพี่เลิศหลอกแล้วละ” อุ้มตะโกนด้วยความเจ็บปวด สะบัดแขนอย่างแรงจนหลุดจากการจับ ลุกขึ้นวิ่งโผไปที่ประตูเพื่อหนีออกไป แม่เลี้ยงก้าวตาม ยกมือผลักตัวอุ้มเต็มที่ ตั้งใจให้เซล้ม ส่งแรงเพิ่มให้เซถลาไปด้านข้างอย่างเร็ว ศีรษะหญิงสาวกระแทกขอบโต๊ะทำงานอย่างแรง เสียงดัง โพละ อุ้มทรุดลงไปกองนิ่งกับพื้นทันที
ตอนที่ วสันต์ ดึงเม็มการ์ดออก ตั้งใจไปดูว่ารถใครมาจอดหน้าบ้าน ไม่ได้ปิดคอม เวลาผ่านไปจอคอมดับเกิดจากการไม่ได้ใช้งาน ไม่ได้ดับเพราะเครื่องถูกปิด เมื่อโต๊ะกระเทือน เม้าขยับจึงกลับมาติดอีกครั้งหนึ่ง แม่เลี้ยงมองดูด้วยความสนใจ ก้าวเข้าไปจับเม้าคลิกที่จอหนึ่งครั้ง ภาพโฟลเดอร์หนึ่งบนหน้าจอ ปรากฏกับสายตา
ดับเบิ้ลคลิกเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้แม่เลี้ยงยืนนิ่ง ตรงหน้านั้น คือ รูปรถกระบะสีดำของเธอเอง เลิศ กำลังคิดอะไรอยู่ แม่เลี้ยงเริ่มกังวล เลื่อนดูทีละภาพ จนเจอรูปที่เลิศหันหน้ามองขึ้นมา เธอคิดช้า ๆ สัญชาตญาณของคนผ่านประสบการณ์ด้านมืดมาตลอด ทำให้เธอนำเรื่องราว รวบรวมเข้าด้วยกัน พอดีกับเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ฮัลโหล” แม่เลี้ยงยกขึ้นกดรับ พลางทำคิ้วขมวด
“ตำรวจกำลังไปทางบ้านนังอุ้มครับ แม่เลี้ยง” เสียงรายงานมาจากคนที่น่าจะคอยเฝ้าดูต้นทาง อยู่ตรงไหนสักแห่ง
“เออ เออ ขอบใจมาก” เธอกำลังจะวางสายพลันนึกอะไรออก
“เดี๋ยวก่อน เปี๊ยก”
“ครับ แม่เลี้ยง” เสียงเจ้าเปี๊ยกดังชัดเจน
“ไปเจอชั้นที่บ้านนายเลิศ พาคนไปด้วย” แม่เลี้ยงสั่งงาน เค้าโครงเริ่มปรากฏราง ๆ เจ้าหน้าที่รู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่นี่
“รอชั้นก่อนนะ อย่าเพิ่งทำอะไร” พอได้ยินเสียงตอบรับ แม่เลี้ยงกดวางสาย ก้มมองร่างของอุ้ม ที่แน่นิ่งอยู่กับพื้น ก่อนก้าวข้าม เดินไปที่ประตู ปลดกลอนแล้วเปิดออก เดินช้า ๆ ไปที่รถคันหรู เปิดประตูขึ้นนั่ง สตาร์ทเครื่องขับออกไปเอื่อย ๆ ชำเลืองตามองกระจกหลัง เมื่อไม่มีใครตามมา ก็เร่งเร็วขึ้น มุ่งหน้าไปรังของเลิศ ทันที
เสียงไซเรนดังก้อง รถฉุกเฉินและรถตำรวจวิ่งตามกันหลายคัน ไปทางบ้านริมคลอง ทำเจ้าเต้ กระวนกระวาย แต่เด็กน้อยสองคนอยู่ด้วย ต้อยไปทำงาน เลยทำอะไรไม่ได้ แต่เดาว่าน่าจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้น หนูน้อยตกใจหน้าตื่น เรื่องแบบนี้มีไม่บ่อยนัก เจ้าหนุ่มปลอบใจ พานั่งดูการ์ตูน หาขนมให้กินกัน ค่อยสงบลงได้
สักครู่รถพยาบาล วิ่งย้อนมาจากบ้านริมคลองอย่างเร็ว ผ่านหน้าบ้านต้อยไป พักใหญ่รถต่าง ๆ พากันทยอย กลับ พร้อมไทยมุงหลายกลุ่ม น้อยมั่ง มากมั่ง เดินคุยกันมาด้วยความตื่นเต้น เจ้าหนุ่มจึงถามเรื่องราวจากแต่ละคน รวบรวมได้ความว่า เกิดเหตุร้ายที่บ้าน อุ้ม จริง ๆ เจ้าเต้จึงโทรหา ต้อย และตามด้วย เจ๊แตง ด้วยใจคอไม่ดี..
มีต่อครับ
..........รักซ้อน ซ่อนพิษ........ตอนที่ ๑๐..........@@ โดย ลุงแผน
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ ๑๐
.......... ที่บ้านอุ้ม แม่เลี้ยง วัยใกล้ห้าสิบปี แต่หน้าตา ผิวพรรณผ่องใส จอดรถเก๋งสีขาวคันหรู เลยหน้าบ้านไปนิด เปิดประตูก้าวลงรถอย่างกระฉับกระเฉง ด้วยยีนซีดรัดรูปทะมัดทะแมง เสื้อแขนยาวสีสด ยัดเข้าในกางเกง บวกกับรองเท้าหนังสีดำ ทำให้เธอดูสง่าน่ามอง กระชากวัยให้เข้ามาอยู่สามสิบต้น ๆ ได้อย่างสบาย เธอเดินมาถึงประตูบ้านที่ปิดอยู่ ยกมือเคาะเบา ๆ ส่งเสียงเรียก
“ดำ เปิดประตูหน่อย” เสียงคุ้นหูทำเจ้าดำแง้มประตูออกมาดู เห็นเป็นแม่เลี้ยงก็เปิดกว้าง แล้วออกมายืนข้างนอก
“ไปได้แล้ว ทางนี้ชั้นจัดการเอง” ตอนแรกทำท่าอึกอัก แม่เลี้ยงยัดเงินใส่กระเป๋าเสื้อปึกหนึ่ง เจ้าดำเอามือกุมกระเป๋าไว้ เดินออกไปที่ถนนมองหาทางกลับบ้านทันที
แม่เลี้ยง เดินเข้าในบ้าน ปิดประตูตามหลังแล้วใส่กลอน อุ้มนั่งก้มหน้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก คิดว่าวันนี้คงไม่รอดแน่ ภาวนาในใจ ขออย่าให้ลูกน้อย หรือใครผ่านมารับกรรมไปด้วยเลย ได้ยินเสียงเคาะประตู เจ้าคนที่เฝ้าเธออยู่ลุกไปเปิด คุยกันคำสองคำ มีเสียงปิดประตู และเสียงเรียกเธอเบา ๆ
“อุ้ม” เธอเงยหน้าซีดเซียวขึ้นมามอง แล้วต้องตาโต อุทานออกมาด้วยความแปลกใจ
“แม่”
แม่เลี้ยงยิ้มตาเป็นประกาย เดินเข้าไปยื่นมือให้อุ้ม ซึ่งจับไว้แล้วดึงตัวเองลุกขึ้นอย่าง งง งง เธอดึงหญิงสาวเข้ามากอดตบไหล่เบา ๆ จากนั้นดันออกห่าง มองหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยพลางพูดขึ้น เบา ๆ
“แม่เองลูก เป็นไงมั่งล่ะ” มือเรียวงามเชยคางอุ้มขึ้นมา รอยยิ้มยังคงระบายอยู่เต็มหน้าตลอดเวลา
“หนูงงไปหมดแล้วแม่ เรื่องมันเป็นยังไง แม่ไปอยู่ไหนมา” อุ้ม พูดรัว สิ่งที่อยู่ในหัว มากมายกว่านี้หลายเท่านัก
“แล้วแม่จะเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้ต้องช่วยแฟนลูกก่อน” เธอมองหน้าอุ้ม รอยยิ้มเต็มไปด้วยความเมตตา อุ้มยังไม่เข้าใจอะไรสักเรื่องหนึ่ง แม่ หายไปหลายปี ไม่เคยติดต่อ ไม่เคยมาหา จนกระทั่งวันนี้ แม่ยืนอยู่ในบ้านที่แม่เดินจากไป และเจ้าคนที่เฝ้าอยู่ ดูเหมือนจะเกรงใจผู้หญิงคนนี้มาก ๆ เจ้านั่นเป็นลูกน้องพี่เลิศ อุ้มพยายามเรียบเรียงเรื่องราวอยู่ในใจ
“แม่รู้เหรอ วสันต์ อยู่ไหน” ใจห่วงเขามากกว่าเรื่องอื่น เรื่องที่สงสัยยังคาใจอยู่ แต่ตอนนี้อยากรู้ก่อนว่า เขาปลอดภัยอยู่หรือเปล่า แม่เลี้ยงพยักหน้า ยิ้มพลางพูดช้า ๆ
“เค้ามีของเลิศอยู่ แค่เอาไปให้เลิศก็จบแล้ว” อุ้มนึกถึงเม็มการ์ดที่เขาพกไป ทำไมพี่เลิศยังไม่เจอ วสันต์ไม่ได้อยู่ที่นั่น หรือว่า พี่เลิศปกปิดความจริง เธอเริ่มสับสน มีอะไรซ่อนอยู่ในเรื่องนี้
“หนูไม่รู้ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และเขาเก็บไว้ที่ไหน” อุ้มเริ่มไม่มั่นใจในสถานการณ์
“เพียะ” ใบหน้าหญิงสาวสะบัดตามแรงหลังมือที่ฟาดมาอย่างไม่ทันตั้งตัว อุ้ม ตกใจ แต่ไม่แปลกใจที่ลงเอยแบบนี้ แม่ ใจดีเกินไปสำหรับคนที่ทิ้งกันไปนาน
“ฉันจะบอกอะไรให้อย่างนึงนะ นังอุ้ม แกน่ะ ไม่ใช่ลูกชั้น” เสียงคำรามมาแทนที่เสียงหวานอย่างฉับพลัน นี่สิ ทำให้แปลกใจ แต่ใบหน้าบึ้งตึงของหญิงที่อยู่ตรงหน้า และรอยแดงบนแก้มเธอ ทำให้รู้ว่ากำลังเจอกับของจริง อุ้มมองแม่เลี้ยงด้วยความตะลึง ฟังเธอเล่าเรื่องสั้น ๆ ของพ่อ น้ำตาไหลเป็นทาง
อุ้มยังเด็ก ตอนที่พ่อเจอกับผู้หญิงคนนี้ และพ่อมีลูกติดมาหนึ่งคน คือ อุ้ม แม่ของอุ้ม ทิ้งไปเพราะพ่อจน งานลูกจ้างร้านประดับยนต์เงินเดือนแค่พอกิน แต่เธอผู้นี้ เห็นแววอย่างหนึ่งของพ่ออุ้ม คือชำนาญเรื่องสัญญาณกันขโมย นั่นทำให้เธอเข้ามาคลุกคลีอยู่ในระยะเวลาหนึ่ง เมื่อมองดูแล้วเห็นแววรุ่งยาก ก็ตีตัวออกห่างไป เลือกคบกับระดับหัวแถวแทน แต่ยังโยนงานมาให้ทำเรื่อย ๆ
คำถามผุดขึ้นมาว่า ทำไมพ่อต้องถูกยิง ยังคาใจ ถ้าพ่อเป็นโจรปลายแถว ก็ไม่น่าจะต้องชดใช้อะไรขนาดนั้น อุ้มสะอื้นแล้วมองหญิงตรงหน้าด้วยความผิดหวัง นี่เธอจำคนคนนี้ว่าเป็นแม่เธอมาตลอดได้อย่างไร คิดแล้วเจ็บใจตัวเอง แต่ตอนนี้ทำอย่างไรให้รอดไปจากตรงนี้ได้
“แล้วทำไมคุณต้องทำพ่อหนู” ความหวาดหวั่นหมดสิ้นลง คงเหลือแต่ความแค้น ลืมว่าตัวเป็นคนบอบบาง ร่างเล็ก
“แกรู้มั้ย พ่อแกทำไมออกจากคุกเร็ว” แม่เลี้ยงจ้องหน้า อุ้มมองกลับไม่เกรงกลัว
“พ่อแกขายทุกคนไง เพื่อแลกกับการเป็นอิสระ ตอนนี้ก็สมใจแล้วนี่” หญิงสาวก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว กำมือซัดเข้าเต็มหน้าแม่เลี้ยงที่ไม่ทันระวังตัว แต่มือน้อย ๆ จะมีกำลังสักแค่ไหน อุ้มยืนตะลึงที่แม่เลี้ยงทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไร แถมยังจับมืออุ้มบิดจนต้องเอนตัวตามลงไปคุกเข่ากับพื้น
“บอกมา แฟนแกเอาเม็มไว้ไหน” น้ำเสียงนางเสือคำรามด้วยความโมโหสุดขีด
“เค้าเอาไปด้วย แกโดนพี่เลิศหลอกแล้วละ” อุ้มตะโกนด้วยความเจ็บปวด สะบัดแขนอย่างแรงจนหลุดจากการจับ ลุกขึ้นวิ่งโผไปที่ประตูเพื่อหนีออกไป แม่เลี้ยงก้าวตาม ยกมือผลักตัวอุ้มเต็มที่ ตั้งใจให้เซล้ม ส่งแรงเพิ่มให้เซถลาไปด้านข้างอย่างเร็ว ศีรษะหญิงสาวกระแทกขอบโต๊ะทำงานอย่างแรง เสียงดัง โพละ อุ้มทรุดลงไปกองนิ่งกับพื้นทันที
ตอนที่ วสันต์ ดึงเม็มการ์ดออก ตั้งใจไปดูว่ารถใครมาจอดหน้าบ้าน ไม่ได้ปิดคอม เวลาผ่านไปจอคอมดับเกิดจากการไม่ได้ใช้งาน ไม่ได้ดับเพราะเครื่องถูกปิด เมื่อโต๊ะกระเทือน เม้าขยับจึงกลับมาติดอีกครั้งหนึ่ง แม่เลี้ยงมองดูด้วยความสนใจ ก้าวเข้าไปจับเม้าคลิกที่จอหนึ่งครั้ง ภาพโฟลเดอร์หนึ่งบนหน้าจอ ปรากฏกับสายตา
ดับเบิ้ลคลิกเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้แม่เลี้ยงยืนนิ่ง ตรงหน้านั้น คือ รูปรถกระบะสีดำของเธอเอง เลิศ กำลังคิดอะไรอยู่ แม่เลี้ยงเริ่มกังวล เลื่อนดูทีละภาพ จนเจอรูปที่เลิศหันหน้ามองขึ้นมา เธอคิดช้า ๆ สัญชาตญาณของคนผ่านประสบการณ์ด้านมืดมาตลอด ทำให้เธอนำเรื่องราว รวบรวมเข้าด้วยกัน พอดีกับเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ฮัลโหล” แม่เลี้ยงยกขึ้นกดรับ พลางทำคิ้วขมวด
“ตำรวจกำลังไปทางบ้านนังอุ้มครับ แม่เลี้ยง” เสียงรายงานมาจากคนที่น่าจะคอยเฝ้าดูต้นทาง อยู่ตรงไหนสักแห่ง
“เออ เออ ขอบใจมาก” เธอกำลังจะวางสายพลันนึกอะไรออก
“เดี๋ยวก่อน เปี๊ยก”
“ครับ แม่เลี้ยง” เสียงเจ้าเปี๊ยกดังชัดเจน
“ไปเจอชั้นที่บ้านนายเลิศ พาคนไปด้วย” แม่เลี้ยงสั่งงาน เค้าโครงเริ่มปรากฏราง ๆ เจ้าหน้าที่รู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่นี่
“รอชั้นก่อนนะ อย่าเพิ่งทำอะไร” พอได้ยินเสียงตอบรับ แม่เลี้ยงกดวางสาย ก้มมองร่างของอุ้ม ที่แน่นิ่งอยู่กับพื้น ก่อนก้าวข้าม เดินไปที่ประตู ปลดกลอนแล้วเปิดออก เดินช้า ๆ ไปที่รถคันหรู เปิดประตูขึ้นนั่ง สตาร์ทเครื่องขับออกไปเอื่อย ๆ ชำเลืองตามองกระจกหลัง เมื่อไม่มีใครตามมา ก็เร่งเร็วขึ้น มุ่งหน้าไปรังของเลิศ ทันที
เสียงไซเรนดังก้อง รถฉุกเฉินและรถตำรวจวิ่งตามกันหลายคัน ไปทางบ้านริมคลอง ทำเจ้าเต้ กระวนกระวาย แต่เด็กน้อยสองคนอยู่ด้วย ต้อยไปทำงาน เลยทำอะไรไม่ได้ แต่เดาว่าน่าจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้น หนูน้อยตกใจหน้าตื่น เรื่องแบบนี้มีไม่บ่อยนัก เจ้าหนุ่มปลอบใจ พานั่งดูการ์ตูน หาขนมให้กินกัน ค่อยสงบลงได้
สักครู่รถพยาบาล วิ่งย้อนมาจากบ้านริมคลองอย่างเร็ว ผ่านหน้าบ้านต้อยไป พักใหญ่รถต่าง ๆ พากันทยอย กลับ พร้อมไทยมุงหลายกลุ่ม น้อยมั่ง มากมั่ง เดินคุยกันมาด้วยความตื่นเต้น เจ้าหนุ่มจึงถามเรื่องราวจากแต่ละคน รวบรวมได้ความว่า เกิดเหตุร้ายที่บ้าน อุ้ม จริง ๆ เจ้าเต้จึงโทรหา ต้อย และตามด้วย เจ๊แตง ด้วยใจคอไม่ดี..
มีต่อครับ